ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 261 บุกเขตเซียนตัวคนเดียว สังหารเซียนขั้นสูง!
- Home
- ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]
- ตอนที่ 261 บุกเขตเซียนตัวคนเดียว สังหารเซียนขั้นสูง!
ตอนที่ 261 บุกเขตเซียนตัวคนเดียว สังหารเซียนขั้นสูง!
กู่เต้าถงไม่รู้ว่าหนิงฝานคอยติดตามอยู่ เขาเผาไหม้ของแหล่งกำเนิดชีวิตตลอดเส้นทาง ในไม่ช้าก็หนีกลับมาถึงเขตเซียนเฉียนหยวน
“อ๊าก!”
“กู่เต้าถง!!”
เมื่อเห็นกู่เต้าถงที่กลับมาพร้อมร่างกายที่อาบไปด้วยเลือด เหล่าจ้าวเซียนต่างร้องขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
ใบหน้าของจ้าวเซียนที่หนึ่งตื่นตกใจมาก ก่อนจะถามขึ้นว่า “กู่เต้าถง มิใช่ว่าข้าให้พวกเจ้าล่วงหน้าไปยังเมืองเซียนโบยบินก่อนหรือ เหตุใดจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แล้วคนอื่น ๆ เล่า?!”
“ตาย! พวกเขาตายหมดแล้ว!!” ใบหน้าของกู่เต้าถงดูหวาดกลัวยิ่ง แล้วเขาก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองเซียนโบยบินออกมา
“บังอาจ!”
“บัดซบ!”
“สมควรตาย!”
เมื่อฟังสิ่งที่กู่เต้าถงเล่าจนจบ จ้าวเซียนทั้งหมดต่างโกรธแค้นและเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า
สีหน้าของจ้าวเซียนที่หนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นน่ากลัวยิ่ง ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากกับทุกคนว่า “บังอาจยิ่งนัก! จ้าวเซียนขั้นต้นเพียงคนเดียวกลับกล้าสังหารคนของเขตเซียนเฉียนหยวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาคงมิได้เกรงกลัวเขตเซียนเฉียนหยวนของข้าเลยแม้แต่น้อย!”
“ฆ่า! ไปฆ่ามันเสีย มิเช่นนั้น เขตเซียนเฉียนหยวนของข้าจะสามารถยืนหยัดเป็นศูนย์กลางเขตเซียนทั้งแสนแห่งในหมู่เกาะจิ่นต่อไปได้อย่างไร!”
“ใช่แล้ว! ในดินแดนที่ควบคุมโดยเขตเซียนของพวกเรา มิเคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน!”
“คนคนหนึ่งที่มิรู้ว่าโผล่มาจากไหน กลับกล้ายั่วยุเขตเซียนเฉียนหยวนของข้า มันสมควรถูกสับเป็นชิ้น ๆ!”
“…”
จ้าวเซียนแต่ละคนพูดขึ้นพร้อมจิตสังหารที่ท้วมท้น!
เดิมทีการตายของอู๋เฟยเซียนเพียงผู้เดียวถือว่าเป็นเพียงเรื่องเล็ก ทว่าในตอนนี้ จ้าวเซียนขั้นต้นของเขตเซียนตายไปถึงห้าคน อีกทั้งจ้าวเซียนขั้นกลางหนึ่งคนยังได้รับบาดเจ็บสาหัส เรื่องราวทั้งหมดนี้นับว่าร้ายแรงมาก หากจัดการได้ไม่ดีพอ ถึงตอนที่ท่านผู้นำเขตออกมาจากการเก็บตัว ทุกคนจะต้องรับผิดชอบ!
“พวกเจ้าจงฟัง ตามข้าไปยังเมืองเซียนโบยบิน!!”
ในที่สุด จ้าวเซียนที่หนึ่งก็ออกคำสั่ง เตรียมพาเหล่าจ้าวเซียนมุ่งหน้าไปยังเมืองเซียนโบยบิน!
“มิต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก ข้ามาแล้ว!”
ในเวลานี้เอง เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น และร่างในชุดคลุมธรรมดา ๆ ก็เดินเข้ามายังเขตเซียน
“อ๊า!”
“เป็นเขา! เป็นเขาที่สังหารพวกไป๋อี!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานเดินเข้ามายังเขตเซียน กู่เต้าถงก็ตัวสั่นและร้องออกมาเสียงดัง
“หืม?!”
