ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 1 หมอดูลึกลับ
บทที่ 1 หมอดูลึกลับ
หน้าประตูโรงเรียนมัธยมหมิงซิง เด็กหนุ่มคนหนึ่งชูป้ายไม้ในมือขึ้นสูง นักเรียนคนอื่น ๆ ที่เลิกเรียนแล้วต่างมายืนมุงดูและหัวเราะเยาะ
‘ฉันเป็นคนหื่นกาม!’
ห้าตัวอักษรใหญ่ เขียนอย่างมีพลัง!
“โอ้โห! ยังมีคนที่หน้าด้านขนาดนี้อีกเหรอ เด็กคนนี้เป็นใครกัน”
“เอ๊ะ! นั่นไม่ใช่หนิวลี่หรอกเหรอ เขาโดนใครแกล้งอีกแล้ว?”
“โดนแกล้งทุกวัน น่าสงสารจริง ๆ เด็กคนนี้”
การถูกชี้นิ้วชี้มือใส่ ทำให้หนิวลี่อับอายและโกรธแค้น ใบหน้าที่เงยขึ้นมาเป็นครั้งคราวปรากฏรอยช้ำสีม่วงรอบดวงตาเด่นชัดผิดปกติ มุมปากกระตุก ใบหน้าเต็มไปด้วยความอับอาย
พฤติกรรมคล้ายกอริลลาตัวใหญ่แบบนี้ ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะอับอายและหนีไปแล้ว แต่เขาไม่กล้าทำเช่นนั้น ป้ายไม้ในมือที่ชูขึ้นเองก็ไม่กล้าลดลงแม้แต่น้อย
ยิ่งเวลาผ่านไป นักเรียนที่มุงดูก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามา
คนนำหน้าเป็นเด็กสาวผมแดงหัวฟูคล้ายหัวสิงโต แต่งตัวเปิดเผย เคี้ยวหมากฝรั่งไว้ในปาก
เมื่อมองป้ายไม้เหนือหัวของหนิวลี่ เด็กสาวคนนั้นก็หัวเราะท้องแข็ง จากนั้นก็พูดอย่างร่าเริง “วันนี้เล่นแค่นี้ก่อนนะ หนิวลี่น้อย นายนี่มันสมกับเป็นตัวตลกจริง ๆ” พูดจบ เด็กสาวคนนั้นก็หันหลังพาพรรคพวกจากไปอย่างสง่างาม
หนิวลี่พลันถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบวางป้ายไม้ในมือลงอย่างรวดเร็ว แล้วหลบฉากผ่านฝูงชนจากไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก
หลังจากเดินผ่านตรอกเล็ก ๆ หลายสาย หนิวลี่ก็หยุดฝีเท้าลงอย่างเหนื่อยหอบ จากนั้นจึงกวาดสายมองไปรอบ ๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ เขาก็เหวี่ยงป้ายไม้ในมือทิ้งลงพื้นอย่างแรง แล้วใช้เท้าเหยียบซ้ำอีกหลายครั้ง พลางสบถเบา ๆ ว่า “นังผู้หญิงชั่ว สักวันฉันจะจับแกมาทำเมียสักร้อยรอบแล้วฆ่าแกทิ้งซะ!”
เด็กหนุ่มที่ได้แต่ระบายความแค้นลับหลังคนอื่นคนนี้ชื่อหนิวลี่ อายุสิบห้าปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่สองของโรงเรียนหมิงซิง
พูดก็พูดเถอะ หนิวลี่ถือว่าเป็นเด็กผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกัน ถึงจะอายุแค่สิบห้า แต่ก็สูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรแล้ว เนื่องจากเขามีนิสัยขี้ขลาดติดตัวมาแต่กำเนิด จึงเป็นเป้าให้คนอื่นรังแกมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง ใคร ๆ ก็รังแกเขาได้ทั้งนั้น!
