ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 715 : ไร้สาระ
ตอนที่ 715 : ไร้สาระ
ชิรูมองไปที่เด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีเฉยเมย ถ้าไม่ใช่เพราะมีสัตว์อสูรทะเลอยู่โดยรอบแล้วเธอคงฆ่าเขาไปแล้ว
หวังเย่าคืนหน้ากากให้กับเธอและพูดขึ้น “สถานการณ์ด้านบนไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง เธอคงไม่อยากให้ใครเห็นใบหน้าสวย ๆ ของเธอหรอก ใช่ไหม”
ชิรูรับหน้ากากมาและแสดงท่าทีเย็นชาออกมาดังเดิม คงไม่มีใครคิดว่าภายใต้หน้ากากนี้จะมีใบหน้าที่งดงามซ่อนอยู่
ในตอนที่ทั้งสองอยู่ในทะเลได้สักพัก ผลจากระเบิดก็สลายไปหมดแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกลิ่นอายของระเบิดอยู่รวมถึงความร้อนที่ยังสูงอยู่ด้วย
แมวเห็นว่าหวังเย่าออกมาจากทะเลก็มุ่งหน้าเข้ามาหาทันที “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า ระเบิดตะกี้มันรุนแรงจริง ๆ ”
ตอนนั้นแมวเห็นชิรูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หวังเย่าก็มองไปที่เธอด้วยความแปลกใจ ก่อนจะมองไปที่หวังเย่าแล้วพึมพำออกมา “เจ้าคงไม่ได้ทำอะไรนางหรอกนะ”
“อย่าพูดไร้สาระ เธอเกลียดฉันจะตาย” หวังเย่าเห็นว่าแมวมองไปที่ชิรูจึงพูดขึ้นมา
ชิรูไม่ได้ยินคำพูดของแมว ไม่งั้นแล้วเธอคงลงมือไปแล้ว เธอรีบเดินทางไปหาตระกูลหยุนทันที แม้ว่าการระเบิดเมื่อตะกี้จะรุนแรงแต่มีแค่เธอกับเล่ยหยานเท่านั้นที่อยู่ใกล้กับจุดที่ระเบิด เธอไม่คิดว่าระเบิดนี้จะทำอะไรคนที่เหลือได้ มันอาจจะทำให้คนพวกนั้นแค่สับสนเล็กน้อย
เมื่อเห็นจานบินที่ตกลงไปในทะเล หยุนซีก็แสดงสายตาโกรธแค้นออกมา “ไอ้เด็กนั่น ฉันต้องถลกหนังมันมาให้ได้”
“ท่านหยุนซี ให้ผมจัดการเด็กนั่นเอง” หยุนเชาห้ามหยุนซีเอาไว้และบอกกับทหารด้านหลัง “ไปปิดพื้นที่รอบ ๆ เอาไว้ อย่าให้มันหนีไปได้ ฉันจะฆ่าเด็กนั่นด้วยตัวเอง”
โรม่าและทหารคนอื่น ๆ ได้พากันแยกย้ายออกไปทั้งสี่ทิศทาง เพื่อกันไม่ให้หวังเย่าหนี เล่ยหยาน, เชิงเฟิง และ ชีหลู ต่างก็พากันไปดูแลคนละเส้นทาง หยุนเชาปิดทางสุดท้าย หากหวังเย่าอยากจะหนีออกไปคงไม่ง่าย
คนของตระกูลหยุนออกตามหาหวังเย่า พวกเขาเปิดใช้งานเกราะ หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตึงเครียดออกมา นี่คือทหารเลเวล 120 ทั้งห้าของตระกูลหยุน หลังจากที่เปิดใช้งานเกราะแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกนี้ก็ไม่ได้ด้อยกว่านักรบคนอื่น ๆ เลย บางทีอาจจะแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
เมื่อหยุนเชาเปิดใช้เกราะก็แกร่งกว่าคนเลเวล 130 ทั่วไป หวังเย่าต้องเบี่ยงตัวไปข้าง ๆ เพื่อหลบหอกที่แทงเข้ามา ก่อนจะเอาดาบออกมาเพื่อรับมือกับหยุนเชา
