ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 367 สตรีบนสะพานไน่เหอ ศาลายายเมิ่ง!
ตอนที่ 367 สตรีบนสะพานไน่เหอ ศาลายายเมิ่ง!
อ๊าก!
หลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ประมุขแห่งแม่น้ำลืมเลือนล้มลงในจุดนั้น แต่ลมหายใจต่อมา ขณะที่น้ำที่เหลืออยู่ของแม่น้ำลืมเลือนไหลกลับอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาก็ฟื้นตัวอีกครั้ง!
ทว่าตอนนี้ ประมุขแห่งแม่น้ำลืมเลือนสูญเสียท่าทีที่เขามีในตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง!
เขาและแม่น้ำลืมเลือนถือเป็นร่างเดียวกัน ตอนนี้แม่น้ำลืมเลือนเกือบถูกตัดขาดด้วยกระบี่เล่มเดียว ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บหนักอย่างคาดไม่ถึง!
“ท่านประมุข ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!?” พระแม่ดอกปี่อั้นที่อยู่อีกฝั่งรีบเอ่ยถาม
ประมุขแห่งแม่น้ำลืมเลือนกำลังจะพูดตอบ
ตู้ม!
แต่แล้วเงาของราชันจักรพรรดิเซียนโบราณกลับฟาดฟันเข้าใส่ทั้งสองอีกครั้ง!!
“แย่แล้ว!”
“อันตราย!”
เมื่อเห็นกระบี่เล่มนี้ ประมุขแห่งแม่น้ำลืมเลือนและพระแม่แห่งดอกปี่อั้นต่างตะโกนออกมาด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง!
หึ่ง! หึ่ง!
จากนั้นทั้งสองก็พยายามต่อต้านอีกครั้ง แม่น้ำลืมเลือนและดอกปี่อั้นปะทุขึ้นฟ้า ทว่าทั้งคู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนิงฝาน โดยเฉพาะตอนนี้!
แม่น้ำลืมเลือนและดอกปี่อั้นถูกทำลายด้วยแสงกระบี่ ก่อนที่พวกมันจะโดนกระบี่ต้าหลัวสัมผัส!
ดวงตาของพวกเขาทั้งสองเบิกกว้าง ทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างไร้หนทางเมื่อกระบี่ต้าหลัวฟันลงมา!
พรึ่บ!
ทันใดนั้น ขณะที่แสงกระบี่กำลังจะกระทบลงมาทางพวกเขาทั้งสอง จู่ ๆ ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็สาดส่องลงมาจากท้องฟ้า กวาดร่างของทั้งสองคนออกไป
ตู้ม!
กระบี่ต้าหลัวแหวกฟ้า ตัดเป็นรอยแยกยาวหลายล้านจั้งในความว่างเปล่า!
“หืม?”
เมื่อเห็นกระบี่ผ่าได้เพียงอากาศ หนิงฝานก็เงยหน้าขึ้นมองทันที
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่มีสะพานปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า สะพานทอดข้ามฟ้าดิน มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่หัวสะพาน นางสวมกระโปรงลายบุปผา ถือร่มกระดาษน้ำมันอยู่ในมือ ท่าทีดูเงียบสงบอย่างมาก!
และด้านหลังหญิงสาว มีประมุขแม่น้ำลืมเลือนและพระแม่ดอกปี่อั้นยืนอยู่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
“ประมุขสะพานไน่เหอ ขอบคุณ!”
ทั้งสองกล่าวขอบคุณหญิงสาว
หญิงสาวไม่ตอบ แต่มองหนิงฝานด้วยนัยน์ตาลึกล้ำพลางพูดว่า “คนผู้นี้มีวิญญาณของราชันจักรพรรดิอยู่ในตัวคอยช่วยเขา อาศัยแค่พวกเราย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เราควรหลีกเลี่ยงคมกระบี่นั่น ข้าได้ส่งคนไปขอความช่วยเหลือที่เมืองเฟิงตูแล้ว!!!”
“ไปเชิญมหาจักรพรรดิแล้วหรือ?”
เมื่อได้ยินวาจานี้ ประมุขแม่น้ำลืมเลือนและพระแม่ดอกปี่อั้นก็ตกตะลึงทันที!