โชคชะตาช่างเล่นตลก! หนิวลี่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เห็นคนอื่นจ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง ก็รู้สึกอกสั่นขวัญหาย ตอนคนอื่นด่าตัวเอง ก็อดกลั้นจนหน้าแดงไม่กล้าโต้ตอบ โดนคนอื่นทุบตี ยิ่งทำให้มือเท้าอ่อนแรง นี่ยิ่งเป็นการเพิ่มเชื้อไฟให้คนเหล่านั้น และทำลายความน่าเกรงขามของตัวเอง! เขาเหมือนเด็กที่โตแต่ตัวเท่านั้น
เรื่องป้ายไม้ในวันนี้เป็นฝีมือของหลี่เหมิงเหมิง สาวขาใหญ่ประจำโรงเรียนหมิงซิง แม้ว่าหลี่เหมิงเหมิงจะตัวเล็ก ทั้งยังเป็นผู้หญิง แต่เธอมีพี่ชายแท้ ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก นั่นก็คือหลี่เตาปา เจ้าพ่อหนุ่มที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเอช!
หลี่เตาปาเคยใช้มีดหั่นผักฟันคนสิบสามคนจนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วเมืองเอช เขาเป็นจิ๊กโก๋ใจกล้าแห่งวงการนักเลง ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในเมืองเอชที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังคอยรับใช้
ถูกคนที่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่ขนาดนี้รังแก หนิวลี่จะกล้าต่อต้านได้ยังไง? เขาได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่าให้เดือดร้อนไปถึงครอบครัวก็พอ
หลังจากระบายความแค้นแล้ว หนิวลี่ก็ชะเง้อมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวงว่ามีใครเห็นหรือไม่ ก่อนจะรีบเอาป้ายไม้ไปทิ้งในถังขยะ แล้วหันหลังเดินเข้าไปในตรอกอีกเส้นหนึ่ง
หนิวลี่เดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่กล้ากลับบ้านเพราะรอยช้ำสองข้างรอบดวงตาเด่นชัดเกินไป ถ้าถูกพ่อแม่เห็นเข้า คงจะมีปัญหาตามมาแน่ ๆ
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง ตลาดกลางคืนก็เริ่มคึกคัก ผู้คนเริ่มมาชุมนุมกันที่แผงลอยเล็ก ๆ ข้างถนน
“ดูดวง ดูดวง! เสริมดวงชะตา หลีกเลี่ยงเคราะห์ร้าย! ดูแม่นเหมือนตาเห็น ดูไม่แม่น ให้ทุบแผงได้เลย!” เสียงร้องเรียกดังขึ้นลงเป็นจังหวะ ดึงดูดความสนใจของหนิวลี่!
หนิวลี่คุ้นเคยกับถนนสองสามเส้นแถวนี้เป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยเห็นหมอดูคนนี้มาก่อนเลย ร้านแผงใหม่ที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันนั้นกระตุ้นความสนใจของเขาเข้าอย่างจัง
เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้มุมถนนที่มีแผงลอยใหม่ปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็นแผงหมอดู บนโต๊ะยาวตรงหน้ามีผ้ากำมะหยี่ปูทับอยู่ ชายชราผมขาวสวมแว่นตาดำและชุดคลุมยาวกำลังหันซ้ายทีขวาทีพลางร้องเรียกลูกค้าให้เข้ามาที่ร้าน
หนิวลี่มองดูด้วยความสนใจ เขาเดินไปนั่งลงที่หน้าแผงแล้วเอ่ยถาม “ท่านผู้เฒ่า คุณดูดวงจากอะไรเหรอครับ?”
เมื่อเห็นลูกค้ามาถึง หมอดูก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที “มีการทำนายจากตัวอักษร การสัมผัสกระดูก และการกำหนดตำแหน่งฟ้าดิน!”
หนิวลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง “ทำนายจากตัวอักษรกับสัมผัสกระดูกผมรู้จัก แต่การกำหนดตำแหน่งฟ้าดินนี่คืออะไรกัน”
หมอดูเผยยิ้มอย่างลึกลับ “มันคือการทำนายขั้นสูง ด้วยระดับการฝึกฝนของฉัน จะใช้ได้แค่วันละครั้งเท่านั้น วิธีทำนายแบบนี้ ครั้งละ 666 หยวน ห้ามต่อรองราคา!”
