ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 426 บุกตระกูลเทียน ประมุขเทียนชาง!
ตอนที่ 426 บุกตระกูลเทียน ประมุขเทียนชาง!
หนิงฝานและพรรคพวกของเขายังคงมุ่งหน้าต่อไป ศพกองพะเนินอยู่ข้างหลัง เลือดกระเซ็นไปทั่ว เมื่อมองเป็นต้องตกตะลึง!
“เฮือก! นั่นคือตระกูลเทียนและผู้คุมกฎ คนเหล่านี้กล้าฆ่าพวกเขาจริง ๆ หรือ!”
“คนกลุ่มนี้ไม่รู้หรือว่า คำว่าความตายเขียนอย่างไร”
“ดูท่าแล้ว พวกเขายังคงต้องการล้างบางทั้งตระกูลเทียน!”
“อืม! ตระกูลเทียนกำลังจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดี ข้าได้ยินมาว่าเทียนหลิงจื่อ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเทียน ภายใต้การดำเนินงานของตระกูลเทียนประสบความสำเร็จในการกราบผู้พิทักษ์ชุดทองจากเส้นทางราชันจักรพรรดิเซียนเป็นอาจารย์ หลังจบงานเลี้ยงก็จะไปฝึกที่ด่านหนึ่งร้อย!”
“ถ้าคนกลุ่มนี้ฆ่าตระกูลเทียน จะต้องมีงิ้วดี ๆ ให้ชมแน่นอน!”
“…”
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เผ็ดร้อนของฝูงชน หนิงฝานและพรรคพวกของเขาค่อย ๆ ขยับห่างออกไป ทว่ายังมีหลายคนที่ตามไปติด ๆ
เช่นนี้ไป หนิงฝานและพรรคพวกเดินนำหน้า คนจำนวนนับไม่ถ้วนตามอยู่ข้างหลัง รวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อพวกเขามาถึงตระกูลเทียน ด้านหลังก็มีคลื่นฝูงชนจำนวนมากอยู่ด้วย
“หนิงฝาน นี่คือจวนตระกูลเทียน!”
เวลานี้ องค์ราชันฮวงเทียนพูดขึ้น
ข้างหน้าเขาคือจวนหรูหรา แค่เพียงประตูของจวนก็สูงถึงหมื่นจั้งแล้ว บนประตูมีแผ่นป้ายซึ่งสลักด้วยอักขระขนาดใหญ่สองตัวที่มีกลิ่นอายโบราณ…จวนตระกูลเทียน!
ในฐานะผู้ปกครองด่านที่ห้าสิบ ตระกูลเทียนครอบครองหนึ่งในสิบของพื้นที่ในด่านห้าสิบ ซึ่งบ่งบอกถึงสถานะของตระกูลเทียนในด่านที่ห้าสิบ
“ฝูเทียน มานี่!”
หนิงฝานกวักมือเรียกฝูเทียน จากนั้นเขามองไปที่องค์ราชันฮวงเทียน “องค์ราชันฮวงเทียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังต่อไป บอกต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดให้ฝูเทียนได้รู้เถอะ!”
“อืม!”
องค์ราชันฮวงเทียนพยักหน้า และบอกฝูเทียนทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง
“อาจารย์องค์ราชันฮวงเทียนเป็นพ่อของข้า และท่านแม่ของข้าก็ถูกคุมขังอยู่ในตระกูลเทียนแห่งนี้?”
เมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ ฝูเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากเขาฝึกฝนจิตใจมาแต่เยาว์วัย จึงยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะอย่างไรเสียตั้งแต่เขายังเด็ก เขาก็ถือว่าองค์ราชันฮวงเทียนเป็นพ่อบุญธรรมของเขา ตอนนี้ก็แค่เปลี่ยนจากพ่อบุญธรรม กลายเป็นพ่อที่แท้จริง
“ท่านพ่อ เรื่องที่ท่านยังทำไม่สำเร็จ ให้ลูกได้ทำมันเอง วันนี้ข้าจะช่วยท่านแม่ออกมาจากตระกูลเทียนให้ได้!”
