ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 24 หนึ่งต้านหก เราจะพินาศไปพร้อมกัน!
ตอนที่ 24 หนึ่งต้านหก เราจะพินาศไปพร้อมกัน! (รีไรท์)
ชิ้ง!
หนิงฝานชักกระบี่ออกมา ประกายกระบี่ลุกโชติช่วง แสงของปราณกระบี่ราวกับอาชาสีเงิน วาดข้ามผ่านฟ้า สลายหมอกพิษที่แผ่ปกคลุมไปโดยสิ้นเชิง
ฟึ่บ!
ปราณกระบี่ที่ปะทุขึ้นอีกครา ฟาดฟันลงไปยังศพอสูรขั้นจักรพรรดิที่พุ่งเข้ามาโดยตรง!
โฮกกก!
ภายใต้การควบคุมของจักรพรรดิปีศาจซือกุย ศพอสูรเงยหัวขึ้นไปบนฟ้าแล้วเปล่งเสียงคำรามแห่งอสูรอันหวีดแหลมออกมา เช่นเดียวกับกรงเล็บที่ราวกับสามารถฉีกกระชากฟ้าคว้าจับปราณกระบี่ไว้อย่างรุนแรง
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เมื่อปราณกระบี่ปะทะกับกรงเล็บของศพนั้น พลันมีประกายปะทุขึ้นมา ถัดจากนั้นกรงเล็บของซากศพที่ดูประหนึ่งสามารถฉีกกระชากผืนฟ้าได้หักออกพร้อมเสียงดังกึก ศพอสูรขั้นจักรพรรดิลอยปลิวไปทันใด
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
สุดท้าย ตามด้วยประกายกระบี่ทั้งสี่เหวี่ยงออกไป กระบวนท่าสังหารของจักรพรรดิปีศาจถูกปัดทิ้งทีละอัน!
ขุมพลังของทั้งหกคนถูกหนิงฝานแก้เกมได้อย่างง่ายดาย!
“เหอะ จักรพรรดิปีศาจทั้งหกก็เท่านี้เอง?”
ในตอนนี้ หนิงฝานเย้ยหยันขึ้นมา คำพูดเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามยิ่ง
ประกายกระบี่ของหนิงฝานสร้างความตะลึงงันให้จักรพรรดิปีศาจทั้งหก ปลุกปั่นความขุ่นเคืองของจักรพรรดิปีศาจทั้งหกให้โหมขึ้นอย่างสิ้นเชิง
“ศพอสูร ฆ่ามัน!”
จักรพรรดิปีศาจซือกุยเป็นผู้เริ่มตะโกนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว ร่ายมนตร์ควบคุมศพอย่างเต็มกำลัง ศพอสูรพุ่งเข้าไปเพื่อสังหารอีกครั้ง และม่านหมอกแห่งศพคละคลุ้งบรรยากาศ พลังของอสูรแกร่งกล้ายิ่งกว่าเดิม
จักรพรรดิปีศาจที่เหลือต่างกู่ก้องหมายสังหารสิ้น เคล็ดวิชา วิทยายุทธ์ นักรบจักรพรรดิและอื่น ๆ นานับไม่ถ้วน ล้วนใช้ออกมาหมดสิ้น
ทันใดนั้น พวกเขาทั้งเจ็ดเข้าเข่นฆ่ากันอีกครั้ง!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจักรพรรดิปีศาจจะกู่ร้องอย่างโกรธเกรี้ยวถึงเพียงใด ระเบิดพลังออกมา ความไม่พอใจของคนทั้งหกมิอาจทำสิ่งใดต่อหนิงฝานได้แม้แต่น้อย
ในทางกลับกัน ทุกกระบี่ของหนิงฝานกลับสร้างความเสียหายให้กับจักรพรรดิปีศาจทั้งหกเป็นอย่างมาก
ในไม่ช้า ทั้งหกคนกลับหวาดผวามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อยิ่งสู้ต่อไป ทั่วทั้งร่างถูกปราณกระบี่เชือดเฉือนอย่างต่อเนื่อง โลหิตกระซ่านเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้า
“โอ้! ผู้อาวุโสนิรนาม ที่แท้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานมิได้ตกเป็นรองแม้แต่น้อยขณะที่ใช้หนึ่งต้านหก ทั้งยังสามารถกดดันจักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหก หลัวชิงเซียนเผยอปากค้างอย่างมิอาจข่มกลั้น
หลังจากตะลึงงันไปชั่วขณะ หลัวชิงเซียนหันเหความสนใจไปยังสนามต่อสู้ของฝ่ายธรรมและอสูร ตางดงามของนางค่อย ๆ เย็นเยียบขึ้นมา
“ในเมื่อผู้อาวุโสนิรนามไม่ต้องการความช่วยเหลือของข้า ข้าจะใช้โอกาสนี้จัดการกับคนฝ่ายอสูรข้างล่างก่อนแล้ว รอข้าฆ่าคนจากสำนักอสูรสิ้นแล้ว จักมาเก็บกวาดให้ผู้อาวุโสนิรนาม!”
