ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 650 : ค่าชดเชย
ตอนที่ 650 : ค่าชดเชย
หวังเย่าลังเลว่าจะตอบแทนให้กับฟู่หมิงดีรึไม่
ใจของเขาอยากที่จะซื่อสัตย์
ฟู่หมิงรู้สึกว่าหวังเย่าช้าลงอย่างมากในตอนที่เดินทางกลับไปที่โรงแรม เขาถึงกับต้องไปยืนรอหวังเย่าอยู่ด้านหน้าของโรงแรม
“นายเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่นะ มีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า ? ” ฟู่หมิงถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หวังเย่าทะยานลงไปที่พื้นก่อนจะเดินไปหาฟู่หมิง “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ฉันเห็นว่าฉันให้น้ำศักดิ์สิทธิ์กับพี่น้อยเกินไปหน่อย ฉันเหลือน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ แต่ก็มีสัตว์อสูรอยู่หหลายตัว พี่ลองดูนี่สิว่าจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์กับพี่รึเปล่า ?”
เมื่อพูดจบหวังเย่าก็ได้ดึงเอาผลสมองราชาภูติออกมาจากแหวนมิติก่อนจะส่งให้กับฟู่หมิง
ฟู่หมิงมองไปที่ผลสมองราชาภูติในมือของหวังเย่า มันมีกลุ่มค้างคาวบินประคองส่งผลไม้นี้ให้กับฟู่หมิง เห็นได้ชัดว่าผลไม้นี้หนักแค่ไหน
แค่มองเขาก็รู้ได้ว่าผลไม้นี้โดดเด่น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะมีพลังยังไง และมันอาจจะมีพลังมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้
“นี่…นี่หนักอย่างน้อย 10 ตันสินะ ?” ฟู่หมิงไม่เคยเห็นผลสมองราชาภูติที่ใหญ่แบบนี้มาก่อน อันที่จริงมันเล็กแต่น้ำหนักของมันนั้นเยอะ เขาอยู่มาหลายหมื่นปี เคยเห็นผลสมองราชาภูติมาก็มาก แต่ยังไม่เคยเห็นที่มันหนักแบบนี้มาก่อน
หวังเย่าอธิบายออกมา “ผลไม้นี้งอกขึ้นมาด้านบนของต้นราชาภูติ เส้นผ่าศูนย์กลางของมันประมาณ 5 เมตร หากไม่มีสัตว์อสูรคอยช่วย งั้นฉันคงเก็บมันมาไม่ได้ง่าย ๆ ”
ฟู่หมิงมองไปที่ผลสมองราชาภูติที่เปล่งแสงหลากสีออกมา
เขาถึงกับใจสั่นและรีบมองไปรอบๆด้วยท่าทีระวัง แต่ก็พบว่ารอบตัวไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นเขาก็ดีดนิ้วสร้างโล่พลังรอบตัวทั้งสองคนเอาไว้
“น่าตกใจจริง ๆ ! ” ฟู่หมิงอุทานออกมา
หวังเย่ามองไปที่ฟู่หมิงด้วยความสับสน เขาไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย
“ด้วยพลังในผลไม้นี้ ถ้านายเอาให้สัตว์อสูรกิน มันจะช่วยเพิ่มเลเวลได้อย่างน้อย 50 เลเวล ! ” ฟู่หมิงพูดด้วยสีหน้าตะลึง
“ฉันเคยลองมาแล้ว เมื่อเลเวลมันเพิ่มขึ้นถึง 70 หลังจากนั้นพลังของมันจะลดลงอย่างมาก การกินมันอีกจะไม่ได้ผลอะไรมากนัก”
ปากของฟู่หมิงกระตุกไปตาม “อะไรนะ ! เลเวล 70 เลยหรือ ! ”
อันที่จริงมันก็พอเดาออก แต่หวังเย่ามีระบบคอยช่วย มันจึงทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
ไม่นานฟู่หมิงก็รวบรวมสติก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “ผู้อาวุโสมักจะพูดบ่อย ๆ ว่าการกลืนกินพลังเพื่อจะยกระดับตัวเองอย่างต่อเนื่องนั้นถือว่าส่งผลร้ายและไร้ประโยชน์ แต่ด้วยผลสมองราชาภูติของนายนี้ ไม่ใช่แค่ไม่มีผลข้างเคียงแต่ยังสามารถปลุกพรสวรรค์ของสัตว์อสูรขึ้นมาได้ด้วย ถ้าคนอื่น ๆ รู้เข้า ฉันกลัวว่าพวกนั้นคงจะมาปล้นนายแน่”
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “มันมีค่ามากงั้นหรือ ? ฉันจำได้ว่าพี่เคยกลั่นผลสมองราชาภูติ มันต่างกันงั้นหรือ ? ”
