ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 107 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ ศัตรูทั้งหมดถูกทำลาย
- Home
- ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]
- ตอนที่ 107 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ ศัตรูทั้งหมดถูกทำลาย
ตอนที่ 107 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ ศัตรูทั้งหมดถูกทำลาย
“ครึ่งก้าวเทพยุทธ์… ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะหลินไท่ซูหรือว่าผู้ปกครองอีกสามราชวงศ์ใหญ่ ร่างจริงล้วนไปถึงขอบเขตครึ่งก้าวเทพยุทธ์แล้ว”
หนิงฝานขมวดคิ้วแน่น ขณะเดียวกันในใจก็รู้สึกชื่นชมขึ้นมา
เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า คำกล่าวนี้นับว่าถูกต้องแล้ว!
โชคดีที่เขาถือคติอยู่อย่างสงบสุขมาตลอด และตั้งใจว่าจะไปถึงความเป็นอมตะให้ได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใด ไม่เช่นนั้นเขาคงได้พลาดท่าเข้าสักวัน!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
บนอากาศเวลานี้ ผู้ปกครองทั้งสี่ราชวงศ์ใหญ่ต่างปะทะกันอย่างดุเดือด พลังงานไร้เทียมทานโหมกระหน่ำเข้าซัด ไม่ต้องพูดถึงในสนามรบ แม้แต่เศษเสี้ยวพลังของเขายังสามารถจัดการปราชญ์ยุทธ์สามสวรรค์ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าหลินไท่ซูจะเป็นร่างจริง แต่เมื่อต้องสู้หนึ่งต่อสาม ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาก็ใกล้อ่อนล้าลงเต็มทนแล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้องปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า หลินไท่ซูยิ่งรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ตู้ม!
แน่นอนว่าหลังจากปะทะกันหลายพันกระบวนท่า ร่างเงาของผู้ปกครองทั้งสามราชวงศ์พลันผนึกพลังกันก่อนจะกระตุ้นอาวุธเทพปราบศักดาแล้วใช้ออก ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามสายระเบิดออก พัวพันกันจนกลายเป็นร่างมังกรพิโรธพุ่งเข้าใส่หลินไท่ซูที่ถือกระบี่เทพขนนกอยู่
บึ้ม!
บังเกิดเสียงโลหะระเบิดที่น่าตื่นกลัวขึ้น พลังงานที่มหาศาลนี้ส่งหลินไท่ซูทะยานออกไปทันที ทันทีที่หยุดลง เขาก็กระอักเลือดออกมา สีโลหิตกลายเป็นสีเหลืองราวกับหญ้าที่แห้งเหี่ยว ดูแล้วน่าขนลุกขนพองพอควร!
“ฮ่า ๆๆ หลินไท่ซู เจ้าสู้ไม่ไหวแล้ว!”
“เทพมังกรประทานโชคของราชวงศ์เทพขนนกก็ตายแล้ว เจ้าจะยังหยิบยืมโชคได้สักเท่าไรกันเชียว!”
“หลายปีมานี้ พวกเราสามราชวงศ์ใหญ่เตรียมการมามากมายเพื่อเจ้า ราชวงศ์เทพขนนกของพวกเจ้าถึงคราวต้องล่มสลายแล้ว!”
ผู้ปกครองของสามราชวงศ์ใหญ่เผยยิ้มเย้ยหยัน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชาและดุดัน
“องค์จักรพรรดิ!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์เทพขนนกที่นำโดยบรรพบุรุษของจักรพรรดิเก้ามังกร ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ ต่างพากันร้องเรียกด้วยความตกใจ แววตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“องค์จักรพรรดิ พวกเราจะช่วยท่านเอง พวกเรายอมเสียสละตนเพื่อเพิ่มพลังชีวิตให้ท่าน!”
ขันทีเว่ยเอ่ยขึ้น เมื่อรู้สภาพการณ์ของหลินไท่ซูและต้องการยื่นมือออกไปช่วย
ทว่าหลินไท่ซูกลับโบกมือห้ามทุกคน
เขาทอดสายตามองไปไกลสุดสายตา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุภูผานทีร้อยล้านลี้ในราชวงศ์เทพขนนกได้ แววตาฉายความอาลัยอาวรณ์และการจากลา
เมื่อถอนสายตากลับมา หลินไท่ซูพลันตะโกนกร้าว น้ำเสียงสั่นเหมือนระฆังดังกึกก้องไปทุกทิศทาง
“ข้า หลินไท่ซู ผู้ปกครองลำดับที่เก้าของราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้าละอายต่อบรรพบุรุษของราชวงศ์เทพขนนก แต่ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้รากฐานของราชวงศ์ที่มีมากว่าหมื่นปีต้องล่มสลายไปในมือข้า!”
