ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 47 โดนจับเป็นตัวประกันอีกครั้ง
บทที่ 47 โดนจับเป็นตัวประกันอีกครั้ง
บทที่ 47 โดนจับเป็นตัวประกันอีกครั้ง
เมื่อเยี่ยหลิงหลงหมุนเวียนพลังปราณครบหนึ่งรอบ เธอก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง พลังงานสีขาวพุ่งออกมาไกลถึงห้าฟุต ก่อนที่จะกระจายกลายเป็นหมอกควัน
“ลมปราณกักเก็บห้าอวัยวะภายใน พลังลมปราณหนึ่งเดียวพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า! ศิษย์น้อง!! เธอ…” หลี่เตาปาตกใจจนหน้าซีดร้องออกมา
เย่หลิงหลงลืมตาขึ้น แสงสีทองวูบวาบผ่านตาเธอไปชั่วขณะ จากนั้นก็หมุนตัวกลับมาคำนับอย่างนอบน้อมทันที “ขอบพระคุณที่ท่านผู้อาวุโสประทานพรมาให้ หลิงหลงรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง”
“นี่มัน??” หลี่เตาปาสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ทุกครั้งที่เจอกัน เขามองหนิวลี่สูงขึ้นมาตลอด ไม่คิดว่าจะยังดูถูกเขาอยู่
“ไม่เป็นไร ยังไงซะผมก็ทำเธอบาดเจ็บก่อน นี่ถือเป็นการชดเชยเล็ก ๆ น้อย ๆ ลุกขึ้นเถอะ” หนิวลี่พูดอย่างแผ่วเบา แต่ในใจกำลังยินดีลับ ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยอดฝีมือในทีวีชอบให้ผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับมือใหม่ ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นเคารพบูชานี่มันดีจริง ๆ
“ผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของท่านผู้อาวุโสนี้ สำหรับหลิงหลงแล้ว ต่อให้ฝึกฝนอย่างยากลำบากหลายปีก็ไม่แน่ว่าจะได้รับผลดีเช่นนี้” เย่หลิงหลงลุกขึ้นยืนอย่างไม่เสแสร้ง แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น เมื่อมองไปที่สีหน้าของหนิวลี่อีกครั้ง ก็ไม่มีท่าทางเย่อหยิ่งอีกต่อไป มีแต่ความเคารพนอบน้อม
“น่าเบื่อ เป็นคนธรรมดาเหมือนกันหมด ผมไปก่อนละ” หนิวลี่หันหลังกลับ สะบัดแขนเสื้อ จากไปอย่างสง่าผ่าเผยราวกับเป็นยอดฝีมือ ไม่ได้สังเกตเห็นแววตาน้อยใจของหลี่เตาปาเลยแม้แต่น้อย
‘พี่ชาย คุณช่วยยกระดับพลังยุทธ์ให้ศิษย์น้องแล้ว ทำไมไม่ให้ผลประโยชน์อะไรฉันบ้างล่ะ’
แม้ว่าหนิวลี่จะดูเหมือนเดินช้า ๆ แต่ด้วยการเสริมพลังจากวิชาเหินเวหา การเดินแต่ละก้าวก็เหมือนลอยได้สามก้าว ในชั่วพริบตาก็ค่อย ๆ หายไปไกล
“ใกล้แค่เอื้อมแต่เหมือนไกลสุดฟ้า! ย่อแผ่นดินให้เหลือเพียงคืบเดียว! เป็นยอดฝีมือจริง ๆ”
เย่หลิงหลงและหลี่เตาปาอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
หลังจากวางมาดอยู่พักหนึ่ง หนิวลี่ก็มาเดินเล่นอยู่บนถนน พบว่าตัวเองไม่มีอะไรทำ
ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรทำ จุดสำคัญคือตอนนี้ตัวเองมีพลังเวทมากมายขนาดนี้ แต่กลับหาที่ใช้ไม่ได้ นี่มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ
หลังจากที่ซื้อไอศกรีมในร้านไปจนหมดต่อหน้าต่อตาพนักงานขายที่ทำหน้าเหรอหรา หนิวลี่ก็ไปเดินเล่นยังสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง แม้ว่าจะมีร่มเงาของต้นไม้มากมายในจัตุรัส แต่กลับมีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คน หนิวลี่หาที่เงียบ ๆ นั่งลง จากนั้นก็ปล่อยเอลฟ์น้อยและจ้าวหมาป่าออกมา
ทันทีที่ทั้งคู่ออกมา หนิวลี่ก็อดหัวเราะไม่ได้
เอลฟ์น้อยไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ แต่ละมือกำไอศกรีมไว้ กินอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่จ้าวหมาป่าก็อมไอศกรีมไว้ในปากเช่นกัน กำลังเลียอย่างเอร็ดอร่อย
“สองตัวกินจุ!” หนิวลี่บ่นขำ ๆ เห็นภาพแบบนั้น ตัวเองก็น้ำลายไหลขึ้นมาเช่นกัน หยิบไอศกริมแท่งหนึ่งขึ้นมาเลียอย่างหวานชื่น
ทั้งสามคนกินกันอย่างมีความสุข ไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะจับได้
ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี่ค่อนข้างเปลี่ยว แม้ว่าจะมีคนเห็น ก็คงคิดว่าจ้าวหมาป่าเป็นสุนัขที่แข็งแรงตัวหนึ่ง ส่วนเอลฟ์น้อยตัวหดเล็กลง ถูกจ้าวหมาป่าบดบังไว้ คนทั่วไปมองไม่เห็นง่าย ๆ
“พี่ชาย ต่อไปเตียวเสี้ยนอยู่ข้างนอกเลยได้ไหม ฉันไม่อยากซ่อนอยู่ในแหวนสรรค์สร้างตลอดเวลา เล่นไม่สนุกเลย” เอลฟ์น้อยพูดอย่างน่าสงสารพลางกินไอศกรีม
หนิวลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง คิดสักพักก็ยิ้มแห้ง ๆ “เตียวเสี้ยน เอ่อ พี่ก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะ แต่เธอดูสิ ร่างกายที่เล็กขนาดนี้ของเธอ ถ้าปรากฏตัวออกมาต้องทำให้คนตื่นตระหนกแน่ ๆ ต่อให้เธอตัวโตขึ้น พี่ก็อธิบายยากว่าเธอมาจากไหน สมัยนี้ทำอะไรก็ต้องใช้บัตรประชาชน”
“พี่ชาย เตียวเสี้ยนสามารถแปลงร่างเป็นแมวได้นะ แบบนี้ยังไม่ได้อีกเหรอ” เอลฟ์น้อยพูดอย่างไม่พอใจ
“เธอยังแปลงร่างได้อีก?” ดวงตาของ หนิวลี่ เป็นประกาย
เอลฟ์น้อยรีบโอ้อวดทันที “นอกจากสายเลือดดาร์กเอลฟ์แล้ว เตียวเสี้ยนยังมีสายเลือดเอลฟ์ดรูอิด[1]และสายเลือดราชินีเอลฟ์ด้วยนะ เพราะฉะนั้นเตียวเสี้ยนก็เลยใช้เวทแปลงกายของเอลฟ์ดรูอิดได้”
หนิวลี่เลียปากตัวเอง “งั้นพี่เรียนได้ไหม??”
เอลฟ์น้อยรีบส่ายหัว “นี่เป็นพรสวรรค์ของเผ่าเอลฟ์ดรูอิด มีเพียงเอลฟ์ที่เป็นพลังงานบริสุทธิ์เท่านั้นที่ใช้ได้ พี่ชายเรียนไม่ได้หรอก”
หนิวลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะหมดหวังกับวิชาแปลงกายเจ็ดสิบสองอย่างของซุนหงอคงแล้ว แต่การที่เอลฟ์น้อยสามารถแปลงร่างได้นี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ในอนาคตเอลฟ์น้อยไม่ต้องซ่อนอยู่ในพื้นที่แหวน ก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น การพูดคุยกันโดยตรงย่อมดีกว่าการใช้สัมผัสทางจิตตลอดเวลา มองแล้วสบายตาด้วย
“งั้นเธอแปลงร่างให้พี่ดูหน่อย” หนิวลี่ พูดอย่างไม่ค่อยวางใจ
เอลฟ์น้อยรีบกินไอศกรีมในมืออย่างรวดเร็ว เธอยังไม่ได้ร่ายมนตร์ ร่างกายเล็ก ๆ ทั้งหมดก็เริ่มบิดเบี้ยวและเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นแมวตัวเล็ก ๆ เท่าฝ่ามือต่อหน้าต่อตาหนิวลี่!
