ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 623 : ความวุ่นวาย
ตอนที่ 623 : ความวุ่นวาย
“เจ้าชาย การลอบโจมตีแม่ทัพของกองกำลังดวงดาว หากกองกำลังดวงดาวรู้เข้า ผลกระทบคงมากเกินกว่าจะคาดถึง ! ” นายพลคนหนึ่งเตือนขึ้นมา
ฮาร์วี่ยิ้มออกมา “นายไม่ต้องกังวลไป กองกำลังดวงดาวน่ะยังต้องป้องกันตัวเองอยู่ การที่เราฆ่าหวังเย่านั้นไม่ได้สร้างปัญหา แต่เพื่อสร้างรากฐานที่ดีให้กับโลก ! ”
“คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง ? ” นายพลอีกคนถามขึ้นมาด้วยความสับสน
ฮาร์วี่ยิ้มออกมา “แล้วนายจะเข้าใจเอง”
เขาไม่ได้บอกคนของเขาว่าเขาคิดจะทรยศและได้ติดต่อกับโปโปวิช นายพลของดาวเฟนเซอร์
โปโปวิชคือนายพลในตำนานของดาวเฟนเซอร์ เขาใช้ชีวิตไปกับการรบที่นับครั้งไม่ถ้วน เขาแพ้มาไม่กี่ครั้ง ภายนอกนั้นเขาอาจจะเป็นแค่คนแก่ที่รักสงบ แต่จริง ๆ แล้วเขาคือคนที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ เขาได้สร้างสงครามขึ้นมามากมาย ดาวหลายดวงในจักรวาลต้องโดนยึดเพราะการแอบสนับสนุนของเขา
ที่สถานีที่ 1 กลายเป็นทะเลเพลิง ภายใต้การจับตามองของฮาร์วี่ ตอนนั้นลานของสถานีก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นมา
มีเงาหนึ่งพุ่งออกมาจากทะเลเพลิงทันที
เมื่อหมวกหล่นออกมาก็เผยให้เห็นผมที่ยาวสลวยของหลินฉีที่สะบัดไปตามลม
“นั่นเหมือนกับเจ้าหญิงหลินฉีเลย ! ”
“นั่นไม่ใช่เจ้าหญิง นั่นคือคนของหวังเย่า ! ” ฮาร์วี่พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ใช่ ! ”
หลังจากที่หลินฉีโดนหวังเย่าโยนออกมา หวังเย่าก็ได้ทำการเปิดโล่เงาและพุ่งออกมาด้วย
เขาไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย และยืนมองเหล่านักรบดวงดาวรอบ ๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่เกรงกลัวเลยสักนิด !
มิสไซน์และลำแสงนับไม่ถ้วนถูกยิงอัดเข้ากับโล่เงาของหวังเย่า ซึ่งทำให้โล่เงาบางลงเรื่อย ๆ
พลังภายในของหวังเย่าเริ่มโคจรออกมา ที่ด้านหลังของเขามีร่างฉลามขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
“ฝ่ามือฉลามดำ ! ”
กรร !
เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับฉลามที่อ้าปากออก แล้วพุ่งเข้าใส่ทหารแนวหน้า
ตูม…
นักรบดวงดาวกว่าสิบคนตัวระเบิดแตกออกเป็นชิ้น ๆ
เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของหวังเย่า ฮาร์วี่ก็ถึงกับช็อก นี่คือคนที่เขามองว่าเป็นแค่เครื่องมือมาก่อน ?
“เจ้าชาย ดูเหมือนว่าการฆ่าหวังเย่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว ! ”
ฮาร์วี่หรี่ตาลงแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สั่งการออกไป ยิงเข้าใส่หลินฉี”
“เจ้าชาย….นี่มัน….”
