ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 685 : รับปาก
ตอนที่ 685 : รับปาก
หวังเย่าเดินตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ตามรอยประทับจิตวิญญาณที่เขาทิ้งไว้ และสุดท้ายหวังเย่าก็เดินทางมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง แน่นอนว่ามีคนรอเขาอยู่ด้านใน
“มันกลับกลายเป็นว่าอยู่ที่นี่” หวังเย่ามองไปที่ร้านอาหารตรงหน้าของเขา ร่องรอยความสงสัยปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหวังเย่าอย่างเห็นได้ชัด
เขากลั้นหายใจแล้วแอบเข้าไปในร้านอาหารอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าร้านอาหารแห่งนี้จะมีข้อจำกัดและการป้องกันที่แน่นหนา แต่โดยทั่วไปแล้วการจำกัดดังกล่าวมักใช้เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณอสูรทั่วไปและคนธรรมดาเข้ามา แต่สำหรับหวังเย่าแล้วการจะเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ตามการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา หวังเย่าก็ได้เดินผ่านห้องโถงของร้านอาหารไปที่สวนหลังบ้าน และในที่สุดก็เดินมาถึงห้องครัว เขาไม่รับรู้ถึงคลื่นพลังอะไร ดังนั้นเขาจึงกระโดดขึ้นไปที่หลังคาของฝั่งตรงข้ามแทน
ไม่นานก็มีเงาหนึ่งพุ่งออกมาจากห้องครัวอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับถุงที่พาดอยู่ด้านหลัง
ด้วยแสงจันทร์ที่ส่าดสองลงมา หวังเย่าก็เห็นได้ว่าร่างนี้มีขนาดเท่ากับคน แต่มีขนสีทองปุกปุย และนี่คือแมว !
ตอนที่ต่อสู้กันในป่านั้น หวังเย่าได้อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายเผลอประทับตราเอาไว้ในตัวอีกฝ่าย เขาทำเพื่อที่อยากจะรู้ว่าแมวนี่จะไปที่ไหนต่อ
“มันกลับมาที่ร้านอาหารเพื่อขโมยบางอย่าง มันมาเพื่อขโมยอาหารงั้นหรือ” หวังเย่าแปลกใจ แม้ว่าแมวนี่จะแข็งแกร่ง แต่พลังของมันก็ลดลงไปอย่างมาก
ในฐานะสัตว์อสูรแล้ว มันมาขโมยอาหารของมนุษย์ได้ยังไง ?
ด้วยความอยากรู้ หวังเย่าไม่ได้เปิดเผยตัวแต่กลับตามอีกฝ่ายไปอย่างเงียบๆ หลังจากที่ออกจากร้านอาหารไปแล้ว แทนที่จะออกจากเมือง อสูรแมวกลับเดินไปที่ตรอกที่ห่างไกลผู้คนแทน
หลังจากที่เข้ามาในตรอกนี้แล้ว มันก็มีลูกแมวโผล่ออกมา นี่คือกลุ่มแมวข้างถนนที่แมวนี่ดูแลอยู่
แมวนี่ไม่ได้พูดอะไร มันแค่เอาอาหารออกมาจากถุงวางลงไปที่พื้น ทันใดนั้นแมวจรจัดก็ได้เข้ามาล้อมและกินอาหารที่พื้นทันที
หลังจากที่ให้อาหารจนพอแล้วแมวก็หันกลับออกมาโดยมี หวังเย่าตามไปติด ๆ แมวได้ไปทิ้งอาหารไว้ในซอยอื่น ๆ ด้วย
ตอนที่มันออกจากซอยสุดท้าย ถุงที่ใส่ของมาก็ว่างเปล่า
“ไม่คิดเลยว่ามันจะใจดีขนาดนี้” หวังเย่ามองไปที่แมวที่นั่งอยู่ที่พื้นและพึมพำออกมา
แมวนั่นเหมือนจะรับรู้ได้ถึงบางอย่างและมองกลับมาที่ด้านหลังแต่ก็ไม่พบอะไร มันจึงมองไปรอบ ๆ แทน
…
“นายท่าน ทำไมถึงกลับมาดึกแบบนี้ ? ” หลินฉีนอนอยู่บนเตียง เมื่อเห็นหวังเย่ากระโดดผ่านหน้าต่างเข้ามาก็ได้ถามขึ้น
“ฉันไปเจอเรื่องไม่คาดคิดเข้าเลยมาช้า เธอคิดถึงฉันรึไง ? ” หวังเย่านั่งที่ปลายเตียงแล้วจับแขนหลินฉีเอาไว้
เมื่อรับรู้ได้ถึงความอุ่นจากตัวหวังเย่า หลินฉีก็หน้าแดงขึ้นมา เธอยื่นมือขึ้นมาโอบคอหวังเย่าเอาไว้แล้วกอดเขา “คิดถึงจะแย่ ฉันคิดว่านายไปหาผู้หญิงคนอื่นซะแล้ว”
หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ เธอกล้าคิดกับฉันแบบนี้ เธอไม่กลัวว่าพรุ่งนี้จะลุกจากเตียงไม่ได้รึไง ? ”
หลายวันต่อมา หวังเย่าก็ยังอยู่ในโรงแรมเพื่อทำการบ่มเพาะ เพราะอีกไม่นานดินแดนนรกจะเปิดแล้ว เขาต้องเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้แล้ว หากอยากได้ตัวเสี่ยวซวีมาจากมือพวกนั้น งั้นก็คงเป็นเรื่องยากอย่างมาก
ดังนั้น หวังเย่าจึงไม่กล้าจะเสียเวลา เขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองให้ได้โดยเร็วที่สุด ในทุกคืนนอกจากการบ่มเพาะแล้ว หวังเย่าก็จะออกมาแอบตามแมวไป เพราะหวังเย่าพบว่าแทบทุกคืนนั้นแมวจะเข้ามาในเมืองเพื่อขโมยอาหารไปให้แมวจรจัด ไม่ใช่แค่นั้นแต่ที่เนินเขานอกเมืองก็ยังมีแมวที่บาดเจ็บที่ไม่อาจจะช่วยตัวเองได้ พวกนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำ ส่วนมากเลเวล50-60 มันบาดเจ็บหนัก ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาตัวรอดในที่นี่
มันเป็นไปไม่ได้ที่ขโมยอาหารแค่คืนเดียวแล้วจะเพียงพอให้สัตว์อสูรตัวอื่น ๆ กินได้ไปตลอด ดังนั้นในทุก 2-3 วันแมวนี่จะมาขโมยอาหารเพื่อเอาไปให้พวกนี่กิน
หลังจากที่จับตาดูมาหลายวัน สุดท้ายหวังเย่าก็พบว่าแมวนี่มีจิตใจดีขนาดไหน
ถ้าเป็นสัตว์อสูรตัวอื่น มันคงไม่มาสนใจสัตว์อสูรระดับต่ำแบบนี้
“มันมีความรับผิดชอบจริง ๆ ! ” หวังเย่ามองไปที่อสูรแมวและรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
จากนั้นหวังเย่าก็ได้ไปหาเพื่อนต่อ ตั้งแต่ที่เขามาครั้งที่แล้วที่นี่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ใช่แค่เริ่มก่อตั้งกองกำลังทหารขึ้นมาแต่ยังมีคนเพิ่มขึ้นด้วย ตามที่โจวอวิ๋นเสนอมา ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนหรือมีระดับสายเลือดเท่าไหร่ ตราบใดที่ต้องการเข้าร่วมพวกเขาก็ยินดีต้อนรับ
มันมีสัตว์อสูรจำนวนมากที่เข้าร่วมกับกองกำลังทหารโลกา หนึ่งในเหตุผลก็เพราะหวังเย่าได้ทิ้งข้อมูลของระบบให้กับ โจวอวิ๋น
ด้วยความรู้นี้ โจวอวิ๋นก็สามารถเพิ่มเลเวลและคุณภาพให้กับสัตว์อสูรได้ง่ายกว่าผู้ดูแลคนอื่น ๆ เขาเข้าใจสัตว์อสูรดีกว่าคนอื่น ๆ
……………
“เกิดอะไรขึ้น ? ” แมวเดินทางไปที่ถ้ำและพบว่าสัตว์อสูรที่นั่นหายตัวไปหมดแล้ว
สัตว์อสูรในถ้ำนี้เป็นสัตว์อสูรเลเวลต่ำรึบาดเจ็บหนักจนไม่อาจจะปกป้องตัวเองได้ แต่ตอนนี้พวกนั้นกลับหายตัวไปหมดแล้ว มันทำให้แมวไม่สบายใจอย่างมาก
มันโยนถุงทิ้งเอาไว้และลองเดินหารอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอใครเลย
“พวกแกเจอดีแน่ ! ” แมวโกรธจัดและคิดว่าสัตว์อสูรที่นี่โดนฆ่า
แต่ตอนนั้นเอง มันกลับรับรู้ได้ถึงบางอย่างและหันกลับไปที่ด้านหลัง มันมีชายคนหนึ่งยืนรอมันอยู่ที่ด้านหลัง
“ไม่ต้องกังวล พวกนั้นไม่เป็นไร และตอนนี้ก็อยู่ในที่ปลอดภัย” หวังเย่ายิ้มและนั่งลงกับพื้น เขาบอกให้แมวไม่ต้องกังวล
แมวเดินเข้ามาหาหวังเย่าและมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะพูดออกมาว่า “เจ้าทำบ้าอะไร ? ”
“มาคุยกันก่อน ฉันคิดว่านายคงไม่หงุดหงิดจนคุยไม่ได้หรอกนะ” หวังเย่าชี้ไปที่พื้นตรงหน้า “นั่งลงแล้วมาคุยกัน เราต่างก็เคยช่วยกันมาก่อน ฉันว่านายติดหนี้ฉันนะ”
