ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 696 : ตาย?
ตอนที่ 696 : ตาย?
หวังเย่าและแมวโดนขังเอาไว้ในโดมน้ำ แมวพยายามทำลายโดมน้ำทิ้งแต่ก็ไม่ได้ผล แม้แต่ไฟหยินหยางของหวังเย่าก็ไม่อาจจะทำลายโดมน้ำออกมาได้เพราะกฎน้ำนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าไฟหยินหยางของหวังเย่าเลย ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะพึ่งไฟหยินหยางได้
“ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์ โดมน้ำนี้แม้แต่คนเลเวล 150 ก็ไม่อาจจะทำลายมันได้” ชายวัยกลางคนเดินเข้าไปหาโดมน้ำและยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ “จำไว้ว่าฉันชื่อดูฉีชุย ถ้าแกเป็นผีแล้วแกจะได้ไม่มาแก้แค้นผิดคน”
แฟนธอมและคนอื่น ๆ เห็นหวังเย่ากับแมวโดนขังเอาไว้ก็แปลกใจ แฟนธอมอยากจะเข้าไปช่วยแต่ก็โดนพวกคนชุดดำล้อมเอาไว้จนต้องถอยกลับมา ในอีกด้าน วานซิดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต้องขอบคุณการรักษาจากเอไนน์ถึงทำให้เธอยังรับมือไหว
“เลเวลแค่ 130 แต่กลับกล้ามาสร้างปัญหา พวกแกไม่รู้จักที่ตายสินะ ! ” ดูฉีชุยฮึดฮัดออกมาก่อนที่ชายชุดดำด้านหลังจะเดินเข้ามาหาเขา เขาดึงดาบออกมา เขากับชายชุดดำค่อย ๆ ยกดาบขึ้นแทงเข้าไปในโดมน้ำ
แมวมองดูดาบที่กำลังจะแทงทะลุร่างกายแต่ก็ไม่อาจจะหลบได้ แต่ตอนนั้นเองก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปในโดมน้ำ แต่ที่มันทำให้ดูฉีชุยตกใจไปกว่านั้นคือเด็กสาวคนนี้กลับไม่ได้ถูกจำกัดโดยโดมน้ำเลย เธอได้ไปช่วยรับการโจมตีแทนหวังเย่าเอาไว้ด้วย
“นายท่าน ฉันมาช่วยเอง ! ” เอไนน์ตะโกนขึ้นมาและโบกมือจนทำลายโดมน้ำนั้นได้
หวังเย่าเดินไปหาแมวก่อนจะกดมือลงไปที่โดมน้ำ ในพริบตาก็มีไฟปรากฏขึ้นมาจนทำให้โดมน้ำระเหยไปทันที ก่อนหน้านี้เพราะน้ำเข้าไปในตัวเขา เขาจึงโดนจำกัดพลังเอาไว้ ตอนนี้มันไม่มีน้ำห่อหุ้มตัวเขาอีกแล้ว พลังนั้นจึงไม่ส่งผลต่อตัวเขา หวังเย่าจึงสามารถใช้ไฟหยินหยางทำลายโดมน้ำนี่ได้
“เป็นไปได้ยังไง ! ” ดูฉีชุยเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา โลงศพน้ำนี่ขังได้แม้แต่แมวแต่กลับทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลย
เอไนน์พึมพำออกมา “แค่โดมน้ำกาก ๆ แต่คิดจะมาขังฉันรึไง ! ฉันคือราชินีของเอลฟ์ ฉันเชี่ยวชาญพลังน้ำเป็นอย่างดี ! ”
ในฐานะราชินีเอลฟ์แล้ว เอไนน์ก็สามารถต้านทานสกิลน้ำได้แทบทุกอย่าง แม้แต่โลงศพน้ำก็ไม่อาจจะขังเธอได้
“แกตาย ! ” แมวที่หลุดออกจากโดมน้ำมาได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาได้ใช้กรงเล็บลมออกมาทันที
แมวมองไปที่ชายชุดดำด้วยสายตาโกรธแค้น มันเกือบจะตายเพราะการโจมตีของอีกฝ่าย จึงเป็นธรรมดาที่มันจะไม่ปล่อยดูฉีชุยไปง่าย ๆ
แมวพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำก่อนที่อีกฝ่ายจะยกดาบในมือขึ้นฟันเข้าใส่แมว ดาบและใบมีดลมปะทะกันจนเกิดประกายไฟขึ้นมา ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเกินกว่าที่คาดเอาไว้ เขาแกร่งยิ่งกว่าอสูรน้ำซะอีก
ทั้งสองปะทะกันกว่าร้อยรอบ ชายชุดดำรับการโจมตีของแมวเอาไว้ได้หมด เมื่อเห็นว่าหวังเย่าและแมวสร้างปัญหากับเขาได้ ดูฉีชุยก็สีหน้าหม่นลง เขาอยากจะใช้โอกาสนี้ฆ่าเอไนน์ทิ้ง แต่หวังเย่ารู้ตัวนานแล้วว่าอีกฝ่ายจะลอบโจมตีจึงเข้าไปขวางหน้าเอไนน์เอาไว้
ดูฉีชุยกางมือออกพร้อมกับมีแสงสีทองส่องประกายออกมา หวังเย่าไม่คิดจะหลบ เขาแค่ยกมือขึ้นจับมืออีกฝ่ายเอาไว้
แสงสีทองอัดกับมือของหวังเย่าพร้อมกับเลือดที่กระจายออกมา หวังเย่าใช้โอกาสนั้นจับบอลแสงในมืออีกฝ่าย จนมันเปลี่ยนเป็นแส้สีทองที่เต็มไปด้วยหนาม หนามเหล่านี้ราวกับสิ่งมีชีวิตที่ฝังลึกเข้าไปในมือของหวังเย่ามากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นเอไนน์ก็ใจสั่น ถ้าเธอโดนแส้นี่เข้าไปคงยากจะคิดได้ว่าจะบาดเจ็บแค่ไหน
หวังเย่าจับแส้เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นแผลที่มือแต่มันก็ไม่อาจจะแทงลึกไปกว่านี้ได้ หลังจากที่ได้แก่นไฟไปเขาก็เพิ่มเลเวลขึ้นมาเป็น 125 ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเลเวลเดียวกัน แต่เขาก็ไม่เกรงกลัว
แต่หวังเย่าพบว่าแม้ว่าจะเป็นแผลเล็ก ๆ แต่เลือดก็เหมือนโดนแส้นี่สูบไป ไม่นานหลังจากนั้นมือของเขาก็โดนย้อมเป็นสีแดง
“เด็กน้อย นี่คือสัตว์อสูรของฉัน อย่าพูดถึงแกที่เลเวล 125 เลย แม้แต่พวกผู้ใช้อสูรเลเวล 130 ก็ยังโดนสูบเลือดจนตัวแห้งตาย เมื่อโดนแทงแล้วก็ไม่มีทางที่จะต้านทานได้”
“แกรอโดนสูบเลือดจนตายได้เลย ฉันจะเอาตัวแกไปประดับผนังเอาไว้” ดูฉีชุยยิ้มออกมา
เอไนน์ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้ากังวลออกมา ดูฉีชุยนั้นมีไพ่ลับนับไม่ถ้วนซ่อนเอาไว้ เธอกลัวกับทักษะของอีกฝ่ายจริง ๆ
หวังเย่าได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้หวั่นใจแต่อย่างใด เขายิ้มออกมาอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “งั้นแกคงไม่เคยได้ยินคำพูดหนึ่งสินะ ? ”
“อะไร ? ” ดูฉีชุยถามด้วยสีหน้าเฉยเมย
“คนพูดมากมักจะตายก่อน” ไฟได้ระเบิดขึ้นมาในมือหวังเย่าและได้ลามไปทั่วแส้ทองทันที
แม้ว่าความสามารถในการสูบเลือดของแส้นี่จะน่ากลัวแต่มันก็เป็นพืชที่กลัวไฟมากที่สุด ไฟหยินหยางน่ะคือไฟที่น่ากลัวที่สุดในโลก
หลังจากที่ไฟลามไปที่ตัวแส้แล้ว แส้ก็โดนเผาอย่างรวดเร็ว มันบิดตัวไปมาพยายามที่จะหนี แต่หวังเย่าจับมันเอาไว้แน่นไม่เปิดโอกาสให้มันได้หนีไปได้
ปลายแส้ได้อ้าปากของมันออกเผยให้เห็นฟันที่คมกริบหมุนวนไปมา เมื่อเห็นฉากนี้ เอไนน์ก็ถึงกับต้องกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
แม้แต่หวังเย่าเองก็ยังรู้สึกขนลุกนิด ๆ !
แส้พยายามกัดเข้าที่คอของหวังเย่า แต่หวังเย่าเอียงหัวหลบไปได้ง่าย ๆ พร้อมกับอัดลูกไฟเข้าที่ปากของมันแทน
ปัง !