หนิวลี่ส่ายหน้า ครั้งละ 666 หยวน ถึงแม้จะทำนายได้แค่วันละครั้ง รายได้ต่อเดือนก็เกือบสองหมื่นแล้ว โอ้โฮ นี่มันหมอดูระดับไฮโซชัด ๆ!
“ท่านผู้เฒ่า การทำนายชะตานี่ก็แค่โฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นแหละ ท่านนี่เกินไปแล้วนะ” หนิวลี่ลืมความกลัดกลุ้มในใจไปชั่วขณะ วิพากษ์วิจารณ์หมอดูใจดำ
“โฆษณาชวนเชื่องั้นเหรอ?” หมอดูเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางหยิ่งผยอง “งั้นเธอจะลองดูดวงกับฉันไหมล่ะ ถ้าไม่แม่นก็ไม่ต้องจ่ายสักหยวน!”
หนิวลี่ตอบทันที “ได้ ผมจะดูดวงจากตัวอักษร!”
”เชิญเขียนได้เลย!” หมอดูถอดแว่นดำออก เผยให้เห็นลูกตาทั้งสองข้างที่ขาวโพลน กลายเป็นว่าเขาตาบอด!
หนิวลี่รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ตาของท่านผู้เฒ่า…”
“แค่ตาบอดแต่กำเนิด ไม่ต้องแปลกใจหรอก เธอรีบเขียนมาดีกว่าว่าเป็นตัวอักษรอะไร” หมอดูท่าทางเฉยชา แต่ในน้ำเสียงกลับไม่มีความกังวล
หนิวลี่จึงต้องก้มตัวลงเขียนตัวอักษรหนึ่งตัวลงบนกระดาษขาวบนโต๊ะ
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยหนึ่งทุ่มไปแล้ว แต่ท้องฟ้ามืดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะในฤดูร้อนท้องฟ้าจะมืดช้ากว่าปกติ
ใจของหนิวลี่เต้นตึกตัก เขาเขียนคำว่า ‘เที่ยง’ ลงไป ชายหนุ่มเขียนคำว่า ‘เที่ยง’ ในยามค่ำคืน อยากจะดูว่าอีกฝ่ายจะแก้ปัญหานี้ยังไง
“ท่านผู้เฒ่า ผมเขียนคำว่า ‘เที่ยง’ ไม่ทราบว่าจะทำนายคำนี้ได้ยังไง?” หนิวลี่วางปากกาลงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“คำว่า ‘เที่ยง’” หมอดูยื่นมือไปลูบตัวอักษรที่หนิวลี่เขียน ครุ่นคิดสักพักก่อนความสงสัยจะปรากฏบนใบหน้า จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น
หนิวลี่มองอย่างขบขัน นี่เป็นกลเม็ดเดิม ๆ หมอดูในโทรทัศน์ก็ใช้กลเม็ดแบบนี้ทั้งนั้น ดูซิว่าเขาจะพูดอะไร
“แปลก ช่างแปลกจริง ๆ!” หมอดูไม่ได้อธิบาย แต่กลับพูดกับตัวเองอยู่ตรงนั้น
“ท่านผู้เฒ่า สิ่งที่ผมต้องการคือคำตอบ คุณพูดว่าแปลกหมายถึงอะไร? หรือว่าคำที่ผมเขียนมันไม่ดี ถ้าอย่างนั้นผมจะเขียนใหม่อีกตัวก็ได้” หนิวลี่พูดอย่างขบขัน
หมอดูดึงมือกลับ นั่งตัวตรงแล้วพูดว่า “เธอกำลังเยาะเย้ยฉันที่ทำตัวลึกลับใช่ไหม?”
