ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 63 สวรรค์ขั้นที่สี่ เจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์
- Home
- ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]
- ตอนที่ 63 สวรรค์ขั้นที่สี่ เจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 63 สวรรค์ขั้นที่สี่ เจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว
นับตั้งแต่เกิดเรื่องราววุ่นวายที่วิหารทองคำ เวลาก็ล่วงเลยมากว่าหนึ่งปีแล้ว
วันนี้ภายในตำหนักองค์หญิง หลังจากฝึกฝนร่วมกับภรรยามากว่าหนึ่งปี ในที่สุด หนิงฝานก็ได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญของการทะลวงผ่านสวรรค์ขั้นที่สี่ของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์
พรึ่บ!
ในขณะที่หลัวชิงเซียนหลับสนิทอยู่บนเตียงเพราะเหนื่อยล้าจากการแก้คำสาป หนิงฝานกำลังหมกมุ่นอยู่ในมิติเก็บของ สมบัติวิญญาณนับไม่ถ้วนถูกเก็บเอาไว้ภายในนั้น ทั้งวิญญาณเหลวปฐมสวรรค์ เม็ดยาวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ศิลาศักดิ์สิทธิ์มหาบรรพกาล และอีกมากมาย ทั้งหมดล้วนแต่เป็นสมบัติที่มีประโยชน์ต่อปราชญ์ยุทธ์อย่างแท้จริง
‘วันนี้ข้าจะทะลวงผ่านกำแพงสวรรค์ขั้นที่สี่ของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์!’
เมื่อตระเตรียมทุกสิ่งพร้อมแล้ว หนิงฝานก็เข้าสู่สมาธิพร้อมกับเรียกใช้คัมภีร์เซียนขนนกทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ด้วยการทำงานของคัมภีร์เซียนขนนกพร้อมกับสมบัติจิตวิญญาณทุกชนิดภายในมิติเก็บของ พวกมันกลายเป็นกระแสพลังวิญญาณฟ้าดินมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย แล้วทั้งหมดก็ควบแน่น ก่อนจะพยายามทะลวงสวรรค์ขั้นที่สี่อย่างบ้าคลั่ง
สองเค่อผ่านไป
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
หนึ่งชั่วยามผ่านไป
…
เวลาผ่านไป สมบัติวิญญาณจำนวนมากถูกดูดซับอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม
ตู้ม!
จู่ ๆ บังเกิดเสียงคำรามดังกึกก้องภายในร่างกายของหนิงฝานราวกับภูเขาไฟด้านในปะทุออก คลื่นพลังทะลักออกมาจากร่างกายของเขา
พรึ่บ! พรึ่บ!
หนิงฝานลืมตาขึ้น แล้วลำแสงศักดิ์สิทธิ์สองเส้นก็พุ่งออกจากดวงตาราวกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สองเล่ม มันตัดผ่านอากาศตรงหน้าอย่างง่ายดาย
“สวรรค์ขั้นที่สี่แห่งขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ เวลานี้ข้าเข้าสู่สามสวรรค์ขั้นกลางแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อครั้งอยู่ในระดับสวรรค์ขั้นที่สาม มันไม่อาจเทียบกันได้อย่างแท้จริง!”
หลังจากสัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย ชายหนุ่มก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“อ๊ะ!”
ในขณะนี้ หลัวชิงเซียนตื่นแล้ว นางเดินออกจากห้องพร้อมบิดร่างกายอย่างเกียจคร้าน อวดโฉมรูปร่างเย้ายวนภายใต้ชุดนอนโปร่งใส
“สามี เจ้าหัวเราะร่าเรื่องใด ดูมีความสุขนัก”
หลัวชิงเซียนเอ่ยปากถาม เห็นได้ชัดว่านางไม่รู้เรื่องที่หนิงฝานทะลวงเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สี่ของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ในตอนที่นางกำลังหลับ
“ไม่มีอะไรหรอก ข้ารู้สึกเพียงว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งปี คำสาปอมตะในร่างกายนี้เริ่มถูกถอนออกไปบ้างแล้ว”
หนิงฝานโกหก
กลับกันเมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว หลัวชิงเซียนพลันเผยรอยยิ้มกว้างทันที จากนั้นนางก็เอ่ยปาก “สามี ข้าก็มีข่าวดีจะบอกกล่าวเช่นกัน”
พรึ่บ!
