ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 684 : อัดอสูรน้ำ
ตอนที่ 684 : อัดอสูรน้ำ
หวังเย่าเห็นว่าหมอกโดยรอบกระจายหายไป เขาก็ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
“แกคงคิดว่าฉันคงทำอะไรแกไม่ได้สินะ ? ฉันจะเผาแกให้ตาย ! ” ไฟหยินหยางได้ปะทุออกมาจากตัวหวังเย่าและได้เปลี่ยนเป็นมังกรตัวยาวหลายสิบเมตร
มังกรได้คำรามออกมาพร้อมกับบินวนรอบตัวหวังเย่า ไม่ว่ามังกรจะผ่านไปที่ไหน หมอกโดยรอบก็จะสลายไปด้วย ไม่นานก็มีมังกรกว่า 6 ตัวปรากฏขึ้นจนทำให้หมอกโดยรอบสลายไปทีละนิด
แม้แต่แมวเองก็รู้สึกถึงภัยจากมังกรไฟทั้งหกตัว พลังของมังกรไฟนี้ฆ่าสัตว์อสูรเลเวลเท่ากับตัวมันได้ในทันที มันรู้สึกว่ามังกรไฟเหล่านี้ไม่ธรรมดา และดูเหมือนว่าจะต่างจากฉลามดำที่หวังเย่าใช้ออกมาก่อนหน้านี้ลิบลับ
หมอกเริ่มรวมตัวกันเป็นฝ่ามือที่ยื่นออกมา แม้แต่สัตว์อสูรเลเวล 120 ก็ไม่อาจจะต้านทานมันได้
แต่หลังจากที่หมอกรวมตัวกันแล้ว มันก็ไม่อาจจะรับมือกับไฟได้อยู่ดี จนมันได้กรีดร้องออกมา
“ฮึ่ม ! เป็นแค่หนอนแต่กลับกล้ามาแข่งกับดวงจันทร์ ! ” หวังเย่าฮึดฮัดออกมา
ไฟหยินหยางคือภัยร้ายแรงที่สุดสำหรับอสูรน้ำในตอนนี้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเลเวลสูง แต่ต่อหน้ามังกรไฟเหล่านี้แล้ว มันก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับหวังเย่าอยู่ดี
“ค่ายกลทำลายดาว ! ” หวังเย่าแสดงสายตาเย็นชาออกมา
แมวนั้นเหมือนจะรับรู้ได้ถึงบางอย่างและเงยหน้าขึ้น มังกรไฟทั้งหกตัวทะยานขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะดำดิ่งลงมาที่พื้น
กรร !
ขนของแมวถึงกับลุกชัน แม้ว่าจะอยู่ห่างแต่ก็ยังรับรู้ถึงอันตรายจากไฟนี้ได้ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับพวกคนชุดดำและการโจมตีของอสูรน้ำแต่มันก็ยังไม่เคยรู้สึกได้ถึงอันตรายแบบนี้มาก่อน
อุกกาบาตนับไม่ถ้วนร่วงลงมาจากฟ้าราวกับห่าฝน ไฟเหล่านี้ทรงพลังอย่างมาก ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีแดงพร้อมกับป่าที่กลายเป็นสีแดงทั้งหมด
ตูม ตูม ตูม …
อุกกาบาตนับไม่ถ้วนพุ่งอัดลงกับพื้น ในพริบตามันก็เข้าไปในระยะหมอก อุกกาบาตเหล่านี้พุ่งไปยังจุดที่มีหมอกหนาที่สุดก่อนจะเผาหมอกพวกนั้นในทันที
หากมองจากด้านบนแล้วจะพบว่าหมอกที่ก่อนหน้านี้ครอบคลุมระยะหลายกิโลเมตรกลับหายไปเรื่อย ๆ หิมะและน้ำแข็งโดยรอบเองก็ละลายไปอย่างรวดเร็ว
ป่านั้นกลายเป็นสนามรบ มันเหลือแต่ผืนดิน มันเหมือนกับผ่านสงครามที่หนักหน่วงมา ต้นไม้โดยรอบกลายเป็นเถ้า และแม้แต่พวกคนชุดดำเองก็โดนเผาจนกลายเป็นเถ้าไปด้วย
หมอกกลับสลายไป แม้แต่อสูรน้ำเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นั่นต่อ
หวังเย่ามองไปยังสนามรบตรงหน้า เมื่อเห็นว่าหมอกสลายไปแล้วและอสูรน้ำก็หายตัวไป หวังเย่าก็รู้ว่าพลังของค่ายกลนี้น่ากลัวมากแค่ไหน นี่ไม่ใช่พลังทั้งหมดแต่กลับทำลายหมอกนี้ลงได้ ถึงอย่างนั้นการจะฆ่าสัตว์อสูรเลเวล 130 ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
หวังเย่ามองไปที่กองเถ้าและพบกับพลังงานผันผวนบางอย่าง
ตูม !