“ไม่กล้าหรอกครับ ไม่กล้า แต่ท่านผู้เฒ่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง? บอกมาตรง ๆ เถอะ” หนิวลี่ไม่ยอมแพ้ เขามีความคิดที่จะระบายความอับอายที่ตัวเองได้รับเมื่อตอนบ่ายให้คนอื่นบ้าง
หมอดูหัวเราะเบา ๆ “คำตอบนั้นง่ายมาก”
“คำว่า ‘เที่ยง’ โดยปกติใช้บรรยายช่วงเวลากลางวัน แต่เธอเขียนมันในตอนนี้ หนึ่งมันแสดงให้เห็นถึงสภาวะจิตใจของเธอ สีท้องฟ้าไม่สอดคล้องกันกับตัวอักษรที่เธอเขียน ตัวอักษรบ่งบอกจิตใจ แสดงว่าตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดี ต้องมีเรื่องน่าอับอายหรือประสบเหตุการณ์บางอย่างในตอนบ่าย สองมันสะท้อนบุคลิกของเธอ! คำว่า ‘เที่ยง’ ถ้าเติมจุดด้านบนก็จะกลายเป็นวัว! แต่คุณกลับเขียนเป็น ‘เที่ยง’ จุดนั้นไม่สามารถมองข้ามได้ สะท้อนให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยนใจดี พูดตรง ๆ ก็คือ เธอเป็นคนขี้ขลาด อ่อนแอ และไร้ประโยชน์นั่นแหละ” หมอดูร่ายยาว
“สรุปแล้วก็คือเธอมีบุคลิกขี้ขลาดอ่อนแอ ในตอนบ่ายต้องได้รับความอับอายแต่ไม่กล้าต่อต้าน ตอนนี้เลยมาหาคนแก่อย่างฉันเพื่อระบายอารมณ์”
ทุกครั้งที่หมอดูพูดประโยคหนึ่ง ปากของหนิวลี่ก็จะอ้ากว้างขึ้น พอพูดจบ ปากก็แทบจะใส่ไข่ห่านได้แล้ว!
“ท่าน ท่านต้องเห็นผมตอนทำเรื่องน่าอับอายแน่ ๆ!” หนิวลี่ผุดลุกขึ้นยืนทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“เห็นเธออับอาย?” หมอดูส่ายหัวพลางยิ้ม “เธอเคยเห็นคนตาบอดไปดูเรื่องตลกของคนอื่นไหม?”
“เอ่อ…” หนิวลี่อับอายจนพูดไม่ออก เขากังวลมากจนถึงกับเผลอพูดเรื่องงี่เง่าอย่างคนตาบอดมาดูเรื่องน่าตลกของเขาออกไป
“เอ่อ ท่านหมอดู ขอโทษนะครับ!” หนิวลี่กล่าวขอโทษอย่างเขินอาย ก่อนจะนั่งลงด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
แต่หมอดูไม่โกรธ กลับยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริง ๆ แล้วฉันก็มีเรื่องอยากจะถามเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะตกลงไหม?”
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” หนิวลี่ถามด้วยท่าทางกระตือรือร้น
“ไม่ทราบว่าเธอจะยอมให้ฉันดูดวงให้เธออีกครั้งไหม?”