ปัง
หอกได้ปะทะกับดาบจนมันทำให้หวังเย่าถึงกับแขนชาและเซถอยกลับมา หยุนเชาคนนี้แกร่งกว่าเล่ยหยานอีก แม้ว่า หวังเย่าจะพยายามประเมินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไว้สูงแต่ก็ยังประเมินต่ำไปอยู่ดี
หยุนเชาใช้หอกแทงเข้ามาอย่างกับห่าฝนแทงเข้าใส่หวังเย่าที่จุดสำคัญอย่างต่อเนื่อง หวังเย่าได้แต่หลบและกันการโจมตีจากอีกฝ่ายเอาไว้
หยุนเชาสมกับเป็นนักสู้ทั้งห้าของตระกูลหยุน แม้ว่าระดับจะไม่ได้สูงมากนักแต่ด้วยการที่มีเกราะอยู่จึงทำให้แข็งแกร่งขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังรึความเร็วต่างก็เหนือกว่าเกราะของเล่ยหยานอย่างมาก
พลังในการโจมตีแต่ละครั้งทำให้หวังเย่าต้องถอยกลับไป ทุกครั้งที่หวังเย่าคิดจะตอบโต้เขาก็โดนการโจมตีที่รุนแรงกว่าเดิมโจมตีกลับมา ดังนั้นหวังเย่าจึงสลัดความคิดในการตอบโต้ทิ้งไปทันที
แมวเห็นแบบนั้นก็อยากเข้าไปช่วยแต่ก็โดนเล่ยหยานหยุดเอาไว้
“ถ้าอยากเข้าไปก็ผ่านฉันไปให้ได้ก่อน ถ้าแกไม่ระวังตัว แกอาจจะไม่รอด” เล่ยหยานฮึดฮัดใส่แมว
ก่อนหน้านี้ด้วยการที่เสียเปรียบให้กับแมว เล่ยหยานจึงไม่พอใจอย่างมาก เมื่อได้โอกาสที่จะเอาคืน จึงเป็นธรรมดาที่เขาคิดจะจัดการแมวนี่ให้ได้
แมวใช้กรงเล็บตะปบเข้าใส่เล่ยหยาน แต่ก็โดนโล่กันเอาไว้
เล่ยหยานฮึดฮัดออกมา ตัวของเขาถอยกลับไปสองก้าวแต่ก็ยังต่อยเข้าใส่แมว หลังจากที่เปิดใช้งานเกราะแล้ว พลังของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์อสูรเทพทั่วไปเลย แม้ว่าแมวจะมีสายเลือดที่สูงแต่เพราะเลเวลที่ต่ำลงมานั้นจึงไม่อาจจะใช้พลังได้เต็มที่
แมวว่องไวและรวดเร็วอย่างมาก ซึ่งไม่อาจจะเอาสัตว์อสูรเทพทั่วไปมาเทียบได้ แม้ว่าเล่ยหยานจะไม่ได้อ่อนแอ แต่แมวกลับหลบการโจมตีทุกครั้งได้หมด และโจมตีกลับคืนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเกราะที่มีพลังป้องกันที่สูงแล้ว เขาคงโดนตัดเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว
แม้ว่าเล่ยหยานจะไม่พอใจแต่ก็ไม่อาจจะตอบโต้ได้เลย เขาได้แต่ปล่อยให้แมวทำการโจมตีเขาต่อไปเรื่อย ๆ
แมวรู้ว่าจัดการเล่ยหยานได้ยาก เกราะนี่น่ะใช้พลังครึ่ง ๆ กลาง ๆ คงไม่อาจจะจัดการได้แน่ แต่ตอนที่กำลังจะใช้ความเร็วเพื่อสลัดอีกฝ่ายไปช่วยหวังเย่า มันก็มีอีกคนมาขวางหน้าเขาเอาไว้ นี่คือหัวหน้าทหารทั้งห้า โรม่า
โรม่าได้พุ่งเข้ามาหยุดแมวเอาไว้ เมื่อเห็นว่าแมวกำลังจะเข้าไปช่วยหวังเย่า
ในฐานะหัวหน้าทีมแล้ว ความแข็งแกร่งของโรม่านั้นเหนือกว่าเล่ยหยาน ความเร็วของเขาแทบไม่ด้อยกว่าแมวเลย มันทำให้เขาแกร่งอย่างมาก เมื่อเล่ยหยานเห็นแบบนั้นก็เลิกคิดจะเผชิญหน้ากับแมว เขาจะปล่อยให้โรม่าคอยรับมือกับแมว ส่วนเขาจะคอยโจมตีจากด้านข้างแทน
