ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 15 หนิวลี่เสียซิง
บทที่ 15 หนิวลี่เสียซิง
บทที่ 15 หนิวลี่เสียซิง
[อากาศเย็นสบายจริง ๆ] เอลฟ์น้อยในแหวนสรรค์สร้างกำลังป่องแก้มด้วยความโกรธ ส่งเสียงบอกหนิวลี่ว่า [ห้ามพี่ชายไปยุ่งกับนางจิ้งจอกตัวนี้นะ]
‘โอ้โฮ ไม่คิดเลยว่าเอลฟ์น้อยจะมีข้อมูลแม้กระทั่งเรื่องนี้ด้วย หมาป่า? ใครไปตั้งคำพวกนี้ไว้ในหัวของจิ้งจอกน้อยกันนะ ช่างไร้สาระจริง ๆ’
“เย็นสบายงั้นเหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก ขอจับดูหน่อยสิ” คุณหนูหลงกะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ รีบล้วงมือเข้าไปในเสื้อของหนิวลี่ มือนุ่มสัมผัสอกร้อนผ่าว ราวกับเทน้ำมันลงบนเปลวไฟที่กำลังลุกโชน!
หนิวลี่รู้สึกเหมือนตัวกำลังจะระเบิดอยู่แล้ว มือบางราวกับไร้กระดูกลูบไล้อกหนาปลุกเร้าอารมณ์อย่างอ่อนโยน
หนิวลี่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักระหว่างชายหญิงมาก่อน เขานับได้ว่าเป็นหนุ่มบริสุทธิ์แท้ ๆ แม้แต่ความรู้สึกคลุมเครือก็ยังเป็นแค่การจินตนาการจากการเห็นคู่รักที่หวานชื่นเท่านั้น
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ชายหญิงลึกซึ้ง ตอนนี้เขาก็ยังอยู่แค่ในขั้นเพ้อฝันเท่านั้น นาน ๆ ทีจะช่วยเหลือตัวเองบ้าง
[พี่ชาย คุณต้องอดทนนะ!] เอลฟ์น้อยโกรธมากที่คุณหนูหลงทำเกินเลย คิดว่าอกของพี่ชายเป็นของเธอเท่านั้น น่าเสียดายที่เธออยากจะออกมาขัดขวางทุกอย่าง แต่ต้องได้รับอนุญาตจากหนิวลี่ก่อน ไม่อย่างนั้นก็ได้แต่อยู่ในแหวนสรรค์สร้าง มองดูคุณหนูหลงทำพฤติกรรมสัตว์ป่ากับพี่ชายสุดที่รักของเธอ
แน่นอนว่าหนิวลี่จะไม่ยอมให้เอลฟ์น้อยออกมาอย่างแน่นอน ถ้าหากเอลฟ์น้อยออกมาอาละวาด มันคงจะสร้างความวุ่นวายและทำให้ความจริงบางอย่างถูกเปิดเผย หนิวลี่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอได้
หนิวลี่อดทนต่อความรู้สึกสั่นสะท้านที่ส่งผ่านมาทางร่างกาย เหมือนสาวน้อยอ่อนแอที่กำลังจะถูกโจรร้ายข่มขืน ไร้เรี่ยวแรงและจิตใจในการต่อต้าน
“ฮิ ๆ พี่สาวจะดูแลเธออย่างดีเอง จะไม่เจ็บหรอกนะ” ดูเหมือนคุณหนูหลงจะเริ่มมีอารมณ์บ้างแล้ว ดวงตาเป็นประกายระริก
“อย่านะ ผมยังไม่พร้อม”
“ฉันพร้อมแล้ว”
ความรักที่เร่าร้อนได้เริ่มขึ้นบนโซฟา ผู้หญิงอยู่ด้านบน ชายหนุ่มอยู่ด้านล่าง ปลดปล่อยจิตใจไปตามความรู้สึก แสดงออกอย่างบ้าคลั่ง
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา ท่ามกลางเสียงครางต่ำยาว คุณหนูหลงที่ดูเหมือนจอมพลหญิงผู้ชนะสงครามก็พ่ายแพ้ นอนหมดแรงบนร่างกำยำของหนิวลี่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแดงของความตื่นเต้นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “นี่เป็นครั้งแรกของเธอเหรอ”
หนิวลี่ทนรับเสียงตะโกนบ้าคลั่งของเจ้าเอลฟ์น้อยไปพร้อมกับสัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของสาวงามเหนือโลก เมื่อรู้สึกได้ว่าจอมพลหญิงยอมจำนนในที่สุด ก็ได้ยินประโยคนั้น
เขาพยักหน้าอย่างเขินอาย แต่ในใจกลับได้ยินเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวของเจ้าเอลฟ์น้อย [นางจิ้งจอก! พี่ชายโง่เอ๊ย! เธอเล่นสกปรก!’]
