ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 751 : เขตดาวโบไลด์ – ผู้พิทักษ์
ตอนที่ 751 : เขตดาวโบไลด์ – ผู้พิทักษ์
มันไม่เหมือนสัตว์อสูรไฟที่เขาพบมาก่อนหน้านี้ สัตว์อสูรไฟนี้ดูแกร่งกว่าอย่างมาก ร่างกายของมันไม่ได้ปกคลุมไปด้วยไฟแบบเดิม กลับกันแล้วมันกลับใส่เกราะและมีดาบคาดที่เอว มันราวกับนายพลเก่าแก่ที่คอยดูแลที่แห่งนี้
ไม่ใช่แค่นั้น แต่สัตว์อสูรไฟทั้งสองนี้ก็ดูเหมือนจะรับรู้ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนที่หวังเย่าคิดจะแอบเข้าไปนั้น ทั้งสองก็ได้ลงมือกับหวังเย่าทันที
หวังเย่ารีบถอยกลับมาด้วยความลนลานและเว้นระยะห่างจากประตู จากนั้นผู้พิทักษ์ทั้งสองจึงหยุดไล่ตามเขา
หวังเย่าตกตะลึงอย่างมาก เขาใช้ไฟหยินหยางปกคลุมตัวเอาไว้แล้ว สัตว์อสูรไฟทั่วไปไม่อาจจะรับรู้ตัวตนของเขาได้ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้แผ่คลื่นพลังออกมาแม้แต่น้อยตอนที่จะพุ่งเข้าไป
หลังจากที่ไล่ตามมาได้แค่ 100 ฟุต ผู้พิทักษ์ทั้งสองก็หยุดไล่ตามและกลับไปเฝ้าประตูดังเดิม
มันมีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือทั้งสองนั้นมีความสามารถในการตรวจจับที่สูง พวกมันมีหน้าที่เฝ้าประตูนี้เพื่อไม่ให้ใครผ่านเข้าไป
หวังเย่าพบว่าความแข็งแกร่งของผู้พิทักษ์ทั้งสองสูงอย่างมาก ด้วยความช่วยเหลือจากระบบเขาก็ได้ข้อมูลของผู้พิทักษ์ทั้งสองมา
ชื่อ : ผู้พิทักษ์ไฟ เลเวล : 145 ระดับ : ไม่มีสกิล : สูบเลือด สูบเลือดของเป้าหมายและสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมาย 10 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เป้าหมายอ่อนแอลงทั้งความเร็วในการเคลื่อนที่, โจมตี, ตอบโต้ลดลง 30 เปอร์เซ็นต์, ดาบแสง ชักดาบออกมาโจมตีอย่างรวดเร็วใส่คนที่ผ่านเข้ามา สร้างความเสียหายแบบโดยตรง, ดาบไฟ ทำการโจมตีเต็มกำลังปล่อยเลือดไฟออกมาในระยะ 50 เมตร หากโดนจะเสียเลือดไป 15 เปอร์เซ็นต์ เลือดที่เสียไปจะเพิ่มพลังให้กับคลื่นไฟนี้
หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลของผู้พิทักษ์ทั้งสองแล้ว หวังเย่าก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง เขาไม่คิดเลยว่าผู้พิทักษ์จะแกร่งได้ถึงเพียงนี้
“ไม่ใช่แค่ไม่มีระดับ แต่ยังมีสกิลที่แข็งแกร่ง…ผู้พิทักษ์ไฟ ดูเหมือนว่าคงเข้าไปในเขตหวงห้ามไม่ได้ง่าย ๆ แล้วสิ ! ” เมื่อหวังเย่าเห็นข้อมูลของผู้พิทักษ์ทั้งสอง เขาก็รู้สึกถึงบางอย่าง
ทันใดนั้นก็มีร่างสองร่างโผล่มาจากแหวนอสูรของเขา จ้าวแห่งแมวและเอไนน์ออกมาด้านนอก เมื่อเห็นสถานการณ์รอบตัว เอไนน์ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ “ทำไมที่นี่ถึงมีแต่ไฟ ! ไฟที่คอยเผาผู้คน ! ”
เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเอไนน์ หวังเย่าก็มองไปที่เธอแล้วพูดขึ้น “เธอชอบเล่นกับไฟไม่ใช่รึไง ไม่งั้นแล้วเธอคงเป็นแฟนของแฟนธอมไม่ได้”