ในอีกด้าน หวังเย่าที่ได้แต่ป้องกันก็ได้พบกับช่องโหว่ของหยุนเชา เขาได้ระเบิดไฟหยินหยางออกมาสร้างเป็นเกราะเพื่อลดพลังจากการโจมตีของหยุนเชา หวังเย่าไม่ได้สนใจว่าหอกจะแทงเข้าที่ไหล่ของเขาหรือไม่ ก่อนจะทำการตัดแขนของหยุนเชาออก เกราะนี้แข็งกว่าที่หวังเย่าคิดเอาไว้ เมื่อดาบฟันเข้าที่เกราะของหยุนเชา ดาบกับแตกออกเป็นชิ้น ๆ แทน แต่การโจมตีนี้ก็ทำให้หวังเย่าได้พักหายใจบ้าง แขนของหยุนเชาไม่ได้รับความเสียหายแต่ก็ทำให้หยุนเชาชะงักไปช่วงหนึ่ง
หวังเย่าดึงหอกออกมาจากไหล่และยกมือขึ้นเพื่อใช้ฝ่ามือฉลามดำ ไฟหยินหยางได้หลอมรวมกับฝ่ามือฉลามดำอัดเข้าใส่เกราะของอีกฝ่ายจนทำให้หยุนเชากระเด็นออกไป
หวังเย่าที่เพิ่งพักหายใจเพิ่งจะเว้นระยะห่างกับอีกฝ่ายได้ เขาหันไปหาแมวก่อนจะพุ่งหนีไป แค่หยุนเชาคนเดียวเขาก็แทบจะรับมือไม่ไหวแล้ว ถ้ามีคนอื่นมาช่วยอีกเขาคงตายแน่ ๆ
“จะไปไหน ! ” ชิรูที่เห็นว่าหวังเย่าจะหนีไปก็เข้าโจมตีเพื่อขวางทางเขาไว้
“พี่สาว ฉันมีแฟนแล้วนะ ! ” หวังเย่าไม่อยากจะสู้กับเธอจึงหันกลับและหนีไปอีกทาง
เชิงเฟิงพยายามยิงปืนออกมาเพื่อฆ่าหวังเย่า แต่หวังเย่าเคยได้รับบทเรียนมาแล้ว ในตอนที่กระสุนจะพุ่งโดนตัวนั้นเขาก็ได้เปิดโล่เงา ด้วยพลังของกระสุนก็ทำให้โล่พังลงไปทันที และทำให้เขาเว้นระยะห่างออกไปได้อีก ก่อนที่เขาจะพุ่งลงไปในทะเล
ชิรูรู้ว่าหวังเย่าเคลื่อนที่ในทะเลได้อย่างอิสระและรู้ว่าเมื่อเขาหนีลงไปในน้ำแล้ว เขาก็จะหนีไปได้จริง ๆ
ตอนนั้นเองทหารอีกคนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ผิวน้ำ นี่คือทหารที่หยุนเชาสั่งการให้มาดูแลที่ผิวน้ำเอาไว้
“ท่านหยุนซีพูดถูก เด็กนี่เจ้าเล่ห์จริง ๆ ! ” หลี่รุยฮึดฮัดออกมาก่อนจะยิงเข้าใส่หวังเย่า
แม้ว่าเขาจะซ่อนตัวเก่งแต่ก็ไม่ได้เด่นรื่องการต่อสู้แบบเผชิญหน้า แต่ถึงอย่างนั้นการยิงเพื่อปิดทางหนีของหวังเย่านั้นเขาก็ยังพอทำได้อยู่
แน่นอนว่าการที่หวังเย่าต้องหลบการโจมตีนี้ทำให้หยุนเชาที่ไล่ตามหลังมานั้นตามเขาได้ทัน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารที่ดักรออยู่ด้านหน้าและชิรูรวมกับหยุนเชาที่ไล่ตามหลังมา ถึงหวังเย่าจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่อาจจะเผชิญหน้ากับคนที่เลเวลสูงกว่า 140 ทั้งสามคนได้
นี่คือสถานการณ์คับขัน แม้ว่าแมวจะยังไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่ต่อหน้าคนของตระกูลหยุนแล้วก็ยังพอรับมือได้อยู่
หยุนเชานั้นแข็งแกร่งทัดเทียมได้กับสัตว์อสูรที่ผ่านการลงโทษมาได้ !