ฮาร์วี่แสดงสายตาโหดเหี้ยมออกมา เขาหันไปมองนายพลข้าง ๆ จนทำให้อีกฝ่ายเหงื่อตก ก่อนจะทำได้แค่กัดฟันแน่นแล้วตอบกลับ “ได้”
ปัง ปัง…
มิสไซน์และเลเซอร์นับไม่ถ้วนถูกยิงเข้าใส่หลินฉีทันที ฉากนี้ทำเธอกลัวแทบตาย
“พี่ ฉันหลินฉีเอง…”
เธอกำหมัดแน่นและร้องออกมา
พลังงานที่พุ่งเข้ามานั้นทำให้ผมของเธอปลิวไปด้วย ด้วยลำแสงที่พุ่งมาตรงหน้านี้เธอก็รู้ว่าเธอคงจะหนีจากความตายไม่พ้นอย่างแน่นอน
แต่ตอนนั้นเองกลับมีร่างหนึ่งมาจับเธอเอาไว้
หวังเย่าได้ใช้สกิลเปลี่ยนร่างและใช้ตัวเองเป็นโล่ให้กับหลินฉี
“หวังเย่า…” เมื่อรับรู้ได้ถึงความอุ่นที่ส่งผ่านมาถึงตัวเธอ หลินฉีก็ต้องร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ปัง…
เธอเห็นว่าหวังเย่าใช้ร่างของตัวเองเป็นโล่รับการโจมตีแทนเธอเอาไว้
รูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ท้องของหวังเย่า เมื่อมองผ่านรูนั่นก็เห็นว่านักรบดวงดาวยังทำการยิงเลเซอร์เข้าใส่หวังเย่าต่ออีก
“นาย…นายไม่เป็นไรใช่ไหม ? ” หลินฉียกมือที่สั่นของเธอขึ้นมาลูบใบหน้าหวังเย่า
“หวังเย่า…นายจะตายไม่ได้ !”
เมื่อเห็นที่หลังของหวังเย่ามีแต่รอยไหม้ ฮาร์วี่ก็คิดว่าหวังเย่าคงจะตายในไม่ช้า
แต่หวังเย่ากลับยิ้มออกมาให้กับหลินฉี และพูดว่า “แม่มดอย่างเธอร้องไห้เป็นด้วยหรือ ? ”
ก่อนที่หลินฉีจะทันได้ตั้งตัว ตัวของหวังเย่าก็ติดไฟขึ้นมา ตัวของเขาเปลี่ยนเป็นลาวา จนแผลที่ท้องฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“นี่…เป็นไปได้ยังไง ? ”
ฮาร์วี่เห็นแบบนั้นก็ใจสั่นและกลัวขึ้นมา
“ฉันเป็นอมตะ” หวังเย่ายิ้มให้กับหลินฉี
ไฟหยินหยางระดับ 120 เมื่อพลังของอีกฝ่ายต่ำกว่าตน หากโดนโจมตีร่างกายจะสามารถเปลี่ยนเป็นไฟ ส่วนที่บาดเจ็บจะฟื้นฟูขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
นักสู้ดวงดาวโดยรอบไม่อาจจะตัดสินความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดแบบนี้ได้ พวกเขาไม่เคยเจอกับอะไรที่แกร่งกว่าหวังเย่ามาก่อน
ตอนนี้ความเสียหายทั้งหมดที่ทหารเหล่านี้สร้างขึ้นมายังอยู่ในระดับที่หวังเย่ารับได้ ดังนั้นไฟหยินหยางจึงสามารถฟื้นฟูร่างกายเขาขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
การจะฆ่าหวังเย่า นอกซะจากว่าจะใช้ยานดวงดาวซึ่งเพียงพอที่จะทำลายชั้นบรรยากาศได้แล้ว งั้นก็ไม่อาจจะฆ่าเขาได้
ตอนที่ฮาร์วี่ยังไม่ได้ใช้อาวุธหนักกับเขา หวังเย่าก็ได้เอายานออกมาจากแหวนมิติแล้วส่งหลินฉีเข้าไปในห้องโดยสารก่อนที่หวังเย่าจะพุ่งออกไปพร้อมกับยานนี้ ผ่านออกไปยังช่องว่างที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยฝ่ามือฉลามดำเมื่อตะกี้
