ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 448 เหยื่อเข้าเมือง หลอกให้กระทำผิด!
ตอนที่ 448 เหยื่อเข้าเมือง หลอกให้กระทำผิด!
ตามคำบรรยายของซวีคุน หนิงฝานและพรรคพวกของเขาค่อย ๆ เข้าใกล้ประตูเมือง
เห็นว่าประตูเมืองนั้นกว้างใหญ่เสียดฟ้า แม้แต่สัตว์ร้ายยังดูตัวเล็กเมื่อเทียบกับประตูนั้น กำแพงเมืองรอบ ๆ นั้นสูงตระหง่าน มีร่องรอยความเก่าแก่ เต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์!
สิ่งมีชีวิตนับพันมาและจากไป มนุษย์ ปีศาจ อสูรกาย วิญญาณ ฯลฯ ทั้งวุ่นวายและมีชีวิตชีวา
ทั้งสองฝั่งมีผู้คุมกฎยืนอยู่สองแถว ซึ่งแต่ละคนอยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นแปดเป็นอย่างต่ำ หัวหน้าผู้คุมกฎมีกลิ่นอายพลังขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นแปด!
ในฐานะเมืองโบราณแห่งสุดท้ายบนเส้นทางราชันจักรพรรดิด่านหนึ่งร้อย มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมาก ไม่เพียงแต่สัตว์ทุกตัวที่เข้ามาในเมืองจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขี่หรือบินโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่แถวเคลื่อนไปข้างหน้า หนิงฝานและพรรคพวกของเขาก็เข้ามาใกล้
ตอนนี้เอง หัวหน้าผู้คุมกฎก้าวไปข้างหน้า “หยุด ถ้าเจ้าต้องการเข้าเมือง ต้องลงทะเบียนข้อมูลประจำตัวของเจ้า จากนั้นเปิดสมบัติที่เก็บไว้ เราจะตรวจสอบทีละคน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็ขมวดคิ้วทันที
การลงทะเบียนข้อมูลประจำตัวพอจะเข้าใจได้ แต่สิ่งต่าง ๆ เช่นการตรวจสอบสมบัติที่เก็บไว้นั้นน่ารำคาญอย่างแน่นอน!
ท้ายที่สุด ไม่มีใครเต็มใจจะเปิดเผยสมบัติล้ำค่าของพวกเขา
ซวีคุนและจินเลี่ยก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าในอดีตไม่มีกฎเช่นนี้!
เห็นเพียงจินเลี่ยก้าวออกมา และพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “พี่ชาย ข้าคือองครักษ์ชุดทอง พวกเขาเป็นแขกของซวินหวังได้โปรดอำนวยความสะดวกให้ข้าด้วย!”
ระหว่างที่เขาพูด ก็มอบผลึกเต๋าไปอีกเล็กน้อย!
คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าผู้คุมกฎไม่แม้แต่จะมองผลึกเต๋า และพูดอย่างเย็นชา “สารเลว! เจ้ากำลังพยายามติดสินบนข้าใช่หรือไม่ ข้าจะบอกเจ้าให้ว่านี่เป็นคำสั่งของเจิ้นหวัง ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร ต้องยอมรับการสอบสวน ใครฝ่าฝืนกฎ ห้ามเข้าเมือง ผู้ใดกล้าบุกเข้าไป ฆ่าไม่ละเว้น!!”
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!
ทันทีที่คำพูดจบลง ผู้คุมกฎทั้งสองฝ่ายก็ดึงดาบสีดำทองออกมาจากเอวของพวกเขาพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่ง
“ฮ่า ๆ เข้าใจผิดแล้ว!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ จินเลี่ยก็ถอยห่างออกไปทันทีด้วยสีหน้าไม่น่ามอง พลางมองไปที่หนิงฝานอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “นายท่าน ข้าไม่มีทางเลือกอื่น ทำไมท่านไม่นำป้ายคำสั่งออกมาลองดู!”
