ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 716 : หยุนซี vs ฟู่หมิง
ตอนที่ 716 : หยุนซี vs ฟู่หมิง
หยุนเชายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา เด็กนี่จะตายอยู่แล้วแต่ยังปากดีอยู่ ลำแสงได้รวมตัวกันที่ปลายกระบอก เขาคิดจะฆ่าหวังเย่าจริง ๆ
ตอนที่ลำแสงที่เพียงพอจะฆ่าคนเลเวล 140 นี้ได้พุ่งเข้าหาหวังเย่า มันกลับมีกระดาษสีเงินลอยมาอยู่ตรงหน้าหวังเย่าแทน
ยันต์นี้ได้ก่อตัวเป็นโล่พลัง เมื่อลำแสงอัดเข้ากับโล่นี้ก็ถูกกันเอาไว้ได้หมด
เมื่อเห็นแบบนั้น หยุนเชาก็ตกตะลึง เขาไม่คิดว่าการโจมตีที่รุนแรงเพียงพอจะฆ่าหวังเย่าได้นี้ จะถูกกันเอาไว้ได้
“ใครมายุ่ง แสดงตัวด้วย ! ” หยุนเชาเห็นว่าหวังเย่ายังปลอดภัยอยู่ก็ได้มองไปรอบ ๆ ทันที
“ทำไมหยุนซีที่น่าเคารพถึงต้องมาลงมือกับเด็กด้วย มีอะไรร้ายแรงขนาดนั้น ทำไมถึงไม่เจรจากันดี ๆ ” ร่างสีแดงได้ปรากฏตัวขึ้น
“เทพไฟ ! ” เมื่อเห็นชายในชุดแดง หยุนซีก็หรี่ตาลงและมองไปที่ชายแก่อีกคนที่ยืนอยู่ข้างกายฟู่หมิง ตอนนั้นสีหน้าของเขาถึงกับหม่นลงทันที
“ไม่คิดเลยว่าเทพไฟกับเทพค่ายกลจะมาด้วยกันเพื่อช่วยเด็กนี่” หยุนซีมองไปที่หยานเทียนและพูดขึ้นมา
ฉากตะกี้นี้เขาเห็นอย่างชัดเจน ยันต์นั้นเข้าไปช่วยกันการโจมตีให้กับหวังเย่า พลังของลำแสงนี้เพียงพอจะฆ่าคนเลเวล 140 ได้ ต้องบอกว่าทั้งดินแดนนรกนี้แล้วคนที่ทำแบบนี้ได้คงมีแค่หยานเทียนเท่านั้น
หยานเทียนยิ้มให้กับหยุนซีและพูดขึ้น “แค่ทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ นายไม่ต้องชมก็ได้”
หวังเย่าเห็นหยานเทียนและฟู่หมิงมาที่นั่นก็ได้บินไปหาทั้งสองคน แม้ว่าหยุนเชาอยากจะไล่ตามแต่เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นแล้วเขาก็รู้ว่าเด็กนี่ไม่ธรรมดา
เทพไฟคือคนที่แข็งแกร่งในจักรวาล ดวงดาวมากมายต่างก็รู้จักเขา
หวังเย่าและแมวได้เดินทางไปอยู่ข้าง ๆ ฟู่หมิง ฟู่หมิงมองไปที่หวังเย่าแล้วถามขึ้นมา “นายเป็นอะไรรึเปล่า ? ”
“ถ้าพี่กับผู้อาวุโสไม่มา เราคงไม่ได้เจอกันอีก” หวังเย่ายิ้มออกมา ดีที่ทั้งสองคนมาทันเวลา ไม่งั้นแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไง
หยานเทียนมองไปที่ทะเลและพบกับจานบินที่กำลังจมลงไป ปากของเขากระตุกนิด ๆ และพูดขึ้น “นายนี่ไปไหนก็สร้างเรื่องตลอดเลย นี่คือฝีมือของนายสินะ ? ”
แม้จะรู้ว่าหวังเย่าจะสร้างปัญหาให้กับเขา แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาหาเรื่องหัวหน้าตระกูลหยุนแบบนี้ แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่อาณาเขตของตระกูลหยุน แต่อำนาจของตระกูลหยุนในจักรวาลนั้นก็ใหญ่โตอย่างมาก หลายดาวต่างก็มีกองกำลังของพวกเขาอยู่
หวังเย่าไม่ได้ปฏิเสธและพูดขึ้นมา “ผมก็แค่เข้าไปดู ใครจะไปคิดว่ามันจะมีทหารหุ่นยนต์อยู่เต็มไปหมด ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระเบิดมันทิ้ง ไม่งั้นผมก็ตาย”
“แล้วผมยังเห็นคนที่ลักพาตัวพวกผู้หญิงครึ่งมนุษย์ไปก็อยู่ในฐานของตระกูลหยุน แน่นอนว่าผมคงไม่อาจจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ” หวังเย่าพูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ฟู่หมิงก็สีหน้าหม่นลง ก่อนจะถามขึ้นมา “พวกคนชุดดำที่จับตัวเสี่ยวหยิงไปน่ะหรือ ? ”