ฝูเทียนคำนับต่อองค์ราชันฮวงเทียน
“เด็กดี!” องค์ราชันฮวงเทียนพยักหน้า
หนิงฝานพูดอย่างเย็นชาว่า “ฝูเทียนไปเคาะประตู!”
“ได้!” ฝูเทียนลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูจวนของตระกูลเทียน
“ตระกูลเทียน!”
หลังเสียงตะโกนดังลั่นนี้ ฝูเทียนก็ต่อยประตูจวนตระกูลเทียน ซึ่งสูงถึงหมื่นจั้งทันที
ตู้ม!
หมัดต่อยลงไป ประตูจวนสูงหมื่นจั้งแตกเป็นเสี่ยง ๆ เสียงสั่นสะเทือนไปทั้งตระกูลเทียน!
“สารเลว!”
“เป็นผู้ใด!”
“กล้าโจมตีตระกูลเทียนของข้า!”
ชั่วพริบตา เสียงตะโกนและสาปแช่งก็ดังขึ้นมาจากภายในจวน
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! หลังจากนั้น องครักษ์ที่สวมชุดตระกูลเทียนพุ่งออกมาจากประตูที่พังพินาศของจวนทีละคน
ทว่า…
บึ้ม!
ไม่รอให้องครักษ์ทั้งหมดของตระกูลเทียนหยุดนิ่ง ฝูเทียนชกออกไปอีกครั้ง พลังต้องห้ามอันน่าสะพรึงกลัวโดยกำเนิดกวาดล้างทุกคนในพริบตา
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
มีเพียงเสียงกรีดร้องและเสียงอู้อี้ องครักษ์ทั้งหมดของตระกูลเทียนที่เพิ่งออกมาถูกกวาดล้างเหี้ยน
ภายใต้สายตาตกตะลึงของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน หนิงฝานและพรรคพวกของเขาก้าวเข้าสู่ตระกูลเทียนเช่นนี้!
ภายในตระกูลเทียน เด่นเป็นสง่า มีภูเขาเซียนโบราณลอยอยู่ในอากาศทุกหนทุกแห่ง รวมถึงมีอาคารมากมายไม่มีที่สิ้นสุด
“ผู้ใด!”
“กล้าบุกตระกูลเทียนของข้า ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไร!”
เมื่อเห็นหนิงฝานและพรรคพวกบุกเข้ามา องครักษ์และสมาชิกตระกูลเทียนทุกคนต่างตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตี!
แต่ฝูเทียนอยู่ข้างหน้า เหลยเหมิงและซวีคุน คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา ทั้งสามเบิกทางเสมือนมังกรคลั่งสามตัว
ระหว่างทาง ทุกคนที่เคลื่อนไหวต่างถูกกวาดล้าง บ้างบาดเจ็บสาหัส บ้างสิ้นชีพ!
ในไม่ช้า พวกเขาก็ไปที่ส่วนลึกของตระกูลเทียน ส่วนคนที่มุงดูอยู่นอกจวน แม้จะไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปในตระกูลเทียน แต่พวกเขาใช้จิตสำนักเซียนลอบเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้
ในส่วนลึกของตระกูลเทียนมีจัตุรัสขนาดใหญ่ที่กำลังจัดงานเลี้ยงใหญ่อยู่
มีตระกูลเทียนเป็นเจ้าภาพ ยอดฝีมือหลายคนจากด่านที่ห้าสิบเป็นแขก และมีผู้คุมกฎจำนวนมากในหมู่พวกเขา!
บนที่นั่งหลัก มีโต๊ะจัดเลี้ยง และด้านหลังโต๊ะเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาว ดวงตาดูโดดเด่นและมีกลิ่นอายของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นแปด!
นี่คือประมุขแห่งตระกูลเทียน——เทียนชาง เขายังมีอีกตัวตนหนึ่ง นั่นคือทูตผู้พิทักษ์ด่านที่ห้าสิบ!
ด้านข้างเทียนชาง มีชายหนุ่มในชุดคลุมสีม่วงนั่งตัวตรง ผมยาว ดวงตาสีดำขลับ ท่าทางสง่างามนั่งอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นที่รักของสวรรค์ รูปลักษณ์สะดุดตาอย่างยิ่ง
ที่สำคัญ เขาเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงแสดงความยินดีนี้ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเทียน——เทียนหลิงจื่อ!
