ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 646 : วัลแคน
ตอนที่ 646 : วัลแคน
เมื่อเห็นชายผมแดงพุ่งเข้ามา หวังเย่าก็ยิ้มออกมา
แค่เพียงคิดก็มีมือมาล็อคขาของชายคนนี้เอาไว้แล้ว
ชายคนนั้นมองไปที่มือเงาด้วยความสงสัยก่อนจะเงยหน้าขึ้นพยักหน้าให้กับหวังเย่า
ตัวของเขาละลายเป็นลาวาก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในอีกด้าน แต่เขาก็ยังดูสง่าดังเดิม
“เขากลั่นหลอมหินกฎไฟเข้าไปเหมือนกับฉันรึไง ? แต่…มันก็ดูไม่เหมือนกันเลย ! ”
หวังเย่ามองไปที่ชายผมแดงด้วยความสนใจ แค่เพียงคิด มือเงาก็จับขาของชายผมแดงเอาไว้อีกครั้ง
หวังเย่ารับรู้ได้อย่างชัดเจนผ่านมือเงาว่าพลังไฟของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังไฟของเขาเลย
มือเงาได้จับขาของชายผมแดงเอาไว้แน่น มันทำให้เขาไม่อาจจะขยับได้ เขาพยักหน้าด้วยความพอใจก่อนจะไขว้นิ้วแล้วมีไฟพุ่งออกมาจากนิ้วของเขา จนทำให้มือนั้นละลายไปก่อนที่เขาจะพุ่งไปด้านหลังของหวังเย่า
“หือ ? น่าสนใจ ! พลังไฟของเขาสูงกว่าฉัน ! แต่…” หวังเย่ากลับเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา
ตั้งแต่ที่เรียนรู้ค่ายกลทั้ง 12 แบบมา ไฟหยินหยางก็ได้หลอมรวมกับพลังค่ายกล มันสามารถเพิ่มความรุนแรงได้ถึง 12 ระดับ
มันก็เหมือนกับมังกรไฟทั้ง 12 ตัว พลังไฟของหยินหยางจะเพิ่มขึ้นทีละระดับ
มังกรไฟ 10 ตัวรวมกันนั้นจะมีพลังไม่น้อยไปกว่าหินกฎไฟระดับ 130
แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากใช้มังกรไฟ 12 ตัวแล้ว หวังเย่าก็ยังไม่เคยทดลอง
ยังไงซะพลังทำลายล้างนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่หวังเย่าจะรับได้ไหว ในตอนนี้เขายังไม่มั่นใจ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะลองใช้มันง่ายๆ
ในตอนที่ชายผมแดงโผล่มาที่ด้านหลังของหวังเย่า หวังเย่าก็ไม่ได้หันกลับ แต่มันราวกับมีแผ่นจานอยู่ที่ใต้เท้าของเขา ตัวเขาหมุนกลับมาทันที
“น่าสนุกดี ! ” ชายผมแดงมองไปที่ฐานค่ายกลที่เท้าของหวังเย่า ก่อนจะมองไปที่หวังเย่าด้วยความสนใจ
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย หวังเย่าก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงยั้งมือให้กับเขา เขารู้ด้วยซ้ำว่าถ้าหากอีกฝ่ายคิดจะฆ่าเขาจริง ๆ คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่ได้เจอกับคนที่มีพลังไฟกับตัวนั้นมันหาได้ยาก จึงเป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่ปล่อยโอกาสในการเรียนรู้นี้ทิ้งไป
“สหาย ต่อไปนายต้องระวังตัวด้วย ! ” หวังเย่ายิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ เขากลางมือออกก่อนที่จะมีไฟระเบิดออกมาจากค่ายกล
ไฟลามไปทั่วค่ายกลก่อนจะกลืนกินทั้งสองไป
“ท่าน ระวังตัวด้วย ! ”
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างร้องออกมาด้วยความกลัว
หลินฉียักคิ้วก่อนจะมองไปที่แฟนธอม
แฟนธอมสับสนอยู่สักพัก แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนจะออกจากห้องของตนและมุ่งหน้าไปยังห้องข้าง ๆ
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง
หลินฉีชูสามนิ้วขึ้นมาเพื่อนับถอยหลัง
3 2 1 !
ทั้งสองได้พุ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นทันที
…
ในค่ายกลทั้ง 12 แบบนั้น ชายผมแดงมองดูการเปลี่ยนแปลงรอบตัวด้วยสีหน้ายินดี
กรร..
กรร…
กรร….
