ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 133 บุตรแห่งสวรรค์ตายตก กลับสู่สำนักจวินเทียน
- Home
- ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]
- ตอนที่ 133 บุตรแห่งสวรรค์ตายตก กลับสู่สำนักจวินเทียน
ตอนที่ 133 บุตรแห่งสวรรค์ตายตก กลับสู่สำนักจวินเทียน
คลื่นเสียงไร้สิ้นสุดประดุจระลอกคลื่นซัดสาดออกไป พร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว ทำให้เมืองหลวงเทพขนนกตกอยู่ในความโกลาหลทันที
“ผู้ใด!”
“ผู้ใดกล้าก่อความวุ่นวายให้กับราชวงศ์เทพขนนก!”
เสียงหวานดังกึกก้อง จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ ทันที และเวลานี้นางก็ได้เห็นบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน พร้อมด้วยผู้เฒ่าในชุดคลุมขาวดำ!
“หึ!”
“สำนักจวินเทียน!”
เมื่อเห็นลายปักบนเสื้อคลุมของทั้งสามแล้ว เหลียงอิ้นหยวนพลันอุทานออกมาในทันที
สีหน้าของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนเผยความมืดมนในบัดดล
เมื่อครั้งหนิงฝานสังหารบรรพบุรุษของสำนักเทพกระบี่ ภายหลังก็มีคนบอกว่าเขามีบุตรชายอยู่ในสำนักจวินเทียน
แม้หนิงฝานไม่สนใจ แต่หลัวชิงเซียนจดจำได้เป็นอย่างดี
และวันนี้อีกฝ่ายมาเพื่อแก้แค้นให้กับผู้เป็นบิดาแล้ว
“ท่านคือบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน? มาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้กับบิดาของท่านสินะ!”
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนมองชายหนุ่มในชุดสีม่วงพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
“หึ! ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าข้าคือบุตรแห่งสวรรค์ แต่ยังกล้าลงมือสังหารบิดาของข้า เจ้าคิดรนหาที่ตายหรือไร!” บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนเอ่ยคำ พร้อมปลดปล่อยจิตสังหารรุนแรงออกมา
“บุตรแห่งสวรรค์จงฟัง เป็นบิดาของท่านที่คิดทำลายราชวงศ์เทพขนนก แต่กลับล้มเหลว เขาจึงต้องประสบกับความตาย มิใช่ควาผิดผู้อื่น!” หลัวชิงเซียนกล่าวตอบ
“หึ ไม่ต้องกล่าวให้มากความ ทุกสิ่งล้วนไร้ประโยชน์ ในเมื่อเจ้ากล้าสังหารบิดาข้า วันนี้ก็สมควรเป็นวันตายของพวกเจ้าแล้ว!” บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนเย้ยหยันก่อนจะร้องคำราม
“อาวุโสเฮย อาวุโสไป่!”
ตู้ม! ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง อาวุโสดำขาวก้าวเดินออกมาพร้อมกัน ทั้งสองปลดปล่อยพลังอันน่าพรั่นพรึงระดับเทพปฐพีออกมา มันราวกับภูเขาไฟโบราณยิ่งใหญ่ปะทุขึ้น พลังศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
“วันนี้ ด้วยคำสั่งของบุตรแห่งสวรรค์ เราจะทำลายราชวงศ์เทพขนนกของพวกเจ้า!”
ผู้เฒ่าทั้งสองกล่าวพร้อมกันก่อนจะปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงออกมา
ตู้ม! ตู้ม!
ทั้งสองเหยียดฝ่ามือออก ท้องฟ้าคำรามสนั่นคล้ายจะพังทลายลง แล้วพลังงานขนาดใหญ่ก็ควบแน่นก่อเกิดเป็นฝ่ามือเทพเจ้าปกคลุมท้องฟ้าและบดบังแสงสุริยันจนหมดสิ้น ปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองเทพขนนก!
และด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ทำให้เมืองเทพขนนกตกอยู่ในสภาวะน่าหวาดหวั่น
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนที่เป็นผู้นำกลับไม่ได้เผยความกังวลมากนัก
เพราะว่า…
ชิ้ง!
พริบตานั้นเอง มีเสียงกระบี่สับฟันดังขึ้น ปราณกระบี่ทะยานออกมาจากพระราชวังจักรพรรดินีสองลำแสง ตัดฝ่ามือยักษ์บนท้องฟ้าอย่างง่ายดาย… แล้วโลหิตก็หลั่งรินลงมาราวกับห่าฝนทะลัก
พรึ่บ!
หลังจากสับฟันฝ่ามือยักษ์ตรงหน้าแล้ว พลังของปราณกระบี่นั้นยังไม่ลดลง มันพุ่งทะยานเข้าหาอาวุโสขาวดำตรงหน้าต่อ!
“อะไรกัน?!”
เมื่อเห็นปราณกระบี่รุนแรงพุ่งเข้ามา อาวุโสทั้งสองพลันเผยสีหน้าหวาดหวั่นทันที
“ฮึ่ม!”
เพียงเสี้ยวลมหายใจ พลังระดับเทพปฐพีก็ทะลักออกจากร่างของอาวุโสขาวดำก่อเกิดเป็นปราการป้องกันอย่างรวดเร็ว มันคือเกราะไร้สิ้นสุดพยายามต้านทานปราณกระบี่ที่บุกจู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหันนี้
ตู้ม! ตู้ม!
ทว่าเมื่อปราณกระบี่มาถึง ปราการไร้ลักษณ์กลับระเบิดออกในทันที ตามด้วยเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ทั้งสองอาวุโสกระอักโลหิตคำใหญ่ ก่อนจะถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!”
“อาวุโสเฮย! อาวุโสไป่!”
เมื่อเห็นว่าอาวุโสที่อยู่ในระดับเทพปฐพีพ่ายแพ้กระบี่เพียงหนึ่งกระบวนท่า สีหน้าเย่อหยิ่งของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนถึงกับจางหาย ทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว!
จบสิ้นแล้ว!
ระหว่างการเดินทางคราวนี้ ที่พึ่งพายิ่งใหญ่ของเขาคืออาวุโสขาวดำทั้งสอง แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าผู้ปกป้องตนจะอ่อนแอถึงเพียงนี้!
พรึ่บ!
ตอนนี้เอง หนิงฝานปรากฏตัวขึ้นกลางเวหาในชุดคลุมเรียบง่าย แววตาเย็นชาจับจ้องบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนครู่หนึ่ง ก่อนจะมุ่งตรงเข้าหาอีกฝ่ายทีละก้าว
“เจ้า!”
“เจ้าคิดทำสิ่งใด!?”
เมื่อเห็นหนิงฝานกำลังเข้ามาใกล้ บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนพลันเอ่ยอย่างตื่นตระหนก
ตึก!
หนิงฝานไม่คิดแยแส เขายังคงก้าวเท้าต่อไป
ก่อนจะคว้าร่างของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนไว้ในมือ
พลังไร้ลักษณ์อันน่าพรั่นพรึงสะกดข่มร่างกายของอีกฝ่ายเอาไว้ จนอ่อนปวกเปียกไร้แรงต้าน
“อ๊าก! ปล่อยข้า!”
“ข้าคือบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนแห่งสำนักจวินเทียนผู้ทรงพลังที่สุดในสี่แคว้นรอบนอก หากเจ้ากล้าสังหารข้า สำนักจวินเทียนของข้าจะบุกทำลายราชวงศ์เจ้าแน่นอน!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามชีวิต บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนก็รีบเอ่ยข่มขู่ทันที
“เหอะ! พวกปากพล่อยอีกแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนกล่าวเหยียดหยาม หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด
ศัตรูเช่นนี้ช่างมีมากมายนัก หลังจากสังหารคนหนุ่มสาว คนแก่ก็จะบุกเข้ามา หลังจากสังหารคนชราแล้ว ก็ยังมีเด็กหนุ่มบุกมาอีก และจากนี้ยังจะมีเหล่าเฒ่าอาวุโสมาอีกงั้นหรือ!
เมื่อใดเรื่องนี้จึงจะจบสิ้นเสียที!
ครุ่นคิดเช่นนี้แล้ว หนิงฝานจึงยังไม่ลงมือสังหารบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนในทันที เพราะมีแผนการอื่นที่อยากกระทำ
อืม!
พริบตานั้นเอง เขาเปลี่ยนจากมือเป็นกรงเล็บคมปลาบจับกุมร่างของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนเอาไว้
“กระชากวิญญาณ!”
ขณะหนิงฝานกล่าวคำ ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งทะยานเข้าหาร่างของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนทันที
อ๊ากกกก!!!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเจ็บปวดของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน หนิงฝานจึงเข้าใจทุกสิ่งที่อยู่ภายในความทรงจำของอีกฝ่าย
“บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน! เจ้าสำนักจวินเทียนแห่งแคว้นโลกา? งานประชันจวินเทียน!”
แววตาของหนิงฝานเปล่งประกาย ก่อนจะขว้างบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนออกไป
“อ๊ะ!”
“บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน!”
เมื่อเห็นว่าบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนตายตกอย่างกะทันหัน ผู้เฒ่าทั้งสองที่บาดเจ็บสาหัสก็กรีดร้องจนลืมความเจ็บปวด
จากนั้นทั้งสองหันกลับมาพ่นถ้อยคำใส่หนิงฝานอย่างเกรี้ยวกราด
“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ผลลัพธ์ของการสังหารบุตรสวรรค์แห่งสำนักจวินเทียนจะเป็นอย่างไร!”
“เจ้ากล้าสังหารบุตรสวรรค์สำนักจวินเทียนของข้า เวลานี้เป็นเจ้าที่นำพาภัยพิบัติมาสู่ราชวงศ์เทพขนนก!”