นางอวดโฉมรูปร่างที่น่าภูมิใจของตน
“ชำระกายบริสุทธิ์?”
หนิงฝานจับจ้อง
“ใช่แล้ว หลังจากถอนคำสาปเมื่อครู่ ข้ารู้สึกว่าร่างกายข้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว” หลัวชิงเซียนกล่าวอย่างยินดี
เคล็ดวิชาการบำเพ็ญคู่และการแก้คำสาปอมตะนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง จนนางสามารถชำระกายบริสุทธิ์ได้ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น
“ที่รัก!”
หนิงฝานอุ้มหลัวชิงเซียนขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “หากวิธีนี้มีประโยชน์ต่อเจ้าและข้า เช่นนั้นเรามาพยายามกันต่อเถิด!”
…
ขณะที่หนิงฝานกำลังผ่อนคลาย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูที่อยู่ห่างไกลออกไปก็กำลังมีการเคลื่อนไหว
เหตุผลที่ดินแดนเทียนซูถูกเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นเพราะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมากว่าแปดพันปี ด้วยเหตุนี้ มันจึงถูกเรียกขานว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู
ในตอนนี้เอง นอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู
ในที่สุดหลิวซานก็มาถึงที่นี่ หลังจากเดินทางมาอย่างยากลำบากกว่าหนึ่งปี
เขาอยู่ในขอบเขตราชันยุทธ์และไม่มีสัตว์ขี่เช่นอาชามังกรเพลิง ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถข้ามสามพันดินแดนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
“ผู้ใด?”
เมื่อเห็นว่าหลิวซานมาถึง ผู้อารักขาประตูภูเขาจึงหยุดเขาไว้เพื่อตรวจสอบ
หลิวซานประสานกำปั้นก่อนจะกล่าวคำ “พี่ชาย ข้ามาจากเมืองเทพขนนก ได้รับคำสั่งจากพระสนมเอก เหยาเม่ยเอ๋อร์แห่งราชวงศ์เทพให้ส่งจดหมายถึงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู โปรดให้ข้าเข้าไปรายงาน!”
“รอเดี๋ยว!”
เมื่อทราบว่าเป็นสารจากพระสนมเหยาแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู อารักขาเฝ้าประตูภูเขาก็ไม่กล้าละเลย พวกเขารีบเข้าไปรายงานทันที
ไม่นานนัก ผู้อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาต้อนรับหลิวซาน และหลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าสู่ห้องโถงกว้างใหญ่ ซึ่งดูหรูหราทว่าแปลกตามิน้อย
ทันทีที่เขามาในห้องโถง ร่างของหลิวซานก็หยุดเคลื่อนไหว พร้อมกันกับที่ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เมื่อมองอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงเห็นว่าเป็นชายวัยกลางคนซึ่งมีผิวคล้ำเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ตัวสูง ร่างกำยำ ซ้ำยังมีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว!
นั่นคือเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู!
“ผู้น้อยหลิวซานแสดงความเคารพต่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู!” เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ หลิวซานคุกเข่าพร้อมหมอบลงทันที
“ลุกขึ้น นางกำนัลรับใช้ผู้ต่ำต้อยเหยาเม่ยเอ๋อร์ ส่งเจ้ามาพบข้าหรือ?” เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูกล่าวถาม
“เป็นเช่นนั้น พระสนมเหยาขอให้ข้านำจดหมายมาส่งถึงท่าน”
หลิวซานลุกขึ้นพร้อมพยักหน้ารับ แต่ก็ลอบขมวดคิ้วอยู่ในที
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูผู้นี้… มิใช่พี่ชายของพระสนมเหยาหรอกหรือ? พี่ชายใดกันจะกล่าวถึงน้องสาวของตนเช่นนี้
“ส่งมาสิ!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูกล่าว หลิวซานจึงรีบส่งจดหมายออกไปทันที
เมื่อเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูเปิดจดหมายอ่าน ใบหน้าของเขาก็หาได้เผยสีหน้าใดไม่
จนกระทั่งอ่านจบ
ตู้ม!
