ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 13 ห้องแดงชั้นสาม
บทที่ 13 ห้องแดงชั้นสาม
บทที่ 13 ห้องแดงชั้นสาม
หนิวลี่เดินตามฉางเหมาและพรรคพวกมาจนถึงไนต์คลับเยี่ยเยี่ยหลาย
หากพูดถึงเยี่ยเยี่ยหลายแล้วละก็ มันเป็นศูนย์รวมกิจกรรมยามค่ำคืนที่ใหญ่โตมาก ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางเมตร สูงถึงแปดชั้น รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิงหลากหลายประเภท ไม่ว่าคุณต้องการเล่นอะไร ที่นี่ก็สามารถตอบสนองได้ครบ
ฉางเหมาพูดจาโอ้อวดว่าเป็นเจ้าของเยี่ยเยี่ยหลาย แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นแค่หัวหน้าคนหนึ่งที่คอยดูแลสถานที่นี้เท่านั้น ข้างบนยังมีหัวหน้าใหญ่ และหัวหน้าของหัวหน้าใหญ่อีกที
ตอนนี้ท้องฟ้ายังไม่มืดนัก เยี่ยเยี่ยหลายยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของวัน ที่ล็อบบีชั้นหนึ่งมีแค่พนักงานบริการไม่กี่คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างใหญ่หน้าตาเคร่งขรึม แขกที่มาเยือนก็มีน้อยมาก
ฉางเหมาทิ้งลูกน้องไว้สองคน พาหนิวลี่ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสามด้วยตัวเอง
การตกแต่งของชั้นสามก็เป็นอีกภาพหนึ่ง แตกต่างจากชั้นหนึ่งที่โปร่งและกว้างขวางไปโดยสิ้นเชิง ชั้นสามประดับประดาด้วยของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์สีแดงเข้ม ไฟส่องแสงสลัวสีแดงอ่อนสลับเข้มหลากเฉด ล้อมรอบเวทีเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อทางเดินสามทางไปสู่ห้องอีกหลายห้อง ชั้นสามทำให้คนรู้สึกเลือดพลุ่งพล่าน ปากและคอแห้งผาก
หนิวลี่เลียริมฝีปากอย่างอึดอัดเล็กน้อย แต่สายตากลับมองไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของห้องรับรอง
ตรงนั้นมีคนมารวมตัวกันอยู่บ้างแล้ว เมื่อมองให้ดีปรากฏว่าล้วนเป็นวัยรุ่นที่อายุไม่มาก แต่รูปร่างค่อนข้างแข็งแรง
คนที่ดูคล้ายหัวโจกเป็นหนุ่มผอมราวกับโครงกระดูก เมื่อเห็นฉางเหมาก็รีบเดินเข้ามา
ชายผอมไม่ได้สนใจฉางเหมาในทีแรก แต่กลับพินิจพิเคราะห์หนิวลี่อย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า จนทำให้หนิวลี่ขนลุกซู่
“ไม่เลว ไม่เลว! วันนี้แกส่งของดีมาให้จริง ๆ นะ ดี! ดูท่าวันนี้จะได้กำไรงาม ๆ แล้วละ” ในที่สุดหนุ่มผอมก็พยักหน้าอย่างพอใจ หันไปยิ้มให้ฉางเหมา ภาษาจีนของเขามีสำเนียงกวางตุ้งเล็กน้อย
“แน่นอน ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก นี่เป็นไก่หนุ่มที่แข็งแรงจริง ๆ นะพี่หัวไก่*[1] พี่อย่าลืมบอกนายให้ฉันด้วยล่ะ” ฉางเหมาพูดกับหนุ่มผอมด้วยสีหน้าประจบประแจง
“สบายใจได้เลย วันนี้พี่ฟางส่งข่าวมาว่ามีเศรษฐีนีฮ่องกงสองสามคนจะมาเที่ยว ถ้ามีโอกาส ส่วนแบ่งของแกคงได้ไม่น้อยแน่” ชายผอมหัวเราะเยาะ จากนั้นก็ยื่นมือไปดึงหนิวลี่ ปากชมไม่หยุดว่า ‘ดีมาก’
คราวนี้หนิวลี่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า ตัวเองถูกบังคับให้มาเป็นหนุ่มขายบริการ!
โอ๊ย! เฮ้ย ๆๆๆ!
