ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 162 ควบคุมเมืองเซียน ตำหนักสวรรค์สูงสุด!
ตอนที่ 162 ควบคุมเมืองเซียน ตำหนักสวรรค์สูงสุด!
ขณะที่หนิงฝานกำลังตั้งใจฝึกฝนญาณเมืองเซียนภายในตำหนักใหญ่อยู่นั้น ภายในเมืองเซียนโบราณก็เต็มไปด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงโห่ร้อง บ้างหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น และออกตามหาสมบัติเซียนไปทั่วทุกมุมในเมืองเซียนโบราณ!
เพียงว่าสมบัติเซียนในเมืองแห่งนี้ ส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในเรือน ศาลา ตำหนัก รวมถึงหอคอยต่าง ๆ และที่สำคัญสถานที่เหล่านั้นก็ไม่มีข้อยกเว้น ล้วนมีข้อห้ามที่แข็งแกร่งคอยปกปักษ์ของภายในไว้อยู่!
สำหรับเหล่าเทพยุทธ์ธรรมดา ๆ นี่ย่อมเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถเปิดเข้าไปได้!
มียอดฝีมือมากมายที่พยายามเข้าไป แต่ถูกข้อห้ามสะท้อนกลับจนตาย!
หากเปรียบเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้น เจ็ดสำนักที่นำโดยสำนักเซียนยุทธ์นั้นมีระเบียบวินัยมากกว่า และแน่นอนว่าการร่วมมือกันก็เป็นไปอย่างราบรื่น!
มีกึ่งเซียนเป็นผู้คอยเปิดทางให้ และมีเทพสูงสุดคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ!
กองกำลังใหญ่ทั้งเจ็ด ทำลายข้อห้ามของตำหนัก รวมถึงหอต่าง ๆ มากมาย และรีบเก็บสมบัติเซียนภายในนั้นอย่างรวดเร็ว!
เคล็ดวิชาฝึกฝน เม็ดยา สุดยอดพลัง และอื่น ๆ อีกมากมายก่ายกอง!
อย่างไรก็ตาม เมืองเซียนโบราณนั้นใหญ่โตเป็นอย่างมาก จึงมีตำหนักและหอคอยนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถเข้าไปได้สำเร็จ
แม้สำนักใหญ่ทั้งเจ็ดจะสามารถเก็บสมบัติเซียนได้อย่างรวดเร็ว แต่หากจะพูดถึงเมืองเซียนทั้งหมดนี้ ก็ยังคงเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น!
อีกทั้งเมืองเซียนโบราณจะปรากฏอยู่เพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น ทั้งเจ็ดกองกำลังใหญ่จึงต้องเร่งค้นหาสมบัติเซียน
เพียงชั่วพริบตา
เวลาก็ผ่านไปถึงหกวัน!
พรึ่บ!
ในวันนี้เอง ภายในตำหนักใหญ่ แว่วเสียงโห่ร้องที่ดังกึกก้องผ่านหู ญาณเมืองเซียนก็ถูกหนิงฝานฝึกฝนจนเสร็จสิ้นแล้ว!
“หืม!”
“แปลกมาก!”
ด้วยการฝึกฝนญาณเมืองเซียน ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงบางอย่างในทันที!
เขาในเวลานี้ดูเหมือนจะสามารถควบคุมได้ทั้งเมืองเซียนโบราณ!
มิหนำซ้ำ เขายังสามารถทำลายกฎข้อห้ามทั้งหมดในเมืองแห่งนี้ได้ด้วยเพียงหนึ่งความคิด และด้วยความคิดเดียวเขาสามารถไปได้ทุกที่ภายในเมืองนี้ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเมืองเซียนโบราณตรงหน้าให้กลายเป็นสิ่งของบนมือก็ได้!
พูดในอีกทางหนึ่งก็คือ เมืองเซียนโบราณแห่งนี้มีหนิงฝานเพียงคนเดียวที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้!
“หึ ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ถึงเวลาสนุกแล้วสิ!”
สายตาของชายหนุ่มพลันเปล่งประกาย
เขายังไม่ลืมเรื่องที่สำนักเซียนยุทธ์และสำนักเซียนวิถีสวรรค์พุ่งเป้ามาที่เขา!