ทันใดนั้น พลังศักดิ์สิทธิ์ในกายของเขาก็ระเบิดออกมา
“บัดซบ! หลินไท่ซูมันเป็นคนหน้าซื่อใจคด นางบำเรอตัวน้อยของข้าถูกรังแกอย่างไร้เยื่อใย แต่เขายังไม่คิดออกจากการฝึกตนเพื่อมอบความยุติธรรมแก่นาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาตายตกระหว่างปิดด่านฝึกตนนี้ไปแล้ว!”
“…”
หลิวซานตกตะลึงในทันที
ประโยคเมื่อครู่นับว่าเปิดเผยทุกสิ่งแล้ว
หลังจากฟื้นคืนสติ ก็ดูเหมือนว่าองค์เจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูจะรู้สึกตัวแล้ว
พริบตานั้น สายตาของเขาก็จ้องเขม็งไปที่หลิวซาน ก่อนจะกล่าวถามว่า “เมื่อครู่เจ้าได้ยินสิ่งใดหรือไม่?”
“ไม่ได้ยินสิ่งใดทั้งสิ้นขอรับ!”
“ผู้น้อยไม่ได้ยินสิ่งใด!” หลิวซานหวาดกลัวจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
“ดี”
“ออกไปเสีย!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูเอ่ยปาก หลิวซานรีบรุดจะออกไปทันที ทว่าเพียงเดินไปได้สามก้าวเท่านั้น ก็พลันมีคำถามดังขึ้นในหูของเขา “โอ้ ปากของสนมเหยานับว่ายอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่?”
หลิวซานถึงกับพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
แต่แล้วร่างกายของเขาก็แข็งค้างในทันที ก่อนที่จะทันได้ร้องขอความเมตตา ร่างกายของเขาก็ถูกลำแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าหา ร่างแหลกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
ด้านหลัง องค์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูลดมือลงด้วยใบหน้าเรียบเฉย จากนั้นจึงใช้สัมผัสเทวะเพื่อสื่อสาร
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ไม่ช้าก็มีหกร่างปรากฏขึ้นในห้องโถง
ในบรรดาพวกเขา ล้วนแล้วแต่เป็นชายวัยกลางคน คนชรา ซึ่งทั้งหมดแตกต่างกัน ทว่าสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ ทุกคนล้วนแต่อยู่ในขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ทั้งสิ้น
หากใครอยู่ที่นี่ย่อมตื่นตระหนก เพราะทั้งหกคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภายใต้อำนาจของราชวงศ์เทพขนนก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเสวียน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนจี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวีย เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไคหยาง และเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เหยากวง
“ทุกท่าน องค์ชายแห่งราชวงศ์เพิ่งออกกฎและเงื่อนไขมากมาย ซึ่งมุ่งเป้าหมายมายังกองกำลังหลัก สิ่งนี้เป็นอันตรายต่อเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรายิ่ง ก่อนหน้านี้พวกเรายังกังวลว่าจะจัดการอย่างไร แต่บังเอิญว่าโอกาสมาถึงแล้วในเวลานี้!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูกล่าวพร้อมกับชูจดหมายในมือขึ้น
“ครั้งหนึ่งข้าเคยให้สาวใช้ผู้ต้อยต่ำแต่งงานเข้าวัง และเวลานี้นางก็ส่งจดหมายมาเพื่อขอให้ข้ามอบความยุติธรรมแก่นาง เราสามารถใช้โอกาสนี้เข้าสู่เมืองเทพเขนนกเพื่อสั่งสอนบทเรียนให้กับคนเหล่านั้นทราบว่า เจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามิใช่สิ่งที่พวกมันจะสามารถดูแคลนได้!”
“ยอดเยี่ยมแล้ว!”
“ข้ายินดี!”
“ข้าเห็นด้วย!”
“…”
จักรพรรดิแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกต่างพยักหน้ารับ
เวลานี้ ราชวงศ์เทพขนนกกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย องค์ชายเพียงแค่ห้าคนนั้นไม่อาจควบคุมเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะสิ่งนี้อยู่เหนืออำนาจของพวกเขาอย่างแท้จริง
“หากเป็นเช่นนั้นก็สมควรแก่เวลาแล้ว เราไปกันเถิด!”
ทันทีที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูกล่าวจบ ทั้งเจ็ดพลันกลายเป็นลำแสงทะยานออกไปทันที
ในวันนี้เอง จักรพรรดิทั้งเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้มุ่งหน้าสู่เมืองเทพขนนก!