มังกรไฟทั้งสามโผล่ขึ้นมาใต้เท้าของเขาก่อนที่จะคำรามเข้าใส่
มังกรไฟรวมตัวกันกลายเป็นเส้นพลังอันเดียว
ลูกไฟขนาดใหญ่สีดำปรากฏขึ้นใจกลางค่ายกล ด้านในนั้นมีสายฟ้าไหลผ่าน มันมีพลังไม่น้อยไปกว่าฟ้าผ่าทั่วไปเลย
เมื่อเงยหน้ามองดูลูกไฟขนาดใหญ่นั้น ชายผมแดงก็รู้สึกได้ว่าลูกไฟนี่มีพลังแค่ไหน
เขารู้ว่าเมื่อลูกไฟนี่ระเบิดออก มันต้องมีพลังที่โดดเด่นอย่างมาก
ตะกี้นี้มังกรไฟสามตัวก็เพียงพอจะจัดการกับหยุนเหวินชานได้แล้ว แต่หวังเย่าไม่ได้รวมมังกรไฟทั้งสามให้กลายเป็นลูกไฟแบบนี้ พลังของมันจึงลดลงอย่างมาก
แต่ในมุมมองของหวังเย่าแล้ว การฆ่าไก่ด้วยปังตอดูจะไม่เหมาะสม หากการจะฆ่าหยุนเหวินชานต้องใช้ลูกไฟแบบนี้มันดูไม่คู่ควรสักเท่าไหร่ ?
แต่ชายผมแดงที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างออกไป หวังเย่าถึงกับรู้สึกว่า ถึงเขาจะใช้มังกรไฟ 10 ตัว แต่ก็ไม่อาจจะฆ่าอีกฝ่ายได้
ชายผมแดงนี้แค่ชี้นิ้วออกไปก็ใช้ไฟที่ทรงพลังได้แล้ว มันบ่งบอกแล้วว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าลูกไฟด้านบนหัวกำลังจะระเบิดออก ชายผมแดงก็ไม่อาจจะทนไหวอีกต่อไป เขาต้องแสดงฝีมือออกมาเพื่อรับมือเอาไว้
“ฟินิกส์”
ชายผมแดงระเบิดพลังออกมา ลำแสงในตัวของเขาจึงระเบิดขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงคำรามดังขึ้น !
ด้านหลังชายผมแดงมีฟินิกส์ปรากฏตัวขึ้นมา ฟินิกส์ได้กางปีกออกก่อนจะพุ่งเข้าใส่ลูกไฟ
ปัง !
แสงที่เพียงพอจะให้แสงสว่างกับทั้งโลกได้ส่องประกายออกมา
ที่เขตดาวโบไลด์ เทพธิดาน้ำแข็งที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งได้ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ และพึมพำออกมา “ เขามาได้ยังไง ? ”
ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่เมืองชูโร่ก็มีคนอุทานออกมา “ฉันรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ! ฉันรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ! ”
“ใคร ? ”
ทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังคำตอบจากปากของชายคนนั้น
“เทพไฟ ! ”
“เทพไฟงั้นหรือ ? ”
จักรวาลนี้กว้างใหญ่ พวกเขารู้จักโลกไม่มากนัก
“ในตำนานของดาวนิบิรุได้บอกว่าเทพอาทิตย์ได้ให้กำเนิดดวงอาทิตย์ 10 ดวงขึ้นมา!”
ทุกคนพากันสับสน มีไม่กี่คนที่รู้ถึงตำนานนี้
“พวกนายรู้จักเขตจิวเหยารึเปล่า ? ”
“อือ…” ทุกคนต่างก็พยักหน้า
ดาวเคราะห์ที่รายล้อมด้วยดวงอาทิตย์ 9 ดวง มันมีแค่แห่งเดียวในจักรวาล
ดาวเคราะห์นั้นอยู่แค่ระดับ 130 แต่หนวดปีศาจก็ไม่อาจจะเข้าใกล้ได้
แม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งที่อยากเข้าไปสำรวจที่นั่นก็ต้องโดนเผาก่อนที่จะเข้าไปถึง
แต่มันมีตำนานในจักรวาลบอกว่าเขตจิวเหยานั้นยังมีมนุษย์อยู่ พวกเขาคือคนจากดาวนิบิรุ ผู้คนเรียกพวกเขาว่าตระกูลไฟ และผู้นำของพวกเขาถูกเรียกว่าเทพไฟ !
มันมีคนมากมายในจักรวาลที่เรียกตัวเองว่าวัลแคน (เทพโบราณ) แต่เอาจริง ๆ แล้วมีวัลแคนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรดวงดาว มันคือเจ้าของเขตจิวเหยา ฟู่หมิง !
