ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 103 คำขาด
บทที่ 103 คำขาด
“เจ้า… เจ้าจะให้พวกเรายุบสำนักมังกรฟ้างั้นรึ!! เจ้า?” จ้าวจื่อเหวินโกรธจนหน้าแดงหน้าดำพูดไม่ออก
“มีเพียงสองทางเท่านั้น ยุบสำนักหรือไม่ก็ถูกทำลายอย่างราบคาบ ไม่มีทางเลือกอื่น” น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกของหนิวลี่กดทับจิตใจของทุกคน
หยวนจี้ ชิงมู่ และคนอื่น ๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก นี่เป็นความแค้นที่ไม่อาจแก้ไขได้ หากยื่นมือเข้าไปแทรกแซง เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อสำนักตนเอง
ส่วนอันลู่หยวนและถานเสี่ยวอิงกลับยิ้มเยาะเย้ยอย่างเย็นชา ลูกศิษย์ของตนเองถูกทำร้ายโดยไม่มีสาเหตุ แถมยังไม่ไว้หน้าตนเองแม้แต่น้อย สำนักมังกรฟ้านี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกดีด้วยแม้แต่น้อย วันนี้เห็นผลกรรมเช่นนี้ ช่างสาสมใจยิ่งนัก
“สำนักมังกรฟ้าสืบทอดมากว่าร้อยปี จะให้มาพังทลายในมือข้าได้อย่างไร ข้าไม่เห็นด้วย!” จ้าวจื่อเหวินตาแดงก่ำ กัดฟันแน่น
“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะลงมือเอง ภายในหนึ่งเดือน จะให้สำนักมังกรฟ้าหายไปจากยุทธภพ” หนิวลี่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเป็นคำขาดสุดท้าย
ใบหน้าของจ้าวจื่อเหวินซีดเผือด ตัวสั่นจนพูดไม่ออก
“การแก้แค้นควรยุติ ไม่ควรสร้าง ท่านดู…” หยวนจี้ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเอ่ยปาก
หนิวลี่มองอย่างเย็นชา “ท่านคือคนของวัดเส้าหลิน?”
“อามิตาพุทธ อาตมาคือหยวนจี้ เจ้าอาวาสฝ่ายวินัยแห่งวัดเส้าหลิน” หยวนจี้ตอบอย่างองอาจ
“คำพูดของเจ้าหมายถึงวัดเส้าหลินด้วยหรือ?”
“เรื่องนี้?”
หยวนจี้ยิ้มแห้ง จะให้พูดว่าอย่างไรดี เป็นตัวแทนของวัดเส้าหลิน? ล้อเล่นหรือ ไม่เท่ากับทำให้วัดเส้าหลินตกอยู่ในอันตรายหรอกหรือ
“ฮึ่ม ข้าให้โอกาสเขามีชีวิตรอดแล้ว เลือกหรือไม่เลือก ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง” พูดจบ หนิวลี่ก็เห็นพี่หลงประคองหลี่เตาปาที่ใบหน้าซีดเซียว เดินออกมาจากด้านหลัง
ดวงตาของหนิวลี่เป็นประกาย “อาการของหลี่เตาปาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขาโชคดี แค่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก” แม้หลี่เตาปาจะดูอ่อนแรง แต่ก็ไม่แสดงความเจ็บปวดออกมา
หนิวลี่พยักหน้า สีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย หันกลับไปมองจ้าวจื่อเหวิน “อย่ามาพูดว่าสหพันธ์สวรรค์โหดร้ายไร้ปรานี วันนี้ไว้ชีวิตพวกเจ้าแล้ว ภายในหนึ่งเดือน จงยุบสำนักมังกรฟ้าซะ มิฉะนั้นข้าจะบุกขึ้นเขามังกร เหยียบย่ำสำนักมังกรฟ้าให้ราบเป็นหน้ากระดาน”
“พวกเราไป” หนิวลี่กวาดตามองทุกคนพลางรวบรวมลมปราณ ร่างกายก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ลอยข้ามกำแพงสูงออกไปไกลหลายสิบเมตร แล้วหายวับไปในพริบตา
“ปล่อยพลังปราณ ร่างกายเบาเหมือนขนนก ไม่ติดอยู่กับวัตถุ ต้องเป็นถึงระดับกึ่งเทพแน่นอน”
ชิงมู่มองตามร่างของหนิวลี่ที่จากไป เขาส่ายหน้าถอนหายใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ้างว้างและอิจฉา
“พระอมิตาภพุทธะ ไม่คิดเลยว่าชาตินี้จะได้เห็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งเทพ พวกเราก็ไม่เสียทีที่ได้มาที่นี่” หยวนจี้กล่าวด้วยความตื่นเต้น
มีเพียงผู้เฒ่าอวี่ที่ลูบเคราแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกท่านทั้งสองทำไมต้องรู้สึกเช่นนี้ พวกเราก็แค่ห่างจากระดับกึ่งเทพเพียงก้าวเดียว บางทีอาจจะมีโอกาสก้าวข้ามขั้นนั้นก็ได้!”