“อย่าปล่อยหวังเย่าไป รีบตามเขาไป ! ” ฮาร์วี่ตัดสินใจแล้วว่าต้องฆ่าหวังเย่าให้ได้ในวันนี้
“แต่เจ้าชาย เราจะไม่รับมือกับหนวดปีศาจงั้นหรือ ? ”
“เหลืออีก 75 ชั่วโมง กฎโลกก็จะกลับมาเป็นปกติ จากนั้นหนวดนั่นก็จะถอยกลับไปเอง มันไม่อาจจะกลืนกินดาวทมิฬได้ในเวลา 2 วัน แต่ถ้าเราปล่อยหวังเย่าไป คนที่ตายต้องเป็นเราแทน ! ”
คนในกองทัพส่วนมากเป็นคนของดิ๊คและดิวที่เคยร่วมมือกับดาวเฟนเซอร์มาก่อน พวกนี้ได้ขายตัวเองไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้แผนการนี้ดี และก่อนหน้านี้พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะฆ่าหวังเย่ากันอยู่แล้ว
เมื่อหนวดปีศาจนี้ผ่านชั้นบรรยากาศไปได้ คนบนโลกก็แค่ตายไปสิบล้านคนไม่ใช่รึไง ? ฮาร์วี่น่ะรับได้ !
…
ผลก็คือกองกำลังของฮาร์วี่กลับเลือกที่จะไม่ต้านทานหนวดปีศาจและไล่ล่าหวังเย่าแทน
ที่ดาดฟ้าของยาน อัลเฟรดได้ยินเสียงระเบิดของสถานีที่ 1 เขากังวลอย่างมากแต่ไม่นานก็โล่งอกเมื่อได้ยินว่าหวังเย่าสามารถหนีออกมาได้
“หวังเย่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียน คนพวกนั้นไม่ใช่คนดี แม้ว่านายจะไม่มีทางเลือกแต่ก็ไม่อาจจะเชื่อใจพวกนั้นได้”
นอร์แมนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมา “ใช่ ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องกับดาไฮ แล้วฮาร์วี่จะได้คุมกองทัพแทน”
“รายงานนายพล ทหารที่จุดประจำการถอยกันมาหมดแล้ว หนวดปีศาจจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศในอีก 5 ชั่วโมง”
“หัวหน้า เราต้องส่งกองทัพไปรับมือกับหนวดปีศาจจริง ๆ หรือ ? ”
อัลเฟรดส่ายหน้า “ ตามที่หวังเย่าได้วิเคราะห์กับเรามา มีแค่การปกปิดความแข็งแกร่งของเราเอาไว้ เราถึงจะรับมือกับดาวเฟนเซอร์ได้ เราต้องเผชิญหน้ากับโปโปวิช ถ้าเราส่งกองทัพของเราไปรับมือกับหนวดปีศาจ งั้นการต่อสู้นี้เราก็จะแพ้”
อัลเฟรดถอนหายใจออกมา “จะมีคนกี่คนที่ต้องตายกัน ครั้งนี้คงขึ้นอยู่กับฟอเนอร์แล้ว ว่าเขาจะรับมือได้ดีแค่ไหน เป้าหมายของเรามีเพียงอย่างเดียว คือ…เอาชนะกองทัพของโปโปวิช ! ”
….
5 ชั่วโมงต่อมา ท้องฟ้ากลับมืดลงไปพร้อมกับความหนาวเย็นที่เข้ามาปกคลุมดาวทมิฬเอาไว้
ที่ทะเลเกิดคลื่นสูงหลายร้อยเมตรขึ้นมากวาดล้างไปทั่ว มีลมแรงก่อตัวขึ้นมาทำลายตึกอาคารนับไม่ถ้วน มีน้ำท่วมที่หมู่บ้านและเมืองมากมาย
ทุกคนพากันเงยหน้าขึ้นมองหนวดที่แทงเข้ามาในชั้นบรรยากาศด้วยความกลัว
ฟอเนอร์อยู่ในห้องประชุมและสั่งการให้จัดตั้งทีมช่วยเหลือพร้อมกับสั่งการให้กองกำลังภาคพื้นดินโจมตีหนวดปีศาจ
“มิสไซน์พร้อม นับถอยหลับเตรียมยิง”
ปัง !
มิสไซน์จากฐานกองทัพทั่วทั้งโลกถูกยิงออกไป มันถึงกับทำให้พื้นดินสั่นไหวไปตาม
ไฟลุกไหม้ขึ้นบนท้องฟ้าราวกับจุดพลุ ในพริบตาก็มีระเบิดนิวเคลียร์นับไม่ถ้วนก็ก่อตัวขึ้นพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังก้องไปทั่ว
เศษเนื้อจำนวนมากได้ตกลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับเลือดสีเขียวที่กระจายไปทั่วพื้นดิน มันมีควันลอยออกมาจากพื้นดินเพราะการกัดกร่อน
ประมาณ 2 วัน กองทัพที่นำโดยฟอเนอร์ได้เข้าสู่สงครามที่ไม่มีวันหยุดพัก
หนวดนั้นไม่อาจจะลงมาถึงพื้นดินได้ภายใต้การโจมตีนี้ แต่ภายใต้พลังทำลายล้างอันแข็งแกร่งของมัน ก็ได้ฆ่าผู้คนไปจำนวนมากเช่นกัน
….
ฮาร์วี่ได้สั่งการยานให้ไล่ล่าหวังเย่าต่อ
ต่อหน้ามิสไซน์ที่ยิงออกมา หวังเย่ารู้ว่าไฟหยินหยางนั้นไม่อาจจะรับความเสียหายนี้ได้ เขาจึงต้องกระโดดออกจากยานเพื่อที่จะหนี
ปัง !
ไฟระเบิดขึ้นที่ด้านหลังของเขา หวังเย่าดึงหลินฉีขึ้นไปยืนบนหนวดปีศาจแทน
“ ฉันจะคืนเธอให้กับพี่ของเธอดีไหม เขาไม่น่าจะฆ่าเธอหรอก ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“นี่มันไม่ตลกสักนิดเลย ” หลินฉีมองไปที่หวังเย่าด้วยความโกรธ ตอนนี้หน้าของเธอมีแต่รอยเปื้อนจากเขม่า
นักรบดวงดาวเริ่มเข้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มันมีเงาของยานรบด้านหลังที่เริ่มเดินหน้าเข้ามาหาพวกเขาต่อ
“ฉันพาเธอหนีได้ แต่เธอต้องรับปากกับฉันเงื่อนไขหนึ่ง” หวังเย่ายิ้มออกมาแต่รอยยิ้มนี้ไม่ใช่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกต่อไป
ตอนนี้เขายังกวนเธออีก หลินฉีได้แต่กัดปากแล้วพูดขึ้นมา “ว่ามา นายมีเงื่อนไขอะไร ? ”
“ฉันอยากให้เธอใส่ชุดสาวใช้ให้ฉันดู”
“นาย…”
“ถ้าไม่ ฉันก็จะปล่อยเธอไว้ที่นี่”
“เดี๋ยว” หลินฉีจับแขนเสื้อของหวังเย่าเอาไว้ก่อนจะพยักหน้าตกลง
หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างภูมิใจ เขาจับมือเธอเอาไว้ก่อนจะโดดเข้าไปในดงหนวดปีศาจ
“เจ้าชาย หวังเย่าหนีเข้าไปในหนวดปีศาจแล้ว”
ฮาร์วี่สั่งการออกมาโดยไม่ลังเล “ล้อมเอาไว้จากทั้งสี่ด้านแล้วค่อย ๆ เดินหน้าเข้าไป อย่าให้หวังเย่าหนีไปได้ ! ”
“ได้ !”
นักรบดวงดาวหลายพันคนได้แยกตัวออกเป็น 4 ทีมบินไปยังทิศทางต่าง ๆ ก่อนจะบินเข้าไปในดงของหนวดปีศาจ
ฮาร์วี่เองก็ใส่เกราะแล้วบินเข้าไปตามทางที่หวังเย่าหนีไปเช่นกัน