ฟิ้ว!
คิดเช่นนี้อยู่ภายในหัวแล้วหลัวชิงเซียนก็ตะบึ่งไปสนามต่อสู้ด้านล่างทันที
“น่ารังเกียจ!”
“หยุดนางไว้!”
“อย่าปล่อยให้นางลงไปด้านล่าง มิเช่นนั้นวันนี้จักไม่มีผู้ใดรอดชีวิตแล้ว”
“…”
เมื่อเห็นหลัวชิงเซียนรุดไปยังสนามต่อสู้เบื้องล่าง จักรพรรดิปีศาจทั้งหกรุ่มร้อนใจขึ้นมา
สำหรับผู้คนในสนามรบด้านล่าง ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ย่อมเป็นกำลังในการบดขยี้ ดุจดังพยัคฆ์ในฝูงแกะ และไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้
“ฮึ่ม! เจ้ากล้าไขว้เขวจากการต่อสู้กับผู้เฒ่าเช่นข้าได้อย่างไร!?”
ในตอนนี้ หนิงฝานเยาะหยันขึ้นมา กระบี่ฟาดฟันลงไปยังคนทั้งหก จักรพรรดิปีศาจทั้งหกถึงกับกระอักเลือดออกมาและร่นถอยไป พวกเขาหวาดกลัวเสียจนหยุดให้ความสนใจต่อหลัวชิงเซียนในทันที
ไม่มีจักรพรรดิปีศาจทั้งหกคอยขัดขวาง หลัวชิงเซียนเร่งรุดลงไปยังสนามรบด้านล่างอย่างราบรื่น ด้วยพลังขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์อันน่าหวาดกลัวทำให้นางรู้สึกราวกับไม่มีผู้ใดอยู่ในดินแดนแห่งนี้
เพียงฝ่ามือเดียว ผู้ฝึกยุทธ์จากสำนักอสูรนับสิบถูกกำจัดสิ้นทันที!
“อ๊ากกกก!”
ทันใดนั้น ผู้ฝึกยุทธ์สำนักอสูรในสนามรบระหว่างฝ่ายธรรมและอสูรราวกับถูกล้างบาง เสียงกรีดร้องโหยหวนแผดขึ้นอย่างไม่จบไม่สิ้น
“รีบถอย!”
“ศัตรูมีผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์!”
เมื่อเห็นหลัวชิงเซียนเข่นฆ่าสังหารในสนามรบ ผู้ฝึกยุทธ์จากสำนักอสูรนับไม่ถ้วนต่างหวาดผวาเสียจนไม่กล้าตั้งรับ
ชั่วขณะนั้น กองกำลังผู้พ่ายกองเป็นภูเขาเลากา ผู้ฝึกยุทธ์สำนักอสูรนับไม่ถ้วนเริ่มล่าถอย
“ฆ่า!”