“เพียงก้าวเดียว แต่ต่างกันราวฟ้ากับเหว” ชิงมู่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขมขื่น
“ฮ่า ๆ แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว” ผู้เฒ่าอวี่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“อ๊ะ!”
ดวงตาของหยวนจี้และชิงมู่เป็นประกาย พวกเขาดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก
ไม่ว่าพวกเขาสามคนจะคิดอย่างไร อันลู่หยวนและถานเสี่ยวอิงก็พาหลี่เตาปาและพี่หลงออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับไปถึงชั้นแปดของโรงแรมเยี่ยเยี่ยไหล คุณปู่ถัง ถังชิว และเหวินชิงต่างรออยู่แล้ว พวกเขามีสีหน้าดีใจเมื่อเห็นอันลู่หยวนและคนอื่น ๆ กลับมา
“โธ่เอ๊ย! ยังดีนะที่นายไม่เป็นไร ฉันกำลังจะชวนพี่น้องไปบุกสำนักมังกรฟ้าอยู่แล้วเชียว” เหวินชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่เตาปาจ้องเขาแล้วพูดว่า “ในเมื่อมีท่านผู้พิทักษ์ลงมือ แกจะรีบร้อนไปทำไม”
“ก็นั่นสินะ เอ๊ะ! แล้วทำไมเขาไม่กลับมาพร้อมพวกนายล่ะ” เหวินชิงถาม
“ท่านผู้พิทักษ์ลึกลับ ไม่อาจคาดเดาได้ มาอย่างไร้ร่องรอย บางทีอาจจะมาถึงแล้วก็ได้” พี่หลงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“มาถึงแล้ว? แล้วอยู่ไหนล่ะ” เหวินชิงตกใจ มองไปรอบ ๆ
“อยู่ที่นี่ไง ไม่ต้องหาแล้ว”
เสียงของหนิวลี่ดังขึ้นบนอากาศ ทุกคนตกใจหันกลับไปมอง เห็นหนิวลี่นั่งอยู่บนโคมไฟระย้า ร่างสีดำไร้เสียง ไร้เงา
“ท่านผู้พิทักษ์ ท่านมาตั้งแต่เมื่อไร” เหวินชิงตกใจสุดขีด พวกเขาอยู่ในห้องนี้ตลอด แต่กลับไม่มีใครรู้เลย!
