ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 695 : ทำลายรังคนชุดดำ

ตอนที่ 695 : ทำลายรังคนชุดดำ

ในพริบตาอากาศก็ราวกับแข็งทื่อไป มันราวกับมีมือมากำคอของเขาเอาไว้จนทำให้หวังเย่าไม่อาจจะหายใจได้ ในพริบตามีดนั่นก็เหมือนจะแทงทะลุเข้าไปที่คอของหวังเย่า

ฉัวะ….

โล่เงาได้ระเบิดออกพร้อมกับน้ำแข็งที่ปะทะกับโล่จนแตกออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นโล่เงาก็ได้สลายไป

การโจมตีไม่ได้จบแค่นั้น มันกลับมีการโจมตีครั้งต่อไปเข้ามา ในพริบตาก็มีมีดหลายร้อยเล่มก่อตัวขึ้นมาเล็งไปที่หวังเย่าและคนอื่นรอบ ๆ

เสียงมีดตัดสายลมดังขึ้น การโจมตีนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าการโจมตีตะกี้เลย

ด้วยมีดน้ำแข็งที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า หวังเย่าและแฟนธอมก็ได้ไปยืนขวางหน้าเอไนน์และวานซิดเอาไว้ ทั้งสองต่างก็ใช้โล่เงาของตัวเองเพื่อรับการโจมตีเอาไว้

แมวนั้นรับรู้ได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย มันคำรามออกมาและใช้การโจมตีที่รุนแรงกว่ากลับไป กรงเล็บกว่าร้อยอันฟันเข้าใส่ใบมีดน้ำแข็งตรงหน้า

ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

เสียงใบมีดกระทบกันดังขึ้น ใบมีดลมของแมวนั้นคมอย่างมากจนใบมีดน้ำแข็งเหล่านั้นไม่อาจจะเข้าถึงตัวมันได้

กลับกันแล้ว แมวได้ไล่ตามอีกฝ่ายไป เมื่อเห็นพลังของแมว วานซิดก็ต้องอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ “ นี่สัตว์เป็นอสูรของคุณงั้นหรือ ? แกร่งจริง ๆ ! ”

“นอกจากการลงโทษครั้งที่แล้ว ฉันเพิ่งเห็นเขาโกรธขนาดนี้ รึว่าเขารู้จักอีกฝ่าย ? ” เอไนน์ตกใจกับท่าทีโกรธของแมว

หวังเย่าได้ยินแบบนั้นก็พึมพำออกมา “ ไม่ใช่แค่รู้จัก แต่เขาน่ะแพ้ให้กับอีกฝ่ายมาด้วย”

อสูรน้ำที่พ่ายแพ้ให้กับเขาและแมว ถ้าไม่ใช่เพราะมีหวังเย่าช่วย แม้ว่าแมวจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังเสียเปรียบให้กับอสูรน้ำอยู่ดี

“กรร ! ” แมวพุ่งออกไปหลังจากที่อีกฝ่ายโจมตีเสร็จ อสูรน้ำไม่ยอมโจมตีต่อและเปลี่ยนร่างเป็นของเหลวทันที

แต่แมวนั้นรู้ทันความสามารถของอีกฝ่ายอยู่แล้ว เขายกขาทั้งสองข้างขึ้นก่อนจะใช้กรงเล็บออกมาข่วนเข้าใส่ร่างของอสูรน้ำ

แม้ว่าใบมีดลมเหล่านี้จะไม่ได้ผลเท่ากับไฟหยินหยางของหวังเย่า แต่ก็เป็นการโจมตีธาตุที่ได้ผลอยู่บ้าง ร่างของอสูรน้ำโดนตัดออกเป็นชิ้น ๆ มันต้องเปลี่ยนเป็นหยดน้ำเพื่อที่จะหนีไป

มันรู้ว่าแมวนี่แกร่งขึ้น และตอนนี้มันไม่อาจจะเป็นคู่มือของแมวได้

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคิดจะหนี หวังเย่าก็ได้ใช้ไฟหยินหยางปกคลุมไปทั่วทั้งห้องเพื่อสร้างพื้นที่ปิดขึ้นมา

“ครั้งที่แล้วฉันให้แกหนีไป ฉันอยากดูสิว่าครั้งนี้แกจะเอาตัวรอดยังไง ? ” หวังเย่าฮึดฮัดออกมา ไฟเริ่มหดตัวลง สุดท้ายอสูรน้ำก็โดนขังไว้ในโดมไฟที่มีพื้นที่ไม่ถึง 10 ตารางเมตร

อสูรน้ำได้เปลี่ยนตัวเองเป็นยักษ์น้ำแข็งพยายามจะพุ่งออกจากไฟแต่ไฟนี้ทรงพลังกว่าเก่า มันเสียเปรียบต่อไฟอย่างมากแม้ว่าจะเลเวล 130 แต่ก็ไม่อาจจะสู้กับไฟนี่ได้

“หยุด ! ” เสียงตะโกนของชายวัยกลางคนดังขึ้นก่อนที่จะมีคนกว่าสิบคนโผล่มา

ชายคนหนึ่งพุ่งมาที่อสูรน้ำ แต่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า

ปัง !

