ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 10 หนิวลี่ผู้กล้าหาญ
บทที่ 10 หนิวลี่ผู้กล้าหาญ
บทที่ 10 หนิวลี่ผู้กล้าหาญ
ในที่สุด รถออฟโรดก็จอดลงที่ถนนสายหนึ่ง
ชายมีหนวดไม่สนใจหนิวลี่ แต่เปิดประตูรถแล้วเดินลงไป
หนิวลี่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย จึงเปิดหน้าต่างรถมองออกไป
ปรากฏว่าบนถนนเล็ก ๆ มีรถ บีเอ็มดับเบิลยู คันหนึ่งจอดอยู่ ชายสวมสูทสีดำสองคนยืนอยู่หน้าประตูรถ
ชายมีหนวดเดินเข้าไปใกล้ ชายสวมสูทจึงถอยออกไปก้าวหนึ่ง จากนั้นหน้าต่างรถบีเอ็มดับเบิลยูก็เปิดออก เผยให้เห็นศีรษะของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
มองจากภายนอก ผมของชายวัยกลางคนถูกจัดอย่างเรียบร้อย สวมแว่นตาดำ ดูสุขุมนุ่มลึก
ชายมีหนวดเดินเข้าไปใกล้แล้วโค้งตัวลงทันที ยิ้มแย้มทักทายว่า “ท่านมิยาโมโตะ”
‘คนญี่ปุ่นเหรอ!’
หนิวลี่หรี่ตาลง ส่งพลังไปที่ดวงตาแลหูแอบสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
“เป็นยังไงบ้าง?”
ชายวัยกลางคนถามประโยคหนึ่ง
“ปฏิบัติตามแผนลุล่วงอย่างสมบูรณ์แบบ ประธานของบริษัทเหม่ยเซี่ยถูกกำจัดไปแล้ว ทั้งยังใส่ร้ายเหยาหู่สำเร็จด้วย ตอนนี้คาดว่าทุกคนคงคิดว่าเป็นการต่อสู้กันอย่างลับ ๆ ระหว่างหลี่เตาปากับเหยาหู่ ต่อไปก็แค่นั่งดูเสือสู้กันเท่านั้น”
“ดี นั่งดูเสือสู้กัน สำนวนนี้ใช้ได้ดีมาก” ชายวัยกลางคนยิ้มพอใจ จากนั้นก็หันไปมองชายมีหนวด “คุณเฉินทำได้ไม่เลวเหมือนกัน เรื่องนี้สำเร็จแล้ว คุณจะเป็นตัวแทนของไตรภาคีในเมืองเอช”
“ขอบคุณท่านมิยาโมโตะที่ให้โอกาส กระผมขอสาบานว่าจะรับใช้ไตรภาคีจนวันตาย!” ชายมีหนวดอดรนทนไม่ไหว รีบโค้งขอบคุณชายวัยกลางคน
“นี่เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับ ทำดี ๆ ล่ะ ฉันไปละ” ชายวัยกลางคนพอใจกับท่าทีของชายมีหนวดมาก พยักหน้าแล้วเลื่อนกระจกรถขึ้น จากนั้นชายสวมสูทก็รีบกลับขึ้นรถ สตาร์ตแล้วขับออกไปทันที
ชายมีหนวดก็เผยรอยยิ้มภาคภูมิใจเล็กน้อย มองรถบีเอ็มดับเบิลยูหายลับสายตาไป “เหยาหู่ หลี่เตาปา ดูเหมือนฉันจะอยู่เหนือพวกแกแล้ว กลายเป็นราชาที่แท้จริงของเมืองเอช เฮอะ พวกแกคาดไม่ถึงกันแน่ ๆ”
หนิวลี่มองดูทุกอย่างด้วยความตกตะลึง ค่อย ๆ เลื่อนกระจกรถขึ้นอย่างเบามือ คำนวณเงียบ ๆ ว่าจะรับมือยังไง
ถึงแม้หนิวลี่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในระยะเวลาสั้น ๆ และยังอยู่ในตำแหน่งตัวประกัน แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เห็นได้ชัดว่าชายมีหนวดต่างหากที่เป็นคนร้ายตัวจริงในคดีฆาตกรรมของเมืองเอช บังอาจวางแผนใส่ร้ายลูกพี่ของตัวเองและหลี่เตาปาที่น่าจะเป็นลูกพี่ใหญ่อีกคนด้วย!