หวังเย่าไม่พูดอะไรและใช้ดาบฟันลงไปทันที ดาบนั้นห่อหุ้มไปด้วยไฟหยินหยาง มันฟันลงกับพื้นและทิ้งหลุมลึกกว่า 10 เมตรเอาไว้
ลูกบอลน้ำลอยออกมาจากเถ้า มันลอยอยู่กลางอากาศสักพักก่อนจะพุ่งหนีไป
“หึ ! ” ทันทีที่แมวเห็นอสูรน้ำปรากฏตัว มันก็ได้ใช้ใบมีดลมเข้าโจมตีก่อนจะทำให้อสูรน้ำตัวแตกออกจากกัน จากนั้นมันก็ยังหนีต่อ
“ไม่ต้องไล่ตาม ! ” เมื่อเห็นว่าแมวยังคิดจะไล่ตาม หวังเย่าก็ได้ห้ามเอาไว้ นี่คือสกิลเอาตัวรอดของอสูรน้ำ การโจมตีทางกายภาพของแมวนั้นใช้กับมันไม่ได้ผล การไล่ตามไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดเท่าไหร่
นอกซะจากว่าจะกำจัดน้ำในตัวมันไปทีละนิด ๆ งั้นมันก็ยากที่จะกำจัดมันอย่างสมบูรณ์ได้
“ครั้งนี้เราไม่ใช่แค่จัดการพวกชุดดำได้หลายสิบคน แต่ยังทำให้สัตว์อสูรนั่นบาดเจ็บหนักได้ ฉันเชื่อว่าถึงองค์กรมันจะแข็งแกร่งแต่ก็ต้องส่งผลกระทบต่อพวกมันแน่” หวังเย่าพูดขึ้น “ใช่สิ แล้วแกเอาผู้หญิงไปซ่อนไว้ที่ไหน ? ” หวังเย่าเพิ่งนึกถึงหญิงสาวที่หมดสติที่ถูกแมวช่วยเอาไว้เมื่อตะกี้นี้
แมวร้องออกมาก่อนจะวิ่งนำทางไป
หวังเย่าเดินตาม ไม่นานเขาก็พบว่าเธอนอนอยู่ในป่า เมื่อพาหวังเย่ามาพบเธอแล้ว แมวก็หันกลับและไม่คิดจะอยู่ต่อ
เมื่อเห็นว่าแมวเดินทางออกไปอย่างรวดเร็ว หวังเย่าก็ได้แต่ส่ายหน้า แมวนี่เหมือนจะไม่ชอบคุยกับใคร มันรีบกลับไปทุกครั้งเลย
หวังเย่ามองไปยังเด็กสาวที่หมดสติและถอนหายใจออกมา ต้องขอบคุณที่ครั้งนี้อยู่ห่างจากเมืองไม่มาก ไม่งั้นแล้วเขาคงทำตัวลำบาก พวกคนชุดดำตายหมดแล้วเหลือแค่อสูรน้ำที่หนีไปได้ ครั้งนี้เขาก็ยังไม่พบกับเบาะแสใด ๆ
เขารู้สึกเสียดายอย่างมาก ก่อนจะตรวจสอบอาการของหญิงสาว และตอนนี้เธอเหมือนแค่หมดสติไป
“หือ ? ” หวังเย่ามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพบว่าเธอหน้าตาคุ้น ๆ
“นี่…วานซิด ไม่ใช่รึไง ? ” หวังเย่าต้องแปลกใจเมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นเธอ
เท่าที่หวังเย่าจำได้ หญิงสาวที่หมดสตินี่คือผู้หญิงที่ร่าเริง
“หือ ! คุณมาได้ยังไง ? ” วานซิดตื่นขึ้นมาและเห็นใบหน้าของหวังเย่า เธอจำได้ทันทีว่านี่คือผู้อาวุโสที่สนิทกับเทพไฟ
หวังเย่าเองก็สงสัยจนถามขึ้นมา “เธอโดนจับตัวมาได้ยังไง ? เธอเป็นพวกครึ่งมนุษย์งั้นหรือ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่นะ”
“ฉันไม่ใช่ลูกครึ่งมนุษย์ ฉันเป็นลูกเสี้ยว อย่างที่คุณได้เห็น ฉันมีความเป็นครึ่งมนุษย์อยู่ในตัว” วานซิดมีความเป็นเสี้ยวสัตว์อสูรอยู่ เธอมองมาที่หวังเย่าด้วยความแปลกใจ