นับจากนี้ ด้วยความต้องการของเขา เขาสามารถใช้ญาณเมืองเซียนลอบสอดส่องการเคลื่อนไหวของสำนักเซียนยุทธ์และสำนักเซียนวิถีสวรรค์ได้
“หึ! เจ็ดสำนักใหญ่ต่างก็อยู่ภายในเมืองเซียน ดูแล้วคงจะพยายามช่วยกันทำลายตำหนักหลักของเมืองเซียน ตำหนักสวรรค์สูงสุด!”
“เป็นเช่นนี้นี่เอง ภายในตำหนักสวรรค์สูงสุดต้องมีสมบัติเซียนของจริงอยู่แน่!”
“หึ ๆ ต้องการนำเอาสมบัติเซียนไป ถามข้าก่อนหรือยัง?”
ด้วยความคิดเดียวของหนิงฝานก็สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกองกำลังใหญ่ทั้งเจ็ดได้ หลังจากยิ้มออกมาอย่างเย็นชาแล้ว ชายหนุ่มก็ให้คนของสำนักเซียนกระบี่ที่อยู่ภายนอกตำหนักใหญ่เข้ามาข้างใน!
“ไม่ต้องต่อต้าน ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังที่แห่งหนึ่ง!”
หลังจากพูดจบ หนิงฝานก็โบกมือขึ้นในอากาศทันที แล้วผู้คนก็หายไปจนหมด ก่อนจะมาปรากฏตัวภายในตำหนักสวรรค์สูงสุด!
“อ๊ะ!”
“สมบัติเซียน!”
เหล่าผู้คนแห่งสำนักเซียนกระบี่ที่เพิ่งมาถึงยังตำหนักสวรรค์สูงสุดต่างส่งเสียงร้องด้วยความตกใจในทันที
…
ในตอนนี้ ภายนอกตำหนักสวรรค์สูงสุด ล้วนเต็มไปด้วยเหล่าผู้ฝึกยุทธ์!
นอกจากสำนักใหญ่ทั้งเจ็ดที่นำโดยสำนักเซียนยุทธ์แล้วนั้น ก็ยังมีเหล่าผู้ฝึกยุทธ์กองกำลังชั้นที่สอง ชั้นที่สามและผู้ฝึกยุทธ์ไร้สำนักกว่าอีกหมื่นคน!
ทุก ๆ คนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะเข้าไปในตำหนักสวรรค์สูงสุด!
ตำหนักสวรรค์สูงสุดนั้นใหญ่โตโอ่อ่ายิ่ง ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยอักขระข้อห้ามมากมายและแสงแห่งเซียน แทบจะไม่ต้องปกปิดก็รู้ได้เลยว่าภายในตำหนักใหญ่นี้มีสมบัติเซียนของจริงอยู่!
“ทุกท่าน ที่แห่งนี้คือตำหนักสวรรค์สูงสุดที่เหล่าบรรพบุรุษของทั้งแปดสำนักเคยพูดเอาไว้!”
ในเวลานี้ ดวงตาของเหล่าเทพยุทธ์แห่งสำนักเซียนกระบี่ต่างเปล่งประกาย สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและโลภจนไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้!
สายตาของเจ้าสำนักปีศาจโบราณ เจ้าสำนักโลกใต้พิภพ เจ้าสำนักญาณเซียนและเหล่ากึ่งเซียนผู้แข็งแกร่งต่างเหมือนกัน!
เพราะบรรพบุรุษของทั้งแปดสำนักเคยกล่าวเอาไว้ว่า ตำหนักสวรรค์สูงสุดคือ ตำหนักหลักของเมืองเซียนโบราณ ภายในนั้นเก็บรักษาสมบัติเซียนของจริงเอาไว้ เพียงแต่ว่าข้อห้ามของตำหนักสวรรค์สูงสุดนี้กล้าแก่รงอย่างหาที่เปรียบมิได้ มีเพียงวันสุดท้ายที่เมืองเซียนปรากฏเท่านั้นพลังจึงจะอ่อนแอลง!
