ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 11 การทรมานสุดโหด
บทที่ 11 การทรมานสุดโหด
บทที่ 11 การทรมานสุดโหด
“ไอ้เวร ไปตายซะ!” ชายมีหนวดโมโหจัด หยิบปืนพกออกมาจากอกอย่างคล่องแคล่ว
“ให้ตายเถอะ มีปืนแล้วจะเก่งเหรอ!”
หนิวลี่ที่ระวังตัวอยู่แล้วว่าชายมีหนวดจะใช้ปืน สะบัดฝ่ามือ ใบมีดวายุเล่มสุดท้ายวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา
ชายมีหนวดที่เพิ่งยกมือขึ้นเล็งปืนไปทางหนิวลี่ก็รู้สึกเย็นวาบ จากนั้นก็ได้แต่มองมือของตัวเองขาดออกจากข้อมือ มือที่ถือปืนร่วงลงพื้น นิ้วมือกระตุกและสั่นเทา!
“อ๊า!”
ครั้งนี้เจ็บจนถึงกระดูกจริง ๆ ชายมีหนวดร้องโหยหวน ล้มลงกับพื้นและกลิ้งไปมา
หนิวลี่ไม่ไว้ใจ รีบวิ่งไปเก็บปืนบนพื้น ขึ้นลำแล้วเล็งไปที่ชายมีหนวด
“อย่า อย่ายิง” ชายมีหนวดถึงจะเจ็บแทบตาย แต่เมื่อเผชิญกับความตายก็ยิ่งหวาดกลัว รีบถอยหลังหนีพลางขอร้อง
“เฮ้อ! ที่แท้แกก็กลัวนี่นา ไอ้ตัณหากลับ แกว่าแกยังมีมนุษยธรรมอยู่อีกไหม? ไม่ใช่แค่ลักพาตัวฉัน ยังคิดจะทำอนาจารฉันอีก” หนิวลี่ตะโกนใส่ชายมีหนวด
“ใช่ ๆๆ ผมผิดเอง ผมสมควรตาย ไอ้หนู ไม่สิ นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ผมไม่กล้าอีกแล้ว” ชายมีหนวดพูดอย่างหวาดกลัว
“ผิด!” หนิวลี่สะบัดนิ้วแล้วพูดอย่างเย็นชา “ไม่ใช่เรื่องพวกนี้ เกียรติยศส่วนตัวฉันยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก สิ่งที่ทำให้ฉันโกรธที่สุดคือ แกร่วมมือกับพวกญี่ปุ่น! ช่างไม่น่าให้อภัยจริง ๆ!” หนิวลี่รู้สึกว่ายังพูดไม่หนักแน่นพอ เขาจึงเตะชายมีหนวดอย่างแรง
ชายมีหนวดตื่นตระหนกกับคำพูดของหนิวลี่ไม่ทันได้ระวังตัว โดนเตะเข้าที่หน้าโดยตรง ร่างกระเด็นหงายหลังไปไกลหลายเมตร
“อ๊าก!”
ชายมีหนวดขดตัวด้วยความเจ็บปวด
“เป็นไงบ้าง เจ็บปวดมากเลยสินะ? ฮึ! ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ของจริงมันต่อจากนี้!” หนิวลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ พลิกมือ เก็บปืนเข้าไปในพื้นที่สร้าง แล้วร่ายเวทด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“แผ่นดินที่เต็มไปด้วยลมหายใจแห่งชีวิต จงรับฟังเสียงของข้า มอบพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่แก่ข้า เร่งการเติบโตของพืชพรรณ”
หนิวลี่ประสานมือ พลังเวทสีม่วงหมุนวน จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ต้นหญ้าเล็ก ๆ ที่มุมกำแพงตึก พลังเวทสีม่วงพุ่งออกไปทันที ซึมเข้าไปในต้นหญ้า
เซลล์ภายในต้นหญ้าถูกควบคุมให้เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยจิตที่เชื่อมต่อกับเวทพฤกษา
ต้นหญ้าขยายตัวยืดยาวในชั่วพริบตา ต้นหญ้าเล็ก ๆ ไม่กี่ฝ่ามือก็กลายเป็นพืชยักษ์เลื้อยปกคลุมไปทั่วทั้งอาคาร
ชายมีหนวดที่กำลังครวญครางด้วยความเจ็บปวด เห็นภาพนี้เข้าก็รู้สึกเหมือนเห็นผี อ้าปากค้าง ส่งเสียงไม่ออก
“ฮ่า ๆ งานเลี้ยงเริ่มแล้ว มาสนุกกันเถอะ ‘เรือนจำพฤกษา!’”