ชายคนนั้นกระเด็นออกไปทันที

ในอีกด้าน หวังเย่าก็ช่วยรับมือกับคนที่เหลือ เขาใช้ไฟที่ทรงพลังกว่าเก่าอัดเข้าใส่อสูรน้ำ จนสุดท้ายอสูรน้ำก็กลายเป็นเถ้า

“พวกแก…พวกแกต้องตาย ! ” ชายชุดดำที่โดนแมวขวางทางเอาไว้กัดฟันแน่นและมองมาที่กลุ่มของหวังเย่า

หวังเย่าเห็นหน้าตาอีกฝ่ายได้ชัดเจน นี่เป็นชายวัยกลางคนผมสั้นหน้าเหลี่ยมที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเอาซะเลย

“พวกแกต่างหากที่ต้องตาย ! ” หวังเย่าพูดขึ้น

“พี่ฉันอยู่ไหน ? พวกแกทำอะไรกับเขา ! ” ตอนที่วานซิดเห็นชายวัยกลางคนก็ถามขึ้นมาด้วยความกังวล

ชายวัยกลางคนมองไปที่วานซิดแล้วฮึดฮัดออกมา “ไม่ต้องกังวล เธอจะได้ไปหาเขาในไม่ช้า ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นสัตว์อสูรเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นขอฉันจัดการกับขยะตรงหน้านี้เสียก่อน”

ตอนนั้น มันมีคนชุดดำคนอื่น ๆ แห่กันเข้ามา ไม่นานก็มีคนชุดดำหลายร้อยคนเข้ามาในห้องโถง แม้แต่ทางเดินที่หวังเย่าและคนอื่นเข้ามาก็ถูกขวางเอาไว้ด้วย

“คนเยอะจริง ๆ เราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ” เอไนน์เห็นคนจำนวนมากก็ต้องตกใจ

“เธอพูดแบบนั้นได้ยังไง ? ” หวังเย่ามองค้อน “แค่คนไม่กี่ร้อยคน พวกนี้เป็นน้ำจิ้มให้จ้าวแห่งแมวไม่ได้ด้วยซ้ำ ! ”

“ถ้าข้าอยากจะฆ่า คนแค่นี้หยุดข้าไม่ได้หรอก” แมวพูดขึ้น

“ …” หวังเย่าถึงกับพูดอะไรไม่ออก แมวนี่ใสซื่อชะมัด

เขาบอกถึงความแข็งแกร่งของตัวเองก่อนจะลงมืองั้นหรือ ?

หวังเย่ามองไปรอบ ๆ และคิดหาวิธีจัดการ ชายวัยกลางคนก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้คิด อีกฝ่ายรีบสั่งการให้คนอื่น ๆ ได้พุ่งเข้าหากลุ่มของหวังเย่าทันที

“ระวังตัวด้วย ! แฟนธอมปกป้องทั้งคู่เอาไว้” หวังเย่าตะโกนบอกแฟนธอม ส่วนเขากับแมวนั้นคอยรับมือกับการโจมตีของพวกคนชุดดำเหล่านั้น

เอไนน์สะบัดมือพร้อมกับลำแสงที่สาดขึ้นมาจากตัวทุกคน เธอไม่ลังเลที่จะใช้สกิลช่วยทุกคน โล่เอฟล์ได้ปรากฏขึ้นที่แขนของทุกคนพร้อมกับค่ายกลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งห้องโถง

การเคลื่อนไหวของพวกคนชุดดำทุกคนช้าลงไปราวกับติดอยู่กับโคลน การเคลื่อนไหวนั้นยากลำบากขึ้น นี่คือสกิลจากราชินีเอลฟ์

แม้ว่าพวกคนชุดดำจะมีจำนวนมากและหลายคนก็เลเวลแค่ 100 กว่าเท่านั้น และก็มีสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ บางตัวยังไม่ถึงระดับศักดิ์สิทธิ์เลยด้วยซ้ำ ผู้ใช้อสูรและสัตว์อสูรแค่นี้ไม่อาจจะสลัดสกิลของเอไนน์ได้

ชายชุดดำคนหนึ่งพุ่งมาตรงหน้าหวังเย่าและใช้ค้อนฟาดเข้าที่หัวของหวังเย่า หวังเย่ายกมือขึ้นกันเอาไว้ น้ำหนักค้อนนี่ไม่ใช่เบา ๆ แม้แต่คนเลเวล 120 ก็ไม่อาจจะกันได้ง่าย ๆ หากไม่ใช่เพราะชายชุดดำนี้ได้ฝึกร่างกายมา งั้นก็คงไม่อาจจะใช้ค้อนหนักแบบนี้ได้

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง หวังเย่าก็ไม่อาจจะออมมือได้ เขาใช้ไฟหยินหยางเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย

ปัง !