หนิวลี่อยากจะตอบกลับไปว่า ‘ไม่เห็นหรือไงว่าฉันถูกบังคับ’ แต่ถ้าพูดประโยคแบบนี้ออกไป ตัวเองก็จะมีแนวโน้มเป็นคนสกปรกจริง ๆ เขาจึงต้องทนรับความไม่พอใจของเจ้าเอลฟ์น้อยเงียบ ๆ
“ครั้งแรกก็เก่งขนาดนี้แล้ว ฉันอยากได้อีก” คุณหนูหลงมองมาที่หนิวลี่ด้วยดวงตาเป็นประกาย ค่อย ๆ ถอดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตออก ตามด้วยบราสีแดง อาวุธร้ายก็ปรากฏสู่สายตา
ประโยคที่ว่า ‘ต้องเห็นกับตาจึงจะรู้ความจริงอย่างชัดเจน’ มีเหตุผลมาก
หลังจากคุณหนูหลงปลดปล่อยภูเขาสองลูกออกมา ภูเขาทั้งคู่กลับขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม หนิวลี่ตกใจจนพูดไม่ออก
ส่วนเจ้าเอลฟ์น้อยผู้บ้าคลั่งก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง มองแตงโมของศัตรู จากนั้นก็มองซาลาเปาเล็ก ๆ ของตัวเอง! เจ้าเอลฟ์น้อยน้ำตาไหลพราก
[อืม ฉันต้องโตขึ้น ฉันต้องเติบโต ฉันต้องมีแตงโม!]
ในที่สุดเจ้าเอลฟ์น้อยก็หยุดตะโกนใส่หนิวลี่ แล้วไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของตู้คริสตัล พึมพำกับตัวเอง มือเล็ก ๆ กอบกุมอกเล็กของตัวเองไม่หยุด เหมือนกำลังวัดอะไรบางอย่าง บนใบหน้าปรากฏสีหน้าดุร้ายเป็นครั้งคราว
หนิวลี่เริ่มรู้สึกแปลกใจ พอฟังดี ๆ ก็ได้ยินประโยคที่ขาด ๆ หาย ๆ สองสามประโยค [ใช่ ต้องใหญ่ขนาดนี้ อืม ยังทำให้ใหญ่กว่านี้ได้อีก]
ในการทำศึกรอบที่สอง หนิวลี่ไม่ได้นิ่งเงียบอีกต่อไป เขาโจมตีกลับทันที ยึดความได้เปรียบ เริ่มขยายอาณาเขต สร้างจักรวรรดิของผู้ชาย
นอกหน้าต่างมีแสงสลัวของยามค่ำคืน ในห้องเต็มไปด้วยสีแดงเข้ม
หลังจากจบช่วงเวลาแห่งความวาบหวาม หนิวลี่นอนกอดหนูหลง มองแสงสีขาวนวลที่ส่องมาจากโคมไฟเพดานด้วยสีหน้างุนงง
‘นี่ก็ถือว่าฉันเติบโตเป็นผู้ชายที่แท้จริงแล้วใช่ไหม’
โอ๊ย! ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วหรอว่าจะมาก่อกวนแล้วหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เลี้ยงเตียวเสี้ยนไปด้วย ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าตัวเองเสียบริสุทธ์ไปซะแล้ว ‘น่าสงสารที่ตัวเองยังเป็นหนุ่มซิง! แต่ครั้งแรกดันโดนแย่งไปแบบนี้’
“ให้ตายเถอะ คึกขนาดนี้ ก่อนมากินยาอะไรมาหรือเปล่า” คุณหนูหลงพิงไหล่ หนิวลี่ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
หนิวลี่ส่ายหัว หยิบขวดสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
คุณหนูหลงรับขวดมาดมเบา ๆ ก็รู้แล้วว่าข้างในบรรจุอะไรอยู่ สีหน้าเปลี่ยนไป พูดว่า “จี๋เซียงหวาน!”
