ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 23 หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ กับจักรพรรดิปีศาจทั้งหก!
- Home
- ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]
- ตอนที่ 23 หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ กับจักรพรรดิปีศาจทั้งหก!
ตอนที่ 23 หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ กับจักรพรรดิปีศาจทั้งหก! (รีไรท์)
ตู้ม!
หนิงฝานหายวับไปข้างหน้า ฟาดฟันออกไปด้วยหนึ่งกระบี่ ทันใดนั้นปราณกระบี่พุ่งข้ามขอบฟ้าออกไป สลายขุมพลังทั้งสี่ที่ปรี่เข้ามาอย่างทรงพลานุภาพ เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศและเหือดหายไปในฟ้าดิน
“เป็นผู้ใด!?”
การปรากฏกายของหนิงฝานทำให้จักรพรรดิปีศาจทั้งสี่ตื่นตระหนก
“เจ้าคือ…ผู้อาวุโสนิรนาม!”
เห็นร่างในชุดคลุมสีเทาปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้านาง หลัวชิงเซียนอดที่จะชื้นใจขึ้นมาไม่ได้
หนิงฝานพยักหน้า เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาจากชายในชุดคลุมสีเทา “แม่นางน้อย เจ้าทำได้ดีแล้ว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่เฒ่าชราผู้นี้”
หลัวชิงเซียนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึมจริงจัง “ผู้อาวุโสนิรนาม พวกมันมีหลายคนนัก ข้าจะร่วมมือกับท่านจัดการพวกมันเอง!”
“ฮ่า ๆ มิเป็นไร แค่เพียงสี่ตัวตลกกระโดดได้ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าช่วย ข้าหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ก็เพียงพอแล้ว!”
หนิงฝานแสร้งทำเป็นโอ้อวดเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นมองไปยังสี่จักรพรรดิปีศาจ
“ดูเหมือนเจ้าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เร้นกายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนสินะ!”
“ได้ยินว่า เป็นเจ้าที่บั่นหัวลี่ฉิงเทียนและเจ้าสำนักอสูรกลืนกินคนก่อนด้วยกระบี่เดียว?”
“หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ย่อมเพียงพอ? อย่าได้คุยโวใหญ่โตอย่างไม่ละอายแก่ใจไปหน่อยเลย!”
“วันนี้ตราบใดที่เจ้ากับหลัวชิงเซียนล้มลง ใต้หล้านี้ย่อมเป็นของพวกเราเหล่าสำนักอสูรอย่างสมบูรณ์!”
“…”
เมื่อเห็นหนิงฝานเดินออกมา จักรพรรดิปีศาจทั้งสี่ประหลาดใจ ทว่าไม่มีสิ่งเหนือความคาดหมายใดเกิดขึ้น
นั่นเพราะพวกเขาทราบมาเป็นเวลานานแล้วว่า มีจักรพรรดิยุทธ์เร้นกายผู้หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน และพวกเขาได้เตรียมการมาอย่างพรักพร้อมแล้ว
“คิดจะโค่นข้า ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้ามีความสามารถหรือไม่!”
หนิงฝานยิ้มเยียบเย็น
เคร้ง!
จากนั้น เขาลงมือก่อนทันที!
เพลงกระบี่ที่น่าตื่นตะลึงกึกก้องทั่วทั้งแผ่นฟ้า จากนั้นพลันเกิดปราณกระบี่ระเบิดซัดออกมาทั่วแผ่นฟ้า ตรงเข้าฟาดฟันจักรพรรดิปีศาจทั้งสี่ทีละคน!
“โอหังยิ่งนัก!”
เห็นหนิงฝานผ่าฉับลงทั้งสี่ด้วยหนึ่งกระบี่ จักรพรรดิปีศาจทั้งสี่พลันโกรธเกรี้ยว!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ต่อจากนั้น กระแสพลังปราณปีศาจพวยพุ่งขึ้น จักรพรรดิปีศาจทั้งสี่ปรับเปลี่ยนสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้มา พยายามสุดกำลังเพื่อสลายปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา
“อะไรกัน?”
“เป็นไปไม่ได้!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาปะทะเข้ากับปราณกระบี่ สีหน้าของทั้งสี่คนแปรเปลี่ยนอย่างพิลึกพิลั่น
ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาใดเสมอเหมือนพรั่งพรูออกมา พังทลายพลังของทั้งสี่คนให้ล้มครืนลงอย่างง่ายดายราวกับฟันไม้ผุ
จากนั้น ปราณกระบี่ฟันฉับลงมาต่อ
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
จักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ถูกฟันใส่อย่างจัง พวกเขาพ่นเลือดออกจากปาก
“ชายชราผู้นี้ใช้เพียงกระบี่เดียว พวกเจ้ายังล้มกะปลกกะเปลี้ยลง กล่าวว่าพวกเจ้าเป็นตัวตลกกระโดดไปมาผิดเพี้ยนที่ตรงไหนกัน?”
ครานี้หนิงฝานชี้กระบี่ไปยังจักรพรรดิปีศาจทั้งสี่ เสียงหัวเราะโอ้อวดสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วแผ่นฟ้า
“จิ๊! แข็งแกร่ง แกร่งเสียยิ่งกว่าจักรพรรดินีเสียอีก!”
