ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 675 : เสี่ยวหยิงหายตัวไป
ตอนที่ 675 : เสี่ยวหยิงหายตัวไป
“ฉันผิดเอง ! ฉันผิดเองที่ไม่ดูแลเสี่ยวหยิงไม่ดีจนทำให้เธอหายตัวไป มันเป็นความผิดของฉันเอง” หลินฉีพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
เมื่อเห็นว่าหลินฉีได้แต่โทษตัวเอง หวังเย่าก็ลูบหัวเธอแล้วปลอบออกมา “ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ยังไม่ต้องโทษใคร เธอควรบอกเราก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ? ”
“เสี่ยวหยิงเป็นคนของฉันมานาน ในเขตดาวโบไลด์นี้ไม่มีศัตรูคนไหน ถ้ามันไม่มีเหตุผลพิเศษ งั้นก็ไม่มีใครคิดจะลงมือกับเธอ” ฟู่หมิงพูดขึ้น
แม้ว่าเสี่ยวหยิงจะไม่ได้แข็งแกร่งและเป็นแค่สาวใช้ แต่เจ้านายของเธอนั้นแข็งแกร่ง เขาเป็นถึงเทพไฟ เขาคือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล มีน้อยคนนักที่จะกล้าหาเรื่องเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นแค่สาวใช้ก็ตาม
“ไม่นานมานี้…” เมื่อเห็นว่าหวังเย่าและฟู่หมิงไม่โทษเธอ หลินฉีก็เริ่มเบาใจและอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟัง
ตอนที่ฟู่หมิงออกจากโรงแรมไปเพื่อช่วยหวังเย่า เสี่ยวหยิงกลัวและนอนคนเดียวไม่ได้จึงมาหาหลินฉีที่ห้อง หลินฉีนั้นก็เบื่อยู่แล้ว หวังเย่าทิ้งเธอไว้คนเดียวเธอเองก็ไม่ชิน การที่มีคนอยู่ด้วยมันก็ทำให้เธอดีใจอย่างมาก ตอนที่ทั้งสองนอนอยู่ หลินฉีก็ตื่นขึ้นเพราะปวดท้อง
“แต่เมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำแต่ก็พบว่าเสี่ยวหยิงหายตัวไปแล้ว…” หลินฉีมองไปที่หวังเย่า
“งั้นเธอก็ไม่เห็นสินะว่าใครเอาตัวเสี่ยวหยิง ไป ? “ หวังเย่ารู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มจะใหญ่ขึ้น โลกแห่งนี้คนที่เดินทางเข้ามาไม่ใช่คนทั่วไป ถ้าไม่มีเบาะแส มันก็ยากที่จะหาตัวอีกฝ่ายพบ
เขาจับคางตัวเองและคิด “แม้ว่าเสี่ยวหยิงจะไม่ได้แข็งแกร่งและเลเวลแค่ 70 แต่หากเทียบกับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ไม่ได้ด้อยกว่ามาก คนทั่วไปไม่อาจจะจับตัวเธอไปได้ การที่ทำแบบนี้ได้อีกฝ่ายจะต้องไม่อ่อนแอว่าสัตว์อสูรเลเวล 90 เป็นแน่”
ตอนนั้นเหอเจียก็รีบวิ่งเข้ามาทำความเคารพฟู่หมิงและหวังเย่า ก่อนจะพูดขึ้น “ ผู้อาวุโสทั้งสอง เรื่องในคืนนี้ฉันกลัวว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับพวกมนุษย์จิ้งจอก ”
จากนั้นเหอเจียก็มองไปที่หลินฉี
“เธอหมายความว่ายังไง ? ” หวังเย่าคิ้วขมวดและถามว่ามันเกี่ยวข้องกับมนุษย์จิ้งจอกยังไง
“อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันหมายความว่าเป้าหมายของคนพวกนั้นน่าจะเป็นมนุษย์จิ้งจอกต่างหาก” เหอเจียกลัวว่า หวังเย่าจะเข้าใจผิดจึงรีบอธิบายออกมา มันไม่ใช่แค่เสี่ยวหยิงที่หายตัวไปคนเดียว แต่แขกคนอื่น ๆ ก็หายตัวไปด้วย และทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์จิ้งจอกกันหมด