หลังจากทั้งสองกล่าวว่า หนิงฝานก็ไม่คิดตอบคำ เขาดึงเอาวิญญาณปฐมภูมิของทั้งสองออกมาเพื่อควบคุมชีวิตของพวกเขา
“เจ้าสองคน… จะยอมจำนนหรือยอมตาย เลือกหนทางเสีย!”
หนิงฝานยกยิ้มเย็นชา
“พวกเรา… ยอมจำนน!”
ท้ายที่สุด ผู้เฒ่าทั้งสองก็ยังต้องการมีชีวิตต่อไป
ในเวลาเดียวกันก็มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายสามคนวิ่งตรงเข้าสู่แคว้นรกร้างเพื่อแก้แค้นให้กับผู้เป็นบิดา แต่เพียงครู่เดียวชายหนุ่มผู้นั้นตายตก และอาวุโสทั้งสองก็ตกเป็นเชลยของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้กลับตาลปัตรได้อย่างไร…
ในที่สุด ความวุ่นวายทั้งหมดสงบลงอย่างรวดเร็ว
ราชวงศ์เทพขนนกกลับคืนสู่ความผ่อนคลายอีกครั้ง
ทว่าจักรพรรดินีหลัวชิงเซียน ขันทีเว่ย เหลียงอิ้นหยวน และคนอื่น ๆ ยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมกันอยู่
“สามี สำนักจวินเทียนคือกองกำลังอันดับหนึ่งในสี่แคว้นรอบนอก เวลานี้บุตรแห่งสวรรค์คนหนึ่งของพวกเขาตายตกเพราะเงื้อมมือของเรา สำนักจวินเทียนย่อมไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้เป็นแน่!”
“ถูกต้องแล้ว! นายท่าน มีข่าวลือว่ากู่จวินเทียน เจ้าสำนักจวินเทียนคือ เทพยุทธ์ระดับเทพสวรรค์!”
ขณะที่กล่าวคำ ใบหน้าของพวกเขาทั้งหดหู่และหม่นหมอง
นับตั้งแต่ที่พลังจิตวิญญาณฟ้าดินปรากฏขึ้น ศัตรูของราชวงศ์เทพขนนกก็ปรากฏตัวราวกับแมลงวัน มีการสู้รบเข่นฆ่าไม่สิ้นสุด
“ไม่ต้องกังวลไป!”
“เรื่องนี้ข้าคิดแผนตั้งรับไว้แล้ว”
หนิงฝานกล่าวคำพร้อมโบกมือ
“เคล็ดแปลงร่างเทพปีศาจ!”
จากนั้นเขาใช้พลังที่ได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้ภายในถ้ำปีศาจบรรพกาล แปลงกายเป็นบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนที่เพิ่งตายตกเมื่อครู่
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา น้ำเสียง หรือแม้แต่ออร่าวิญญาณ ทุกสิ่งล้วนเหมือนกันทุกประการ!
หากหนิงฝานไม่คิดเปิดเผย ย่อมไม่มีผู้ใดมองเห็นร่างที่แท้จริงของเขาได้
“สามี ท่านคิดทำสิ่งใด?”
เมื่อเห็นหนิงฝานกระทำเช่นนี้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ถึงกับตกตะลึง
“ตราบใดที่ข้าปรากฏตัวภายในสำนักจวินเทียนในฐานะบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน สำนักจวินเทียนจะไม่ทราบข่าวการตายของบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน และข้ายังสามารถใช้โอกาสนี้ลักลอบตรวจสอบสำนักจวินเทียนได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะศัตรูได้แล้ว!” หนิงฝานยกยิ้มจาง
“เรื่องนี้…”
หลัวชิงเซียนเงียบงัน แม้หนิงฝานจะลักลอบเข้าสู่สำนักจวินเทียนได้ แต่การเข้าสู่ถ้ำเสือย่อมมากด้วยความเสี่ยง
นางกล่าวคำอย่างกังวล “ท่านต้องการให้ข้าไปด้วยหรือไม่?”
“ที่รัก เจ้าสมควรอยู่ปกป้องราชวงศ์เทพขนนกให้สบายใจเถิด ข้าจะจัดการเรื่องสำนักจวินเทียนเอง!”
หนิงฝานส่ายศีรษะพร้อมหันไปกล่าวกับผู้อาวุโสขาวดำข้างกาย “พาข้าไปที่สำนักจวินเทียน หากไม่ต้องการให้วิญญาณปฐมภูมิของเจ้าแตกสลาย ก็อย่าได้คิดแข็งข้อ!”
“ทราบแล้ว!”
อาวุโสทั้งสองตื่นตระหนกเมื่อได้ทราบแผนการที่บ้าคลั่งของหนิงฝาน
แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาไม่มีทางเลือก เช่นนี้จึงต้องพาหนิงฝานออกจากราชวงศ์เทพขนนก และตรงสู่สำนักจวินเทียน!