“พวกเราดูแคลนพลังของคนผู้นี้แสนสาหัสเสียแล้ว!”
“ยังดีที่ครั้งนี้เราเตรียมการมาอย่างดี มิเช่นนั้น ท้ายที่สุดชัยชนะจักตกอยู่ในกำมือผู้ใด ก็ยังมิแน่ชัดเที่ยงแท้”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็มิจำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป!”
แม้นจักรพรรดิปีศาจทั้งสี่จะพ่ายแพ้ สีหน้าพวกเขาหาได้เดือดเนื้อร้อนใจไม่ กลับเยือกเย็นเสียยิ่งกว่าเดิม
“ไป่ตู๋ ซือกุย!”
ตู้ม! ตู้ม!
ทันทีที่บางคนตะโกนก้องขึ้นมา ทันใดนั้นเองขุมพลังของสองจักรพรรดิปีศาจก็ระเบิดออกมาในท้องฟ้าห่างออกไปอีกครั้ง แล้วพริบตาต่อมา เงาร่างของสองจักรพรรดิปีศาจก็เร่งรุดมาสนามต่อสู้
ผู้มาเยือนเป็นหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี ชายผู้นั้นทั้งอัปลักษณ์และเตี้ยม่อต้อ เบื้องหลังเขามีโลงศพขนาดมหึมาอยู่ติดตัว
ส่วนสตรีเกิดมาพร้อมความงามล่อลวงใจขุมหนึ่ง ทว่าสิ่งที่น่าหวาดกลัวคือความงามนั้นกลับถูกบดบังด้วยงูพิษ แมงป่อง แมงมุมและสิ่งมีพิษอื่น ๆ
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือ กระแสพลังของทั้งสองได้ไต่ถึงขอบเขตของจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสุดไม่แตกต่างจากหลัวชิงเซียนเลย
สำนักอสูรร้อยพิษ จักรพรรดิปีศาจไป่ตู๋
สำนักอสูรหุ่นเชิดศพ จักรพรรดิปีศาจซือกุย
“อะไรกัน!”
“มีจักรพรรดิปีศาจเพิ่มอีกสอง แถมยังอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสุดอีกด้วย!”
ได้ประจักษ์ฉากนี้ หลัวชิงเซียนพลันตะลึงงัน
เก้าสำนักมหาอสูร ผู้ฝึกยุทธ์จักรพรรดิปีศาจถึงหกพลันปรากฏกายขึ้น
นี่…จักต้องไม่ปกติแน่นอนแล้ว!
ใบหน้าของหลัวชิงเซียนเคร่งขรึมยิ่ง นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มีสิ่งไม่ชอบมาพากล!
ต้องรู้ว่าแม้นจักรพรรดิยุทธ์มิได้เยี่ยมยอดเท่าปราชญ์ยุทธ์ ทว่าหากต้องการเป็นจักรพรรดิ จำต้องเป็นอัจฉริยะที่มิมีผู้ใดเสมอเหมือน และเป็นผู้โดดเด่นในหมู่คนนับพัน!
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถียุทธ์ และไม่เคยปรากฏผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์มากกว่าหนึ่งมือนับในทุกราชวงศ์ในอดีตที่ผ่านมา
เฉกเช่นในสิบสำนักใหญ่ ยังมิมีจักรพรรดิยุทธ์แม้แต่ผู้เดียวในหลายชั่วอายุคน
บัดนี้กลับมีจักรพรรดิปีศาจถึงหกคนปรากฏในสำนักอสูร กลับเกิดขึ้นอย่างง่ายดายเช่นนี้ช่างเหนือจินตนาการยิ่งนัก
“หกจักรพรรดิปีศาจหรือ?”
หนิงฝานกลับมิได้แสดงความกริ่งเกรงออกมา
แม้นว่าขณะนี้ เขาจะเป็นเพียงหนึ่งในร่างอวตารที่มีเพียงพลังต่อสู้ห้าส่วนของร่างต้น ก็ยังนับว่ามากเหลือเฟือที่จะจัดการกับจักรพรรดิปีศาจทั้งหก ที่อยู่ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นต่ำกว่าขั้นสมบูรณ์แบบ
“ผู้อาวุโสนิรนาม ข้าจะช่วยท่าน!”
ถึงตรงนี้ หลัวชิงเซียนเริ่มกระวนกระวายและต้องการก้าวออกไปช่วย
“ไม่จำเป็น!”
หนิงฝานสะบัดมือ ยิ้มอย่างลำพองตน “นอกเหนือจากกระบี่ในมือข้า เฒ่าชราผู้นี้ทั้งชีวิตมิเคยขอความช่วยเหลือจากใคร เพียงชมดูอยู่ข้าง ๆ แม่นางน้อย แล้วคอยดูข้าตัดหัวหกคนนี้ทีละคน!”
“นี่!”
หลัวชิงเซียนชะงักงันทันใด มิคาดว่าผู้อาวุโสตรงหน้านางนี้จะเชื่อมันในตนเองมากล้นเสียจนจะสู้กับจักรพรรดิปีศาจทั้งหกด้วยตนเอง
“ยโสโอหัง!”