“คนพวกนั้นแหละ ตอนที่พี่ไปหาเทพธิดาน้ำแข็ง เราก็ได้พบรังของพวกคนชุดดำ แม้ว่ารังจะโดนทำลายไปแล้วแต่หัวหน้าของพวกมันก็หนีไปได้ ผมไม่คิดเลยว่าดูฉีชุยคนนี้จะเกี่ยวข้องกับตระกูลหยุน” หวังเย่าพูดขึ้น
หยุนซีมองไปยังฟู่หมิงและหยานเทียนที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ได้คิดจะปิดบังแม้แต่น้อย “พวกท่านสองคนมาเพื่อช่วยเด็กนี่งั้นหรือ ? แต่เขาทำลายฐานของเราไป เรื่องนี้ต้องชดใช้ ถึงเป็นพวกท่านสองคน แต่ฉันก็ไม่อาจจะไว้หน้าได้ ถ้าเด็กนี่ยอมรับผิดและกลับไปที่ตระกูลหยุนเพื่อรับโทษ 100 ปี ฉันจะไม่เอาความ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็อยากจะด่าไปถึงตระกูลของอีกฝ่าย ไม่เอาความงั้นหรือ ? ยอมรับผิดเพื่อโดนขัง 100 ปี มันโหดร้ายกว่าการฆ่าเขาซะอีก ถ้าเขาโดนขังจริง ๆ เขาคงอยู่ไม่ถึง 100 ปีแน่
“เรื่องในครั้งนี้ ฉันคงต้องขอให้นายเข้าใจด้วย คนของนายเป็นองค์กรที่ลักพาตัวพวกครึ่งมนุษย์ไปไม่ใช่รึไง ? ” ฟู่หมิงถามขึ้นมา
“ใช่ แต่แล้วยังไง ? ในดินแดนนรกนั้นมีอันตรายอยู่ทั่วทุกที่ เทพธิดาน้ำแข็งก็ยังไม่อาจจะจัดการได้ ตระกูลหยุนนั้นมีธุรกิจมากมาย การขายพวกครึ่งมนุษย์เป็นทาสก็เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง มันจะดูยุ่งยากเกินไปไหมกับการที่เทพไฟมาจัดการปัญหาให้มดปลวกพวกนั้น ตระกูลหยุนยอมรับว่าเราทำแบบนั้นจริง ๆ ” ตอนนั้นหยุนซีดูไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ยอมรับว่าดูฉีชุยเป็นคนของเขา
แม้ว่าจะเป็นฟู่หมิง แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมง่าย ๆ ดาวของพวกเขาอยู่ระดับ 170 จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะมีเกียรติของตระกูลหยุน
มันแค่ว่าหยุนซีต้องคิ้วขมวดเมื่อได้ยินคำพูดของฟู่หมิง ดูเหมือนว่าเรื่องมันไม่ได้เรียบง่ายแบบที่เขาคิด
“เมื่อนายยอมรับแล้วก็ดี ตราบใดที่นายขอโทษ งั้นฉันจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ฟู่หมิงพูดขึ้น
หยุนเชาสีหน้าหม่นลงและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ฟู่หมิง นายไม่คิดไว้หน้าตระกูลหยุนเลยรึไง ! นายคิดจะให้ท่านหยุนซีขอโทษพวกครึ่งมนุษย์งั้นหรือ นายรู้ไหมว่าทำแบบนั้นแล้วจะส่งผลกระทบยังไง ? ”
“ผลกระทบงั้นหรือ ? งั้นแกรู้ไหมว่ามันจะส่งผลกระทบยังไงกับการลักพาตัวคนสนิทของฉัน ? ” ฟู่หมิงฮึดฮัดออกมา “ไม่ใช่แค่คิดจะลักพาตัวแฟนของหวังเย่า แต่ยังลักพาตัวคนของฉันไปด้วย”
หยุนซีเห็นว่าฟู่หมิงแสดงท่าทีหนักแน่นแบบนั้นก็พูดขึ้น “ดูเหมือนว่าวันนี้นายคงไม่ยอมจริง ๆ ”
“พวกนายคิดเอาเอง ถ้าพวกนายยังไม่ยอมก็รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าเทพไฟที่โด่งดังนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน” หยุนซีพูดขึ้นพร้อมกับแผ่พลังอันน่าทึ่งออกมา
ชายแก่ที่ดูธรรมดาคนนี้ แต่เมื่อแผ่พลังออกมาแล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฟู่หมิงเลย หวังเย่ารับรู้ได้ถึงพลังของอีกฝ่ายก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เกินกว่าที่เขาจะรับไหว