“คุยเรื่องอะไร ? ” แมวนั้นเหมือนชายวัยกลางคน
“แน่นอนว่าเราต้องคุยกัน ครั้งแรกที่ฉันเจอนาย ฉันคิดว่านายเหมือนแมวที่ฉันเคยมี มันไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนกับนาย แต่มันเชื่อฟังกว่านายมาก”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า แมวนั่นก็ตัวสั่นมันมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น “เจ้าเคยมีแมวด้วยหรือ ? ”
“แมวของฉันไม่ได้แกร่งเท่ากับนายหรอก มันตัวเล็กกว่านายมาก และเป็นสัตว์อสูรตัวแรกของฉัน ตอนแรกมันก็เป็นแค่แมวบ้านธรรมดา มันคือสัตว์เลี้ยงที่ไร้ประโยชน์แต่ฉันก็พัฒนามันขึ้นมาจนแข็งแกร่ง ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเห็นแมวตัวไหนที่เหมือนกับการ์ฟิลด์มาก่อน ฉันคิดว่าในจักรวาลก็คงไม่มี”
“การ์ฟิลด์คือชื่อของแมวที่ฉันเคยมีน่ะ” หวังเย่านึกถึงตอนที่เขาบังคับให้มันกินอาหารแย่ ๆ เพื่อเพิ่มเลเวล ตอนนั้นการ์ฟิลด์เหมือนจะแค้นเขาราวกับเขาทำอะไรผิด
“เจ้าอยากจะบอกอะไร ? ” แมวขัดขึ้นมาและถามขึ้น ถึงอย่างนั้นสายตาของมันก็ยังเฉยเมยดังเดิม
“มาทำสัญญากัน ! ” หวังเย่าพูดขึ้น
“ไม่มีทาง ! ” แมวลุกขึ้นยืนทันที มันปฏิเสธหวังเย่า ในฐานะสัตว์อสูรเลเวล 150 แล้ว มันก็มีเกียรติของตัวเอง
แม้แต่คนที่แกร่งอย่างฟู่หมิง มันก็กล้าที่จะต่อสู้ด้วย นี่ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ที่เลเวล 120 เลย
“มันดีสำหรับนายและฉัน ฉันต้องการพลังของนายและฉันช่วยนายได้ ในฐานะบรรพบุรุษของแมวแล้ว นายคิดจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นี่รึไง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า แมวนั้นก็หรี่ตาลง “เจ้ารู้ตัวตนของข้า กองกำลังไหนส่งเจ้ามา ? มันไม่มีผู้ดูแลคนไหนทีเชี่ยวชาญด้านกฎไฟ”
“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายพูดถึงเรื่องอะไร แต่ฉันไม่ได้เป็นคนของใคร ฉันคือคนนอกของเขตดาวโบไลด์ อีกไม่นานดินแดนนรกจะเปิด” หวังเย่าพูดขึ้น
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร แม้ว่าจะรู้ว่าข้าเป็นใคร แต่ข้าก็ไม่มีทางทำสัญญากับมนุษย์ที่อ่อนแอ ความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้แม้แต่คนที่แกร่งที่สุดที่นี่ก็ไม่อาจจะทำสัญญากับข้าได้ ทำไมข้าต้องมาทำสัญญากับเจ้าด้วย ? ” แมวถามขึ้นมา
“ถ้าฉันบอกว่าถ้านายทำสัญญากับฉัน ฉันจะช่วยรักษานายได้ล่ะ ? ” หวังเย่าพูดขึ้น “สายเลือดที่เสียหาย ด้วยความสามารถของนายตอนนี้แล้ว นายไม่มีทางฟื้นตัวได้เลย แม้ว่านายจะพยายามบ่มเพาะแต่อย่างมากก็ดีขึ้นแค่เล็กน้อยเท่านั้น”
“ใน 100 ปี พลังชีวิตนายก็จะหมด จากนั้นพวกสัตว์อสูรที่นายดูแลอยู่ ใครกันจะปกป้องพวกมัน ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ฉันเป็นผู้ดูแลที่เก่งกาจ พี่ฉันคือเทพไฟที่เป็นนักปรุงยาที่เก่งที่สุดในจักรวาล นายคิดว่าฉันจะโกหกนายรึไง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ถ้าเจ้าสามารถรักษาบาดแผลของข้าได้จริง ๆ ข้าก็รับปากว่าจะทำสัญญากับเจ้า” แมวเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นมา