“มันต่างกันอย่างมาก สองผลที่ฉันได้มานั้นต่างกับผลนี่ราวฟ้ากับเหวเลยล่ะ ! ฉันกลั่นผลสมองราชาภูติที่อายุไม่ถึงพันปี พลังของมันไม่ได้มากนัก มันเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับสัตว์อสูรได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ผลไม้ของนาย หากประเมินดูแล้ว อายุของมันอย่างน้อยก็ต้องอยู่ที่ระดับสามพันปี พลังของมันคงไม่ต้องพูดถึง นายคงรู้ดีกว่าฉัน”
“ดูเหมือนว่าในสายตาของพี่แล้วค่าของผลไม้นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์เลย เมื่อพี่อยากได้มัน ฉันก็จะเอาให้พี่อีก ! ”
ฟู่หมิงมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “นายว่ายังไงนะ ? นายจะให้ฉันเพิ่มงั้นหรือ ! ”
เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแตะไปที่หน้าผากของหวังเย่า “นายบ้าไปแล้วแน่ ๆ ! ผลไม้นี้มีค่าอย่างมาก นายยกมันให้กับคนอื่นมากเกินไปแล้ว นายเหลือผลไม้นี่อยู่มากแค่ไหน ! นายไม่คิดถึงตัวเองเลยรึไง ! ”
“ฉันมีมากกว่าร้อยผล ! ” หวังเย่าพูดขึ้นจนทำให้ฟู่หมิงปิดปากเงียบไป
ฟู่หมิงได้ยินแบบนั้นก็แทบจะยืนไม่ไหว เขาเกือบจะทรุดลงไปกับพื้น
ฟู่หมิงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก แต่การพบกับหวังเย่านี้ทำให้เขาแทบจะรับมือไม่ไหว
“นาย…นายคงมีไม่ถึงร้อยผลจริง ๆ หรอกนะ ? ” ฟู่หมิงแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา ก่อนจะมองไปที่หวังเย่า
“ฉันจะโกหกไปทำไม ?” หวังเย่าโยนแหวนมิติให้กับฟู่หมิงดูเอง
เพราะผลสมองราชาภูตินี้หนักอย่างมาก ดังนั้นหวังเย่าจึงได้แต่เก็บมันไว้ในแหวนมิติ
ฟู่หมิงรับแหวนมิติไปก่อนจะตรวจสอบที่ด้านใน จากนั้นเขาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
“น้องชาย นายไม่กลัวว่าฉันจะฆ่านายเพื่อแย่งสมบัติพวกนี้ไปรึไง ? ”
หวังเย่ามองไปที่ฟู่หมิงด้วยสีหน้าจริงจัง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันคิดว่าพี่คือคนจริงใจถึงได้เป็นเทพไฟได้ พี่เป็นคนแบบนั้นไม่ใช่รึไง ? พี่คือเสาหลักของจักรวาล ผลไม้แค่ไม่กี่ผลนี้จะทำให้พี่ยอมลดตัวทำแบบนั้น มันไม่ดูถูกตัวเองไปหน่อยหรือ ? ”
“ฮ่าฮ่า….” ฟู่หมิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “น้องเย่า สำหรับฉัน ฐานะนี้ไม่ได้มีค่าเลย แต่เมื่อได้ยินที่นายพูดมา ฉันก็อดดีใจไม่ได้ ฮ่าฮ่า..”
เมื่อพูดจบ ฟูหมิงก็ส่งแหวนมิติคืนให้กับหวังเย่า แต่หวังเย่ากลับยกมือปฏิเสธ
“นี่นายหมายความว่ายังไง ? ”
“พี่ก็เหมือนคนในครอบครัวไม่ใช่รึไง ? เราไม่ต้องหวังผลกำไรจากกัน เราจะเติบโตไปด้วยกัน ผลราชาภูตินี้ใช้ไม่ได้ผลกับฉันแล้ว พี่จะเอาไปเท่าไหร่ก็ได้ตามใจ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอก”
“มันจะไม่มีค่าได้ยังไง ถ้านายจะเพิ่มเลเวลให้กับสัตว์อสูรเลเวล 1 ผลสมองราชาภูตินี่ก็มีค่าอย่างมาก ยกเว้นซะว่า…” ฟู่หมิงพึมพำออกมา “น้องเย่า ไม่ใช่ว่า…”
หวังเย่ายิ้มออกมา “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ? ”
“ไม่ใช่ว่า…นายมีแม่เหล็กเลือดหรอกนะ ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมา “ยินดีด้วย พี่เดาถูกแล้ว”
“พระเจ้า ! ” ฟู่หมิงไม่อาจจะใจเย็นได้อีก ท่าทีสุขุมและสูงส่งของเขากลับหายไปในทันที
“นายมานี่…แล้วเงียบ ๆ ด้วย” ฟู่หมิงกระโดดขึ้นไปบนหลังคาก่อนจะนั่งลงไป