เห็นเช่นนี้แล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายธรรมใช้โอกาสนี้ไล่ตามสังหารพวกเขา ภายเวลาอันสั้น สำนักอสูรพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในสนามรบระหว่างฝ่ายธรรมและอสูร ศพผู้ตายกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง
“จบสิ้นแล้ว! เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!”
“บัดซบ! เดิมทีคิดว่าการเดินทางมาสุสานนักบุญครั้งนี้ สำนักอสูรข้าจะบดขยี้พวกวิถีธรรมให้สิ้นซาก ทว่าผลกลับออกมาเป็นเช่นนี้!”
“สมควรตาย! พวกเราเตรียมการมาเพื่อการนี้เป็นอย่างดีแล้ว ใครเล่าจะคิดว่าผู้ฝึกยุทธ์เร้นกายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจะแข็งแกร่งเช่นนี้!”
เมื่อเห็นความพ่ายแพ้ของสำนักอสูร จักรพรรดิปีศาจพลันขุ่นเคืองขึ้นมา
เดิมควรเป็นการชนะแบบขาดลอย ทว่าผู้ที่อยู่ด้านหน้ากลับทำให้สถานการณ์ในสนามรบกลับตาลปัตรด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง
“ทุกท่าน คนผู้นี้ต้องกำจัด หากยังมีคนผู้นี้ แม้นพวกเราจักรพรรดิทั้งเก้าออกมาพร้อมกันในอนาคต ยังมิอาจครอบครองใต้หล้านี้ได้อยู่ดี!”
“มิผิด! คนผู้นี้เป็นขวากหนามอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีของพวกเราเก้าสำนักมหาอสูรที่จะครอบงำใต้หล้านี้!”
“บัดซบ! นี่พวกเราถูกบีบให้ใช้ไพ่ตายออกมาเร็วเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”
“มิเป็นไร! มิใช่ว่าไพ่ตายมีไว้ใช้พลิกกระดานหรือ หากไม่ใช้เสียตอนนี้ เช่นนั้นจะต้องใช้เวลาไหน!”
“…”
บัดนี้สำนักอสูรพ่ายแพ้แล้ว คนทั้งหกถูกหนิงฝานบดขยี้ด้วยหนึ่งคนหนึ่งกระบี่จนมิอาจแม้แต่เงยศีรษะขึ้นเช่นเดียวกัน ย่อมพ่ายแพ้มิช้าก็เร็ว
จักรพรรดิปีศาจทั้งหกลอบถ่ายทอดเสียง สายตามองกันและกัน ค่อย ๆ เผยจิตสังหารอันบ้าคลั่งขึ้นมา
“เอ๊ะ? มีบางสิ่งผิดปกติ!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในหมู่จักรพรรดิปีศาจทั้งหก ทว่าไม่ถือเอาเป็นจริงเป็นจัง อย่างไรเสีย ทุกคนย่อมปรากฏความคลั่งขึ้นมาก่อนตายอยู่แล้ว
“ฆ่า!”
ท้ายที่สุด จักรพรรดิปีศาจทั้งหกกู่ร้องขึ้นอย่างเดือดพล่าน พลังอันน่าหวาดหวั่นห่อหุ้มทั่วร่าง ปราณปีศาจพวยพุ่งขึ้นต่อเนื่องอย่างไม่รู้จบสิ้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
จากนั้น พวกเขาทั้งหกเริ่มบรรเลงวิทยายุทธ์ที่แกร่งที่สุดของพวกเขาออกมา ทั้งปราณโลหิต แสงแห่งหยินหยาง จิตเข่นฆ่า เงาสรรพสัตว์ หมอกพิษ ปราณศพ พลังที่แตกต่างกันสิ้นเชิงทั้งหก ราวกับพวกเขาต้องการแปรมันเป็นมังกรพิโรธโมโหร้ายทั้งหก มันคำรามลั่นแล้วพุ่งตรงไปยังหนิงฝาน
“สัตว์ที่ถูกกับดักยังรู้ต่อสู้!”