ได้ยินเช่นนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังหนิงฝาน มีทั้งที่ดูสงสัย ดูโกรธแค้น ผู้ที่เฉยเมยและอื่น ๆ แต่ที่มากที่สุดก็คือสายตาอันเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
“บังอาจ!!”
ทันใดนั้น จ้าวเซียนที่หนึ่งพลันตะโกนขึ้น สายตาเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการฆ่าฟัน “สังหารจ้าวเซียนแห่งเขตเซียนเฉียนหยวนของข้าไปถึงห้าคน เจ้ายังกล้าบุกมาถึงเขตเซียนข้าอีกรึ!!”
“ฮ่าฮ่า!”
หนิงฝานหัวเราะพลางพูดขึ้น “เป็นเพียงเขตเซียนเล็ก ๆ เท่านั้น มิใช่สระมังกรหรือถ้ำเสืออันยิ่งใหญ่ เหตุใดข้าจะต้องไม่กล้ามาด้วย!”
“บังอาจ!”
“ช่างกล้าเสียจริง!”
“เป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้น แต่กล้าดูหมิ่นเขตเซียนเฉียนหยวนของข้างั้นรึ!”
ได้ยินหนิงฝานพูดเช่นนั้นแล้ว เหล่าจ้าวเซียนก็พากันกล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
หลังจากนั้นก็มีคนออกคำสั่งให้ฆ่าชายหนุ่ม “ทุกท่าน จะมัวเสียเวลากับคนตายไปทำไม เข้าไปสังหารคนชั้นต่ำผู้นี้เสีย แก้แค้นให้กับจ้าวเซียนที่ตายไป!”
ปัง! ปัง! ปัง!
ทันใดนั้น จ้าวเซียนกว่าหลายสิบคนที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารก็ระเบิดพลังเข้าใส่หนิงฝาน ในบรรดาพวกเขา ส่วนใหญ่เป็นจ้าวเซียนขั้นต้น และยังมีจ้าวเซียนขั้นกลางอีกหลายคน!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ระหว่างนั้น เหล่าจ้าวเซียนต่างพากันลงมือ บางคนสะบัดฝ่ามือ บางคนชกกำปั้นออกมา บางคนสับฟันกระบี่ ทันใดนั้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวกว่าสิบสายก็ระเบิดออกมา และก่อตัวเป็นแรงกดดันท่วมท้นท้องนภา ก่อนจะกวาดไปทางหนิงฝานในบัดดล!
ตู้มมม! เหล่าจ้าวเซียนรวมพลังกัน แน่นอนว่าพลังนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่จ้าวเซียนขั้นต้นหนึ่งคนเลย ต่อให้เป็นจ้าวเซียนขั้นกลางหนึ่งคนก็คงจะถูกทำลายลงในทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ท่าทีของหนิงฝานกลับมิได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ต่อให้เป็นฟ้าดินทั้งสี่ทิศหรือความว่างเปล่าทั้งแปดทิศต้องสั่นสะเทือนและพังทลายลง ทว่ากระทั่งสายตาของเขาก็ราวกับไม่ได้กะพริบตาเลย
“ตายเสียเถอะ!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานกำลังถูกรุมโจมตี ใบหน้าของเหล่าจ้าวเซียนก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
พรึ่บ!
ทว่าในตอนนี้เอง เสียงกระบี่เสียงหนึ่งดังขึ้นมา และทันใดนั้นแสงกระบี่อันโชติช่วงก็ตวัดฟันไปยังอากาศตรงหน้าเขา
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
แสงกระบี่โรมรันเข้าสู้ พลังอันน่าสะพรึงกลัวของจ้าวเซียนราวกับหิมะที่ปะทะเข้ากับน้ำมันเดือด ๆ และละลายหายไปจนเกือบหมด
พรึ่บ!
หลังจากนั้น แสงกระบี่ราวกับแสงอัสนีอันรวดเร็วพุ่งพาดผ่านไปยังเหล่าจ้าวเซียน!
ร่างของเหล่าจ้าวเซียนพลันหยุดนิ่ง ร่างทั่งร่างชะงักงันอยู่ในท่านั้น
ปัง! ปัง! ปัง!
แล้วร่างกายของพวกเขาก็แตกออก วิญญาณเซียนถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นจ้าวเซียนขั้นต้นหรือขั้นกลางล้วนตายตกจนหมดสิ้น
หนิงฝานดึงกระบี่กลับขณะมองไปยังฝูงชนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย “นี่คือจ้าวเซียนทั้งเจ็ดสิบสองคนแห่งเขตเซียนเฉียนหยวนงั้นหรือ? อ่อนแอกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก!”