สิ่งที่ทำให้หนิวลี่โกรธที่สุดคือเจ้าหน้าโง่นี่ยังสมรู้ร่วมคิดกับพวกญี่ปุ่นอีก!
หนิวลี่ไม่ใช่พวกชาตินิยมสุดโต่ง แต่ก็ไม่ชอบคนญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้นยากูซ่าญี่ปุ่นยังวางแผนชั่วช้าในเมืองจีน คิดจะกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติเขา พวกญี่ปุ่นนี่มันเลวที่สุด เขาจะไม่ยอมให้พวกมันทำสำเร็จเด็ดขาด
คิดถึงตรงนี้แล้ว หนิวลี่ก็เริ่มคิดหาวิธีลงมือ
กลับมานั่งที่เบาะคนขับอีกครั้ง ชายมีหนวดดูกะดี๊กะด๊าสุด ๆ มองมาที่หนิวลี่ ประกายแห่งตัณหาบนใบหน้ายิ่งรุนแรงขึ้น
‘เฮอะ ไอ้หมาหน้าโง่ ไอ้คนทรยศชาติ ฉันจะทำให้แกได้ขึ้นสวรรค์เอง’ หนิวลี่แสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ในใจกลับหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา
รถออฟโรดสตาร์ตอีกครั้งและหายไปอย่างรวดเร็วที่หัวมุมถนน ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ขับเข้าไปในโรงรับซื้อของเก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง
“ถึงที่หมายแล้ว หนุ่มน้อย ลงรถได้แล้ว” ชายมีหนวดพูดยิ้ม ๆ
หนิวลี่ไม่ขัดขืน และก้าวลงจากรถ
ถึงแม้ด้านนอกจะมีป้ายรับซื้อของเก่า แต่ข้างในมองปราดเดียวก็รู้ว่าถูกทิ้งร้างมานาน ดูท่าจะเป็นรังของชายมีหนวด
ชายมีหนวดใช้ผ้าใบคลุมรถออฟโรดทั้งคันก่อนจะพาหนิวลี่เดินเข้าไปในห้องด้านในของโรงรับซื้อของเก่า
ที่นี่เป็นตึกเล็ก ๆ ที่สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ตกแต่ง ภายในเต็มไปด้วยขยะที่ถูกทิ้งร้าง มีเตียงไม้เล็ก ๆ ตั้งอยู่ใกล้ประตูเหล็ก
ทันทีที่เดินเข้าไปในตึก ชายมีหนวดก็ตบก้นของหนิวลี่อย่างแรงแล้วหัวเราะด้วยสีหน้าลามก ก่อนจะเดินไปที่เตียง
หนิวลี่จับก้นตัวเองด้วยความอึดอัด “ตอนนี้พวกนายปลอดภัยแล้ว ปล่อยฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”
“ปล่อยเธอไป?” ชายมีหนวดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “บอกเธอไว้ก่อนเลย ไม่มีใครหนีพ้นมือของพี่เหมิงได้หรอก โดยเฉพาะตอนนี้ พี่เหมิงกำลังมีอารมณ์กับเธอมากเลย”
“นั่นก็หมายความว่านายตั้งใจจะไม่ปล่อยฉันไปอยู่แล้วใช่ไหม?” หนิวลี่ถามเสียงเรียบ
“ใช่ ตั้งแต่ตอนนี้ เธอเป็นคนของพี่เหมิงแล้ว ฮ่า ๆๆ มา ดื่มเบียร์กับพี่ก่อน แล้วพี่จะทำให้เธอมีความสุข” เฉินเหมิงดึงลังเบียร์ออกมาจากใต้เตียงไม้ หยิบขวดหนึ่งออกมาพลางหัวเราะอย่างลามก
“ฮึ นายคิดว่าจับฉันได้แล้วจริง ๆ เหรอ ตอนนี้เราหนึ่งต่อหนึ่ง ใครจะกลัวใครยังไม่รู้เลย” หนิวลี่พูดดูหมิ่น ทำท่าทางหยิ่งผยองเพื่อหลอกล่อชายมีหนวด