“ไม่จำเป็น ทำตามกฎเถอะ!” หนิงฝานส่ายหัว
อันที่จริง เขาไม่ได้สนใจเรื่องการตรวจสอบสมบัติในคลัง เพราะสิ่งของของเขาถูกจัดเก็บไว้ในระบบ และคนเหล่านี้ไม่สามารถหาเจอได้ ดังนั้นเขาจึงมองไปรอบ ๆ ทุกคนและพูดอย่างลับ ๆ ว่า “ทุกคน คลังเก็บของของข้ามีคุณสมบัติพิเศษ พวกเขาจะไม่มีทางค้นเจอ ถ้าเจ้ามีความลับที่ต้องปกปิด ข้าช่วยเก็บให้พวกเจ้าได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหลยเหมิง ฝูเทียน และคนอื่น ๆ ก็ส่ายหัวสื่อสารว่าไม่มีความลับที่ต้องปกปิด
ทว่าเวลานี้ ฉู่ลิ่วเจี๋ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “นายท่าน ข้ามีของบางอย่างอยู่ที่นี่ โปรดเก็บมันไว้ให้ข้าด้วย!”
ขณะที่เขาพูดก็แอบส่งแหวนเก็บของมาหลายสิบวง ซึ่งแต่ละวงนั้นเต็มไปด้วยสมบัติ
“…”
หนิงฝานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็เข้าใจได้เมื่อนึกถึงตัวตนของฉู่ลิ่วเจี๋ย อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้สืบเชื้อสายของจอมโจรจักรพรรดิ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีของที่ต้องหลบซ่อน!
หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว หนิงฝานกับคนอื่น ๆ ก็ก้าวไปข้างหน้า เริ่มลงทะเบียนข้อมูลระบุตัวตนและยอมรับการตรวจสอบ!
“ชื่อ?”
“หนิงฝาน!”
ทว่าการลงทะเบียนเพิ่งเริ่มต้น หัวหน้าผู้คุมกฎก็ผงะอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นจึงถามอีกครั้งว่า “พูดอีกครั้ง เจ้าชื่อว่าอะไร”
“หนิงฝาน!” หนิงฝานขมวดคิ้ว
“แล้วพวกเจ้าเล่า” หัวหน้าผู้คุมกฎมองไปที่เหลยเหมิงและคนอื่น ๆ อีกครั้ง หลังจากถามชื่อทุกคนทีละคน ก็มีประกายในดวงตาของเขา แต่เขาปกปิดมันได้เป็นอย่างดี
“เอาล่ะ ตอนนี้เอาสมบัติทั้งหมดที่เก็บไว้ของเจ้าออกมา ข้าจะตรวจสอบทีละชิ้น อย่าคิดเก็บเป็นความลับ ข้ามีอาวุธวิเศษสำหรับตรวจจับ!” หัวหน้าผู้คุมกฎพูดอย่างเคร่งขรึม
แล้วหนิงฝานกับพรรคพวกก็มอบแหวนเก็บของให้แก่หัวหน้าผู้คุมกฎตรวจสอบ
เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น หัวหน้าผู้คุมกฎก็คืนแหวนเก็บของให้หนิงฝานและคนอื่น ๆ “เอาล่ะ ไม่มีปัญหา เข้าไปได้!”
หนิงฝานและพรรคพวกเก็บแหวนคืน จากนั้นก็ก้าวผ่านประตูเมืองเข้าไปด้านใน
ขณะมองไปที่ด้านหลังของหนิงฝานและพรรคพวกของเขาที่เข้าไปในเมือง หัวหน้าผู้คุมกฎรีบหยิบยันต์สื่อสารออกมาและพูดว่า “ทุกคน เหยื่อที่พวกเจ้ารอมานานได้เข้ามาในเมืองแล้ว เจ้าสามารถลงมือได้!”
…
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในด่านที่หนึ่งร้อย หนิงฝานและพรรคพวกของเขาตกตะลึงอย่างมาก เห็นว่าเมืองโบราณนั้นกว้างใหญ่มาก บนพื้นในเมืองมียอดเขาโบราณ ศาลา หอคอย และอาคารหยกที่ไม่มีที่สิ้นสุด ระหว่างนั้นยังมีแม่น้ำกว้างใหญ่ และไอเซียนโดยรอบ!