“เฮ้อ….เธอนี่โรคจิตรึไง เธอชอบฉันงั้นหรือ ? ” หวังเย่าส่ายหน้าและหันไปมองชิรู
“จะตายก็ตายไป เลิกพูดมากได้แล้ว ! ” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาจากใต้หน้ากาก
หยุนเชาตามมาทัน เมื่อเห็นว่าหวังเย่ายอมแพ้ที่จะหนีก็พูดขึ้นมา “ทำไมแกไม่หนีต่อล่ะ ? แม้ว่าแกจะมีพลังที่สูงแค่ไหนแต่ก็ไม่มีทางรอดจากที่นี่ไปได้”
“ทำไมตระกูลหยุนถึงได้ใจแคบนัก ? มันก็แค่จานบินระเบิดไม่ใช่รึไง ? ” หวังเย่าพูดขึ้น
หยุนเชาแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา “มันต้องใช้เงินกว่าแสนล้านเหรียญกว่าจะสร้างจานบินนั่นขึ้นมาได้ มันมีโดรนหลายพันแบบด้านใน โดรนแต่ละชนิดทัดเทียมกับคนเลเวล 120 เป็นร้อยคน แกรนหาที่ตายแท้ ๆ !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็ถึงกับอึ้ง เขาไม่คิดเลยว่าจานบินนั่นจะเป็นของมีค่าแบบนนั้นและยังมีกำลังรบที่สูงอีกด้วย โชคดีที่เขาควบคุมให้โดรนและหุ่นยนต์ทำลายตัวเองไป ไม่งั้นแล้วถ้ายังมีหุ่นยนต์พวกนั้นอยู่ เขาก็อาจจะหนีไม่รอด
“แกรู้ไหมว่าแกสร้างปัญหาไว้มากแค่ไหน แกต้องตาย ! ” หยุนเชาพูดขึ้นมา
“จะฆ่าเขาง่าย ๆ แบบนี้เลยหรือ ? ” ชิรูถามขึ้น
หยุนเชามองไปที่ชิรูด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าคนที่เงียบมาตลอดและเอาแต่รับคำสั่งจะพูดขึ้นมาแบบนี้
หยุนเชาถามขึ้นมา “เธอคิดว่าต้องทำยังไง ? ”
ชิรูมองไปที่หวังเย่าและคิดสักพักก่อนจะพูดขึ้น “เราควรผนึกพลังของเขาไว้และเอาเขากลับไปที่ดาวของเรา จากนั้นก็ทำให้เขากลายเป็นทาส นี่คือการลงโทษที่สาสมกับเขา”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็เบิกตากว้างและพูดขึ้นมา “ทำไมเธอถึงเป็นคนโหดร้ายแบบนี้ เธอไม่ได้ซาบซึ้งบุญคุณที่ฉันทำให้เลยสินะ ฉันเป็นผู้ชายคนแรกของเธอแท้ ๆ แต่เธอกลับคิดจะทำให้ฉันกลายเป็นทาส ! ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ไม่ใช่แค่ชิรูเท่านั้น แต่หยุนเชาก็ยังแสดงสีหน้าหม่นลง เขามองหวังเย่าด้วยสายตาอาฆาตทันที
“ถ้าพูดไร้สาระอีก ฉันจะฆ่านาย” ชิรูพูดขึ้น
หลี่รุยยิ้มและพูดขึ้นมา “เด็กนี่พูดไร้สาระมากเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าควรจะฆ่าเขาซะ คนแบบนี้เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์”
หยุนซีที่อยู่บนอากาศมองดูสถานการณ์ด้านล่างก็พูดขึ้นมา “กำจัดมันซะ เรามีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปจัดการ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หยุนเชาก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขายกหอกในมือขึ้นพร้อมกับพลังที่เริ่มรวมตัวกันในหอก
หอกนี้ไม่ใช่อาวุธโจมตีระยะใกล้แต่เป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาขึ้นมา มันสามารถยิงลำแสงออกมาจากปลายหอกได้
ลำแสงนี้ทรงพลังกว่าเลเซอร์ที่ดูฉีชุยยิงมาหลายเท่า แม้ว่าจะเรียกเอไนน์ออกมาเพื่อใช้โล่เอลฟ์ แต่คงไม่อาจจะรับมือกับพลังของมันได้
“แกจะตายแล้ว มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา” หยุนเชาฮึดฮัดออกมา
หวังเย่าแสดงสีหน้าภูมิใจออกมาก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้น “ให้ฉันสั่งเสียงั้นหรือ ? แกนี่มันน่ารักจริง ๆ แกคงไม่รู้ตัวสินะว่าแกพูดไร้สาระขนาดไหน”