“นอกจากเสี่ยวหยิงที่อยู่กับหลินฉีแล้ว คนอื่น ๆ ที่หายตัวไปต่างก็เป็นมนุษย์จิ้งจอกแบบหลินฉี” เหอเจียพูดขึ้นมาช้า ๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเจีย หวังเย่าก็นึกถึงข่าวลือที่ได้ยินมา ครั้งนี้ดูเหมือนว่าในเมืองนี้มนุษย์จิ้งจอกจะหายตัวไปจำนวนมาก
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นรวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้วมันก็ดูเกี่ยวข้องกัน เป้าหมายของคนพวกนี้น่าจะเป็นมนุษย์จิ้งจอกแต่คงผิดพลาดถึงได้จับตัวเสี่ยวหยิงไปแทนหลินฉี
แต่ไม่ว่าคนพวกนี้จะหมายหัวหลินฉีรึไม่ แต่ความจริงที่ว่าเสี่ยวหยิงโดนจับตัวไปนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้หวังเย่าและ ฟู่หมิงโกรธได้ “มีใครรู้ไหมว่าพวกนี้เป็นใคร ? ” ฟู่หมิงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าหดหู่
“ฉันยืนยันฐานะของแขกที่หายตัวไปแล้วแต่แขกพวกนั้นอยู่เพียงลำพัง เพื่อนของพวกเขาก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ เลย คิดว่าเด็กสาวพวกนั้นไม่อาจจะต้านทานพวกโจรได้ด้วย ” เหอเจียพูดขึ้น
“เหอเจีย ! เพื่อนเราหายตัวไป เธอต้องให้คำอธิบายกับเรา” เมื่อมีคนเห็นเหอเจียยืนอยู่ที่หน้าประตูของโรงแรม ก็ได้ตะโกนขึ้นมา
“ใช่ ! เราต้องการคำอธิบาย คนของเราหายไปไหน ? ”
“เธอปกป้องความปลอดภัยที่นี่ไม่ได้ แต่อยากให้เรามาพักที่นี่งั้นหรือ ? ”
“เธอคงต้องปิดที่นี่แล้ว ! ฉันใช้เงินไปเยอะกับการซื้อมนุษย์จิ้งจอกมา เธอต้องชดใช้ให้ฉัน ! ”
หลังจากที่คนแรกตะโกนออกมา แขกคนอื่น ๆ ก็พูดขึ้นมาตาม คนอื่น ๆ ขอค่าชดใช้ และสงสัยว่าโรงแรมแห่งนี้หลอกพวกเขาเพื่อจับตัวคนของพวกเขาไป
“หุบปาก ! ” เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้นพร้อมกับไฟที่พุ่งขึ้นไปบนอากาศก่อนจะรวมตัวกันเป็นวิหคเพลิง จากนั้นไม่นานวิหคเพลิงก็สลายตัวไป แต่พลังของมันยังคงอยู่ในอากาศที่ทำให้ทุกคนต่างก็อึ้ง
น้ำแข็งรอบ ๆ ได้ระเหยไปทันที อุณหภูมิในระยะหลายกิโลเมตรได้เพิ่มขึ้นจนเกือบถึงจุดเดือด อากาศเย็นได้หายไปในพริบตา
หวังเย่าใจสั่น ความแข็งแกร่งของฟู่หมิงนี้น่าทึ่งจริง ๆ แค่หงุดหงิดก็ระเบิดพลังที่น่ากลัวแบบนี้ออกมาได้ ต่อให้เขาแกร่งกว่านี้เป็นสองเท่าก็คงไม่อาจจะรับมือไหว
เขาอายอย่างมาก คนของเขาถูกจับตัวไปแน่นอนว่าเขาต้องหงุดหงิด เขามองไปที่ผู้คนโดยรอบด้วยสายตาเย็นชาและพึมพำออกมา “ฉันจะให้พวกนายบ่นเรื่องนี้ก็ได้ แต่ถ้าพวกนายยังสร้างความวุ่นวายอยู่ งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเราอาจจะเจอเบาะแสอะไรบ้าง” หวังเย่าบอกกับฟู่หมิง
ทุกคนพากันไปที่ห้องของหลินฉีแต่ก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ใด ๆ ยกเว้นแค่หน้าต่างที่ถูกเปิดออก ผ้าปูที่นอนแค่ดูย่นพร้อมกับผ้าห่มที่ตกอยู่ที่พื้น
นอกจากนี้แล้วห้องก็ดูเป็นระเบียบอย่างมาก หวังเย่าตรวจสอบดูรอบ ๆ ก็ไม่พบอะไรที่แปลก