หนิงฝานเยาะเย้ย จากนั้นแกว่งกระบี่ในมือซัดไปมา กระแสปราณกระบี่ฟันฉับออกไปทั้งแนวตั้งและแนวราบ ชะล้างคลื่นพลังที่สาดเข้ามา
ปัง! ปัง! ปัง!
ในชั่วพริบตา พลังมังกรพิโรธทั้งหกมอดม้วยลมด้วยปราณกระบี่ ทว่าความเร็วที่ตามมาอย่างต่อเนื่องของจักรพรรดิปีศาจทั้งหกมิเชื่องช้าลงแม้แต่น้อย พวกเขาพุ่งเข้าใส่หนิงฝานด้วยปราณกระบี่อันเจิดจ้า แม้นร่างกายจะชุ่มโชกด้วยเลือด เนื้อหนังปริแตก กลับมิได้สนใจมันแม้แต่น้อย!
บ้าจริงเชียว!
“หา?”
เมื่อเห็นคนทั้งหกแสดงความบ้าคลั่งฉากนี้ออกมา หนิงฝานพลันขมวดคิ้วมุ่น!
มีสิ่งผิดปกติจริง ๆ!
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
ทว่าในครานี้ จักรพรรดิปีศาจทั้งหกพุ่งเข้าใส่หนิงฝานเสียแล้ว แม้พวกเขาชุ่มโชกด้วยเลือด แต่ใบหน้ากลับเปื้อนด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม
“เจ้าคนทราม!”
“ตายเสียเถอะ!”
ทั้งหกคนแสยะยิ้มให้หนิงฝาน จากนั้นร่างกายของพวกเขาพลันขยายพองขึ้น ราวกับลูกโป่งที่กำลังจะระเบิดออก
“ระเบิดร่างตนเอง?!”
เมื่อเห็นฉากนี้ หนิงฝานเผยสีหน้าประหลาดใจ
ถัดจากนั้น ย่อมไม่มีพื้นที่ให้หลบหลีก
เช่นนี้เอง!
คนทั้งหกตั้งใจจะระเบิดตัวเอง!
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงสนั่นลั่นฟ้าหกเสียงดังขึ้น ขุมพลังอันน่าหวาดหวั่นทั้งหกกลืนกินหนิงฝานราวกับคลื่นทำลายล้าง
การเปลี่ยนแปลงน่าตะลึงบนฟากฟ้า ทำให้ผู้คนด้านล่างต่างตะลีตะลานในบัดดล!
“ผู้อาวุโสนิรนาม!”
สีหน้าหลัวชิงเซียนแปรเปลี่ยนโดยพลัน!
พวกเขาคาดไม่ถึงอย่างเห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิปีศาจทั้งหกจะไร้ปรานีและเด็ดขาดเช่นนี้ พวกเขาไม่ลังเลใจแม้แต่จะระเบิดตนเองให้ตายตกพร้อมกันกับผู้อาวุโสไร้นาม
ฟิ้ว!
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังเสียงคำรามกึกก้อง พื้นที่โดยรอบแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมร่องรอยแตกหัก พลังทำลายล้างอย่างไร้ที่สิ้นสุดโหมกระหน่ำ ก่อเกิดเป็นพายุคลั่งปกคลุมทั่วท้องฟ้า ซึ่งคงอยู่อย่างยาวนาน
“ผู้อาวุโสนิรนาม!”
หลัวชิงเซียนร้อนรุ่มใจเร่งรุดไปบนท้องฟ้าโดยทันที ต้านกับคลื่นพลังเดือดดาลที่ยังไม่เลือนหายไป!
ทว่าเมื่อนางกวาดตาค้นหา เหนือฟากฟ้ากลับไม่พบผู้ใดบนที่นั่น!
จักรพรรดิปีศาจทั้งเจ็ดสาบสูญไปแล้ว!
แต่เงาร่างของผู้อาวุโสนิรนามก็หายไปเช่นกัน!