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทั้งเจ็ดกองกำลังมาที่นี่ในวันสุดท้าย!
“ทุกท่าน แม้วันนี้ข้อห้ามของตำหนักสวรรค์สูงสุดจะอ่อนกำลังลง แต่ก็มิใช่ว่ากึ่งเซียนหนึ่งหรือสองคนจะสามารถทำลายลงได้ วิธีเดียวก็คือพวกเราทั้งเจ็ดกองกำลังจะต้องร่วมมือกัน!” อู๋เซียนเหรินมองไปยังทั้งเจ็ดกองกำลังและพูดขึ้น
ได้ยินเช่นนั้น เจ้าสำนักแห่งสำนักปีศาจโบราณก็พลันขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้น “ร่วมมือกันได้ แต่หลังจากที่เปิดตำหนักสวรรค์สูงสุดนี้แล้ว สมบัติเซียนภายในจะแบ่งกันเช่นไร?”
“แน่นอนว่าต้องใช้พลังเพื่อแย่งเอามา!” อู๋เซียนเหรินพูดขึ้นเบา ๆ
“หึ ๆ เจ้าสำนักเซียนยุทธ์ ความคิดของท่านช่างดีเสียจริง! เรื่องของพลัง ท่านแข็งแกร่งมากที่สุด นอกจากนี้สำนักเซียนยุทธ์และสำนักเซียนวิถีสวรรค์ก็ยังเป็นเหมือนบ้านหลังเดียวกัน!” พลันยามนี้เอง เจ้าสำนักที่เป็นกึ่งเซียนท่านหนึ่งเอ่ยพลางยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
คนที่เหลือต่างขมวดคิ้วมุ่นและแสดงท่าทางไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน!
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว อู๋เซียนเหรินก็ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นพวกท่านต้องการเช่นไร?”
เจ้าสำนักแห่งสำนักปีศาจโบราณกล่าวทันทีว่า “ท่านเจ้าสำนักเซียนยุทธ์ หลังจากที่เปิดตำหนักสวรรค์สูงสุด ไม่ว่าจะมีสมบัติเซียนมากมายแค่ไหน พวกเราทั้งเจ็ดสำนักในที่นี้จะต้องได้รับส่วนแบ่งที่เท่ากัน หากท่านไม่เห็นด้วย ก็มิต้องเปิดตำหนักสวรรค์สูงสุดนี้!”
“ใช่แล้ว!”
“เช่นนั้นจึงจะยุติธรรม!”
“มิเช่นนั้นก็รอให้ตำหนักสวรรค์สูงสุดเปิดขึ้นอีกครั้งในอีกหมื่นปีข้างหน้าเถอะ!”
ผู้คนที่เหลือต่างพากันเห็นด้วย
แม้ว่าในสายตาของทุกคนสมบัติเซียนภายในตำหนักสวรรค์สูงสุดจะไม่ใช่ของปลอม แต่ก็รู้ดีว่าโอกาสที่จะแย่งชิงมาได้นั้นมีน้อยนิด เพราะพวกเขาไม่สามารถชนะอู๋เซียนเหรินได้อย่างแน่นอน!
อู๋เซียนเหรินขมวดคิ้วขึ้น แม้ว่าจะไม่พอใจกับกฎต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้า “ได้! หลังจากเปิดตำหนักสวรรค์สูงสุดแล้ว สมบัติเซียนภายในนั้น พวกเราทั้งเจ็ดสำนักจะเอามาแบ่งกันอย่างเท่าเทียม!”
พรึ่บ!
สิ้นสุดคำพูดนั้น อู๋เซียนเหรินก็แทบอดรนทนไม่ไหวที่จะลงมือ!
ด้วยพลังฝ่ามือที่ปรากฏออกมา ทันใดนั้นพลังมังกรที่เกรี้ยวกราดของกึ่งเซียนก้าวที่ห้า ก็พุ่งไปยังประตูตำหนักสวรรค์สูงสุดในทันที!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
คล้อยหลังอู๋เซียนเหรินลงมือแล้ว เจ้าสำนักที่เหลืออีกห้าคนก็เริ่มลงมือ พลังอันพุ่งพล่านของกึ่งเซียนระเบิดออกทันที!