“ฮ่า ๆ เพิ่งมา พอดีได้ยินพวกนายคุยกัน ก็เลยเข้ามา” หนิวลี่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในใจกลับภูมิใจอย่างมาก เมื่อพลังเวทลึกซึ้งขึ้น เทคนิคล่องหนก็ยิ่งเชี่ยวชาญ ตอนนี้เขาสามารถบินได้อย่างเงียบเชียบ ไปไหนมาไหนโดยไร้ร่องรอย เหนือกว่าวิชาตัวเบาหลายเท่า
“วิชาของท่านผู้พิทักษ์ช่างสูงส่ง” พี่หลงกล่าวอย่างจริงใจ
“ไม่ต้องยกยอฉันหรอก ฉันมาดูอาการของหลี่เตาปา” หนิวลี่เดินไปข้าง ๆ หลี่เตาปา เขาจับมือหลี่เตาปา แล้วใช้พลังเวทบริสุทธิ์ของเอลฟ์น้อยที่แบ่งปันกัน แทรกซึมเข้าไปในร่างของหลี่เตาปา
พร้อมด้วยพลังจิตวิญญาณ ร่างกายของหลี่เตาปาก็ถูกหนิวลี่ตรวจสอบจนทั่ว
“อืม ไม่เป็นอะไรมาก แค่แผลภายนอกเล็ก ๆ พักฟื้นสองวันก็หายแล้ว” หนิวลี่พยักหน้าพร้อมกับพูด
“ขอบคุณท่านมาก” หลี่เตาปาพูดด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เรื่องนี้มันเริ่มต้นมาจากฉันเอง ไม่นึกเลยว่าพวกมังกรฟ้าจะร้ายกาจขนาดนี้ ถึงขั้นไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ สมควรโดนลงโทษแล้ว” หนิวลี่ส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ แต่ว่าน้ำเสียงกลับเย็นชาลงเรื่อย ๆ
“ท่านจะกวาดล้างพวกมันจริง ๆ เหรอ?” อันลู่หยวนถามด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
“กวาดล้างสำนักมังกรฟ้า? นี่! นี่มัน…” คุณปู่ถังและคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง พร้อมกับมองไปที่หนิวลี่
“พวกมันหาที่ตายเอง ในเมื่อฉันพูดออกไปแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ ภายในหนึ่งเดือน หากพวกมังกรฟ้าไม่ยอมสลายตัว ก็ต้องพบจุดจบ”
ภายในใจของหนิวลี่มีความรุนแรงแฝงออกมาพร้อมกับคำพูด
นี่เป็นความเกรี้ยวกราดที่เกิดขึ้นหลังจากหนิวลี่ฆ่าคนญี่ปุ่นไปหลายครั้ง แม้แต่ตัวหนิวลี่เองก็ไม่ทันสังเกต
ทุกคนต่างตกใจกับความโหดเหี้ยมในคำพูดของหนิวลี่ แต่ว่าพวกมังกรฟ้าก็ช่างรังแกคนเกินไป ทุกคนจึงไม่กล้าเอ่ยห้ามปราม ได้แต่เพียงแค่ถอนหายใจกับความไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีและเป็นโชคร้ายของพวกมังกรฟ้า
“เอาละ ช่วงนี้มิยาโมโตะมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม?” หนิวลี่เปลี่ยนเรื่องถาม
เมื่อพูดถึงคนญี่ปุ่น จิตสัมผัสของทุกคนก็สั่นสะเทือน เหวินชิงพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ไอ้พวกญี่ปุ่นนี่สองวันมานี้ทำตัวเป็นเต่าหดคอ ไม่เห็นมีข่าวคราวอะไรเลย แม้แต่เรื่องวิดีโอที่เราปล่อยออกไป พวกมันก็ไม่ออกมาอธิบาย คาดว่าคงโดนเราเล่นงานจนเจ็บหนักแล้วละ”
แต่ว่าพี่หลงกลับไม่เห็นด้วย “บางทีมิยาโมโตะอาจจะกำลังเเอบเตรียมแผนการร้ายอะไรบางอย่างก็ได้”
หนิวลี่เงียบ ไม่พูดอะไร คิดอย่างเงียบ ๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่ามิยาโมโตะนี่มันต้องการอะไรกันแน่ ต้องรู้ว่าวิดีโอที่หลี่เตาปาปล่อยออกไปนั้น ได้ทำลายชื่อเสียงของมิยาโมโตะ มุซาชิ อย่างรุนแรง แถมยังดับความยิ่งยโสของชาวญี่ปุ่นไปไม่น้อย แบบนี้มิยาโมโตะและพรรคพวกยังไม่ออกมาชี้แจงอะไรอีก อยากทำอะไรกันแน่? ไม่กลัวคนญี่ปุ่นที่โกรธแค้นพากันรุมประณามหรือไง?