จักรพรรดิเฟิงตูเป็นผู้ปกครองปัจจุบันของยมโลก หากเขาเคลื่อนไหว ไม่ว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็มิใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเฟิงตู
“ไม่! แม้ว่าคนผู้นี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สมควรไปรบกวนมหาจักรพรรดิ!” หญิงสาวจากสะพานไน่เหอส่ายหัว “นอกจากนี้ คนผู้นี้บุกมาถึงที่นี่ พวกเจ้ากับข้าจะต้องรับผิดชอบ หากมหาจักรพรรดิมา เราจะต้องโดนทำโทษอย่างหนักแน่!”
“ใช่แล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ไปกัน!”
พรึ่บ!
ในที่สุด หญิงสาวบนสะพานไน่เหอก็โบกมือ ทั้งสะพานไน่เหอก็กลายเป็นสายรุ้งยาว หนีไปไกล
“หืม? จะหนีอีกรึ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานก็เลิกคิ้วขึ้น และเปลี่ยนตนเองเป็นลำแสงกระบี่เพื่อไล่ฆ่าทันที
ตู้ม!
แม้ว่าสะพานไน่เหอจะเร็ว แต่ก็ไม่เร็วเท่าหนิงฝาน เพราะตอนนี้เขามาถึงสะพานไน่เหอแล้ว!
“ตัด!”
หนิงฝานฟันกระบี่ของเขาทันทีโดยไม่พูดพล่ามไร้สาระ!
“ป้องกัน!”
เมื่อเห็นเขามา หญิงสาวบนสะพานไน่เหอก็กระทืบเท้าทันที สะพานซึ่งทอดยาวไปทั่วท้องฟ้าพลันปะทุขึ้นด้วยแสงที่น่าสะพรึงกลัว ต่อต้านแสงกระบี่!
ตู้ม!
เกิดระเบิดดังสะเทือนโลก ประกายแสงของสะพานไน่เหอแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที เมื่อแสงกระบี่กระทบกับตัวสะพาน แล้วทั้งสะพานก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
พรึ่บ!
หญิงสาวจากสะพานไน่เหอกระอักเลือดออกมาทันที จากนั้นนางพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “เฟิงตูจำต้องใช้เวลาเสริมกองกำลัง ถอยไปที่ศาลายายเมิ่งก่อน!”
“ศาลายายเมิ่ง?”
“เจ้าอยากขอความช่วยเหลือจากหญิงบ้านางนั้นหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ประมุขแม่น้ำลืมเลือนและพระแม่ดอกปี่อั้นพลันตื่นตกใจ ในแววตาของพวกเขามีร่องรอยของความหวาดกลัว!
“หากเจ้ามีวิธีต่อสู้กับชายผู้นี้ก่อนที่กำลังเสริมของเฟิงตูจะมาถึง เราก็ไม่ต้องไป!” หญิงสาวจากสะพานไน่เหอพูดอย่างเย็นชา
“เอ่อ… ถอย! ถอยเร็ว!”
ทั้งสองเองก็ไร้ซึ่งหนทาง ดังนั้น พวกเขาจึงโคจรพลังที่เหลืออยู่บางส่วนไปยังสะพานไน่เหอทันที
ตู้ม! ฟิ้ว!
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ควบคุมสะพานไน่เหออีกครั้ง ข้ามความว่างเปล่าของฟ้าดิน หนีไปให้ไกล!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานยังคงติดตามไปติด ๆ
ขณะที่หนิงฝานกำลังไล่ล่าสังหาร ด้านทั้งสามนั้น ระยะไกลสายตาของพวกเขาสามารถมองเห็นศาลายายเมิ่งได้แล้ว
ในศาลามีหม้อตั้งอยู่ เบื้องหน้าหม้อใบนั้นมีหญิงชรารูปร่างท้วม ที่เอวผูกผ้ากันเปื้อนอยู่
หญิงชราก้มหน้าลง มิอาจมองใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน กำลังตักน้ำแกงใส่ชามให้เหล่าวิญญาณชามแล้วชามเล่า
ชื่อน้ำแกงยายเมิ่ง ดื่มหนึ่งชามก็สามารถลบความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับชาติที่แล้วและตัดขาดจากชาติที่แล้วโดยสิ้นเชิง!
