ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 704 : บ่อตม
ตอนที่ 704 : บ่อตม
ตรงหน้าพวกเขาเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 100 เมตร มันส่องแสงสว่างจ้าออกมา และลำแสงนั้นก็พุ่งขึ้นไปที่ท้องฟ้าข้างบน
หวังเย่ารู้ว่าค่ายกลนี้จะนำไปสู่ชั้นต่อไป ภายใต้การนำทางของลำแสงเหล่านี้แล้ว ทุกคนก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่หลายร้อยคน คนเหล่านี้คือคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคนต่างก็มาจากกองกำลังใหญ่ไม่ก็เล็ก
เขาพบว่าหมอกขาวนั้นจางลงไปอย่างมาก มันบางกว่าที่อื่น ๆ การดูดพลังจิตก็น้อยลงอย่างมากเช่นกัน
แมวได้มาถึงพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่ปรากฏตัวข้างกายหวังเย่า
“จ้าวแห่งแมว มาถึงสักที” หวังเย่าเห็นแมวเดินมาข้าง ๆ ก็คลายกังวลลง แม้ว่าแมวจะเข้าออกเขตสวรรค์ทั้งสามได้อย่างอิสระ แต่ยังไงซะตอนนั้นก็เป็นตอนที่ยังแข็งแกร่งอยู่รวมถึงค่ายกลยังไม่ได้เปิดใช้งานด้วย
แมวได้พูดขึ้นมา “ระวังด้วย ค่ายกลนี้ไม่ได้เข้าไปง่าย ๆ ตามระดับของที่นี่แล้ว มันต้องมีความลึกลับบางอย่างอยู่แน่”
ตอนนั้นหวังเย่าเห็นว่าผู้อาวุโสเจียงหยานก็มาถึงแล้ว ก่อนที่จะพูดกับหวังเย่า “หวังเย่า เราเจอกันอีกแล้ว ดูเหมือนฉันกับนายจะชะตาต้องกัน แม้ว่าจะอยู่ในหมอกนี่แต่ก็ยังได้พบกันอีก”
“ลำแสงนี่มองเห็นได้ในระยะ 100 ตารางไมล์ มันไม่ได้น่าแปลกใจที่ได้พบกับผู้อาวุโสที่นี่” หวังเย่าพูดขึ้น
แม้ว่าพวกเขาจะโดนส่งไปคนละที่ แต่ก็เดาว่าไม่น่าจะเกินพันไมล์ ดังนั้นการได้มาพบกันอีกก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
แต่สิ่งที่ทำให้หวังเย่าแปลกใจคือผู้อาวุโสเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับหวังเย่าเอง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนแก่แบบนี้ถึงไม่รักษาท่าที
“ข้างหน้าคงมีอันตราย ฉันกับเสี่ยวยู่จะเข้าไปด้วยกัน” เจียงหยานพูดกับหวังเย่าด้วยรอยยิ้ม
หวังเย่ามองไปที่ลานตรงหน้าและรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา “มีคนแข็งแกร่งจำนวนมาก ทำไมเราถึงมาหยุดที่นี่ แต่ไม่มีใครเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย ? ”
ทันทีที่เขาพูดจบก็มีคนออกมาจากหมอกด้านหลังมุ่งหน้าเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย คนเหล่านี้มองเห็นผู้คนรอบ ๆ แต่แม้ว่าจะสงสัยแต่ก็ยังมุ่งหน้าเข้าไปในค่ายกลอยู่ดี “ฉันขอไปก่อน มีโอกาสแล้วพบกันใหม่ ! ”
ทันที่ชายคนนั้นเดินไปที่ค่ายกลเคลื่อนย้าย พื้นดินโดยรอบก็เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นบ่อตม
พวกนั้นไม่ทันได้ระวังตัวจนตกลงไปในบ่อตม บ่อนี้เหมือนจะมีพลังพิเศษ พวกคนที่ตกลงไปไม่อาจจะหลุดออกมาได้ และมีแต่จะจมลงไปเรื่อย ๆ ไม่ต่างอะไรจากการโดนดินดูด
“ช่วยด้วย….” คนเหล่านั้นร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนอื่น ๆ กลับแค่มองดูคนเหล่านั้นโดนบ่อโคลนสูบลงไปไม่คิดจะเข้าไปช่วยแม้แต่น้อย
มีแค่คนสุดท้ายที่รู้สึกสังหรณ์ใจแย่ ๆ เขาจึงได้กระโดดขึ้นจากพื้น แต่ตอนที่เขากำลังจะข้ามบ่อตมไปได้นั้นก็มีฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากบ่อจับชายคนนี้เอาไว้
มือนั้นรวดเร็วอย่างมากจนอีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว เขาไม่อาจจะต้านทานได้และโดนมือนั้นลากลงไปในบ่อ เขาดิ้นรนอยู่ไม่นานก็หายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน
เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็นึกถึงสิ่งที่แมวเตือนมาก่อนหน้านี้ ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี่ไม่ธรรมดา ไม่แปลกเลยที่ทำไมทุกคนถึงได้หยุดรอกันที่นี่แต่ไม่มีใครเข้าไป
ฉากต่อมาก็ทำให้ทุกคนเพิ่มความระวังขึ้น ดินแดนนรกนี้มีอันตรายอยู่ทั่วทุกที่จริง ๆ แม้แต่ค่ายกลป้องกันที่ดูปลอดภัยที่สุดก็ยังมีอันตรายแบบนี้ซ่อนอยู่
ผู้อาวุโสเจียงหยางบอกให้เขาเข้าไป ถ้าเขาฟังคำพูดของอีกฝ่าย เขาคงต้องตกลงไปในบ่อตมนี้ด้วย
เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าก็มองไปที่ผู้อาวุโสเจียงหยางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป “รอบประตูนี้มีบ่อตมอยู่ ความแข็งแกร่งของนายยังน้อยเกินไป นายควรจะอยู่รอดูก่อน มันมีนักสู้มากมายที่ไม่สนใจกับดักเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ ให้พวกนั้นนำหน้าไป เรารอดูสถานการณ์อยู่ตรงนี้ก่อนจะดีกว่า”
“ฉันมองข้ามไปเอง ไม่รู้เลยว่ามีกับดักแบบนี้อยู่รอบประตูด้วย มันเกือบทำให้นายต้องเจ็บตัว” ผู้อาวุโสเจียงหยาง พูดขึ้นมา “แต่เดี๋ยวนายจะเข้าใจฉันผิด แม้ว่าบ่อนี่จะมีอันตราย แต่ฉันก็ไม่คิดจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับนาย ทำไมเราไม่เข้าไปพร้อมกัน ? ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นหวังจะจับไหล่หวังเย่า แต่หวังเย่ากลับถอยหลังออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงมือของอีกฝ่ายและพูดขึ้น “ผมยังรอพี่กับลุงหยานเทียนอยู่ ผมคงไม่รบกวนผู้อาวุโส”
ถ้าจะบอกว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าประตูนี่มีกับดักอยู่ หวังเย่าก็คงไม่เชื่อ ไม่งั้นแล้วอีกฝ่ายคงเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้หลอกเขา แต่หวังเย่าก็มองว่าชายแก่คนนี้เป็นตัวอันตรายไปแล้ว
ความแข็งแกร่งของเจียงหยานนั้นทัดเทียมกับหยานเทียนได้ หากต้องการจะจัดการกับเขาก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย อีกฝ่ายแค่กลัวฟู่หมิงและคนอื่น ๆ จึงต้องหาข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้นแทน
“ อ่ะ ! มันออกมาอีกแล้ว ! ” มีบางคนตะโกนขึ้นและชี้ไปที่บ่อ
คนอื่น ๆ พากันมองตามและพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่บ่อตม สีหน้าหลายคนดูหม่นลงไป โคลนในบ่อนั้นกลับรวมตัวกันเป็นมนุษย์โคลนที่ค่อย ๆ ปีนขึ้นมาจากบ่อ
เมื่อเห็นมนุษย์โคลน แม้แต่เจียงยู่ก็ยังแสดงท่าทีกังวลออกมา หวังเย่าเห็นสีหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนไปก็รู้ว่าพวกนี้เคยเห็นมนุษย์โคลนมาก่อน ไม่งั้นแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ากังวลแบบนั้นออกมา มันถึงกับมีบางคนที่แสดงสีหน้าเฉยเมยออกมา
“ระวังตัวไว้ มนุษย์โคลนพวกนี้ไม่ธรรมดา” หวังเย่าเตือนแมวที่อยู่ข้าง ๆ
แต่ความเป็นจริงหวังเย่าไม่จำเป็นจะต้องเตือนแมวที่มากประสบการณ์ เพราะอีกฝ่ายก็รู้ว่ามนุษย์โคลนพวกนี้อันตรายแค่ไหน
“ระวังไว้ ฉันจะรับมือกับมันเอง ยู่เอ๋อคอยดูแลเขาด้วย คนอื่นไปคอยรับมือกับมนุษย์โคลนเอาไว้ ! ” เจียงหยานไม่มีเวลามาสนใจหวังเย่าอีกต่อไป เมื่อเห็นมนุษย์โคลนเหล่านี้ เขาก็ได้สั่งการออกมาทันที
หวังเย่าเห็นว่ากองกำลังอื่น ๆ ต่างก็พากันเริ่มจัดวางขบวน
มนุษย์โคลนนั้นเคลื่อนไหวได้ช้า แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ไม่คิดจะเข้าใกล้พวกมัน หวังเย่ารู้ดีว่ามนุษย์โคลนพวกนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าหลังจากที่ปีนขึ้นมาจากบ่อแล้ว มนุษย์โคลนก็ได้มุ่งหน้าเข้ามาหากลุ่มคนที่อยู่ใกล้พวกมันที่สุด