เขาคือตัวตนระดับเทพ เขามีฐานะทัดเทียมกับเทพธิดาน้ำแข็งของเขตดาวโบไลด์
ตอนที่ฟินิกส์ปะทะกับลูกไฟนั้น หวังเย่าและฟู่หมิงก็ได้ระเบิดพลังของตัวเองออกมาอีกครั้ง
ทั้งสองพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด
พวกเขาราวกับปลาที่ได้กลับลงไปในน้ำ มังกรไฟได้ปรากฏขึ้นมาในมือของทั้งคู่ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งสองได้แสดงความสามารถในการควบคุมไฟของตัวเองออกมาและเริ่มทำการแข่งขันเทคนิคกัน
ลูกไฟมากมายราวกับอุกกาบาตได้พุ่งตกลงมาที่พื้น ฉากนี้ดูน่าตระการตาอย่างมาก
อ๊า…
อยู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากในเมืองชูโร่
หลังจากนั้นเมืองที่เงียบสงบกลับตกอยู่ในความวุ่นวายทันที
“บัตรกระเรียนของฉัน ! ”
“จับตัวเขาเอาไว้ ! จับตัวเขาไว้ ! ”
ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิดกลับมีเงาหนึ่งพุ่งหนีออกไป
หลังจากที่ฝูงผีถูกไล่กลับไป พวกที่คอยซุ่มโจมตีก็ลงมือ พวกนั้นเริ่มทำการปล้นตั๋วจากคนอื่น
ทุกคนต่างก็ใส่หน้ากากปิดบังตัวเองเอาไว้ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นใคร
หวังเย่าและฟู่หมิงที่อยู่บนท้องฟ้าไม่ได้สวมหน้ากาก มันผิดกันกับผู้คนที่อยู่ด้านล่าง
“สหาย นายอยู่ในโรงแรมสันติ นายคิดจะหมายตาหนังสือศักดิ์สิทธิ์รึเปล่า ? ” ฟู่หมิงและหวังเย่าประลองการควบคุมไฟกันอยู่ก่อนที่ฟู่หมิงจะถามขึ้นมา
“หนังสือศักดิ์สิทธิ์ ? ” หวังเย่าแสดงสีหน้าสับสนออกมา
“กั้วหงเป็นสัตว์อสูรที่ฉันดูแลมาตอนยังเด็กและอยู่ในเขตหวงห้ามทั้งสาม ตอนที่ฉันให้หนังสือศักดิ์สิทธิ์กับเขา ฉันก็ปล่อยเขาเป็นอิสระ ตอนนี้ถึงฉันจะไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายภรรยาของเขาได้”
“หนังสือศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ? ฟังดูดี แต่ฉันสนใจแค่ตั๋วเข้าไปในดินแดนนรกเท่านั้น เรื่องที่นี่ให้เจ้าของที่นี่ดูแลแทนดีกว่า ฮ่าฮ่า…”
เมื่อพูดจบ หวังเย่าก็ได้โยนลูกไฟออกไปอีกลูก
ฟู่หมิงรับลูกไฟนั้นเอาไว้ก่อนจะโยนลูกไฟที่ทรงพลังกว่าเดิมกลับเข้าใส่หวังเย่า
“ช่วยแม่ด้วย..!”
ไกลออกไปมีเสียงผู้หญิงตะโกนขึ้นมา
ฟู่หมิงหรี่ตาและก้มหน้าลงไปมอง
จากนั้นเขาก็มองไปที่ห้องของตัวเองและพบกับผู้หญิงที่โดนมีดจ่อคอเอาไว้
“รนหาที่ตาย ! ”
เขาคิ้วขมวดทันทีก่อนจะพุ่งลงไปที่ด้านล่าง แต่ก็โดนหวังเย่าหยุดเอาไว้
“พี่ชาย ไม่ต้องตกใจไป สองคนนั้นเป็นเพื่อนฉันเอง”
หวังเย่ารีบโบกมือให้กับหลินฉีและแฟนธอม
“พี่เย่าคิดจะทำอะไร ? ให้ปล่อยเธอไปงั้นหรือ ? ” แฟนธอมสงสัย
หลินฉีพึมพำออกมา “ชายคนนั้นมาหาเรื่องหวังเย่า มันผิดรึไงที่เราจะจับตัวผู้หญิงคนนี้เป็นตัวประกัน ? ”
หวังเย่าโบกมือให้กับทั้งสองคนอีกครั้งก่อนที่ทั้งสองคนจะปล่อยตัวประกันออก
“ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่านายชื่ออะไร ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
นี่เป็นครั้งแรกที่หวังเย่าได้พบกับคนที่ใช้พลังไฟ เขาจึงดีใจอย่างมาก ทักษะของอีกฝ่ายนั้นคาดไม่ถึง ถ้าได้เป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายคงเป็นเรื่องดี
ยิ่งกว่านั้นจากบทสนทนาตะกี้ก็ทำให้หวังเย่าได้ข้อมูลสำคัญ !
ชายคนนี้เคยอยู่ในเขตหวงห้ามมาก่อนตอนยังเด็ก …งั้นไม่ใช่ว่าเขาอายุหลายหมื่นปีแล้วรึไง ?
ชายคนนี้ต้องรู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์มากกว่าเขาแน่
“ฟู่หมิง ! ” ชายผมแดงป้องมือและแนะนำตัวออกมา
“ฉัน หวังเย่า” หวังเย่าตอบกลับอย่างสุภาพ
จากนั้นทั้งสองก็ยิ้มให้กันก่อนจะกลับลงไปที่พื้น