“วันนี้ข้าจะเชิญบรรพบุรุษเทพขนนกมาเพิ่มพลังวิญญาณ ข้าจะเผาวิญญาณของข้า สังเวยร่างกายของข้าเพื่อที่จะได้เห็นขอบเขตแห่งเทพ!”
ตู้ม!
สิ้นเสียงเอ่ย แสงศักดิ์สิทธิ์แปดสายพลันพวยพุ่งออกมาจากสุสาน แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดสายนี้ราวกับมีร่างเงาเลือนรางอยู่ ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของผู้ปกครองราชวงศ์เทพขนนกแปดรุ่นก่อน
วูบ!
แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดพุ่งเข้าร่างหลินไท่ซูภายในพริบตาเดียว ในเวลานี้เอง ลมหายใจของหลินไท่ซูพลันหนักหน่วงขึ้น
หลินไท่ซูราวกับว่าไม่สามารถรับพลังงานนี้ได้ และมันก็ทำให้ร่างกายของเขาเหมือนจะสูญสลายไปทั้งร่าง
“เผาวิญญาณ สังเวยร่างกาย!”
ทว่าหลังจากหลินไท่ซูตะโกนออกมาแล้ว ร่างกายและวิญญาณของเขากลับลุกไหม้อย่างรุนแรง ออร่าที่น่าสะพรึ่งกลัวเพิ่มพูนขึ้นมาอีกครั้ง!
ฮึ่ม!
ทันใดนั้น เมื่อกลิ่นอายหนักหน่วงเพิ่มขึ้น เบื้องหลังของหลินไท่ซูพลันปรากฏเงาร่างเลือนรางสูงประมาณหนึ่งพันจั้ง และในเวลาเดียวกัน ออร่าอันน่าพรั่นพรึงที่ไม่เคยมีมาก่อนพลันแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ กวาดล้างทั้งสวรรค์และพิภพด้วยความโกรธ!
ภายใต้กลิ่นอายนี้มันทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับตนเองคือมด ทั่วทั้งเมืองเทพ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนธรรมดาหรือปราชญ์ยุทธ์ พวกเขาล้วนคุกเข่าลงตามสัญชาตญาณ
ทั้งตื่นตกใจ หวาดกลัว และสั่นเทา…
ขอบเขตแห่งเทพ!
ในเวลานี้ หลินไท่ซูได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
“นี่เป็น…ขอบเขตเทพยุทธ์เทพยุทธ์งั้นหรือ”
ในตอนนี้แม้ว่าร่างจริงของหนิงฝานจะไม่ได้คุกเข่าลง แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวจากหลินไท่ซู
สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลังจากที่หลินไท่ซูก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์แล้ว ทันใดนั้น แสงศักดิ์สิทธิ์พลันสว่างวาบไปทั่วจิตใจของเขา
นั่นคือโอกาสของเขา!
“ฮ่า ๆ”
“ฮ่า ๆๆ”
“ฮ่า ๆๆๆ”
ในตอนนี้เอง ร่างเงาของผู้ปกครองทั้งสามไม่เพียงไม่เกรงกลัวหลินไท่ซูที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพแล้ว แต่ยังหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“หลินไท่ซู เจ้ารีบร้อนเกินไปแล้ว ไม่สิ ต้องพูดว่าเจ้าไร้ทางเลือกต่างหาก!”
“ดี! ดีมาก! เจ้าเผาวิญญาณ สังเวยร่างกายเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ ตอนนี้ผู้ใดก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เจ้าต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา!”
“หลินไท่ซู รอก่อนเถิด รอหลังจากที่ร่างของเจ้าตกลงมาแล้ว เมื่อนั้นราชวงศ์เทพขนนกของเจ้าจักต้องล่มสลาย!”
ผู้ปกครองทั้งสามราชวงศ์ใหญ่ต่างหัวเราะเยาะไม่หยุด
หลินไท่ซูยังคงเงียบขณะที่ทั้งสามคนพูด แม้ว่าเขาจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพแล้ว แต่กลับสามารถหายไปราวกับถานฮัวชั่วข้ามคืน*[1]
ทว่าวันนี้…หากไม่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ ราชวงศ์เทพขนนกของเขาก็ต้องตกอยู่ในอันตราย!