ด้วยการควบคุมความมืด แฟนธอมได้ทำการแสกนทั่วทั้งห้องแต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ ฟู่หมิงเองก็คิ้วขมวดราวกับว่าเขาไม่พบเบาะแสอะไรเช่นกัน
“เอายังไงกันต่อ ? หือ ทำไมในห้องถึงได้มีน้ำเยอะแบบนี้ ? ” แฟนธอมมองไปที่น้ำที่เจ่อนองเต็มพื้นและถามขึ้นมา
หวังเย่ามองไปที่น้ำที่พื้นและรู้สึกแปลก ๆ “มันไม่เหมือนน้ำที่รั่วลงจากหลังคา หลังคาไม่น่าจะรั่วได้ และยิ่งในอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้ แม้ว่าหลังคาจะรั่วแต่ก็คงไม่มีน้ำหยดลงมา”
“นี่อะไร ? มันดูเหมือนเศษบางอย่าง” หลินฉีเก็บเศษบางอย่างที่มีขนาดเท่ากับนิ้วโป้งขึ้นมาจากมุมประตู
ฟู่หมิงมองไปที่เศษนั้นแล้วพึมพำออกมา “นี่คือสร้อยของเสี่ยวหยิง มันคือของที่ฉันให้ไว้กับเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะสู้กับอีกฝ่าย และอีกฝ่ายน่าจะทำลายสร้อยป้องกันนี่ ถ้าอย่างนั้น อย่างน้อยเขาก็น่าจะเลเวล 120”
“120 ? ” หวังเย่าแปลกใจขึ้นมาทันที ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้แทบไม่ได้อ่อนแอกว่าเขาเลย
คนแข็งแกร่งแบบนี้แต่กลับมาลักพาตัวมนุษย์จิ้งจอก หวังเย่าสงสัยว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไร เขารู้สึกว่าต้องมีคนที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่
“ฉันคิดว่าเธอไม่ได้ใส่มันแล้ว ไม่คิดเลยว่าเธอจะยังใส่มันอยู่” เมื่อเห็นเศษสร้อยคอของเสี่ยวหยิง ฟู่หมิงก็สีหน้าดีขึ้นมาเล็กน้อย
“โซ่มันขาด” หลินฉีพูดขึ้น
“ของมีค่าแบบนี้คนทั่วไปจะเก็บไว้กับตัว ทำไมเสี่ยวหยิงถึงกล้าที่จะใส่มัน” หวังเย่ามองไปที่ฟู่หมิงด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยินแบบนั้นฟู่หมิงก็หน้าแดงขึ้นมา เขากระแอมและพูดขึ้น “เธอติดเป็นนิสัยน่ะ อย่าสนใจเลย นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก”
หวังเย่ามองไปที่ฟู่หมิงก่อนจะยิ้มออกมา “งั้นก็หมายความว่าพี่มีวิธีหาตัวเธอสินะ ? ”
“ใช่ ! แม้ว่าตัวโซ่จะได้รับความเสียหายแต่การเชื่อมต่อยังอยู่ ตราบใดที่เสี่ยวหยิงยังอยู่ในดาวนี้ งั้นฉันก็รับรู้ได้ ฉันอาจจะรู้ด้วยซ้ำว่าใครกันที่ทิ้งน้ำนี่ไว้ที่พื้น”
แม้ว่าน้ำนี่จะไม่ได้ดูน่าสงสัยสำหรับคนอื่น ๆ แต่ฟู่หมิงรับรู้ได้ว่าน้ำนี่มาจากกฎน้ำ พลังของกฎนั้นหายาก คนทั่วไปไม่อาจจะใช้มันออกมาได้
ที่นี่คือดินแดนนรก ดินแดนของเทพธิดาน้ำแข็ง คนที่เชี่ยวชาญกฎน้ำนั้นมีแค่หยิบมือ
ฟู่หมิงแผ่พลังวิญญาณออกไปตรวจสอบทั่วทั้งโรงแรม ไม่นานทั้งเมืองก็อยู่ในระยะการรับรู้ของเขา
ตอนนั้นหวังเย่ารับรู้ได้ถึงจิตที่ลึกซึ้ง พลังจิตที่แข็งแกร่งแบบนี้แผ่ออกไปได้กว่าร้อยไมล์ มันไม่ต่างจากการรับรู้ของเทพธิดาน้ำแข็งเลย
หวังเย่าสงสัยว่า ถึงฟู่หมิงจะไม่ตรวจสอบตำแหน่งของเสี่ยวหยิงผ่านสร้อยแต่ก็ยังหาตัวอีกฝ่ายพบ
สุดท้ายฟู่หมิงก็มองไปยังทิศทางหนึ่ง
“ฉันอยากเห็นว่าใครกันที่กล้าหาเรื่องฉัน ! ” ฟู่หมิงฮึดฮัดออกมาพร้อมกับไฟที่ลุกท่วมตัวก่อนที่เขาจะหายตัวไป