พวกนี้มาทีหลังหวังเย่า แม้ว่าจะเห็นคนตกลงไปในบ่อแล้ว แต่พวกนี้ก็ไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งของมนุษย์โคลนไว้สูงนัก
ชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นสถานการณ์ก็ได้ตะโกนออกมา เขาได้ฟันดาบเข้าใส่มนุษย์โคลนตัวที่ใกล้ที่สุดและตัดมันออกเป็นสองส่วน “ฉันคิดว่าจะแข็งแกร่งซะอีก” เมื่อเห็นมนุษย์โคลนโดนตัดออกเป็นสองส่วน ชายหนุ่มคนนั้นก็บ่นออกมา
แต่ตอนที่เขาพูดจบนั้น โคลนที่กระจายไปโดยรอบก็กลับมารวมตัวกันและรัดตัวเขาเอาไว้
ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็อยากจะดึงขาของตัวเองออกมา แต่เนื้อที่โดนโคลนนั้นกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นโคลน ไม่นานโคลนก็ห่อหุ้มไปทั้งตัวของเขา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นมนุษย์โคลน
“ฆ่าเขาซะ ! ” เพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาได้ยกดาบขึ้นเพื่อฟันเข้าใส่เพื่อนที่กลายเป็นมนุษย์โคลนไปอย่างไม่แยแส
ก่อนหน้านี้มีมนุษย์โคลนแค่ตัวเดียวแต่ตอนนี้มันกลับมีมนุษย์โคลนถึงสองตัว
เสียงกรีดร้องดังขึ้นไปทั่ว จากพวกคนที่โดนโคลนกระเด็นเข้าใส่ตัว พวกเขากลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนเป็นมนุษย์โคลนไปด้วย
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ถึงกับอึ้ง เขาไม่คิดเลยว่ามนุษย์โคลนที่ดูอ่อนแอเหล่านี้จะมีพลังที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้
“มันมีพลังที่เปลี่ยนคนเป็นสัตว์อสูรได้งั้นหรือ ? ” หวังเย่าไม่เคยได้ยินความสามารถแบบนี้มาก่อน
แมวได้อธิบายออกมา “ตำนานได้บอกเอาไว้ นอกจากหมอกกลืนวิญญาณแล้วก็ยังมีบ่อตมที่น่ากลัวอย่างมาก ข้าแค่เคยได้ยินมา มันคล้ายกับหมอกขาวมันไม่ได้กลืนกินวิญญาณ แต่มันกลืนกินร่างกายแทน”
ในตอนที่มนุษย์โคลนตัวอื่น ๆ ปีนขึ้นมาจากบ่อ มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะรอช้า ในพริบตาก็มีมนุษย์โคลนปีนออกมาจากบ่อกว่าร้อยตัว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ใครจะไปรู้บางทีที่นี่อาจจะโดนพวกมนุษย์โคลนยึดเอาไว้ก็ได้
พวกเขาไม่อยากเสียเวลากับมนุษย์โคลนเหล่านี้ ทุกนาทีที่ผ่านไปพวกเขาจะโดนสูบพลังจิตไปเพราะหมอก ถึงหมอกที่นี่จะเบาบางแต่ก็ยังโดนกลืนกินพลังจิตอยู่
พวกเขาเตรียมตัวมารับมือกับอันตรายในดินแดนนรกแล้ว แม้ว่าหลายคนจะตกใจกับความสามารถของมนุษย์โคลนแต่พวกเขาไม่อาจจะเสียเวลาไปกับที่นี่ได้
พวกเขาพากันพุ่งเข้าหามนุษย์โคลน และใช้อาวุธและสกิลต่าง ๆ เข้าโจมตี ถึงจะทำให้พวกมันตัวระเบิดออกจากกันได้ แต่ไม่นานพวกมันก็กลับมารวมตัวกันใหม่ไม่ก็แยกร่างเพิ่มขึ้นมาอีก
บางคนที่อยู่ใกล้เกินไปก็โดนโคลนกระจายเข้าใส่ตัวและได้กลายเป็นมนุษย์โคลน ไม่ใช่แค่จำนวนมนุษย์โคลนจะไม่ลดลงแต่ยังเพิ่มมากขึ้นเพราะการต่อสู้ด้วย
“ฆ่าพวกมัน ! ไม่งั้นเราจะเข้าไปที่ประตูไม่ได้”
“ฆ่าพวกนี้ด้วยวิธีปกติไม่ได้ เราต้องทำยังไง ? ”
“สัตว์ประหลาด….”
ผู้คนเริ่มโดนกลืนกินโดยพวกมนุษย์โคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่เด็กที่มาจากกองกำลังใหญ่ก็ยังตกอยู่ในอันตราย หวังเย่าพยายามออกห่างจากมนุษย์โคลนให้มากที่สุด เขาพยายามไม่สู้กับพวกมัน เมื่อดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็รู้ว่าโอกาสมันมีน้อยแค่ไหนที่จะรอดออกไปได้