“ว้าว! น่ารักจัง!” หนิวลี่อุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในมือด้วยความดีใจ รักใคร่ไม่ยอมปล่อย
แม้แต่จ้าวหมาป่าที่กำลังเลียไอศกรีมอยู่ก็มองดูเอลฟ์น้อยที่แปลงร่างเป็นแมวด้วยความตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมจอมมารตัวโตถึงกลายเป็นแมวน้อยน่ารักไปได้?
หลังจากแปลงร่างแล้ว แมวน้อยก็มีขนสีม่วงนุ่มสลวย ดวงตาสีฟ้า ร่างกายอ่อนนุ่ม ท่าทางเกียจคร้าน ไม่มีอะไรที่ไม่สะดุดตา คาดว่าแค่รูปลักษณ์ของแมวน้อยตัวนี้ ถ้าหนิวลี่เป็นคนเจ้าชู้ ก็สามารถฆ่าคนได้ทั่วทุกสารทิศ จีบสาวได้ไม่หวาดไม่ไหว
“พี่ชาย สวยไหม?” แมวน้อยบิดร่างกายอย่างภาคภูมิใจ เกิดเป็นลวดลายสีม่วงเป็นคลื่น ทำให้คนยิ่งรักมากขึ้น
“อืม สวยมาก เตียวเสี้ยนเก่งมากเลย แปลงร่างเป็นแมวที่สวยสง่าขนาดนี้ได้” หนิวลี่ฉวยโอกาสประจบสอพลออย่างไม่รู้สึกละอายใจ ต้องบอกว่าความพึงพอใจของเอลฟ์น้อยนั้นตื้นเขินมากจริง ๆ เพียงไม่กี่คำพูดของหนิวลี่ ก็ทำให้เธอลอยได้ ลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นใคร
“ต่อไปเตียวเสี้ยนจะแปลงร่างแบบนี้อยู่ข้างนอกนะ อืม จ้าวหมาป่าก็อยู่ข้างนอก ไม่ต้องเข้าไปในแหวนสรรค์สร้างแล้ว แต่จ้าวหมาป่า แกอย่าแสดงความดุร้ายให้คนอื่นเห็นล่ะ แสดงท่าทางน่ารักหน่อย ไม่งั้นถ้าคนอื่นรู้เข้าก็ลำบาก” หนิวลี่คิดได้ก็เลยไม่ขังทั้งคู่ไว้ในแหวนอีกต่อไป
การถูกขังอยู่ในพื้นที่แหวนตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องดี ในอนาคตยังมีที่ ๆ ต้องพึ่งพาพวกมันอีกมาก ปล่อยให้พวกมันได้สัมผัสสังคมก่อนหน้านี้หน่อยก็ดี ให้รู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้นหน่อย จะได้ไม่เอาโลกมนุษย์ไปเปรียบเทียบกับป่า ใช้กฎของป่า ไม่งั้นปวดหัวแน่ ๆ
“เย้! พี่ชายใจดีที่สุด” แมวที่แปลงร่างมาจากเอลฟ์เผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่าตกใจ แถมยังพูดภาษาคนได้อีก!