หนิวลี่ยิ้ม ควบคุมพืชยักษ์ให้ยื่นเถาวัลย์หนาสี่เส้นออกมา รัดแขนขาของชายมีหนวดอย่างรวดเร็ว ดึงและยืดออก ตรึงเขาไว้กลางอากาศ
“ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยท่านเทพ” ชายมีหนวดตกใจสติแตก เมื่อเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเหล่านี้ เขาถึงกับเรียกหนิวลี่ว่าท่านเทพ ในใจเสียใจยิ่งนักที่ไปลักพาตัวซาตานมา
“สบายใจได้ ฉันจะออมมือไว้ ไม่ทำให้แกตายง่าย ๆ หรอก” หนิวลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วประสานมืออีกครั้ง
“อัคคีธาตุที่สถิตอยู่ทุกหนแห่ง จงฟังเสียงร่ำร้องของข้า บอลเพลิง!”
พลังเวทพุ่งออกมาอีก ประกายไฟสามดวงวาบขึ้นที่ฝ่ามือ รวมตัวกันอย่างรวดเร็วเป็นลูกไฟเล็ก ๆ ขนาดหนึ่งกำปั้น
“แค่นี้จะสนุกพอไหมนะ” หนิวลี่ไม่ค่อยพอใจนัก แต่จำใจต้องใช้พลังเวทเท่านี้ เพราะต้องเก็บไว้ใช้กับเวทมนตร์อื่น ๆ อีก
“ดูฉันย่างเนื้อสไตล์ฮ่องกงสิ”
หนิวลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ควบคุมลูกไฟเล็ก ๆ ให้หมุนวนรอบตัวชายมีหนวด ลูกไฟนั้นสัมผัสโดนตัวชายมีหนวดเป็นระยะ ๆ ไฟลูกเล็ก ๆ แต่มีอุณหภูมิสูงมาก ทุกครั้งที่แตะชายมีหนวด ตัวเขาก็จะกระตุกด้วยความเจ็บปวด ไม่นานนัก ผมและขนหน้าอกของชายมีหนวดก็ไหม้เกรียม ส่วนใบหน้า แขน และผิวหนังบริเวณหน้าอกก็เต็มไปด้วยรอยแดงเล็ก ๆ ไม่เป็นระเบียบ กลายเป็นแผลพุพองจากการโดนไฟลวก
“ฮ่า ๆๆ!”
เมื่อเห็นผลงานของตัวเอง หนิวลี่ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เอลฟ์น้อยในพื้นที่สร้างร้องตะโกนด้วยท่าทางภูมิใจ
“ฆ่าฉันเถอะ ฆ่าฉันซะ!”
จิตใจของชายมีหนวดใกล้จะพังทลายแล้ว เอาแต่พึมพำประโยคเดียว
หนิวลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาทำงานใต้ดินนะ ทนการทรมานแค่นี้ก็ไม่ได้เชียวเหรอ? รู้ไหมว่าสมัยก่อนคนที่ทำงานใต้ดินนั้นต้องเจอกับการทรมานสารพัดรูปแบบแต่ก็ยังไม่ยอมเปิดปากเลยนะ!
“ช่างเถอะ ฉันจะแก้แค้นให้พวกหนุ่มหล่อเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเราจะจบเรื่องกันแค่นี้”
หนิวลี่ประสานมือร่ายเวท พลังเวทที่เหลือไม่มากไหลออกมา ก่อตัวเป็นมีดวายุสามใบบนฝ่ามืออีกครั้ง
หนิวลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย ใบมีดวายุทั้งสามพุ่งเป็นเกลียวออกไปพร้อมกัน ตรงไปยังบริเวณเป้าของชายมีหนวด
ฟิ้ว ๆๆ!