แม้ว่าสภาพแวดล้อมที่นี่จะย่ำแย่ แต่อุณหภูมิก็ไม่ได้สูงนัก สำหรับร่างสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างเอไนน์แล้ว ที่นี่ไม่ต่างจากน้ำพุร้อน มันแค่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดนิด ๆ ก็เท่านั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า เอไนน์ก็ก้มหน้าและยิ้มออกมาทันที “พูดตลกไปได้ ! ”
แมวที่อยู่ข้าง ๆ มองไปรอบ ๆ และพูดกับหวังเย่า “นี่เจ้ามาถึงชั้นสี่แล้วหรือ ? ”
หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น “ ใช่ แต่สถานการณ์ที่นี่แย่กว่าที่ฉันคิดไว้ ฉันคงต้องขอให้นายช่วย”
แมวมองไปยังผู้พิทักษ์สองตัวตรงหน้าด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนจะถามขึ้นมา “นี่ไม่ใช่สัตว์อสูรไฟทั่วไป มันมาจากไหนกัน ? สัตว์อสูรไฟสองตัวนี่เลเวลเกือบ 150 พวกมันจัดการได้ยากอย่างมาก”
“ที่นี่งั้นหรือ ? ฉันเดาว่าน่าจะเป็นหุบเขามังกร ฉันโดนไล่ล่าจนต้องมาหยุดที่นี่ และเกรงว่าการจะฝ่าเข้าไปคงยาก” หวังเย่าอธิบายออกมา
“ว่าไงนะ ? ” แมวขมวดคิ้วและมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าบ้ารึไงถึงได้หนีมาที่นี่ ? เจ้ารู้ชื่อของหุบเขานี้หรือไม่ ก่อนจะหนีเข้ามา ? ”
หวังเย่าเห็นแมวพูดแบบนั้นก็ตกใจก่อนจะพูดขึ้น “นายก็ตื่นตระหนกเกินไป ? ฉันใช้ไฟหยินหยางปกคลุมร่างกายเพื่อปกปิดคลื่นพลัง ระหว่างทางไม่ได้เจออะไรที่เสี่ยงเลย จนมาถึงที่นี่แหละ แต่ใครจะไปคิดว่าจะต้องมาเจอกับสัตว์อสูรไฟสองตัวที่นี่” หวังเย่าพึมพำออกมา
เขาโดนหยุนซีไล่ล่ามา หวังเย่าได้เล่าเรื่องนี้จนทำให้แมวเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องหนีมายังที่นี่ แม้แต่คนระดับสูงก็ไม่คิดจะเข้ามา เมื่อเขาเข้ามาได้แล้วพูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้ได้แต่ต้องจัดการปัญหาตรงหน้าก่อน
หวังเย่าพูดขึ้น “ผู้พิทักษ์สองตัวนี้เหมือนจะคอยปกป้องประตูอยู่ไม่ให้ใครเข้าไป พวกนี้จะไม่ออกนอกเหนือจากระยะของประตูแน่”
หวังเย่าส่งข้อมูลของผู้พิทักษ์ทั้งสองให้กับแมว ก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปที่ประตู เอไนน์รออยู่ด้านนอก เธอนั้นไม่ได้เก่งเรื่องการต่อสู้ มันไม่จำเป็นที่เธอจะต้องมาเสี่ยงกับทั้งสอง หากคิดจะช่วยก็สามารถใช้สกิลจากระยะไกลได้
ในตอนที่ทั้งสองเข้าไปในระยะ 100 ฟุตจากประตู ผู้พิทักษ์ทั้งสองก็รับรู้ถึงพวกเขาได้ และคำรามออกมาราวกับเป็นการเตือน
“ไป ! ” หวังเย่าเห็นท่าทีของผู้พิทักษ์ทั้งสองก็ได้บอกกับแมวทันที
ทั้งสองได้พุ่งเข้าไปที่ประตูด้วยความเร็วสูงสุด ในพริบตาพวกเขาก็ไปถึงตรงหน้าประตูได้ แต่ผู้พิทักษ์ทั้งสองนั้นไม่ได้อ่อนแอ พวกนั้นตอบโต้ได้เร็วกว่าสัตว์อสูรไฟปกติหลายเท่า ตอนที่ทั้งสองพุ่งไปที่ประตู ผู้พิทักษ์ก็ได้มาขวางทั้งสองเอาไว้แล้ว
ปัง !