“โฮ่ง ๆ !”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความสุขของเอลฟ์น้อย จ้าวหมาป่าก็ส่งเสียงร้องมีความสุขอย่างไม่ทราบสาเหตุ เอาหัวถูขาของหนิวลี่อย่างสนิทสนม
“สองตัวน้อย มากินต่อ วันนี้กินให้เต็มที่เลย” หนิวลี่ หยิบไอศกรีมออกมาจากแหวนอีกหลายอัน แจกให้เอลฟ์น้อยและจ้าวหมาป่า ทั้งสามคนมีความสุขกับการกินอีกครั้ง
“หยุดนะ อย่าวิ่ง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังกึกก้อง ทำลายบรรยากาศแห่งความสุขในการกินที่หนิวลี่สร้างขึ้น
หนิวลี่รู้สึกโกรธในใจ ลุกขึ้นยืนมองไปรอบ ๆ ‘ใครกันไม่มีมารยาทแบบนี้ กล้าทำลายความสุขของคนอื่น’
นอกรั้วของสวนสาธารณะ มีตำรวจคนหนึ่งกำลังวิ่งอย่างสุดกำลัง ส่วนข้างหน้าเขามีชายหนุ่มหน้าเหมือนหนูกำลังวิ่งหนีอย่างร้อนรน!
หนิวลี่มองดูอย่างละเอียดก็อดหัวเราะไม่ได้ ‘บังเอิญจริง ๆ’
ตำรวจที่กำลังไล่ตามชายหนุ่มคนนั้นคือคนที่ทำให้เขาถูกคนร้ายสองคนจับตัวไปเมื่อครั้งก่อน รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจเมืองเอช ฟางเจิ้ง[2]!
นี่เป็นข้อมูลที่หนิวลี่ตรวจสอบจากคอมพิวเตอร์หลังจากกลับบ้าน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ารองผู้กำกับคนนี้ขยันขันแข็งสมกับชื่อเขาจริง ๆ เจอกันสองครั้งก็จับโจรทั้งสองครั้ง
ชายหนุ่มที่ถูกตำรวจไล่ต้อนวิ่งอย่างร้อนรน พลิกตัวข้ามรั้วเข้าไปในสวนสาธารณะอย่างไม่คิดชีวิต ดันวิ่งหนีไปทางมุมเปลี่ยวที่หนิวลี่อยู่อีก
ปากของหนิวลี่ที่กำลังเลียไอศกรีมอยู่หุบไม่ลงแล้ว ‘นี่มันจะ…’
แน่นอนว่าเมื่อชายหนุ่มที่หอบหายใจเหน็ดเหนื่อยเห็นหนิวลี่ก็ตาเป็นประกาย พุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย ยื่นมีดสั้นที่สะท้อนแสงเย็นเยียบออกมาจ่อที่หนิวลี่
“ไอ้หนู บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันดุมาก เชื่อฟังดี ๆ ไม่งั้นแทงแกตายแน่!” ชายหนุ่มพูดพลางรัดคอหนิวลี่ เผชิญหน้ากับตำรวจที่กำลังไล่ตามมา
หลังจากที่แอบห้ามปรามเอลฟ์น้อยและจ้าวหมาป่าไม่ให้ทำอะไรวุ่นวายแล้ว หนิวลี่ก็อยากดูว่าตำรวจน้ำดีคนนี้จะช่วยตัวประกันยังไง
รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน ฟางเจิ้ง ที่หอบหายใจหนักหน่วงก็หยุดฝีเท้าลง ยังไม่ทันได้หายใจหายคอ ก็พบว่าเด็กหนุ่มที่ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกันนั้นเป็นคนที่เขาคุ้นหน้า
“ทำไมเป็นเอ็งอีกแล้ว?”
[1] เอลฟ์ดรูอิดเป็นตัวละครที่มีความสามารถหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจักรวาลและการตีความของแต่ละเรื่อง แต่โดยทั่วไปแล้ว เอลฟ์ดรูอิดจะมีความสามารถดังนี้
1. เวทมนตร์ธรรมชาติ เช่น ไฟ น้ำ ดิน ลม และพืช อีกทั้งยังสามารถใช้เวทมนตร์เพื่อรักษา ปกป้องสิ่งแวดล้อม ควบคุมสัตว์ป่า และอื่น ๆ
2. แปลงร่าง
3. การสื่อสารกับสัตว์
4. ทักษะการเอาชีวิตรอด
5. ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ พืชสมุนไพร สัตว์ป่า และสภาพอากาศ พวกเขาสามารถใช้ความรู้เหล่านี้เพื่อรักษาผู้คน หาอาหาร และทำนายอนาคต
[2] ฟางเจิ้ง (方正) แปลว่า ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา