ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 642 : ผี
ตอนที่ 642 : ผี
ที่ชั้น 3 ถือว่ามีแขกน้อยที่สุด เพราะมันเงียบกว่าที่ด้านล่างอย่างมาก
หวังเย่าและหลินฉีเดินไปที่ห้องของตัวเอง ในห้องมันมีการตกแต่งไว้อย่างดี แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ยังถูกทำขึ้นมาอย่างดีด้วย มันทำให้พวกเขารู้สึกสบาย ดูเหมือนว่าเจ้าของที่นี่จะเป็นคนเอาใจใส่อยู่ไม่น้อย เธอดูแลที่นี่เป็นอย่างดี
หวังเย่าเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะเปิดหน้าต่างออกแล้วมองออกไปด้านนอก
ตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดลงพร้อมกับอากาศหนาวเย็นมาปกคลุมและหิมะที่ตกลงมา
ที่นี่มันหนาว ๆ จริง
หวังเย่าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปยังเมืองที่เงียบสงัดโดยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
หลินฉีเดินเข้าไปหาหวังเย่าแล้วกอดแขนของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอาหัวไปซบไหล่ของเขา
หวังเย่ามองไปที่หลินฉีก่อนจะยิ้มออกมา เขายกมือขึ้นมาโอบเอวของเธอเอาไว้ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด
“แฟนธอมยังอยู่ในห้องข้าง ๆ เขาคงรู้สึกกระอักกระอ่วน” หลินฉีพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“ฉันไม่สน แม้ว่าแม่ฉันจะยืนอยู่ข้าง ๆ แต่ฉันก็จะกอดเธอไว้อย่างนี้” หวังเย่ายิ้มออกมาและดึงหลินฉีมาที่ด้านหน้าก่อนที่จะจูบเธอ
เมื่อโดนหวังเย่ากอดเอาไว้แบบนี้ หลินฉีก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอซบลงไปที่อกของเขาก่อนจะหันกลับมาแล้วมองออกไปที่ด้านนอก
หลังจากนั้นสักพัก หลินฉีก็พูดขึ้นมา “นี่คือความสงบที่หาได้ยาก คู่มือบอกว่าตอนกลางคืนคือเวลาที่น่ากลัวที่สุด ทุกคนต้องระวังตัว”
“มันจะมีผีออกมารึไง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“อืม” หลินฉีพยักหน้า
“ในหนังสือบอกว่าผีจะปรากฏตัวแค่ในดินแดนนรกงั้นหรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะความพิเศษของทีนี่ ค่ายกลของที่นี่ทำการรวบรวมวิญญาณเอาไว้ เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมพิเศษของที่นี่แล้ว มันจึงกลายมาเป็นที่ของผี”
หวังเย่าไม่ได้ตอบอะไรกลับ ทั้งสองเงียบกันไปสักพัก
จนกระทั่งหิมะด้านนอกเริ่มโปรยปรายและความเย็นเริ่มแผ่เข้ามาในห้อง เมื่อทั้งสองรู้สึกหนาว หวังเย่าจึงปิดหน้าต่างแล้วพูดขึ้น “ไปดูเอไนน์ก่อนดีกว่า”
หวังเย่าเคาะประตูก่อนที่จะได้ยินเสียงบางอย่างจากในห้อง ไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่
หลังจากนั้นสักพัก แฟนธอมก็มาเปิดประตูพร้อมกับหอบออกมา
เอไนน์ดูลนลาน เธอทำราวกับเด็กน้อยที่โดนครูจับได้ว่าทำผิด
หวังเย่ามองไปที่เตียงที่ถูกจัดไว้เป็นอย่างดีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะกระแอมออกมา “พวกนายสองคนออกมาคุยกันหน่อย”
ทั้งสี่คนไปนั่งรวมกันที่โต๊ะโดยมีเอไนน์คอยเทชาให้กับทุกคน
“เอไนน์ แฟนธอมน่าจะบอกเธอแล้วว่าทำไมพวกสัตว์อสูรที่ยังไม่ถึงระดับเทพถึงไม่ควรมาที่นี่” หวังเย่าพูดราวกับเป็นพ่อ
“หือ ? ” เอไนน์แสดงสีหน้าสับสนออกมา
แฟนธอมถอนหายใจออกมาและมองไปที่หวังเย่า “พี่เย่า ฉันยังไม่ได้บอกอะไรเธอเลย ฉันคิดว่า…เธอไม่รู้จะดีกว่า เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างภาระทางจิตใจซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาของเธอในอนาคต”
“พวกนายเห็นอะไร มันลึกลับขนาดนั้นเลยหรือ นายคิดว่าจิตใจฉันเปราะบางรึไง ? ” เอไนน์พึมพำออกมา
หวังเย่าจิบชาแล้วพูดขึ้น “ระหว่างทางเราได้พบกับพวกสัตว์อสูรที่ล้มเหลวในการพัฒนา พวกนั้นมีสภาพน่าอนาถ ฉันรู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นต้องไปเห็นด้วยตัวเอง ฉันว่าเธอควรจะอยู่ในแหวนจะดีกว่า”
“ที่นี่ปลอดภัยไม่ใช่รึไง ? ฉันจะอยู่ที่โรงแรมไม่ออกไปไหนหรอก” เอไนน์รีบพูดขึ้นมา
หลินฉีมองไปที่เอไนน์ก่อนจะมองไปที่หวังเย่า
หวังเย่าส่ายหน้า “ที่นี่มันไม่ได้ปลอดภัยแบบที่เธอคิด โดยเฉพาะในตอนนี้…”
ทันทีที่หวังเย่าพูดจบ ก็มีเสียงหมาป่าร้องออกมาราวกับวิญญาณสัตว์อสูรหลายพันตัวแห่กันเข้ามา
บ้านทุกหลังสั่นไหว หน้าต่างถึงกับกระแทกไปมาราวกับมีลมพัดแรง
กรร…
เสียงสัตว์อสูรคำรามดังก้องขึ้นไปทั่ว มันราวกับมีสัตว์อสูรวิ่งวนอยู่ทั่วทั้งเมือง
ปัง !
เสาหลายต้นหลักโค่นลง บ้านหลายหลังกลายเป็นซาก
อ๊า….
มีเสียงกรีดร้องของผู้คนดังขึ้นพร้อมกับมีคนวิ่งหนีออกมาจากโรงแรมด้วยความลนลาน
“อย่าฆ่าฉัน อย่า ….”
จากนั้นเสียงนี้ก็เงียบหายไป และถูกแทนที่ด้วยเสียงฉีกร่างดังขึ้นก่อนจะเหลือแค่กองกระดูกที่พื้น
คนในโรงแรมสันติต่างก็พากันกลัว พวกเขาพากันมองไปด้านนอกด้วยความระวัง
เอไนน์อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ด้วยความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้แล้ว เธอไม่น่าจะกลัวผีพวกนี้ แต่ด้วยนิสัยของผู้หญิงแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องผีก็ทำให้หน้าของเธอถอดสีอยู่ดี
“พวกนี้…คงไม่ใช่…ผีจริง ๆ หรอกนะ ? ” เอไนน์ถามขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น
“มันเป็นผีจริง ๆ ถ้าเธอหาจุดอ่อนของมันไม่พบ งั้นก็ไม่มีทางที่จะสู้กับมันได้ แต่โชคดีที่ไฟหยินหยางของฉันสามารถจำกัดหยินของพวกมันได้ ถ้ามีฉันอยู่ เธอก็ไม่ต้องกังวลอะไร”
“มันเป็นไปได้ไหมที่ผีพวกนั้นจะเข้ามาในโรงแรมของเรา”
หวังเย่ามองไปที่เอไนน์ แล้วพูดขึ้น “โอกาสที่มันจะเข้ามาได้นั้นต่ำ สามีเจ้าของโรงแรมเป็นสัตว์อสูรระดับสูง ฉันเดาว่าเลเวลของเขาขั้นต่ำคงจะอยู่ที่ 150 แต่ที่นี่ยังมีกลิ่นอายเขาอยู่ พวกผีไม่น่าจะเข้ามาได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เอไนน์และหลินฉีก็โล่งอกไป หวังเย่าหันกลับมาแล้วพูดขึ้น “แต่เขาตายไปแล้ว ฉันเดาว่ากลิ่นของเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน ความปลอดภัยที่นี่คงลดลงจากเดิมอย่างมาก”
“งั้นทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ ? ” เอไนน์ถามขึ้นมา
“ เพราะค่ายกลของโรงแรมอื่นถูกสร้างขึ้นโดยเทพธิดาน้ำแข็ง บอกกันว่ามันปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ โรงแรมเหล่านั้นจะไม่โดนพวกผีรบกวน ดังนั้นโรงแรมพวกนั้น…จึงเต็มไปแล้ว”
“เราสามารถเลือกโรงแรมใหม่ได้ไม่ใช่รึไง ? ” หลินฉีอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
หวังเย่าดื่มชาแล้วพูดขึ้น “ใช่ แต่ทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอน”
เอไนน์ถอนหายใจออกมา “พวกนายเดินเล่นไปมาได้ แต่ฉันอยู่ได้แต่ในแหวน”
แฟนธอมตบไหล่เอไนน์แล้วพูดขึ้น “ที่เราทำก็เพื่อเธอ เมื่อผีพวกนี้เข้ามา มันจะเข้าไปในร่างของเธอ ความทรงจำที่โหดร้ายของพวกมันรวมกับการพัฒนาที่ล้มเหลวจะฝังลึกเข้าไปในจิตใจของเธอ มันจะส่งผลต่อการพัฒนาของเธอในอนาคต”
หลินฉีจับแก้วชาเอาไว้แล้วพูดขึ้น “โชคดีที่ฉันเป็นมนุษย์ ฉันพัฒนามาจากสัตว์อสูรแล้ว ไม่งั้นแล้วฉันคงอยู่ในอันตรายไปด้วย”
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “อย่าเพิ่งดีใจไป เธอน่ะใจเปราะบาง เมื่อผีพวกนี้เข้าไปในร่างเธอแล้ว ความเจ็บปวดของพวกมันก็ยังส่งผลกับเธอได้อยู่ อย่าลืมสิ่งที่เราเห็นในเมืองกังหันวันนี้สิ…”
เมื่อคิดถึงกองกระดูกรวมถึงสัตว์อสูรที่วิ่งอยู่ในกรง หลินฉีก็กลัวขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าสาว ๆ ทั้งสองรู้สึกหวาดกลัว หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “อย่าคิดมาก ยังไงซะที่นี่ก็ปลอดภัย กลางวันน่ะมันไม่มีผีหรอก ส่วนมากเราก็ยังเดินทางได้อย่างอิสระในเมือง….ยกเว้นสำหรับเอไนน์ ”
“ทำไม ? ” เอไนน์พึมพำออกมา
“เพราะถึงไม่มีผีในเมือง เธอเห็นพวกพาหนะครึ่งคนไหม สรุปคือ…ฉันจะไม่ให้เธอออกมานอกซะจากว่าเราสามคนจะอยู่ด้วยกัน” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“รีบไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องสนใจด้านนอก พรุ่งนี้เราจะไปหาข้อมูลเรื่องตั๋วกัน” หวังเย่าสั่งการออกมาก่อนจะจิบชาหมดแก้วแล้วลุกขึ้นยืน
ตอนนั้นกลับมีลมพัดผ่านเข้ามาพร้อมกับความร้อนที่แผ่มาถึงทั้งสี่คน เมื่อมองผ่านหน้าต่างไปก็พบกับไฟสีแดงก่ำ
“เกิดอะไรขึ้น ? ” หวังเย่าสับสนและเดินไปเปิดหน้าต่าง
ทันใดนั้นเอง…
ที่โรงแรมตรงกันข้ามก็กลายเป็นทะเลไฟ ยิ่งลมพัดเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ไฟลามขึ้นมากเท่านั้น
“ไฟไหม้ ! ”
คนของโรงแรมสันติหลายคนพากันวิ่งออกไปพร้อมกับถังน้ำ พวกเขาต่างก็รีบไปดับไฟ
ไฟยังคงลามต่อไปเรื่อย ๆ มันยิ่งลามขึ้นเร็วเพราะนักเดินทางที่พักที่นั่นได้ซื้อเสื้อผ้ามาจำนวนมาก
เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเชื้อไฟได้อย่างดี
เมื่อมาอยู่ที่นี่ทุกคนก็พากันเปลี่ยนชุดตลอด
การที่มีเสื้อผ้ามากมายแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เมื่อเจอกับไฟ พวกมันก็กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีเลย
เมื่อรวมกับที่การป้องกันที่ต่ำแล้ว ต่อหน้าการโจมตีของพวกผี ก็เป็นธรรมดาที่ผนึกจะพังได้ง่ายและโดนโจมตี
หลังจากที่ไฟลุกไหม้ขึ้นมา ผู้คนก็เริ่มโดนเผา บางคนก็สามารถหนีรอดออกมาได้ และมีคนมากมายอยู่ที่ด้านนอกแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปดับไฟ
ผีพวกนี้ไม่อาจจะทำอะไรด้วยตัวเองได้ แต่มันสามารถยืมมือคนอื่นในการโจมตีได้
“หัวหน้า ไฟทำลายผนึกแล้ว !”
เสียงตะโกนดังก้องขึ้นมา
ทั้งโรงแรมสั่นไหวไปทันที
“พวกนายเข้ามากันก่อน ห้ามออกจากโรงแรมถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ! ” เจ้าของโรงแรมสาวสวยเดินไปที่ประตูแล้วทำการล็อคเอาไว้ ในมือเธอมีแผ่นไม้ที่จะใช้ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
แต่ตรงหน้ารอยแตกนั้นมันกลับมีเสือยืนอยู่ !