ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 50 ครั้งนี้ฉันจะชนะมันให้มากกว่า 40 คะแนนเลยคอยดู
บทที่ 50 ครั้งนี้ฉันจะชนะมันให้มากกว่า 40 คะแนนเลยคอยดู
บทที่ 50 ครั้งนี้ฉันจะชนะมันให้มากกว่า 40 คะแนนเลยคอยดู
หลังลงจากรถแท็กซี่ หนิวลี่ก็เห็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายคนวิ่งเข้ามาหา
“พี่ใหญ่ รีบไปเตรียมตัวได้แล้ว อีกสิบนาทีก็จะเริ่มแข่งแล้ว”
“อืม พวกนายพาผมไปที” หนิวลี่พยักหน้า จากนั้นเขาก็เดินตามเพื่อนนักเรียนหลายคนเข้าไปในโรงยิมอย่างรวดเร็ว เลี้ยวไปเลี้ยวมาจนถึงห้องล็อกเกอร์
“พี่ใหญ่มาแล้ว!” ทันทีที่เห็นหนิวลี่ นักเรียนที่รออย่างใจจดใจต่างก็โล่งใจ ใบหน้าของพวกเขาเปล่งประกาย
“ฮ่า ๆ ขอโทษที่ให้รอนะ ผมจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า” หนิวลี่ยิ้มขอโทษ เขารับชุดบาสเกตบอลที่เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งยื่นให้ แล้วหันหลังกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว
เสื้อนั้นเป็นเสื้อเบอร์เก้า หนิวลี่รู้สึกคุ้นตาก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเห็นคนใส่เสื้อหมายเลขเก้าในการแข่งขันบาสเก็ตบอลที่เขาดูก่อนหน้านี้ พวกเขาดูยอดเยี่ยมมาก ‘ตกลง ขอยืมความโชคดีหน่อย หวังว่าฉันจะไม่ทำพลาด’
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หนิวลี่ก็เข้าไปในสนามบาสเก็ตบอลพร้อมกับเพื่อนนักเรียนกลุ่มหนึ่ง
เป็นสนามที่สมบูรณ์แบบ มีที่นั่งล้อมรอบและสิ่งอำนวยตามมาตรฐาน
ทั้งสนามสว่างไสว สามารถจุผู้ชมได้หนึ่งพันคน อาจกล่าวได้ว่าเป็นสนามบาสเกตบอลที่ดีที่สุดในเมืองเอช จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นสนามแข่งขันบาสเกตบอลระดับภูมิภาค
เมื่อเขาเดินเข้าไปในฮอลล์ก็ต้องตกตะลึงกับภาพความคึกคักที่เห็น
ที่นั่งในสนามแข่งขันเต็มทุกที่ แม้แต่พื้นว่างก็ยังมีคนจำนวนมากมายืนดูอยู่ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหน้าตาอ่อนเยาว์
แค่การแข่งขันกระชับมิตรที่โรงเรียนจัดขึ้น ทำไมถึงดึงดูดคนได้มากมายขนาดนี้ ดูท่าจะมีคนชอบบาสเกตบอลเยอะจริงๆ
หนิวลี่เดินมาถึงจุดพักของทีม 2/3 ทุกคนในทีมต่างรอคอยผมอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นผมก็โล่งใจกันเป็นแถว เนื่องจากแพ้ทีมปี 3 มาหลายครั้งแล้ว ถ้าเขาไม่มา พวกเพื่อน ๆ ก็คงไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะทีมเก๋าเกมแบบนั้นได้
“พี่ใหญ่ ไปวอร์มกันหน่อยมั้ย” หัวหน้าห้องเหมียวถามขึ้น
ตอนผมยังไม่มา พวกเขาคงไม่มีกะจิตกะใจจะไปวอร์มอัพ แต่ตอนนี้ผมมาแล้ว แน่นอนว่าต้องไปซ้อมทีมกันก่อน
ผมเหลือบตาไปมอง เห็นว่ามีสี่ห้าคนกำลังวอร์มอัพอยู่ ทักษะการชู้ตนั้นแม่นยำมาก ถึงแม้พวกเขาจะเเอบซ้อมกันมาบ้าง แต่แค่นี้ก็เห็นแววแล้วว่าฝีมือไม่ธรรมดา
“อืม ไปกันเถอะ พวกเราไปวอร์มอัพกันหน่อย” ผมพยักหน้าตอบ
เด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนเดินตรงไปยังแป้นบาสอีกฝั่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
การปรากฏตัวของหนิวลี่และคนอื่น ๆ ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย
ด้วยทัศนคติที่แข็งกร้าวและทักษะการชู้ตที่เชี่ยวชาญของทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 3 ทำให้มีคนมารอชมมากมาย ทุกคนต่างคาดหวังกับนักเรียนมัธยมปลายปี 2 ที่กล้าท้าทายทีมที่แข็งแกร่งเช่นนี้
ทีมรุ่นพี่ปี 3 พยายามยั่วยุหัวหน้าห้องเหมียวและคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนหัวหน้าห้องเหมียวจะไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะโต้ตอบ ทำให้ทุกคนในทีมปี 3 รู้สึกสับสน แต่เมื่อหนิวลี่ปรากฏตัว พวกเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ายังมีผู้เล่นอีกคนที่ยังไม่มา!
เมื่อมองดูส่วนสูงที่ไม่โดดเด่นและรูปร่างที่ดูเหมือนอ่อนปวกเปียกของหนิวลี่ ทีมปี 3 ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกปี 2 ถึงให้ความคาดหวังกับผู้ชายหน้าใหม่คนนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อหนิวลี่และคนอื่น ๆ ขึ้นมาบนสนาม ทีมบาส ฯ ปี 3 ก็หันมาสนใจพวกเขาทันที อยากรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญที่ปรากฏตัวกะทันหันของปี 2 นั้นเก่งกาจแค่ไหน
ทันทีที่หนิวลี่และคนอื่น ๆ ขึ้นมา สมาชิกในทีมที่ล้อมรอบหนิวลี่ก็เริ่มเล่นลูกบอลด้วยความกระตือรือร้น
หนิวลี่รับบอลมาแล้วเคาะลงกับพื้นสองสามครั้ง รู้สึกว่ามือของเขาแข็งไปหน่อย คนที่ดูออกก็รู้ทันที ทำให้หลายคนที่จับตาดูทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 แสดงความสงสัยออกมา ‘นี่เป็นมือใหม่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้มือใหม่เข้าร่วมการแข่งขันแบบนี้ พวกเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?’
หนิวลี่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ไม่ได้เล่นมานาน ขอปรับตัวหน่อย” น้ำเสียงของเขาดูลึกลับ ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่งุนงงอยู่บ้างถึงกับตาเป็นประกาย
หนิวลี่ไม่สนใจสิ่งอื่นใด เขามุ่งความสนใจไปที่เคล็ดลับของบาสเกตบอล มือของเขาสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกของลูกบอลที่กระทบอย่างต่อเนื่อง
เกือบทุกครั้งที่เขาเคาะ ความรู้สึกก็แตกต่างกัน หนิวลี่เคาะลูกบอลต่อเนื่องหลายสิบครั้ง จากนั้นก็จับลูกบอลที่กระดอนขึ้นมา มองไปที่เพื่อนร่วมทีมที่ตาค้างด้วยความตกตะลึง และพูดว่า “โอเค รู้สึกแล้ว!”
ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมทีมของหนิวลี่ที่ประหลาดใจ ทีมบาสเกตบอลปี 3 ฝั่งตรงข้ามก็อ้าปากค้างเช่นกัน พวกเขาคิดว่า “หมอนี่แกล้งเล่นแน่ ๆ เล่นเก่งขนาดนี้ ยังมาทำเป็นเล่นไม่เป็นอีก จัดฉากชัด ๆ”
บนอัฒจันทร์ ผู้ชมที่ดูออกต่างก็ตาเป็นประกาย รอคอยการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
บนที่นั่ง เหมียวเถียนเถียนดึงชายหนุ่มผมสั้นผู้สง่างามคนหนึ่งให้ดูหนิวลี่
“พี่ชาย นี่ไง คนเก่งที่ฉันเล่าให้ฟัง” เหมียวเถียนเถียนพูด
“นี่น่ะนะ?” ชายหนุ่มถามอย่างดูแคลน
เหมียวเถียนเถียนกลอกตา “พี่ชาย อย่ามองคนแค่ภายนอกสิ พี่ไม่รู้หรอกว่าเขาเก่งแค่ไหน ตบเบา ๆ ทีเดียวคนกระเด็นเลยนะ ฉันดูออก เขาน่ะของจริง”
“ของจริงอะไรกัน นักดังก์กระจอก ๆ ยังเด็กอยู่เลย จะไปเก่งอะไร บอกให้ก็ได้ วิชาตัวเบาที่พี่ฝึกในค่ายทหารน่ะของจริง เดี๋ยววันหลังจะแสดงให้ดู” ชายหนุ่มพูดจาดูถูกหนิวลี่ ยกตัวเองขึ้นอย่างโอ้อวด
เหมียวเถียนเถียนเบือนหน้าหนี ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชายตัวเอง
เมื่อเห็นหนิวลี่บนสนามดูผ่อนคลายและสงบนิ่ง หัวใจของเหมียวเถียนเถียนก็เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว แก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อ
‘หมอนี่ ไม่คิดเลยว่าจะดูดีขนาดนี้’ เธอคิดในใจ
ส่วนอีกด้าน หลี่เหมิงเหมิงและเยี่ยหลิงหลงก็นั่งลงบนที่นั่ง หลี่เหมิงเหมิงมองทีมบาสเก็ตบอลปี 2 ด้วยสายตาดูแคลน การท้าทายในอดีตล้วนจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน
เยี่ยหลิงหลงมีสีหน้าเคร่งขรึม แต่แววตายังคงฉายแววขบขัน
“พี่หลิงหลง พี่คิดว่าทีมบาส ฯ ปี 3 ของพวกเราจะชนะพวกปี 2 กี่แต้ม?” หลี่เหมิงเหมิงถามเสียงทะเล้น เธอเริ่มติดลมกับการพนันผลการแข่งขันเสียแล้ว
เยี่ยหลิงหลงยิ้มน้อย ๆ “คราวนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ทีมปี 2 มี หนิวลี่เข้าร่วม ผลแพ้ชนะในครั้งนี้อาจพลิกได้”
“อะไรนะ? พี่หลิงหลง ทำไมพี่ถึงมองไอ้หมอนั่นในแง่ดีนัก เขารู้จักแต่การทะเลาะวิวาท ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเล่นบาส ฯ ได้ดี นี่มันต้องใช้เทคนิค ไม่ใช่การต่อสู้ป่าเถื่อน” หลี่เหมิงเหมิง พูดอย่างดูแคลน
เยี่ยหลิงหลงส่ายหัว “เธออย่าไปยุ่งกับเขาเลย เขาไม่ใช่คนที่เธอจะหาเรื่องใส่ตัวได้ ผลลัพธ์มันอันตรายมาก”
“ฉันก็แค่พูดไปตามที่เห็น” หลี่เหมิงเหมิงเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“เอาล่ะ งั้นเรามาดูกัน ฉันว่าปี 2 มีโอกาสชนะมากกว่านะ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ปี 3 เป็นทีมเก่า เคยเข้าร่วมแข่งระดับประเทศ แถมยังมีโค้ชมืออาชีพ พวกเขาต้องเป็นฝ่ายชนะแน่”
บทสนทนาของทั้งสองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเสียงพูดคุยของผู้คน ในเวลานี้ทั่วทั้งสนามเริ่มคึกคัก เสียงเชียร์ดังระงม บ้างก็เชียร์ทีมปี 3 บ้างก็เชียร์ทีมปี 2
แต่โดยรวมแล้ว คนที่มองว่าทีมปี 3 จะชนะมีมากกว่า เสียงกรี๊ดของสาว ๆ ส่วนใหญ่ก็มอบให้กับทีมปี 3 พวกเธอยังจัดตั้งทีมเชียร์สาว สวมชุดเซ็กซี่ โชว์ช่วงล่างยามเต้น เรียกเสียงฮือฮาจากหนุ่ม ๆ ได้เป็นอย่างดี
บนสนาม บรรดานักกีฬาบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 3 ต่างก็พองขน ปลื้มใจกับชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม มองมายังกลุ่มนักกีฬาบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ด้วยสายตาที่เหนือกว่า
“ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นหรอก พวกตัวตลกกระจอกงอกง่อยทั้งนั้น ปล่อยให้พวกมันได้ใจไปเถอะ” หนิวลี่รู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักหน่อย ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ พวกเขามีกองเชียร์น้อยกว่ามาก
“พวกเราไม่กลัวหรอกครับพี่ใหญ่หนิว ที่ผ่านมาพวกเราเคยแพ้ให้กับทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 3 ถึงสามครั้ง ครั้งที่แพ้เยอะที่สุดคือ 39 คะแนน ครั้งนี้มีพี่ใหญ่มาคุมทีม ผมหวังว่าพวกเราจะชนะ” เหมียวต้าเหวยกล่าวด้วยสีหน้ามุ่งมั่น สงบนิ่งสมกับเป็นผู้นำ
หนิวลี่พอใจกับขวัญกำลังใจของเหมียวต้าเหวย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า “นายน่ะรู้จักทีมดีที่สุด ตำแหน่งกัปตันทีมก็เป็นของนายต่อไป ส่วนฉันจะเน้นไปที่การโจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว ถ้าพวกมันกล้าดูถูกฉันล่ะก็ ครั้งนี้ฉันจะชนะมันให้มากกว่า 40 คะแนนเลยคอยดู”