“ทะนงตัว!”
ได้ยินเช่นนี้ จักรพรรดิปีศาจทั้งหกตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด โดยเฉพาะผู้มาใหม่ จักรพรรดิปีศาจไป่ตู๋และจักรพรรดิปีศาจซือกุย ผู้ที่เป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสุด ไม่คาดคิดว่าหนิงฝานจะเหยียดหยามพวกตนมากถึงเพียงนี้ ถึงขั้นคิดใช้หนึ่งต้านหก
“เขาพูดเรื่องเลอะเทอะอันใดกัน!”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราช่วยให้เขาสมปรารถนาเสีย!”
“มิผิด ให้เขาได้รู้ว่าการหยิ่งผยองถือดีย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย”
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! …
หกจักรพรรดิปีศาจเริ่มลงมือฉับพลัน พลังของจักรพรรดิปีศาจทั้งหกพวยพุ่งกระซ่านเซ็น ปราณปีศาจสุดคณานับถะถั่งออกมาจากกายของคนทั้งหก ปกคลุมทั่วท้องนภา สุริยันและจันทรา ภายในชั่วพริบตา
ชั่วขณะนั้น จักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหกแผ่พลังปกคลุมท้องฟ้า สร้างความหวาดกลัวให้ผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายธรรมนับไม่ถ้วน ทว่ากลับทำให้อสูรนับไม่ถ้วนโห่ร้องอย่างตื่นเต้น
“หมอกอสูรร้อยพิษ!”
“ศพอสูรฉีกสวรรค์!”
จักรพรรดิปีศาจไป่ตู๋และจักรพรรดิปีศาจซือกุยเป็นฝ่ายนำตะโกนขึ้นมาอย่างกึกก้อง
จักรพรรดิปีศาจไป่ตู๋สะบัดข้อมือ สิ่งมีพิษนับร้อยพุ่งออกจากร่างกาย มีทั้งงูพิษ แมงป่องพิษ แมงมุมพิษ และอื่น ๆ พ่นม่านหมอกพิษออกมาอย่างบ้าคลั่ง รอให้กลุ่มหมอกพิษนับร้อยชนิดหนาแน่นขึ้น จากนั้นกระแสลมสายหนึ่งก่อร่างขึ้น สาดซัดไปยังหนิงฝานผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
จักรพรรดิปีศาจซือกุยวางโลงศพข้างหลังตนลงเสียงดังปังแล้วตะโกนก้อง ศพอสูรขั้นจักรพรรดิสูงใหญ่กำยำพลันพุ่งตัวออกมา ทั่วทั้งร่างเขาปกคลุมด้วยขนสีแดงฉานส่อลางร้าย ปากและจมูกผ่อนลมหายออกมาเป็นหมอกแห่งซากศพ โดยเฉพาะเล็บมือพวกมันยาวเหยียดประหนึ่งกระบี่ ดูราวกับมีคุณสมบัติไว้เพื่อฉีกกระชากแผ่นฟ้า
“โฮกกกกก!”
ทันทีที่ซากศพอสูรขั้นจักรพรรดิออกมา มันส่งเสียงคำรามอย่างไม่เสนาะหู โผเข้าหาหนิงฝานพร้อมกับหมอกแห่งซากศพ
“โลหิตชำระนภาปฐพี”
“พันปรารถนาพัวพัน”
“หมัดอสูรเจ็ดสังหาร!”
“หมื่นสรรพสัตว์กู่ก้องสวรรค์!”
ในขณะเดียวกัน จักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ร่วมกันกระหน่ำจู่โจม ปราณโลหิต แสงแห่งหยินหยาง หมัดผนึก และสรรพสัตว์ถูกใช้ออกมาจนสิ้น
ถึงตอนนี้ จักรพรรดิปีศาจทั้งหกโจมตีพร้อมกัน!
ทุกคนล้วนใช้กระบวนท่าสังหารที่รุนแรงที่สุด!
พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้โค่นหนิงฝานลงในวูบเดียว ให้หลัวชิงเซียนไม่มีโอกาสช่วยเขา ทันทีที่หนิงฝานล้มลง หลัวชิงเซียนย่อมมิใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป
“ผู้อาวุโสนิรนาม!”
หลัวชิงเซียนร้องลั่น หกคนร่วมมือกัน พลังช่างน่าตื่นตระหนกยิ่ง!
หากเป็นนาง แม้จะมิตายตก แต่ย่อมบาดเจ็บปางตาย!
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เสียงหัวเราะหยิ่งผยองดังขึ้นจากทุกหนทุกแห่ง
“ฮ่า ๆ ยอดเยี่ยมซะจริง!”
หนิงฝานหัวเราะอย่างเหิมเกริมก้องฟ้า เผชิญหน้ากับการจู่โจมจากจักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหก เขามิได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย!
ชิ้ง!
ท้ายที่สุด เมื่อเสียชักกระบี่จากฝักดังขึ้นให้ได้ยิน หนึ่งกระบี่โชนแสงออกมาอย่างเจิดจ้า!