เธอขยี้ตาและถามขึ้นมา “ที่นี่ที่ไหน ? คุณช่วยฉันเอาไว้หรือ ? ”
“นั่น…ก็ใช่” หวังเย่าพยักหน้า เขาไม่ได้พูดถึงแมว เรื่องที่เกิดขึ้นตะกี้มันซับซ้อนเกินไป เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เธอรู้
“เธออยู่นี่จริง ๆ ด้วย ! ” เสียงของชายหนุ่มวิ่งออกมาจากเมือง เมื่อเขาเห็นวานซิด เขาก็ดีใจขึ้นมาทันที เขาวิ่งวนรอบตัวเธอ เมื่อพบว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บ เขาก็พูดขึ้น “เธอนี่สร้างปัญหาให้กับทุกคนจริง ๆ เธอไม่ควรไปหาเรื่องพวกคนชุดดำ รู้ไหม ! ”
“กลับไปกันก่อน ฉันมีเรื่องต้องรบกวนพวกนาย” หวังเย่าพูดขึ้น
วานเซ่มองไปที่หวังเย่า “ผู้อาวุโส คุณช่วยน้องฉันเอาไว้หรือ ? ขอบบคุณมาก ถ้าคุณไม่มาช่วยน้องของฉันเอาไว้ ฉันคงโดนพ่อฆ่าตายแน่”
หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้น “เรื่องเล็กน้อย ตอนนี้เรื่องจบแล้ว นายรีบกลับไปเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย”
เขาเอาตั๋วออกมาและยื่นให้กับวานเซ่ “ฉันรับปากว่าจะหามันมาคืนให้ พวกนายรับตั๋วเอาไว้”
“สมกับเป็นเพื่อนของเทพไฟ ผู้อาวุโสนี่น่าชื่นชมจริง ๆ ” วานเซ่รับตั๋วไปและพูดขึ้นมา
“คุณช่วยน้องฉันเอาไว้จากพวกคนชุดดำ คุณต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่ ๆ ไม่รู้ว่าคุณสนใจจะรับศิษย์รึเปล่า ฉันอยากเป็นศิษย์ของคุณ” วานเซ่จับมือหวังเย่าเอาไว้และพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
หวังเย่ามองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าและดึงมือกลับมา พูดอย่างกับว่าเขาเป็นคนแก่ บางทีวานเซ่อาจจะอายุมากกว่าเขาด้วยซ้ำ หน้าตาของคนที่นี่บอกอายุไม่ได้
สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างเทพไฟนั้นไม่รู้ว่าอยู่มานานแค่ไหน แต่ยังดูเด็กกว่าหวังเย่าด้วยซ้ำ
“ฉันไม่คิดจะรับใครมาเป็นศิษย์ ทักษะของฉันไม่เหมาะที่จะสอนนาย ถ้านายอยากได้อาจารย์ งั้นนายก็ต้องหาคนที่เหมาะสมกับนายด้วย” หวังเย่าพูดขึ้น
“แม้ว่าคุณจะไม่รับฉันเป็นศิษย์ แต่คุณก็สอนทักษะฉันได้นี่ ฉันเห็นมังกรไฟตะกี้และอุกกาบาตนับไม่ถ้วน มันน่าทึ่งจริง ๆ ! ถ้าคุณสอนทักษะนี้ให้กับฉัน ฉันว่าฉันต้องเรียนรู้มันได้เร็วแน่ ! ” วานเซ่พูดขึ้นมา
“ผู้อาวุโสปฏิเสธ แต่พี่ก็ยังหน้าด้านที่จะขอให้เขาสอนทักษะ ! ” วานซิดรู้สึกอับอายนิด ๆ
“ฉันคงต้องขอให้พวกนายกลับไปได้แล้ว ” หวังเย่าพูดขึ้น
“ ผู้อาวุโส คุณไม่กลับไปกับเราหรือ ? ” วานเซ่พูดขึ้น
หวังเย่าส่ายหน้าและมองไปทางหนึ่งของเมือง “ ฉันมีเรื่องส่วนตัวจะต้องไปจัดการ ฉันคงไม่ไปกับพวกนายด้วย”