เวลานี้ ในแถวของโต๊ะจัดเลี้ยงด้านล่าง คนอื่น ๆ ยังคงดื่มอวยพรให้กับเทียนชางและเทียนหลิงจื่อ ขณะเดียวกันก็พูดคำประจบประแจง พาให้เจ้าของงานทั้งสองเปรมปรีดิ์
“รายงาน!”
ทันใดนั้น ผู้พิทักษ์ของตระกูลเทียนรีบพุ่งเข้าไปในงานเลี้ยงทำให้เกิดความโกลาหลทันที
“สารเลว!”
ใบหน้าของเทียนชางพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา พูดอย่างไม่พอใจว่า “ตื่นตระหนกอันใด เข้ามารบกวนงานเลี้ยงเช่นนี้ น่าละอายนัก!”
ผู้พิทักษ์ตระกูลเทียนไม่ทันได้สารภาพผิด ทำได้แค่กัดฟันพูดว่า “ท่านประมุข แย่แล้ว มีคนบุกเข้ามาในตระกูลเทียน!”
“หืม? ว่าอะไรนะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเทียนชางพลันดูมืดมนขึ้น
บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของงานเลี้ยงเงียบลงในพริบตา แขกหลายคนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ใครบ้างไม่รู้ว่าตระกูลเทียนคือตระกูลใหญ่ในด่านที่ห้าสิบ ตอนนี้มีคนกล้าบุกเข้ามาในตระกูลเทียน นี่มันเหลือเชื่อเกินไป
“เด็ก ๆ…” เทียนชางกำลังจะออกคำสั่ง
ทว่าตอนนี้เอง…
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
หูได้ยินเสียงปะทะและเสียงคำราม องครักษ์หลายร้อยคนจากตระกูลเทียนร่างกระเด็นถอยหลังเข้าไปในงานเลี้ยง ไม่เพียงแต่ตกกระแทกลงบนโต๊ะและเก้าอี้กันเป็นแถว ๆ เท่านั้น ทว่ายังทำให้เลือดไหลไปทั่วฟ้า พริบตาเดียว ทั้งงานเลี้ยงพลันชุลมุนวุ่นวาย!
ฉากนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนแตกตื่นตกใจ แล้วพวกเขาก็หันสายตาไปมอง!
เห็นเพียงหนิงฝานและพรรคพวกของเขากำลังเดินเข้ามา!
“สวรรค์!”
“คนพวกนี้เป็นใคร!”
“เจ้ากล้าบุกตระกูลเทียน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ!”
“เหอะเหอะ ในด่านที่ห้าสิบ ช่างน่าอัศจรรย์ที่มีคนกล้าโจมตีตระกูลเทียน!”
“…”
เมื่อเห็นหนิงฝานและพรรคพวกก้าวเข้ามา แขกที่มีอำนาจหลายคนก็ส่งเสียงดัง!
ตอนนี้เอง เทียนชางเห็นร่างขององค์ราชันฮวงเทียนอย่างรวดเร็ว พลันสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฝูฮวง เจ้าอีกแล้ว!”
“เทียนชาง ข้าต้องการพาเหมียวอีไป!” องค์ราชันฮวงเทียนก้าวไปข้างหน้า มองไปยังเทียนชาง
ประมุขตระกูลเทียนยิ้มเย็นชา “เหอะเหอะ ฝูฮวง ถ้าข้าจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่สามที่เจ้าก้าวเข้าสู่ประตูตระกูลเทียนของข้า ครั้งแรกเจ้าถูกตระกูลเทียนของข้าไล่ตะเพิดออกไป ครั้งที่สองเจ้าพ่ายแพ้ถูกแขวนไว้เหนือประตูเมือง และครั้งที่สามนี้ เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ องค์ราชันฮวงเทียนก็พูดด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ “เทียนชางครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข้า ข้ายังพาลูกของข้ากับเหมียวอีมาด้วย!”