หนิวลี่แสร้งยิ้มแห้ง ๆ แต่ในใจนั้นโกรธจนเดือดปุด ๆ ตัวเขาเองยังเด็กขนาดนี้ จะทนรับมือกับหมาป่าพวกนั้นได้หรือไง? ฮึ่ม~ อยากจะทำให้ฉันเป็นหมันงั้นเหรอ งั้นก็ต้องมาดูกันว่าใครจะมีวิธีเด็ดกว่ากัน
ฉางเหมาให้กำลังใจหนิวลี่สองสามคำแล้วเดินออกจากชั้นสามไป พี่หัวไก่จัดให้หนิวลี่ไปอยู่ข้างหลังเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนจะเก็บเขาไว้เป็นเบอร์ตอง
หนิวลี่ยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านหลัง กวาดตามองเด็กวัยรุ่นไม่กี่คนที่อยู่ข้างหน้า ทุกคนดูเหมือนจะอายุราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปดปี ใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย สายตาเปล่งประกายชั่วร้าย แค่มองก็รู้ว่าพวกเขาปล่อยตัวปล่อยใจมากเกินไป และยังจมอยู่ในนั้นจนไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้
“พวกนายทุกคนฟังนะ ตามกฎเดิม ให้อยู่ในห้องของตัวเอง พอถูกเรียกตัวก็ขึ้นเวทีได้เลย”
พี่หัวไก่รอสักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขึ้นมาอีก ก็หันไปพูดกับพวกวัยรุ่น
หลังจากนั้นวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ก็เดินจากไปเกือบครึ่ง เหลือแค่สามคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
หนิวลี่สังเกตเห็นว่าอีกสองคนที่เหลือก็เหมือนกับตัวเขา ดูงุนงงไม่เข้าใจเช่นกัน แต่แววตาเหมือนจะมีความคาดหวังบางอย่างอยู่
เขาหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจ รอคอยอย่างเงียบ ๆ
แต่ตามตรงนะ หนิวลี่เองก็ค่อนข้างตั้งตารอเหมือนกัน พูดก็พูดเถอะ ตัวเขาเองก็ยังเป็นลูกไก่อยู่เลย แม้แต่หนังโป๊ยังไม่เคยดูเลยนะเนี่ย
ถ้า… ถ้าจริง ๆ แล้ว…
ไม่ใช่ถ้าสิ ตรงนี้ยังมีเอลฟ์จิ๋วจ้องมองอยู่ ยัยตัวเล็กนี่ก็เหมือนจะรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ เหมือนกัน พลังจิตของเธอตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวในห้องรับรอง
“พวกนายสามคนตามฉันมา”
หลังจากที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นจากไปหมดแล้ว พี่หัวไก่ก็พูดกับหนิวลี่และอีกสองคนด้วยรอยยิ้ม พูดจบก็หันหลังก้าวเท้าเดินนำไปก่อน
หนิวลี่กับอีกสองคนรีบตามไป ระหว่างทางเลี้ยวผ่านทางเดินอีกทาง เห็นห้องรับรองขนาดเล็กห้องหนึ่ง เมื่อมองเข้าไปก็พบสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง หน้าตาสวย อายุสิบเจ็ดสิบแปดปีเหมือนกัน บางคนยังเด็กกว่านั้นอีก ทุกคนแต่งตัวเซ็กซี่สุด ๆ ท่าทางยั่วยวน บางคนยังสูบบุหรี่อย่างเคลิบเคลิ้ม
ชายหนุ่มทั้งสามคนไม่กล้าจ้องมาก รีบเดินผ่านห้องรับรองท่ามกลางสายตาหยอกล้อของเหล่าสาวน้อยไปยังอีกทางเดินหนึ่ง พี่หัวไก่เดินไปที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่งแล้วเปิดออก พูดขึ้นว่า “พวกนายหนึ่งคนรออยู่ที่นี่ ถ้ายังไม่ได้เรียกตัวอย่าเดินออกมาตามใจชอบ ในห้องมีทุกอย่างครบ ไม่ต้องเครียดมาก”
หนิวลี่มองเด็กหนุ่มอีกสองคนที่ดูลังเลเล็กน้อย ตัวเองเป็นคนเปิดเผยจึงเดินเข้าไปก่อน ทำให้พี่หัวไก่พยักหน้าพอใจ “แข็งแรง แถมยังว่าง่าย ต้องถูกใจแน่ ๆ” พูดจบก็ปิดประตู คงจะพาเพื่อนอีกสองคนไปดูห้องของพวกเขา
เมื่อหนิวลี่สำรวจรอบห้องแล้ว พบว่าห้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่ออกแบบมาได้สวยงาม ทั้งห้องถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดงเรื่อ