ปัง!
เมื่อมองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั่วทั้งเขตเซียนเฉียนหยวนพลันตกอยู่ในความโกลาหลทันที ใบหน้าของทุกคนตกใจสุดขีด
คาดไม่ถึงว่าจ้าวเซียนสิบกว่าคนร่วมมือกันแล้ว อีกทั้งศัตรูยังเป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้นกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ซ้ำแล้วเขายังสามารถใช้กระบี่เพียงเล่มเดียวสังหารทุกคนได้!
“บัดซบ!”
“เป็นไปไม่ได้!”
“คนผู้นี้มิได้เป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้นหรอกหรือ เหตุใดจึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
ผู้คนต่างตื่นตกใจ
“บังอาจ! ภายในเขตเซียนเฉียนหยวนจะมีผู้ที่กระทำความรุนแรงเช่นเจ้าได้อย่างไร ข้าจะสังหารเจ้าเอง!”
เสียงแห่งความโกรธแค้นได้ดังขึ้นในตอนนี้ และร่างศิลาวิญญาณชีพอันสูงใหญ่ตนหนึ่งก็ก้าวออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหารชั่วร้าย ทั่วทั้งร่างกายพลุ่งพล่านไปด้วยพลังการฝึกฝนอันน่าเกรงขามของจ้าวเซียนขั้นสูง นั่นก็คือจ้าวเซียนที่สิบ
ตู้ม!
จ้าวเซียนที่สิบเพิ่งจะออกมาและลงมือด้วยความโกรธ ด้วยพลังมือข้างเดียวนี้ ทันใดนั้น ฝ่ามือหินขนาดใหญ่ก็ปกคลุมไปทั้งท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ และรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังเซียนขนาดใหญ่ราวกับสามารถปราบปรามได้ทั้งท้องฟ้า
ตู้มมม! ฝ่ามือหินยักษ์บดขยี้ลงมา เสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งฟ้าดิน ก่อนจะกดทับลงมายังชายหนุ่ม
ราวกับต้องการสังหารหนิงฝานด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“จ้าวเซียนขั้นสูงรึ? ทำอะไรข้ามิได้หรอก!”
เมื่อเห็นว่าจ้าวเซียนที่สิบเริ่มลงมือ เขากลับไม่คิดสนใจ ทันใดนั้นก็ชักกระบี่ต้าหลัวออกมาอีกครั้ง!
ตู้ม!
ทันทีที่ชักกระบี่ต้าหลัวออกมา ปราณกระบี่ตัดผ่านท้องฟ้าและฟาดฟันเข้าใส่ฝ่ามือหินขนาดใหญ่ที่กดทับลงมา ทันใดนั้น ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็แตกออก
ปัง!
หลังจากนั้นปราณกระบี่ยังคงเป็นเหมือนกับสายรุ้ง ที่นำพาพลังกระบี่ขนาดใหญ่ฟาดฟันไปยังจ้าวเซียนที่สิบ
“หืม?!”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองถูกหนิงฝานฟาดฟันได้อย่างง่ายดาย ภายในใจของจ้าวเซียนที่สิบก็เต็มไปด้วยความตกใจ และรับรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองประเมินพลังความแข็งแกร่งของหนิงฝานต่ำเกินไป แต่ด้วยปราณกระบี้นี้ เขาจึงทำได้เพียงต้องอดทนเอาไว้
“ร่างเซียนศิลาสวรรค์ เปลี่ยนขุนเขา!!”
เสียงคำรามดังก้องฟ้า ร่างกายสูงใหญ่ของจ้าวเซียนที่สิบสั่นสะท้านในทันที ร่างศิลาที่สูงกว่าหนึ่งจั้งทอประกายแสงเซียนสีเทาออกมาเป็นระลอกคลื่น ทันใดนั้น ภูเขาเซียนขนาดมหึมาก็ก่อตัวขึ้นราวกับภูเขาเซียนในสมัยโบราณที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันหนักแน่น ไร้ซึ่งการสั่นคลอน!
นี่คือพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเขา ต่อให้เป็นจ้าวเซียนขั้นสุดก็ไม่สามารถทำลายลงได้!
ตู้มมมม!
ทว่าในพริบตาที่ปราณกระบี่ฟันลงมา ภูเขาเซียนโบราณนั้นกลับระเบิดออก แล้วจ้าวเซียนที่สิบก็ถูกสังหารในทันที!