แส้โดนเผาเกือบตาย ดูฉีชุยไม่คิดเลยว่าแส้ของเขาจะโดนอีกฝ่ายจัดการได้ง่ายแบบนี้ เขายังไม่ทันตั้งตัวก็พบกับอุ้งมือกดลงที่หัวของเขา
“แกคงต้องไปรู้สึกผิดหลังความตาย ! ” หวังเย่ากระซิบข้างหูอีกฝ่ายและฟาดหัวอีกฝ่ายอย่างแรง
ห้องโถงสั่นสะเทือนพร้อมกับดูฉีชุยที่ตัวฝังไปกับกำแพงพร้อมรอยร้าวที่ลามออกไปทั่ว
เอไนน์พึมพำออกมา “นายท่านนี่โหดจริง ๆ เดาว่ากระดูกในตัวของเขาคงแตกเป็นชิ้น ๆ แล้ว”
“เอไนน์ มาช่วยหน่อย เราทนไม่ไหวแล้ว” เสียงของวานซิดดังขึ้น เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเธอโดนพวกคนชุดดำไล่ตามอยู่
เอไนน์วิ่งเข้าไปช่วย แม้ว่าจะสู้ได้ไม่ดีนักแต่อย่างน้อยก็พอช่วยให้วานซิดพอหลบการโจมตีได้บ้าง หวังเย่าเห็นว่า แฟนธอมไม่ได้มีปัญหามากนักจึงไม่ได้รีบเข้าไปช่วย
ติ๊ง !
แมวได้สะบัดกรงเล็บออกไป ชายชุดดำได้ยกดาบกันเอาไว้แต่พลังของแมวนั้นเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ดาบได้หักออกก่อนที่จะโดนใบมีดลมอัดเข้าแทน
“แก..แกเป็นแค่สัตว์อสูรเลเวล 130 ได้ยังไง ! ” ชายชุดดำอึ้งไป ชัดแล้วว่าแมวนี่เลเวลน้อยกว่าเขาถึง 15 เลเวลแต่กลับแกร่งกว่าเขาได้
พวกคนชุดดำรอบ ๆ เห็นว่ารองหัวหน้าบาดเจ็บก็คิดจะเข้ามาช่วย แต่ก่อนที่จะได้เขาใกล้แมวก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมา
คลื่นเสียงที่เห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกมาโดยรอบ พวกคนชุดดำในระยะ 30 เมตรต่างก็ตัวแข็งทื่อไป จากนั้นแมวก็ได้พุ่งเข้าใส่ชายชุดดำคนเดิมอีก
ก่อนที่จะรู้ตัวกรงเล็บของแมวก็สะบัดเข้าที่คอพร้อมกับเลือดที่ไหลอาบลงมา จนตอนนั้นหัวถึงกลิ้งตกลงไปที่พื้นพวกลูกน้องถึงรู้ว่าหัวหน้าและรองหัวหน้าแพ้ไป
การต่อสู้ในด้านหวังเย่าก็เกือบจะจบลงแล้ว คนกว่า 20 คนได้เข้ารุมหวังเย่าเอาไว้ เมื่อมีแฟนธอมอยู่ด้วยการจัดการพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
“จะทำยังไงกับคนพวกนี้ ? ” แมวมองไปที่คนชุดดำที่เหลือและถามหวังเย่า
“ถ้าฉันบอกว่าคนพวกนี้จับตัวผู้หญิงครึ่งมนุษย์มาจำนวนมากและทำเรื่องชั่วร้ายไป ฉันว่าพวกนี้ควรจะตกนรก” วานซิดพูดขึ้น เธอยังไม่ลืมเรื่องที่โดนพวกนี้ไล่ล่า
เธอเดินไปหาร่างดูฉีชุยพร้อมกับมีดในมือก่อนจะพูดขึ้น “ ตายแล้วงั้นหรือ ? ไอ้บ้านี่ทำเรื่องชั่วมากมายทำไมมาตายง่าย ๆ แบบนี้ ? ”
“กระดูกทั้งตัวแตกไปหมดแล้ว ถ้าไม่ตายก็ใช้ชีวิตลำบาก” เอไนน์พูดขึ้นมา
วานซิดส่ายหน้าและพูดขึ้น “ไม่ ! ให้มันตายง่าย ๆ ไม่ได้ ฉันรับไม่ได้ ! ”
เมื่อพูดจบเธอที่กำลังจะยกมีดขึ้นแทงดูฉีชุย แต่ดูฉีชุยกลับลืมตาขึ้นมาจนทำให้วานซิดถึงกับสะดุ้ง
ทุกคนต้องแปลกใจเมื่อพบว่าที่ร่างของดูฉีชุยได้ระเหยกลายเป็นเงาดำพุ่งออกจากห้องโถงไป และหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน
วานซิดมองไปยังกำแพงตรงหน้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า “นี่…เขาตายแล้วหรือ ? ”