แค่หมัดเดียวอีกฝ่ายก็กระเด็นออกไปแล้ว ตัวของเขาถึงกับขาดเป็นสองท่อนด้วยซ้ำ เขาไม่มีโอกาสที่จะเรียกสัตว์อสูรออกมาเลย

หวังเย่าต่อยออกไปด้วยหมัดฉลามไฟในทุกทิศทางเพื่อฆ่าอีกฝ่าย พวกที่แกร่งไม่เท่าหวังเย่าต่างก็โดนเผาจนกลายเป็นเถ้าไปในทันที

ด้วยเลเวลที่เพิ่มขึ้นมา ฝ่ามือฉลามดำก็ไม่อาจจะเพียงพอกับการใช้งาน แต่ด้วยความเข้าใจของเขา เขาก็สามารถรวมไฟหยินหยางเข้ากับฝ่ามือฉลามดำได้ บอกได้ว่ามันมีพลังในระดับที่น่าแปลกใจ

ในอีกด้าน แมวก็ไม่ได้มีข้อเสียเปรียบดังเดิม เขาดูแกร่งขึ้นกว่าเก่า เมื่อพลังสายเลือดถูกปลุกขึ้นมา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ พวกคนชุดดำไม่อาจจะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ด้วยซ้ำ

ไม่นานพื้นที่รอบ ๆ ตัวหวังเย่าก็ว่างเปล่าไป ไม่มีใครกล้ารับมือกับการโจมตีของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะฝ่ามือฉลามไฟนั้นจะเผาพวกนั้นจนตาย

ส่วนแมวนั้นใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีก็มีแขนไม่ก็หัวของอีกฝ่ายปลิวออกมา รูปแบบการต่อสู้ของเขาดูน่าสยดสยองกว่าของหวังเย่าเป็นอย่างมาก อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่หวังเย่าคิด

“ไม่ต้องมาช่วย ! ” วานซิดตะโกนออกมา เธอหลบไปมาทางซ้ายขวาเพื่อหลบพวกคนชุดดำและโจมตีกลับไป แต่เธอแกร่งกว่าเอไนน์ไม่มากนัก เธอแกร่งพอ ๆ กับแฟนธอม ดังนั้นจึงทำได้แค่รับมือกับพวกคนชุดดำเท่านั้น

คำพูดของวานซิดนั้นทำให้แฟนธอมถึงกับต้องกลอกตาใส่

“เธอบาดเจ็บอยู่ ถ้าเธอยังเจ็บตัวอีก เธอจะดูแลตัวเองยังไง ? ” แฟนธอมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ถ้าไม่ช่วยก็คงทำได้แค่มองดูเธอตาย ต่อหน้าวงล้อมของคนชุดดำนี้ แฟนธอมไม่อาจจะทำอะไรได้มากนัก

ถ้าไม่ใช่เพราะการรักษาจากเอไนน์และสกิลที่ช่วยเหลือแล้ว แม้ว่าจะมีสายเลือดของสัตว์อสูรเทพแต่ก็ไม่อาจจะฝ่าวงล้อมออกไปได้

ด้วยการเพิ่มพลังขึ้นมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หวังเย่าและแมวก็เหมือนกับเทพสังหาร พวกคนชุดดำไม่อาจจะกันการโจมตีของทั้งสองได้ แม้แต่ผู้ใช้อสูรเลเวล 120 และสัตว์อสูรก็ต้องตายต่อหน้าการโจมตีของพวกเขา

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ชายวัยกลางคนก็รู้ว่าไม่อาจจะรับมือไหว เขาต้องรายงานกับหัวหน้าว่าแผนการตอนนี้โดนทำลายแล้ว

“ ถึงมีหลายคนก็ไม่อาจจะจัดการไหว” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว

แม้ว่าจะโกรธแต่ความแข็งแกร่งของสองคนนี้ก็เกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ที่พึ่งสุดท้ายของเขาตอนนี้ก็คงต้องขอความช่วยเหลือ เขาเอาลูกปัดสีฟ้าออกมาก่อนจะล็อคเป้าไปที่หวังเย่าและแมว

“ผนึก ! ” ชายวัยกลางตะโกนออกมา ก่อนที่หวังเย่าและแมวจะตัวแข็งทื่อไป มันมีโดมน้ำปรากฏขึ้นที่ตัวของทั้งสองคนก่อนจะขังทั้งสองไว้ด้านใน