หยุนซียกมือขึ้นพร้อมกับไม้เท้าที่ปรากฏขึ้นมาในมือ “วันนี้ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าเทพไฟนั้นจะมีความสามารถมากแค่ไหน”
เขาสะบัดมือออกไป มิติตรงหน้าโดนตัดขาดพร้อมกับเกิดรอยร้าวขึ้น การโจมตีนี้พุ่งเข้าใส่ฟู่หมิงอย่างจัง มิตินั้นแตกออกอย่างรวดเร็ว
ฟู่หมิงสะบัดมือพร้อมกับคลื่นไฟที่กระจายออกไป มิติที่แตกออกนั้นละลายไปทันที พลังที่ฉีกมิติกลับโดนกันเอาไว้โดยคลื่นไฟ ไฟได้ลามเข้าไปในรอยแตกมิติก่อนจะกลืนกินมันอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะหายไป
“เมื่อนายอยากรู้ขนาดนั้น ฉันก็อยากเห็นจริง ๆ ว่าความแข็งแกร่งของดาวนายจะอยู่ระดับไหน” เมื่อพูดจบก็มีฝ่ามือไฟฟาดลงมาจากฟ้า
เมื่อเห็นแบบนั้นคนที่เครียดที่สุดก็คือแมว ตอนที่เขากับฟู่หมิงปะทะกันนั้น ฟู่หมิงก็เคยได้ใช้ท่านี้ออกมาแต่พลังของมันน้อยกว่าตอนนี้อย่างมาก
พลังของฝ่ามือนี้เพียงพอที่จะฆ่าคนเลเวลต่ำกว่า 150 ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นสัตว์อสูรที่ผ่านการลงโทษมาแล้ว แต่ก็ยากจะต้านทานมันได้
เมื่อฝ่ามือฟาดลงมา ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหน ทุกที่ต่างก็โดนเผาและละลายไป เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังจากฝ่ามือนี้ หยุนซี ก็ไม่กล้าที่จะประมาท
แม้ว่าฟู่หมิงตอนนี้จะดูเด็ก แต่เวลาในการบ่มเพาะนั้นคือหนึ่งในคนที่อยู่มายาวนานที่สุดในจักรวาล ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ก็ยากที่ใครจะรับมือได้
แก่นพลังบนอกของหยุนซีส่องแสงออกมา มันมีพลังงานรวมตัวกัน เกราะของเขาเริ่มเปลี่ยนไปราวกับเขาเปลี่ยนร่าง ตัวของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยเกราะ แก่นพลังานในอกก็ถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี
หยุนซีกลับสูงขึ้นกว่า 3 เมตรในชุดเกราะ ตัวเขามีเหล็กห่อหุ้มไปทั้งตัว
“ลำแสงสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ! ” ฟู่หมิงใช้พลังงานสร้างพายุขึ้นมาเพื่อรับมือกับฝ่ามือไฟ
พลังงานนี้แกร่งกว่าพลังงานที่หยุนเชาได้ใช้ออกมา ตอนที่ลำแสงอัดเข้ากับฝ่ามือนั้น ความเร็วของฝ่ามือก็ลดลงแต่สุดท้ายลำแสงนั้นก็สลายไป
เมื่อเห็นแบบนั้น หยุนซีก็ยกมืออีกข้างขึ้นมา มือนั้นได้เปลี่ยนเป็นปืนก่อนที่จะมีลำแสงถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า
ดาวเค่อเซวียนั้นพัฒนาอาวุธได้อย่างน่าทึ่ง แน่นอนว่าพวกนี้ต้องแกร่งกว่ากองกำลังอื่น ๆ ลำแสงเหล่านี้ทรงพลังอย่างมาก เมื่อมันอัดเข้ากับฝ่ามือไฟ มันก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หวังเย่าเห็นการระเบิดเหล่านั้นพร้อมคลื่นความร้อนที่กระจายออกมา ก็เกิดความกังวลขึ้นมา
การโจมตีของหยุนซีนั้น ทำให้ทุกคนได้เห็นพลังของฟู่หมิง การโจมตีธรรมดากลับมีพลังที่น่าทึ่งซึ่งสามารถบดขยี้คนระดับสูงทั่วไปได้
“พี่หยุนซี ฉันช่วยเอง ! ” หยุนเชาเห็นความแข็งแกร่งของฟู่หมิงก็อยากเข้าไปช่วย
แต่ทันใดนั้นร่างสีเทาก็ได้เข้าไปขวางหน้าหยุนเชาเอาไว้ ชายคนนั้นยกมือขึ้นลูบหนวดและยิ้มออกมา “หยุนเชา นี่คือการต่อสู้ระหว่างฟู่หมิงกับหยุนซี นายต้องรับมือกับฉันนี่”