ทว่าตอนนี้ วิญญาณทุกตนที่เข้าไปในศาลา ต่างส่งเสียงร้องที่ไม่เต็มใจออกมา
“ไม่! ข้าไม่อยากดื่มน้ำแกงนี้ ข้าไม่อยากลืมชาติที่แล้ว!”
“ครอบครัวยังรอข้าอยู่ ลูกสาวข้าน่ารักมาก ข้าไม่อยากลืม!”
“ข้าไม่อยากดื่ม ข้าไม่อยากดื่ม!”
“เปิ่นหวางเป็นโอรสของอาณาจักรฝู อาณาจักรของข้ายังต้องการให้ข้ากลับไปรับตำแหน่ง ข้าไม่สามารถตัดขาดจากชาติที่แล้วได้!”
“…”
แต่ไม่ว่าวิญญาณเหล่านั้นจะกรีดร้องและอ้อนวอนเพียงใด ก็ดูเหมือนว่าจะมีพลังเวทมนตร์ชนิดหนึ่งอยู่ในศาลา วิญญาณแต่ละตนต่างเข้าไปดื่มน้ำแกงยายเมิ่งโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่น้ำแกงเข้าปาก พวกวิญญาณที่ไม่ยินยอมพลันเงียบเสียงลงทันที แล้วเดินต่อไปด้วยท่าทางสับสน
เมื่อมองศาลายายเมิ่งจากระยะไกล มีทั้งเสียงดังวุ่นวาย ทว่าก็เงียบสงบในเวลาเดียวกัน ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก!
พรึ่บ!
เวลานี้ วิญญาณของหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามเดินเข้ามาในศาลายายเมิ่ง นางแตกต่างจากวิญญาณตนอื่นที่ตะโกนคร่ำครวญ วิญญาณของหญิงสาวคนนั้นดูเงียบอย่างมาก เงียบสงบเสียยิ่งกว่าวิญญาณที่ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งลงไปแล้วอีก!
ตึก!
ในไม่ช้า วิญญาณหญิงสาวคนนี้ก็มาถึงเบื้องหน้ายายเมิ่ง
“…?”
เมื่อเห็นความเงียบสงบของวิญญาณหญิงสาว ท่านยายเมิ่งพลันเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่แก่ชราและมีรอยเหี่ยวย่น ทว่ากลับฉายแววประหลาดใจบนใบหน้าของนาง
นางเฝ้าศาลามานานแสนนาน ไม่ว่าใครหรือสิ่งมีชีวิตใด เผ่าพันธุ์ใด ฐานะใด วิญญาณทั้งหมดที่มาที่นี่ต่างส่งเสียงดัง และไม่มีใครต้องการลืมความทรงจำของชาติที่แล้ว
ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นหญิงสาวที่เงียบขรึมเช่นนี้
“ท่านยาย นี่น้ำแกงอันใดหรือ”
วิญญาณหญิงสาวอ้าปากถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่านยายเมิ่งที่ไม่ค่อยพูดก็เอ่ยตอบ “น้ำแกงยายเมิ่ง ดื่มซะ เจ้าจะได้ลืมเลือนความทรงจำทั้งหมดในชาติที่แล้ว!”
“ความทรงจำ? ดูเหมือนข้าจะไม่มี!”
วิญญาณสาวตกตะลึง จากนั้นก็ส่ายหัวพลางยกยิ้ม
“ไม่มีความทรงจำหรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่านยายเมิ่งพลันขมวดคิ้ว
พรึ่บ!
ลมหายใจต่อมา ท่านยายเมิ่งยื่นมือที่เหี่ยวย่นออกมาคว้าข้อมือของหญิงสาวคนนั้นและปล่อยออกในพริบตา!
ใบหน้าของยายเมิ่งเต็มไปด้วยความตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ “ไม่มีความทรงจำอะไรเลยจริง ๆ เป็นไปได้อย่างไร!”
จำต้องรู้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันที่ตายจาก ล้วนมีความทรงจำของชาตินั้น
แต่สตรีเบื้องหน้าผู้นี้ราวกับกระดาษเปล่า ไม่มีความทรงจำใด ๆ ในชีวิตของนางเลย
“เจ้ามีนามว่าอะไร”
ในเวลานี้ ยายเมิ่งอดไม่ได้ที่จะถาม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ วิญญาณหญิงสาวก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ “เหมือนว่าจะชื่อหลัวชิงเซียน… ข้าไม่แน่ใจนัก”