นอกจากบนโลกแล้ว ท้องฟ้ายังน่าตื่นตะลึงยิ่งกว่า มีดวงอาทิตย์สามดวง ดวงจันทร์เก้าดวงและดวงดาวแปดสิบเอ็ดดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า มีสิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่บนนั้น!
“ลูกพี่ เห็นดวงอาทิตย์สีดำสามดวงที่อยู่เหนือความว่างเปล่าหรือไม่ นั่นคือดินแดนอสูรซวีคงของข้า!”
ซวีคุนชี้ไปที่ทรงกลมของดวงอาทิตย์สีดำเหนือหัวของเขาพลางพูดอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็กล่าวว่า “ในบรรดาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอื่น ๆ มีกองกำลังและเผ่าพันธุ์มากมายประจำการอยู่ที่นั่น!”
“อืม!”
หนิงฝานพยักหน้า เมืองนี้สามารถถือเอาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวเป็นสิ่งก่อสร้าง จึงสามารถมองเห็นได้ว่ามันยิ่งใหญ่เพียงใด!
“หืม”
ตอนนี้เอง เหลยเหมิงหยุดฝีเท้าของเขาและขมวดคิ้วแน่น “ลูกพี่ มีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่าจะมีสมบัติเกินมาหนึ่งชิ้นในแหวนเก็บของของข้า!”
“มีสมบัติเกินมาหนึ่งชิ้น?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
เหลยเหมิงเปิดแหวนเก็บของให้ทุกคนดู เพียงเห็นว่ามีลูกปัดสีสันสดใสอยู่ข้างใน เปล่งพลังอันน่าเกรงขามออกมา!
“ทำไมสิ่งนี้ดูเหมือนไข่มุกอายุยืนที่มีค่าที่สุดของตระกูลหวังเลยเล่า!” ซวีคุนถามด้วยความฉงนใจ
“สมบัติของตระกูลหวัง…จะเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าคงดูผิดกระมัง!” จินเลี่ยส่ายหัว
ทว่าหลังจากที่ทั้งสองพินิจพิจารณาอย่างระมัดระวังแล้ว พวกเขาก็หน้าซีดด้วยความตกใจ “บัดซบ! มันเป็นของแท้! นี่มันเป็นของแท้!”
“ของแท้?” หนิงฝานขมวดคิ้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เหลยเหมิงมาด่านที่หนึ่งร้อย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลหวังอยู่ที่ใด แล้วเขามีสมบัติของตระกูลหวังได้อย่างไร?
เว้นเสียแต่ว่า…
“รีบตรวจสอบแหวนเก็บของให้ละเอียด!”
หนิงฝานตะโกนและหยิบแหวนเก็บของที่ถูกตรวจสอบเมื่อครู่ออกมา เห็นเพียงในมุมที่เดิมทีนั้นว่างเปล่า มีสมบัติปรากฏขึ้นตามคลื่นความผันผวน
ขณะเดียวกัน ฝูเทียน ซวีคุน ฉู่ลิ่วเจี๋ย และคนอื่น ๆ ต่างก็เจอสมบัติในแหวนเก็บของของพวกเขา
“คัมภีร์สายฟ้าอมตะแห่งตระกูลเหลย!”
“กระบี่เซียนสะบั้นสวรรค์ของตระกูลหลี่!”
“หินเทพอสูรของสำนักเทพปีศาจ!”
“ฟูกนั่งของสำนักเต๋าอันดับหนึ่ง!”
“…”
เมื่อซวีคุนและจินเลี่ยแยกแยะสมบัติ พวกเขาต่างตกใจทันที “สวรรค์! สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติที่มีชื่อเสียงในหมู่กองกำลัง เกิดอะไรขึ้นที่นี่ เหตุใดสมบัติเหล่านี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้!”
“หึ! ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกหลอกแล้ว!” หนิงฝานยิ้มเย็นชา
“หลอก หลอกอันใดกัน” ทุกคนอึ้งและไม่เข้าใจไปชั่วขณะ!
แต่ก่อนที่พวกเขาจะถามคำถามต่อไปหูก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง
“เร็ว!”
“ล้อมหัวขโมยพวกนี้ไว้เร็วเข้า!”
“อย่าให้พวกหัวขโมยหนีไปได้!”