“หรือว่าเราส่งคนแอบเข้าไปสืบในตึกซันกรุ๊ปดีไหม?” ถังชิวถามด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
หนิวลี่ส่ายหน้า การจะสืบเรื่องแบบนี้ยังต้องส่งคนไปเสี่ยงอีก พลังจิตวิญญาณของเขาแผ่ไปทั่ว ตึกซันกรุ๊ปทั้งตึกก็อยู่ในรัศมีสัมผัสของเขา บางทีเขาควรจะต้องไปแอบดูด้วยตัวเองสักหน่อยแล้ว ชาวญี่ปุ่นพวกนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เล่นสกปรกนี่เป็นที่หนึ่ง ปล่อยให้การกระทำทุกอย่างของพวกมันอยู่ในสายตาของเขา แบบนี้ค่อยน่าจะปลอดภัยหน่อย
“อืม งั้นก็ตามนี้ ตาปาแกไปรักษาตัวให้หายดีก่อน อ้อ ช่วยฉันจับตาดูคนคนหนึ่งให้หน่อย เขาชื่อเหมียวจ้าน เป็นผู้บังคับกองร้อยในกองทัพที่ประจำการอยู่ในเมืองเอช พ่อของเขาเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองเอช สองคนนี้มีประโยชน์กับฉันมาก ถ้ามีโอกาสพวกแกก็ไปทำความรู้จักไว้ บางทีเขาอาจจะกลายเป็นหมากตัวสำคัญของเราในกองทัพก็ได้” หนิวลี่พูดด้วยน้ำเสียงเบา
“เหมียวจ้าน!” เหวินชิงและคนหนุ่มคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าตื่นเต้น คิดอะไรไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะพี่หลง สีหน้าดูแปลก ๆ เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก
“อืม พวกเราจำได้แล้ว” หลี่เตาปาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เอาละ ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อน” กล่าวจบ ชายในชุดคลุมก็ม้วนตัวออกไปทางหน้าต่าง หนิวลี่หายวับไปในทันที
“ฮ่า ๆ ๆ มีผู้นำแบบนี้ ชีวิตพวกเจ้าคงต้องโลดโผนพิลึก” อันลู่หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มอิจฉา
“อาจารย์อัน ท่านพูดแบบนี้มันยังเร็วไปหน่อย ในเมื่อคราวนี้ท่านมาที่นี่ ข้าก็ขออาศัยโอกาสนี้รบกวนท่านสักเรื่อง” ท่านถังกล่าวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
อันลู่หยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เรื่องอะไรหรือ”
“ช่วยดูแลพวกเด็ก ๆ หน่อย ท่านเดินทางท่องเที่ยวในยุทธภพมานานย่อมรู้ช่องทางมากมาย พวกเด็ก ๆ พวกนี้ยังอ่อนหัดนัก บางครั้งก็ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ต้องอาศัยผู้ใหญ่อย่างพวกท่านคอยกำกับดูแล มิเช่นนั้นคงวุ่นวายไม่เป็นท่า” ท่านถังกล่าว
“นี่!” อันลู่หยวนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหวั่นไหว จึงหันไปมองภรรยาของตน
“เจ้าคนบ้า มองข้าทำไม” ถานเสี่ยวอิงเอ็ดอย่างไม่จริงจังนัก
“ฮ่า ๆ ๆ ยอดเยี่ยมไปเลย ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์หญิง พวกท่านมาเข้าร่วมกับสหพันธ์สวรรค์ของเราเถอะ ได้โปรดรับตำแหน่งผู้อาวุโสด้วย” หลี่เตาปาและคนอื่น ๆ ต่างแสดงความยินดี
“แบบนี้มันจะดีหรือ ไม่ถามผู้นำของพวกเจ้าก่อนรึ”
หลี่เตาปา เหวินชิง และพี่หลง ต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มพร้อมกัน “ไม่ต้องถามหรอก เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ท่านผู้นำไม่สนใจหรอก”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ขออาศัยบารมีที่ยังพอมีอยู่มาวุ่นวายกับพวกเจ้าหนุ่มสาวหน่อยก็แล้วกัน ฮ่า ๆ” อันลู่หยวนเองก็ไม่อยากจากไปเช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงหลี่เตาปาและเยี่ยหลิงหลงที่จู่ ๆ ก็โผล่มาที่นี่ แม้แต่หนิวลี่ก็ดึงดูดใจเขามากเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งระดับก่อนสวรรค์ หากได้รับคำชี้แนะจากเขาสักเล็กน้อยคงจะดีไม่น้อย