หนิวลี่นอนลงบนเตียงกว้าง รู้สึกว่าที่นอนใต้ร่างกายนั้นเป็นเตียงน้ำรุ่นล่าสุด นอนอยู่บนนั้นเหมือนลอยอยู่บนผิวน้ำ นุ่มนิ่มเหมือนนอนอยู่บนปุยนุ่น
หนิวลี่ขยับตัวเล็กน้อย ส่งเสียงถึงเอลฟ์จิ๋วว่า “เตียวเสี้ยน เธอขยายจิตสัมผัสออกไปไกลที่สุดได้แค่ไหน”
เตียวเสี้ยนกำลังสงสัยและสัมผัสรอบ ๆ อยู่พอดี พอได้ยินคำพูดของหนิวลี่ก็ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า [สัมผัสได้ถึงที่ที่เราเดินผ่านมาเมื่อกี้ ที่ที่มีสาวสวยเยอะ ๆ น่ะ]
“สาวสวยเยอะ?” หนิวลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วนึกถึงห้องรับรองเล็ก ๆ ที่เดินผ่านมาเมื่อครู่ ห่างจากห้องนี้อย่างน้อยสิบกว่าเมตร เขายิ้ม พูดขึ้นทันที “พวกสาวน้อยพวกนั้นสวยไม่เท่าเตียวเสี้ยนหรอก”
[จริงเหรอ แฮะ ๆ เตียวเสี้ยนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน] เตียวเสี้ยนหัวเราะคิกคัก พูดยกยอตัวเอง
[แต่พี่ชาย ดูเหมือนพวกเธอจะพูดถึงพี่นะ] เตียวเสี้ยนพูดอย่างแปลกใจ
“พูดถึงฉัน? พูดถึงฉันว่าอะไร?” หนิวลี่สงสัย ตัวเองไม่รู้จักพวกสาว ๆ ที่ขายวิญญาณพวกนั้นสักหน่อย
[อืม ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เหมือนจะพูดว่าในพวกพี่สามคนใครเก่งที่สุด บอกว่าร่างกายพี่น่าจะแข็งแรงที่สุด ต้องทำได้ดีแน่ ๆ แล้วก็มีพูดว่าพี่แข็งแรงแค่ภายนอก แต่ข้างในอ่อนแอ ทนได้แค่ไม่กี่นาที พี่ชาย พวกเธอพูดว่าอะไรกันเหรอ?] เตียวเสี้ยนเข้าใจแค่พฤติกรรมพื้นฐาน แต่ไม่สามารถเข้าใจคำถามที่ค่อนข้างซับซ้อนพวกนี้ได้
หนิวลี่ฟังแล้วหน้าแดงปากซีด จากนั้นก็พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “พวกสาวน้อยหื่นกาม!” พูดจบก็รู้สึกหดหู่อย่างมากอีกครั้ง “ฉันดูย่ำแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
[ย่ำแย่อะไรกันเล่า พี่ชายเก่งขนาดนั้น พวกนั้นมันตาถั่ว] เตียวเสี้ยนฟังประโยคนี้รู้เรื่อง รีบปลอบใจหนิวลี่ทันที
หนิวลี่กลอกตา ไม่อธิบายอะไร แต่ในใจรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาหน่อย
การรอคอยเป็นเรื่องน่าเบื่อ หนิวลี่ให้เตียวเสี้ยนขยายจิตสัมผัส เฝ้าดูทุกความเคลื่อนไหวในรัศมีสิบเมตรโดยรอบ ขอแค่มีคนเดินผ่าน เตียวเสี้ยนก็จะรายงานอีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างกระตือรือร้น
การสอดส่องแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเหนือกว่ากล้องวงจรปิดกี่เท่า ไม่มีทางที่ใครจะสังเกตเห็นได้เลย ดังนั้นหนิวลี่และเจ้าเอลฟ์น้อยจึงแอบมองอย่างไร้ความกังวล หนึ่งชั่วโมงผ่านไป หนิวลี่ก็จำพนักงานบริการชั้นสามได้เกือบทั้งหมดแล้ว
จู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากลิฟต์ที่ชั้นสาม ชายชุดดำสองคนนำทางไปที่ห้องรับรองที่มีกลุ่มสาวสวยนั่งอยู่
เจ้าเอลฟ์น้อยตื่นเต้นอย่างมาก ส่งพลังจิตออกไปสัมผัสคนเหล่านี้อีกครั้ง
“อืม!”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มในชุดโบราณคนหนึ่งในกลุ่มก็หยุดฝีเท้า เหลือบมองมาทางทางเดินที่เตียวเสี้ยนอยู่ด้วยสายตาคมกริบ
‘ว้าย!’
เจ้าภูตน้อยพอเห็นสายตาของชายหนุ่มชุดโบราณก็ตกใจ รีบเรียกพลังจิตกลับมาทันที
[1] หัวไก่ เป็นคำแสลงในภาษาจีน หมายถึง อวัยวะเพศของผู้ชาย