ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 49 เข้าร่วมทีมบาสเกตบอล
บทที่ 49 เข้าร่วมทีมบาสเกตบอล
บทที่ 49 เข้าร่วมทีมบาสเกตบอล
หลังจากออกจากสวนสาธารณะ หนิวลี่ก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ‘ทำไมฉันโชคร้ายแบบนี้ เดินไปทางไหนก็โดนจับเป็นตัวประกัน!’
‘โชคดีที่เวทของฉันเลื่อนขั้นแล้ว มีเกราะวายุแล้ว กริชเล็ก ๆ นั่นไม่สามารถทำลายการป้องกันของฉันได้’
หนิวลี่คิดแผนการดี ๆ ได้แล้วก็ภูมิใจ
ว่ากันว่าในนิยายและภาพยนตร์มากมาย คนที่มีความสามารถพิเศษมักจะมีตัวตนในด้านมืด
“สไปเดอร์แมน แบทแมน แบล็คแมน ไอ้มดแดง?”
“ฉันน่าจะมีตัวตนลับ ๆ สักหน่อยไว้เล่นสนุกนะ อย่างน้อยก็ตอนใช้เวทมนตร์ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะรู้ แถมยังใช้เวทมนตร์ได้เต็มที่ ปราบปรามคนชั่ว สร้างชื่อเสียง”
ยิ่งคิด หนิวลี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนนี้ใช้ได้ ‘ตอนนี้ฉันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว แถมความสามารถยังเหนือกว่าซูเปอร์ฮีโร่ที่ว่านั่นตั้งเยอะ เพียงแค่ระวังตัวไว้ การครอบครองเมืองเอชก็ไม่น่ามีปัญหา’
พอคิดถึงเรื่องสนุกๆ หนิวลี่ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เหมือนคนบ้าที่เพลิดเพลินอยู่คนเดียว ทำเอาเอลฟ์น้อยกับจ้าวหมาป่าทำหน้าฉงน
บรรยากาศในชั้นเรียนตอนบ่ายสงบเหมือนเคย นักเรียนห้องสามดูเหมือนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ หนิวลี่มีความสุขมากที่ได้เรียนในบรรยากาศการเรียนแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ในชั่วโมงเรียนภาษาจีนช่วงบ่าย เจี่ยงเหรินเฟิงกลับไม่ได้มาสอน สลับกับครูสอนภาษาอังกฤษแทน
หนิวลี่ครุ่นคิดอย่างหนักถึงชีวิตส่วนตัวของเจี่ยงเหรินเฟิง ก่อนจะเก็บหนังสือเมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น
“พี่ใหญ่หนิว”
เลิกเรียนแล้ว หัวหน้าห้องก็ยังคงทำหน้าหนาเดินเข้ามาหา
ณ ตอนนี้ นิวลี่ได้ทราบจากเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ ว่าชายหนุ่มคนนี้ชื่อว่าเหมียวต้าเหวย ดูเหมือนว่าเขาจะมีศักดิ์เป็นญาติห่าง ๆ กับเหมียวเถียนเถียน ดังนั้นเวลาที่เขาทำตัวกร่างไปทั่วในห้องเรียน จึงไม่มีใครกล้าหือ
มองดูท่าทางนอบน้อมของเหมียวต้าเหวยในตอนนี้ หนิวลี่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคำเตือนของเหมียวเถียนเถียน หรือว่าเขายอมสยบด้วยพลังของตนกันแน่
“หัวหน้าเหมียว มีอะไรเหรอ” หนิวลี่ถามพร้อมกับยิ้ม
สายตาพลันมองไปที่เหมียวต้าเหวย แต่กลับพบว่าไม่ใช่แค่เหมียวต้าเหวยเท่านั้นที่เดินเข้ามาถาม แต่ยังมีเพื่อนนักเรียนอีกหลายคนยืนอยู่ด้านหลัง มองมาที่เขาด้วยแววตาคาดหวัง
เรื่องอะไรกันนะ ทำไมถึงได้ตื่นเต้นกันขนาดนี้
“คือ พี่ใหญ่หนิวเล่นบาสเกตบอลเป็นหรือเปล่าครับ” เหมียวต้าเหวยถามอย่างลองเชิง
หนิวลี่มองไปที่ด้านหลังเขา เหล่านักเรียนร่างสูงใหญ่กำยำล่ำสันต่างมองมาด้วยสายตาคาดหวัง เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที
แม้จะไม่ค่อยสนใจกิจกรรมแบบนี้ แต่ในเมื่อตอนนี้ห้องเพิ่งจะเริ่มรวมตัวกัน เขาก็ควรจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้องบ้าง
“เคยเล่นอยู่สองสามครั้ง ทำไม อยากให้ฉันลงไปจัดการกับห้องนั้นรึไง” หนิวลี่ถาม
เหมียวต้าเหวยถึงกับขนลุกซู่ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พี่ใหญ่หนิว ไม่ได้โม้ พวกเราพี่น้องห้อง 2/3 ยิ่งใหญ่คับห้องเรียน ไม่มีใครเอาชนะได้ พวกเด็กใหม่ปี 1 ยังไม่คู่ควรแม้แต่จะมาเป็นคู่ซ้อม ครั้งนี้พวกเราอยากจะท้าทายรุ่นพี่ห้อง 3/2 ที่ว่ากันว่าเป็นทีมบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของโรงเรียน พวกนั้นมันอวดดีเกินไป อาศัยแค่เคยแข่งขันกระชับมิตรอยู่บ้าง แล้วยังมีโค้ชที่ปลดเกษียณมาสอนอยู่สองสามครั้ง ก็ชอบมาครองสนามบาสของโรงเรียน อวดเบ่งไปทั่ว ผมเลยอยากจะขอให้พี่ใหญ่หนิวช่วย ด้วยฝีมือของพี่ ในสนามคงทำแต้มได้ง่ายเหมือนเทน้ำ”
เหมียวต้าเหวยพูดจบ รู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่แห้งผาก แต่ที่สนใจมากกว่าคือสีหน้าของหนิวลี่ อยากรู้ว่าสุดยอดฝีมือคนนี้จะช่วยหรือไม่
หนิวลี่ครุ่นคิด เหมียวต้าเหวยพูดกำกวมจริง ๆ พูดชื่นชมตัวเองซะยกใหญ่ แล้วค่อยบอกว่าจะไปท้าทายรุ่นพี่ปี 3 ดูท่าทางคงจะไปเสียท่าให้พวกนั้นมาแล้วแน่ ๆ แถมเจ้าเด็กนี่กล้าดึงเขามาเอี่ยวด้วย คิดว่าเขาเป็นยอดฝีมือวูซู ที่จะไปโชว์เทพในสนามบาสได้จริง ๆ งั้นเหรอ
แต่พอหัวหน้าห้องเหมียวพูดจบ เสียงพูดคุยในห้องก็เงียบลง ทุกคนต่างจ้องมองหนิวลี่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
หนิวลี่ยิ้มออกมา เขาไม่อยากจะขัดศรัทธาของเพื่อนร่วมห้อง จึงพยักหน้าแล้วตอบตกลง “ได้ ไม่มีปัญหา เริ่มตอนไหนล่ะ”
“หนึ่งทุ่มคืนนี้ที่สนามบาสเกตบอลสนามกีฬาร่วมสามโรงเรียน ผมคุยกับผู้ผอ.จูแล้ว ผอ.ก็อนุญาต บอกว่าให้นัดแข่งอย่างยิ่งใหญ่ไปเลย คืนนี้ไม่ต้องเรียนพิเศษ นักเรียนทุกคนสามารถไปดูได้”
ทันใดนั้นใบหน้าของหัวหน้าห้องเหมียวก็แดงก่ำราวกับคนเมาสุรา
“ก็แน่สิ เจ้าหนุ่มนี่ก็ยังเป็นแค่วัยรุ่น แม้ปกติจะดูเท่ แต่เรื่องที่ได้โชว์ความสามารถต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแบบนี้ ใช่ว่าจะมีบ่อย ๆ”
หนิวลี่ลุกขึ้นยืนแล้วตบไหล่หัวหน้าห้องอย่างหนักแน่น “ไม่มีปัญหา ถึงเวลานั้นฉันไปแน่ ก็แค่พวกปี 3 ไม่เห็นต้องไปกลัว ทำให้พวกนั้นได้เห็นกันไปเลยว่า ห้องสามเรานี่แหละ คือทีมบาสที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนมัธยมหมิงซิง”
“ขอบคุณพี่ใหญ่หนิว นี่คือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตมัธยมของผมเลย ขอแค่พี่ใหญ่หนิวช่วยผมทำให้มันเป็นจริง ต่อไปนี้พี่ใหญ่หนิวจะให้ผมไปทางไหนผมก็จะไป ไม่ขัดแย้งเด็ดขาด” เหมียวต้าเหวยพูดอย่างแน่วแน่ ดวงตาของเขาคลอไปด้วยน้ำตา ทำเอาหนิวลี่ตกใจเล็กน้อย
“ฮ่า ๆ ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้น พวกเรากินข้าวกันก่อน แล้วรอดูกันว่าห้องสามจะโชว์ฟอร์มได้เจ๋งแค่ไหน” เขาพูดพลางโบกมือ
“โอ้ส! จัดการพวกขยะปี 3 ซะ!”
“พี่ใหญ่หนิวสุดยอด!”
ตอนนี้ทุกคนในห้องต่างตื่นเต้นกันมากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทุกคนก็ยังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน มีความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในเกียรติยศของพวกพ้องอย่างรุนแรง บวกกับความหึกเหิมตามประสาวัยรุ่น ทุกคนต่างตั้งตารอคอยให้ทีมบาสเกตบอลของห้องสร้างชื่อเสียงให้ดังกึกก้อง
ตอนนี้หนิวลี่ตอบตกลงที่จะเข้าร่วม ในสายตาของทุกคนแชมป์จะตกเป็นของห้องเราอย่างแน่นอน เรื่องที่ต้องโชว์เทพต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแบบนี้ พวกเขาแทบจะทนรอให้เวลานั้นมาถึงไม่ไหว แม้แต่สามโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเมืองเอช ก็ต้องยอมสยบ
หลังจากเดินออกมาจากห้องเรียน หนิวลี่ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ยังไม่จางหายไปจากร่างกาย เขาหัวเราะเยาะตัวเอง คิดมาตลอดว่าหลังจากได้รับพลังเวทแล้ว ตัวเองจะเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่เอาเข้าจริง พลังชีวิตที่วัยรุ่นอย่างเขาควรจะมี กลับไม่เคยเลือนหายไป
‘แต่ความรู้สึกแบบนี้มันก็ดีจริง ๆ นะ สนามกีฬาร่วมสามโรงเรียนงั้นเหรอ เหอะ ๆ’
หลังจากทานอาหารเย็นแบบเร่งรีบจนหมด หนิวลี่ก็ตรงไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่ง เพื่อค้นหาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับบาสเกตบอล จากนั้นก็ดูวิดีโอการแข่งขันของทีมชื่อดัง
แม้ว่าบางครั้งเขาจะเล่นบาสเกตบอลบ้าง แต่ฝีมือของเขาก็ไม่เคยพัฒนาเลย แม้แต่ระดับกลางก็ยังไม่ถึง ปาสิบลูกอาจจะหลุดแป้นไปสักแปด ตอนนี้ต้องมาแก้ไขข้อบกพร่อง ดูว่าคนอื่นเขาเล่นกันอย่างไร แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเอง ‘ภายใต้กฎกติกา ฉันจะทำให้ห้อง 2/3 ได้ตะลึงกันไปข้าง’
หลังจากศึกษาอยู่หลายชั่วโมง หนิวลี่ดูนาฬิกา พบว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว ผมจึงลุกขึ้นจ่ายเงินและเดินออกจากร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ไป
เด็กหนุ่มโบกรถแท็กซี่ที่ข้างทาง และตรงไปยังสนามกีฬาร่วมสามโรงเรียนทันที
สนามกีฬาร่วมสามโรงเรียนแห่งนี้ ที่จริงแล้วมีชื่อเสียงมากในเมืองเอช ด้วยกระแสการส่งเสริมกีฬาที่แผ่ขยายเข้าสู่หัวใจประชาชน กิจกรรมกีฬาจึงผุดขึ้นมากมาย โรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงที่สุดสามแห่งในเมืองเอชจึงร่วมมือกันลงทุนสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ขึ้น
เมื่อมองไปทั่วทั้งเมืองเอช สนามกีฬาร่วมสามโรงเรียนแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่โต ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬามากมาย ทั้งบาสเก็ตบอล เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล แบดมินตัน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบันเทิงอื่น ๆ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาขนาดเล็กของเมืองเอชมาแล้ว
แม้ว่าสนามกีฬาร่วมสามโรงเรียนแห่งนี้จะเปิดให้บริการแก่บุคคลภายนอกและมีการกำหนดค่าธรรมเนียม แต่ด้วยความเป็นรากฐานของโรงเรียน สนามกีฬาแห่งนี้จึงเปิดกว้างสำหรับนักเรียนจากทั้งสามโรงเรียนเป็นพิเศษ เพียงแสดงบัตรนักเรียนก็สามารถใช้บริการได้ฟรีหนึ่งสัปดาห์ต่อเดือน นโยบายนี้เข้าถึงใจนักเรียนเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันธรรมดา สนามกีฬาแห่งนี้จึงคึกคักไปด้วยผู้คน
เมื่อหนิวลี่มาถึงหน้าสนามกีฬา บริเวณประตูทางเข้าสนามกีฬาขนาดใหญ่ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักเรียน
ดูเหมือนว่าเรื่องที่ห้อง 2/3 ท้าแข่งบาสเก็ตบอลกับทีมบาสเก็ตบอลปี 3 คงจะแพร่กระจายไปทั่วแล้ว
แบบนี้ยิ่งทำให้หนิวลี่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต่อไปจะปกครองคนในห้อง 2/3 ได้อย่างไร!