และภายใต้การนำของกึ่งเซียนทั้งหกคน ยอดฝีมือของทั้งเจ็ดสำนักต่างก็ลงมือด้วย พลังไร้ที่สิ้นสุดเริ่มทำลายข้อห้ามแห่งตำหนักสวรรค์สูงสุด!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ประตูของตำหนักสวรรค์สูงสุดที่สูงกว่าสิบจั้งก็พลันเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น เพียงชั่วอึดใจนั้น อักขระก็ส่องแสงกะพริบอยู่ด้าน ซ้ำยังทำท่าจะกระจายตัวออก แต่แล้วก็ค่อย ๆ กลับมานิ่งเป็นปกติ!
“หืม?”
“ไม่เปิด!”
“ดูแล้วข้อห้ามแห่งตำหนักสวรรค์สูงสุดจะแข็งแกร่งมากกว่าที่พวกเราคิด!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ดวงตาของอู๋เซียนเหรินและคนอื่น ๆ ก็จริงจังขึ้นมาในทันที!
“ทำอย่างไรดี?”
ขณะที่ทุกคนกำลังลังเลอยู่นั้น อู๋เซียนเหรินมองไปยังเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สำนักกว่าแสนคนที่มารวมตัวกันอยู่รอบ ๆ
“ทุกท่าน เชิญทุกท่านลงมือช่วยพวกเราเปิดตำหนักสวรรค์สูงสุดด้วยกัน!”
แม้ว่าอู๋เซียนเหรินจะพูดขึ้น แต่รอบ ๆ นั้นกลับไม่มีผู้ใดลงมือเลยแม้แต่คนเดียว!
เห็นเช่นนั้นแล้ว อู๋เซียนเหรินก็ทำได้เพียงพูดขึ้นอีกครั้ง “ผู้ใดก็ตามที่ลงมือจะได้รับสมบัติเซียนจากเมืองเซียนโบราณกลับไปคนละสองชิ้น!”
สวรรค์!
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ก็เริ่มอารมณ์พลุ่งพล่านทันที!
“ฮ่า ๆ จะได้รับสมบัติเซียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบช่วยเหลือผู้คน!”
“ใช่แล้ว! สำนักอสูรมายาของข้าจะช่วยเจ็ดสำนักเอง!”
“ข้านักพรตเต๋าแห่งหุบเขาจะช่วยอีกแรง!”
“ข้าด้วย!”
“ข้าก็ด้วย!”
“…”
พลันทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยความสนใจในสมบัติล้ำค่า เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ในที่แห่งนี้ต่างพากันลงมืออย่างพร้อมเพรียง!
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
พลังหลากหลายสายถูกส่งออกมา ทั้งของเทพสูงสุด เทพสวรรค์ เทพปฐพีและอื่น ๆ แม้ว่าในแต่ละสำนักจะไม่มีกึ่งเซียนผู้แข็งแกร่งอยู่เลย แต่หากผู้ฝึกยุทธ์กว่าแสนคนลงมือพร้อมกัน พลังที่รวมเข้าด้วยกันก็มิอาจประมาทได้เลย!
ตู้มมม!
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงกัมปนาทที่สั่นสะเทือนบริเวณโดยรอบขึ้น ข้อห้ามของประตูตำหนักสวรรค์สูงสุดถูกทำลายลงแล้ว!
“ยอมเยี่ยม!”
อู๋เซียนเหรินและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าไปในตำหนักเพื่อค้นหาสมบัติเซียนทันที!
เอี๊ยด!
ทว่าตอนนี้เอง ประตูตำหนักสวรรค์สูงสุดกลับถูกเปิดออกมาจากด้านอีกที เงาของกลุ่มคนที่มีกระบี่สะพายอยู่ด้านหลังค่อย ๆ ก้าวเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ ภายใต้การนำของบุคคลวัยเยาว์ในชุดคลุมธรรมดา ๆ!
“อ๊ะ! สำนักเซียนกระบี่!!”