“พี่ก็เกินไป ? มันก็แค่แม่เหล็กเลือดเอง ทำไมพี่ต้องดูกังวลขนาดนี้ ? ” หวังเย่าเองก็นั่งลงไปบนหลังคาเช่นกัน
“มันไม่ใช่แค่ แต่มันคือแม่เหล็กเลือด…”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟู่หมิงก็แทบจะกระอักเลือด
ฟู่หมิงหยิบเอาผลสมองราชาภูติออกมา 20 ผลเข้าไปในแหวนมิติของตนเอง
การกระทำนี้อาจจะดูธรรมดา แต่ฟู่หมิงกลับใจสั่นอย่างมาก “ฉันติดหนี้นายจริง ๆ ผลสมองราชาภูติ 20 ผลนี้ ถ้ามีโอกาสฉันจะชดใช้คืน”
“พี่รู้ไหมว่าฉันได้มันมาจากไหน ? ฉันเจอมันด้านในหนวดปีศาจ มันมีอะไรอีกงั้นหรือ ? ”
“มันมีมิตินับไม่ถ้วนในจักรวาล ฉันใช้เวลาหลายพันปี แต่ก็ยังหาต้นสมองราชาภูติไม่พบ แต่หนวดปีศาจฉันกลับหาพบ นายรู้ไหมว่าทำไม ? ”
หวังเย่ายักไหล่
“เพราะในคลังพลังงานของหนวดนั้นมีแม่เหล็กเลือดอยู่ มันทำงานเหมือนกับเป็นแหล่งพลังงานหลัก”
“มีแค่ตอนที่คลังพลังงานทำงานผิดปกติเท่านั้น หนวดปีศาจถึงจะใช้เซลล์ห่อหุ้มแร่แม่เหล็กเอาไว้ มันจะดึงพลังงานมาผสมกับเลือดจนสุดท้ายก็ก่อตัวเป็นแม่เหล็กเลือดขึ้นมา”
“หนวดนั่นหากเทียบกับสัตว์อสูรแล้วคงเลเวลไม่น้อยกว่า 200 เลือดในตัวมันมีพลังที่ไม่อาจจะหาได้ในธรรมชาติ”
“นายให้สัตว์อสูรกินแม่เหล็กเลือดไปด้วยรึเปล่า ?”
“แค่ก้อนเดียว มันเพิ่มเลเวลจาก 70 เป็น 80 ฉันเองก็ตกใจ” หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ตอนนั้นฉันกลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียงขึ้นกับเอไนน์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ถ้านายทำยาเป็น นายจะเพิ่มพลังของมันเป็นสองเท่าและสามารถใช้มันแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น”
“หือ งั้นหรือ ? ”
“ในทางกลับกันแล้วมันไม่ได้มีอันตรายใด ๆ ดูกั้วหงเป็นตัวอย่างสิ ! ”
“ฉันฝึกเขาจากเลเวล 1 เป็น 70 ซึ่งกินเวลา 10 ปี จากเลเวล 70 เป็น 80 ใช้เวลา 100 ปี”
“หลังจากที่ยกเลิกสัญญากับเขาแล้ว เขาก็ได้ฝึกฝนตัวเองด้วยหนังสือศักดิ์สิทธิ์ มันใช้เวลากว่าสองหมื่นปีกว่าจะขึ้นมาเป็นเลเวล 150 ได้”
“แล้วนายล่ะ ? ผลสมองราชาภูติแค่ผลเดียวก็สามารถเพิ่มเลเวลให้กับสัตว์อสูรเป็น 70 ได้แล้ว ด้วยแม่เหล็กเลือดนี่ก็สามารถเพิ่มเลเวลจาก 70 เป็น 85 ได้ ถ้านายได้เรียนรู้การทำยาแล้ว ฉันเดาว่าคงไม่ถึงสามพันปี นายจะต้องทำให้สัตว์อสูรของนายขึ้นไปเลเวล 150 ได้แน่”
“นายเคยเจอกับผู้ดูแลคนอื่นรึเปล่า ? ”
“สามพันปีงั้นหรือ ? นานจริง” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะทึ่ง
“ฉันไม่รู้ว่ามันจะพอไหมด้วยซ้ำ สามพันปีมันนานรึไง ? การที่สัตว์อสูรของนายจะขึ้นไปเลเวล 100 ได้ ก็ต้องฝึกเป็นเวลากว่าพันปี นี่คือกฎธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนได้ !”
“ฉันอยากท้าทายกฎนี้ดู” หวังเย่าพูดขึ้น
ฟู่หมิงมองไปที่หวังเย่า “ผู้ดูแลอย่างนายน่าจะโดนฟ้าผ่าไปก่อนแหละ”
หวังเย่ายิ้มแหย ๆ ออกมา “งั้นพี่ควรอยู่ห่าง ๆ ฉันเอาไว้ ฉันกลัวว่าพี่จะโดนฟ้าผ่าไปด้วย”
“ฉันกลัวว่านายจะทำมันจริง ๆ แม่เหล็กเลือดนี่ฉันคงไม่เอามันไปจากนาย ถ้าฉันต้องการมัน ฉันจะมาหานายเอง สรุปคือนายอย่าลืมเหลือไว้ให้ฉันด้วยละกัน”
เมื่อพูดจบฟู่หมิงก็กระโดดกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เมื่อเห็นฟู่หมิงจากไป หวังเย่าก็หาวออกมาก่อนจะกลับไปยังห้องของตัวเองเช่นกัน