“ห๊า!” หนิวลี่อ้าปากค้าง
“ไม่ใช่การทำนายง่าย ๆ อย่างการดูตัวอักษร แต่เป็นการทำนายใหญ่ กำหนดตำแหน่งฟ้าดิน!” หมอดูแสดงอาการตื่นเต้น
“แต่ว่า…” หนิวลี่หน้าบิดเบี้ยว “ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น”
“ไม่ต้องเสียเงิน ขอแค่เธอยอมให้ทำนาย” หมอดูพูดเสียงเข้ม
“ไม่ต้องเสียเงินเหรอ งั้นท่านผู้เฒ่าเชิญตามสบายเลยครับ” สีหน้าของหนิวลี่ดูดีขึ้นหน่อย แค่ดูดวงเท่านั้นเอง ไม่ได้เสียหายอะไร ทั้งยังฟรีด้วย ก็แค่ทำบุญทำกุศล เล่นกับคนแก่นิดหน่อยแหละน่า
“ดี!” หมอดูรีบหยิบกระดองเต่าโบราณและเหรียญทองแดงโบราณสามเหรียญออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ
“เธอลองเขย่าสิ่งนี้สองสามครั้ง จากนั้นก็หยอดเหรียญทองแดงสามเหรียญลงบนแผนภาพแปดทิศก็พอ!” หมอดูยื่นกระดองเต่าให้หนิวลี่ดุพลางอธิบาย
“ได้ ไม่มีปัญหา!” เป็นวิธีที่ที่ง่ายมาก หนิวลี่รับกระดองเต่ามาแล้วเริ่มเขย่า เหรียญทองแดงสามเหรียญส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋งในกระดอง
หลังจากเขย่าสองสามครั้ง หนิวลี่ก็หันหางของกระดองเต่าไปที่แผนภาพแปดทิศบนโต๊ะ เหรียญทองแดงสามเหรียญร่วงลงมาทันที เหรียญเหล่านั้นหมุนวนอยู่บนแผนภาพแปดทิศครู่หนึ่งจึงหยุดนิ่ง หมอดูใช้มือลูบไล้ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
หลังจากรอเงียบ ๆ สักพัก หมอดูก็นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทีอ่อนล้าราวกับหมดแรง
“ท่านผู้เฒ่า ไม่ใช่ว่าผมจะมีเคราะห์ร้ายใหญ่หลวงนะ!” หนิวลี่อดไม่ได้ที่จะคิดในแง่ร้าย
หมอดูส่ายหน้า เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากลิ้นชักอีกชิ้นหนึ่ง ลูบคลำสักพักก่อนจะยื่นให้หนิวลี่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยเต็มใจ “เอาไป อันนี้ให้เธอ!”
“เอ๊ะ!” หนิวลี่ตาค้างอ้าปากหวออีกครั้ง
ดีจริง! การดูดวงที่แพงที่สุดแบบไม่ต้องเสียเงิน พอดูเสร็จยังได้ของฟรีอีกด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?
“เอ่อคือ… ผมไม่รับของของใครโดยไม่ได้ทำอะไรตอบแทน ผม… เอ่อ…” หนิวลี่รู้สึกเกรงใจมาก
“เอาไปเถอะ นี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ถึงแม้ฉันจะได้มา แต่มันไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นของฉัน! จะทำยังไงได้ล่ะ” หมอดูทำหน้าเศร้าหมอง
หนิวลี่งุนงง “ของชิ้นนี้ถูกกำหนดให้เป็นของผม? ท่านผู้เฒ่า ท่านพูดเล่นอะไรอยู่ครับเนี่ย?”
หมอดูยัดของชิ้นนั้นใส่มือหนิวลี่ “บอกให้เอาไปก็เอาไป พูดมากจัง ของที่ท่านผู้เฒ่าอย่างฉันให้ เธอยังจะไม่เอาอีกเหรอ?”
“งั้นก็… ขอบคุณนะครับ” หนิวลี่หยิบของชิ้นนั้นขึ้นมา แล้วพบว่า มันคือแหวนวงหนึ่ง ทั้งวงเป็นสีม่วง ตัวแหวนถูกสลักด้วยลวดลายที่ประหลาดซับซ้อน
“ท่านผู้เฒ่า แหวนวงนี้มีความหมายอะไรพิเศษหรือเปล่า? ผมรู้สึกแปลก ๆ น่ะครับ” หนิวลี่ถามด้วยความสงสัย
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“หา! ท่านไม่รู้เหรอ?”
หมอดูถอนหายใจ “ก็เพราะไม่รู้นี่แหละถึงได้ให้เธอไป มิน่าล่ะ วันนี้ฉันถึงได้ใจเต้นแรงตลอดเลย ที่แท้ก็เป็นเพราะของที่หายไปได้กลับคืนสู่เจ้าของเดิมนี่เอง ช่างเถอะ ช่างมันเถอะ” พูดจบ หมอดูก็ลุกขึ้นยืน ไม่สนใจแผงร้านของตัวเองแล้วหันหลังเดินจากไป
“ท่านผู้เฒ่า” หนิวลี่ร้องเรียกอย่างงุนงง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี รู้สึกเหมือนเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝันเท่านั้น