แม้ด้วยเหตุนี้ แต่เขาก็ไม่เสียใจเลย
“ทลาย!”
หลินไท่ซูตะโกนเสียงเย็น พร้อมกับยกมือขึ้น
ร่างเงาผู้ปกครองของสามราชวงศ์ใหญ่ไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด นี่เพราะขอบเขตเทพไม่ใช่จุดที่ร่างเงาทั้งสามของพวกเขาจะสามารถขัดขวางได้
ปัง! ปัง! ปัง!
หลังจากสะบัดมือยักษ์ออกไปก็บังเกิดพลังแห่งเทพไร้เทียมทาน ทำให้ร่างเงาผู้ปกครองแห่งสามราชวงศ์ใหญ่แตกสลายไปราวกับฟองสบู่
เพียงแต่ก่อนหายไป เสียงอันเยือกเย็นไร้ความปรานีดังมาจากผู้ปกครองทั้งสามพร้อมกัน
“หึ! เมื่อใดก็ตามที่กองทัพของพวกเราอยู่ที่ประตูเมือง มันจะเป็นวันที่ราชวงศ์เทพขนนกของเจ้าจะล่มสลาย!”
…
ร่างเงาผู้ปกครองทั้งสามแตกสลายไป แน่นอนว่าอาวุธเทพปราบศักดาก็กลายเป็นลำแสงศักดิ์สามสาย มุ่งกลับไปยังดินแดนของสามราชวงศ์ใหญ่
แม้เห็นเช่นนั้น แต่หลินไท่ซูก็ไม่ได้ขัดขวาง
เขาหันกลับไปมองกลุ่มปราชญ์ยุทธ์ที่นำโดยหยางเทียน กู่หวง และชิงซือ
“ไม่!”
“ปล่อยพวกเราไป!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น หยางเทียน กู่หวง และชิงซือต่างรีบคุกเข่าอ้อนวอน พวกเขารู้ว่าตนเองถูกผู้ปกครองทั้งสามทอดทิ้งแล้ว
ทว่าก็ไร้ประโยชน์ เมื่อฝ่ามือของหลินไท่ซูสะบัดคราเดียว นอกจากปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์และจิ้งจอกเก้าหาง คนอื่น ๆ ล้วนสลายหายไป
ศัตรูทุกคนที่มาร่วมพิธีของราชวงศ์เทพขนนกหายไปอย่างสมบูรณ์
“องค์จักรพรรดิ!”
ยามนี้เมื่อทุกคนในราชวงศ์เทพขนนกเห็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของหลินไท่ซูกลับไม่ได้แสดงออกถึงความสุข ตรงกันข้าม พวกเขาต่างมีสีหน้าเป็นกังวลและทุกข์ใจ
เมื่อฟังจากคำพูดของผู้ปกครองทั้งสามของราชวงศ์ใหญ่ แม้หลินไท่ซูจะเลื่อนขั้นก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพแล้ว แต่อีกไม่นานก็จะล้มลงและมันไม่มีผู้ใดช่วยเขาได้
“กลับวัง”
หลินไท่ซูไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหายลับไปในความว่างเปล่าทันที
หลังจากที่หลินไท่ซูไปแล้ว จตุรัสลานพิธีของราชวงศ์เทพขนนกแห่งนี้ก็ถูกปล่อยเลยตามเลย
เพียงแต่ทุกคนต่างรู้ว่า ต่อไปในภายภาคหน้าทั้งราชวงศ์เทพขนนกจะต้องเผชิญกับอันตรายที่เดิมพันด้วยความเป็นความตายอย่างแท้จริง
ดังนั้นหลังจากเสร็จสิ้นพิธี ขุนนางทั้งหลายและเหล่าองค์ชายต่างก็พากันหนีออกจากเมืองเทพขนนก เพราะหวาดกลัวว่าพวกเขาจะย่อยยับไปด้วย!
ทว่าจักรพรรดิทั้งเจ็ด บรรพชนทั้งสิบ ผู้นำของร้อยอาณาจักรที่ครั้งหนึ่งเคยหมิ่นเกียรติราชวงศ์เทพขนนก แต่เพราะมีพระราชลัญจกรอยู่ จึงล้วนไม่ได้หนีหายจากไป
ในท้ายที่สุด หลังจากที่หลินไท่ซูเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่วิหารทองคำ
*[1] ถานฮัวชั่วข้ามคืน เป็นสำนวนจีน หมายถึง ช่วงเวลาที่สวยงาม มักจะปรากฏเพียงระยะเวลาอันสั้น