หวังเย่าต่อยเข้าใส่ผู้พิทักษ์ตัวหนึ่งก่อนจะที่มันจะกระเด็นออกไป ตอนที่มันกระเด็นออกไปนั้นมันก็ได้ใช้เท้าถีบเข้าที่อกของหวังเย่ากันไม่ให้เขาเดินหน้าต่อได้ แมวได้จัดการกับผู้พิทักษ์อีกตัว ทั้งสองได้ปะทะกัน กรงเล็บได้ข่วนเข้าใส่เกราะของผู้พิทักษ์จนเกิดเสียงแสบแก้วหูดังขึ้นมา
ทันทีที่หวังเย่าประคองตัวเองได้ เขาก็ถีบตัวพุ่งเข้าไปหาผู้พิทักษ์ต่อทันที
เมื่อผู้พิทักษ์ประคองตัวเองได้ มันก็เผยสีหน้าโกรธแค้นออกมาภายใต้หมวกเหล็ก
ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ปีแล้ว ที่ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องพวกมันเลย ไม่แปลกเลยที่มันจะโกรธแบบนี้
ผู้พิทักษ์ดึงเอาดาบออกมาจากเอว ก่อนจะฟันเข้าใส่หวังเย่า
หวังเย่าเอียงตัวหลบพร้อมกับดาบที่ฟาดลงใส่พื้น พื้นดินโดนเฉือนไปกว่า 10 เมตรและแผ่ความร้อนออกมา หวังเย่า ใช้โอกาสนั้นดึงมีดออกมาจากกระเป๋ามิติแล้วแทงเข้าใส่ที่คอของผู้พิทักษ์ทันที
ผู้พิทักษ์กันการโจมตีของหวังเย่าไว้ได้ และจับเข้าที่คอของหวังเย่า แม้ว่าผู้พิทักษ์จะมีร่างเหมือนกับมนุษย์ แต่มันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป มือของมันเป็นเหมือนกับกรงเล็บเหยี่ยว หากมองดูดี ๆ แล้วก็จะพบว่าแขนที่อยู่ใต้เกราะก็เหลือแต่กระดูก
หวังเย่าไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย ไฟของผู้พิทักษ์นี้มีพลังอันรุนแรงที่เผาผลาญเลือดของผู้คนได้ ยิ่งไปกว่านั้นกรงเล็บของมันก็คมกริบเทียบกับกรงเล็บของแมวได้ ไม่ไกลจากนั้นแมวยังคงสู้กับผู้พิทักษ์อีกตัวอยู่ มันทำให้เขาตัดสินความแข็งแกร่งของผู้พิทักษ์ได้ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนที่หวังเย่ากำลังเหม่ออยู่นั้น ผู้พิทักษ์ก็ได้ดึงดาบออกมา และฟันเข้าใส่ร่างของหวังเย่า
หวังเย่ารีบพลิกตัวหลบ แต่ผู้พิทักษ์นั้นรวดเร็วอย่างมาก ในตอนที่หวังเย่าเพิ่งจะหลบการโจมตีได้ ก็มีการโจมตีที่รุนแรงกว่าอัดเข้าใส่ตัวเขา
หวังเย่าต้องดึงดาบออกมาเพื่อรับการโจมตีเอาไว้
ปัง
ต่อหน้าการโจมตีของผู้พิทักษ์แล้ว หวังเย่าก็ต้องเปลี่ยนมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยากที่จะรับการโจมตีของมันได้ แม้แต่โล่ในมือก็โดนตัดออกเป็นชิ้น ๆ หวังเย่าใช้โอกาสนั้นล็อคเข้าที่ข้อมือของผู้พิทักษ์เพื่อที่มันจะได้โจมตีไม่ได้
ในเวลาเดียวกันก็ซัดฝ่ามือออกไป ก่อนจะมีร่างฉลามไฟตัวโตปรากฏขึ้นมา
“ทลาย ! ” หวังเย่าตะโกนออกมาก่อนที่ฉลามไฟจะพุ่งเข้าใส่ร่างของผู้พิทักษ์ ส่วนดาบในมือของผู้พิทักษ์นั้นโดน หวังเย่าแย่งมาได้
หวังเย่าใช้โอกาสนั้นฟันดาบเข้าใส่หวังจะตัดผู้พิทักษ์ออกเป็นสองส่วน แต่ตอนนั้นหวังเย่ากลับพบว่าผู้พิทักษ์ไม่ใช่แค่ไม่หลบ แต่ยังอ้าปากออกมา มันเผยให้เห็นฟันที่แหลมคม มันทำให้หวังเย่ารู้สึกได้ถึงพลังานที่ซ่อนอยู่ในปากของมัน
“ท่าจะไม่ดีแล้ว ! ” หวังเย่ารีบใช้สกิลโจมตีเข้าใส่หัวของผู้พิทักษ์แล้วรีบถอยออกมา
วินาทีที่หวังเย่าหลบออกมาได้ ก็มีลำแสงถูกยิงออกมาจากปากของผู้พิทักษ์ตามด้วยแรงสูบอันรุนแรงที่ทำให้ดอกไม้และใบหญ้าที่นั่นกลายเป็นเถ้าไปในทันที
ดอกไม้ที่นี่สร้างขึ้นโดยไฟ บางทีเพราะสภาพแวดล้อมพิเศษของที่นี่จึงทำให้ต้นไม้มีพลังชีวิตอยู่ แต่หากเทียบกับสิ่งมีชีวิตทั่วไปแล้วก็แทบจะมองข้ามได้ ในระยะ 4-5 เมตรนั้นดอกไม้และต้นไม้ต่างก็โดนสูบและเผาจนกลายเป็นเถ้าไป
หวังเย่าเห็นพลังสกิลของผู้พิทักษ์ แม้ว่าจะไม่ได้รับการโจมตีด้วยตัวหยุนชัวเอง แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่สามารถปลิดชีวิตของเขาได้ หากเขารับการโจมตีนี้เข้าก็คงเจ็บหนักแน่