“ฮ่า ๆๆ น่าสนใจ น่าสนใจ พี่เหมิงเคยเล่นกับหนุ่มหล่อมาเยอะแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอคนดื้อรั้นแบบเธอเลย มาให้พี่ดูซิว่าเธอจะไม่กลัวพี่ได้ยังไง” เฉินเหมิงวางขวดเบียร์ลง ยิ้มเจ้าเล่ห์และเริ่มปลดกระดุมเสื้อ เผยให้เห็นขนดกสีดำน่าขยะแขยงบนหน้าอก
“สารเลว” หนิวลี่สบถเบา ๆ แต่ในใจกลับร่ายเวทที่เอลฟ์น้อยบอกมา เริ่มรวมพลังเวทจากร่างกายที่เอลฟ์น้อยแบ่งปันให้ เพื่อควบคุมธาตุลม
“จิตวิญญาณแห่งสายลมไร้ที่สิ้นสุด จงฟังคำเรียกขานของข้า หลอมรวมพลังเป็นคมดาบแห่งวายุ”
ยื่นมือออกไปเงียบ ๆ พลังเวทวนเวียนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นวายุธาตุ หมุนวนอยู่ที่ฝ่ามือ ก่อตัวเป็นมีดวายุขนาดเล็กสามเล่ม
“ไป!”
พูดเบา ๆ คำเดียว ใบมีดวายุขนาดเล็กก็พุ่งออกไป หมุนตัวทะยานเข้าใส่ชายมีหนวดทันที
ฟิ้ว!
“อึก!”
มีดวายุพุ่งผ่านไป ชายมีหนวดรู้สึกเย็นวาบที่หู หัวใจเต้นผิดจังหวะ มือที่กำลังปลดกระดุมเสื้ออยู่ชะงักไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ยกมือขึ้นจับที่หูแล้วมองดู ชายมีหนวดตกใจ ปลายนิ้วเต็มไปด้วยเลือด!
ที่หูเริ่มรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
“โอ๊ย! เจ็บ!” ชายมีหนวดใช้มือข้างหนึ่งจับหูไว้ หันไปมองบนเตียง ปรากฏหูข้างหนึ่งวางแน่นิ่งอยู่
“เกิดอะไรขึ้น หูของฉัน!! ทำไมหูถึงหลุดออกมาได้ล่ะ?”
หนิวลี่มองชายมีหนวดที่โดนตัดหูข้างหนึ่ง รู้สึกสะใจลึก ๆ นี่แหละโทษฐานที่แกคิดจะทำมิดีมิร้ายฉัน โทษฐานที่ลักพาตัวฉัน นี่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ต่อไปนี้คือของจริง
ฝ่ามือของเขาสั่นอีกครั้ง ใบมีดวายุอีกเล่มพุ่งออกไป
ฟิ้ว!
ใบมีดวายุพุ่งผ่านไป ชายมีหนวดที่กำลังดิ้นพล่านอยู่รู้สึกเย็นวาบที่หูอีกข้าง ตามมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขาหันไปมองก็เห็นหูครึ่งหนึ่งตกลงบนพื้น!
“อ๊า!”
สีหน้าของชายมีหนวดซีดลงในทันที เขาเจอผีเหรอเนี่ย?
“เฮ้อ ฉันบอกแล้วไงว่าใครจะกลัวใครยังไม่รู้เลย ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมล่ะ” หนิวลี่หัวเราะอย่างภูมิใจ
“แก! เป็นฝีมือแกใช่ไหม!” ชายมีหนวดหันมามองหน้าหนิวอย่างโกรธเคือง
“ใช่ แล้วจะทำไม? จะกัดฉันเหรอ?” หนิวลี่ตะโกนด่าอย่างหยิ่งผยอง เอลฟ์น้อยในแหวนสรรค์สร้างเห็นแล้วตื่นเต้นสุด ๆ
“ใช่ ตัดอีก ตัดเขาอีก ตัดจมูก ควักลูกตาเขาซะ!”
หนิวลี่พูดไม่ออกหลังจากได้ยินแบบนั้น เผ่าเอลฟ์ไม่ใช่ว่ารักชีวิตและรักความสงบสุขกันหรอกเหรอ? ทำไมเอลฟ์ที่เขาสร้างขึ้นมาถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้?