ใบมีดวายุวูบผ่านไป ชายมีหนวดที่กำลังครางอยู่ตาเบิกโพลงทันที! จากนั้นรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างที่สุด
ชายมีหนวดอ้าปากร้องและกระตุกอย่างแรง อยากจะร้องแต่ร้องไม่ออก ร่างของชายมีหนวดเกร็งกระตุกไปมาสองสามที ก่อนศีรษะจะห้อยตกลงมาอย่างอ่อนแรง
“หืม? เป็นอะไรไป? หรือว่าฝีมือฉันไม่ถึง เล่นมากไปหน่อยเหรอ?” หนิวลี่งุนงงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ
เลือดสดไหลพรั่งพรูออกมาจากบริเวณเป้ากางเกงของชายมีหนวด ดวงตาเหลือกถลน
“เฮ้ย ตายแล้วเหรอ?” หัวใจหนิวลี่กระตุก แต่ก็พยายามทำใจเย็น คนชั่วตายไปแล้ว เขากำลังกำจัดภัยให้ประชาชนนี่นา
[ว้าว พี่ชายเก่งจัง ในที่สุดก็กำจัดคนชั่วได้แล้ว!] เอลฟ์น้อยบินวนในพื้นที่สร้างอย่างตื่นเต้น สบัดไปมาด้วยความดีใจ
“เอลฟ์ผู้โหดเหี้ยม!”
หนิวลี่กลอกตา ก่อนจะรีบออกจากโรงงานร้างทันที ถึงแม้จะกำจัดคนชั่วไปได้ แต่หนิวลี่ไม่อยากเกี่ยวข้องกับคดีอาญา ยังไงก็ควรรีบหนีไปให้ไกลจะดีกว่า
เมื่อออกจากโรงงานร้าง เลี้ยวผ่านตรอกเล็ก ๆ ไปสองสามแห่ง หนิวลี่ก็มาถึงถนนคนเดินที่คึกคัก เขาโบกรถแท็กซี่ริมทางคันหนึ่ง แล้วรีบกลับไปโรงเรียน
ต้องยอมรับว่า ชายมีหนวดนั่นไม่ธรรมดาจริง ๆ ในฐานะคนทำงานใต้ดิน ฝีมือการทะเลาะวิวาทแข็งแกร่งมาก หนิวลี่ถามทางคนขับจึงรู้ว่าบริเวณนี้ห่างไกลจากเขตตะวันออกของเมืองเอชที่เขาอาศัยอยู่มาก ตอนนี้เขาอยู่ในเขตใต้แล้ว
เขาจ่ายค่าแท็กซี่ไปกว่าสี่สิบหยวน ในที่สุดก็มาถึงโรงเรียนทันคาบเรียนที่สองของตอนบ่าย
ถึงแม้จะหายตัวไปตั้งหนึ่งคาบ แต่นักเรียนม.ปลายปีสองห้องสาม โรงเรียนมัธยมหมิงซิงเป็นรังของเด็กเกเร ครูมาแค่เช็กชื่อแล้วก็ไป ไม่สนใจพฤติกรรมของหนิวลี่
เขานั่งลงที่โต๊ะเรียนของตัวเอง เพื่อนร่วมชั้นทั้งสองข้างต่างพยักหน้ายิ้มแสดงความเคารพต่อหนิวลี่ ผู้แข็งแกร่งหน้าใหม่
หนิวลี่ก็ไม่นิ่งเฉย ผงกศีรษะตอบรับน้ำใจเล็กน้อย แล้วเริ่มตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
หนิวลี่เชื่อเสมอว่า ถึงแม้ตัวเองจะอยู่ในห้องเรียนที่ไม่สงบ แต่เขาต้องเป็นนักเรียนที่เรียบร้อยและตั้งใจเรียน โอกาสในการเรียนคือสิ่งที่พ่อแม่เสียเงินเพื่อให้เขาได้มา จะปล่อยให้หยาดเหงื่อของพ่อแม่สูญเปล่าไม่ได้
คาบเรียนตอนบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนิวลี่เก็บหนังสือด้วยความรู้สึกยังไม่อิ่มเอม เขาได้รับการแบ่งปันพลังเวทจากเอลฟ์น้อย และดูเหมือนพลังจิตของตัวเองจะพัฒนามากขึ้นด้วยเช่นกัน ความรู้ในหนังสือหลายอย่างแค่ดูผ่าน ๆ ก็จำได้แล้ว แม้กระทั่งเข้าใจความหมายคร่าว ๆ ได้ด้วย
‘ดูเหมือนการเรียนเวทมนตร์จะมีประโยชน์มากมายจริง ๆ นะเนี่ย’