“ของนี่เรียกว่าจี๋เซียงหวานเหรอ?” หนิวลี่ ได้ยินแล้วสงสัยขึ้นมาทันที นี่ไม่ใช่ยาแรงทรงพลังอย่างไวอากร้าหรืออะไรทำนองนั้นหรอกเหรอ
“เธอไม่รู้จักเหรอ?” คุณหนูหลงถามด้วยความเหลือเชื่อ จากนั้นก็หัวเราะชอบใจ “ก็จริง มองปุ๊บก็รู้ว่าเป็นหนุ่มซิง ฮิ ๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้กินหนุ่มซิง เดี๋ยวต้องให้ซองแดงซะหน่อย”
หนิวลี่อึดอัดใจยิ่งนัก
“จริง ๆ แล้วของนี่ชื่อว่าจี๋เซียงหวาน แต่ไม่ได้เป็นมงคลอะไรเลย กลับร้ายกาจมาก เธออย่ากินเชียว กินแล้วจะทำให้เธอทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิตเลย” คุณหนูหลงพูดต่อ
“ทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิต แรงขนาดนั้นเลยเหรอ?” หนิวลี่ตกใจ
“แน่นอน เธอรู้ไหม ของนี่มีฤทธิ์แรงกว่าไวอากร้าถึงสิบเท่า แถมยังผสมสารพิษอีกมากมาย ใช้ครั้งเดียวชีวิตนี้ก็จะไม่มีโอกาสเป็นพ่อคนแล้ว ใช้สองครั้งแน่นอนว่าจะเป็นหมันไปตลอดชีวิต ไม่มียารักษา” คุณหนูหลงดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ดี อธิบายได้ละเอียดมาก
หนิวลี่ฟังแล้วสีหน้าหม่นลงทันที ไม่พูดอะไรอีก แต่ในใจนั้นเหมือนพายุโหมกระหน่ำ
‘ไอ้ฉางเหมาบ้าเอ๊ย ไอ้หัวไก่บ้าเอ๊ย ไอ้เยี่ยเยี่ยหลายบ้าเอ๊ย ดันคิดค้นของชั่วร้ายแบบนี้ได้ ดีแค้นนี้ฉันจะจำไว้แล้วกัน’
“เฮ้ย! เธอไม่เป็นไรใช่ไหม ในเมื่อเธอรู้แล้วก็อย่ากินก็แล้วกัน ของนี่เป็นของที่ทำร้ายคน ทิ้งไปเถอะ” คุณหนูหลงดูเหมือนจะไม่ชอบยาทำร้ายคนแบบนี้เท่าไร กำลังจะโยนทิ้งถังขยะข้าง ๆ
“ไม่สิ ของนี่เป็นของที่ทำร้ายคน แต่ถ้าเอาไปให้พวกคนชั่วกิน มันก็จะกลายเป็นยาดีไปเลย พี่หลงว่าใช่ไหมล่ะ” หนิวลี่ หัวเราะฮึ ๆ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแปลก ๆ
คุณหนูหลงชะงัก แล้วหัวเราะเบา ๆ ตบอกของหนิวลี่ “เธอนี่ร้ายจริง ๆ เลย แต่ฉันชอบ งั้นเธอเก็บไว้ก็แล้วกัน”
ทั้งสองคนเล่นหยอกล้อกันอีกสักพักก็เก็บเสื้อผ้าแต่งตัวให้เรียบร้อย
คุณหนูหลงยังคงมีสีหน้าแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ยังไม่จางหายไปโดยสิ้นเชิง ประทับตราดอกท้อ ช่วยขับเน้นให้ใบหน้าที่งดงามอย่างล้ำเลิศดูงดงามยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้หนิวลี่มองจนตาค้างอีกครั้ง
“คนบ้า ยังมองไม่พออีกหรือไง” คุณหนูหลงพูดปากแต่ใบหน้ากลับยิ้มระรื่น ดูภูมิใจในเสน่ห์ของตัวเองมาก
“ฮ่า ๆ!” หนิวลี่ยิ้มแหย ๆ ในใจถอนหายใจเล็กน้อย เป็นความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน ก็คงต้องแยกจากกันแล้วสินะ ช่างเถอะ ถือว่าเป็นการพบกันที่สวยงาม นับเป็นโชคชะตาสักครั้งหนึ่งแล้วกัน
“ไปเถอะ พี่จะพาเธอไปเที่ยวที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเยี่ยเยี่ยหลาย”
ไม่คิดว่าคุณหนูหลงจะยังคงกระตือรือร้นไม่ลดลง เธอก้าวไปข้างหน้าควงแขนหนิวลี่ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน