ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 619 : คำชม
ตอนที่ 619 : คำชม
ณ ที่วังตระกูลมูหลาง
ราชาคูลีและราชินีรวมถึงลูก ๆ ของพวกเขากำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่
ตอนนี้ฮาร์วี่ได้เข้ามาคุมอำนาจในหลาย ๆ ด้านแล้ว ไม่ใช่แค่ฝึกทหารแต่ยังรวมถึงกิจการอื่น ๆ อีกด้วย เขาชอบเกม แม้ว่าทีมจักรพรรดิของเขาจะแพ้ไปแต่เขาก็ยังลงทุนในด้านนี้ต่อ
บอกได้ว่าฮาร์วี่ในวันนี้คือเสาหลักของตระกูลมูหลาง และทุกคนต่างก็คาดหวังในตัวเขา
เจ้าหญิงคนโต หลังจากที่แต่งงานกับดาไฮไปแล้ว ตอนนี้เธอก็กำลังตั้งท้องอยู่ และในโต๊ะอาหารเธอก็กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ สามีของเธอ
หลินฉี เจ้าหญิงคนเล็กตอนนี้เธอไม่ค่อยสบาย ได้แต่ทำหน้าหงิกงอมองดูอาหารอร่อยที่อยู่เต็มโต๊ะ แต่เธอก็รู้สึกเบื่อหน่าย มันถึงกับทำให้คูลีอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
“หลินฉี ลูกผอมเกินไปแล้วนะ แบบนี้แล้วใครจะกล้ามาแต่งงานกับลูก”
หลินฉีตอบกลับ “ไม่แต่งงาน หนูจะไม่แต่งงาน”
“ปีหน้าลูกจะอายุ 60 ปีแล้ว ลูกคิดว่าลูกยังเป็นเด็กอยู่อีกรึไง” คูลีค่อนข้างหงุดหงิดเมื่อพูดถึงลูกสาวที่หัวดื้อรั้นคนนี้
อายุขัยของคนในดาวทมิฬนั้นมากกว่ามนุษย์ปกติ เมื่อรวมกับยีนส์ที่ทำให้พวกเขาดูเด็กขึ้นจึงมองไม่ออกเลยว่า หลินฉีอายุจะ 60 ปีแล้ว
“หนูยังเป็นเด็กอยู่ คนอื่นไม่คิด แต่หนูคิดแบบนั้น” หลินฉีพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ
คูลีส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “ดูมิยายาสิ ตอนนี้เธอแทบจะเป็นแม่คนแล้ว ลูกน่ะได้แต่เที่ยวเล่นตลอดทั้งวัน ลูกไม่คิดจะหาแฟน แล้วอย่างงี้อีกกี่ปีที่พ่อจะได้อุ้มหลาน”
หลินฉีเม้มปากและมองไปที่มิยายาด้วยท่าทีไม่พอใจ “หนูไม่อยากมีลูก หนูไม่อยากเป็นคนแก่แร้งทึ้ง”
มิยายาเมื่อได้ฟังที่น้องสาวพูดก็โกรธขึ้นมา “ยัยเด็กนี่ แกว่าใครเป็นคนแก่แร้งทึ้ง”
หลินฉีก้มหน้าและใช้ส้อมจิ้มเค้กเล่นต่อโดยไม่สนใจมิยายา
ดาไฮรีบจับมือมิยายาเอาไว้ “ที่รัก อย่าไปโกรธเลย ตอนนี้เธอก็สวยแล้ว ยังไงเธอก็สวยที่สุด”
คูลีพยักหน้าให้กับดาไฮและมองไปที่ฮาร์วี่ “ดิวโดนดิ๊คฆ่าจริง ๆ หรือ ? ”
“แม้ว่าภาพสุดท้ายบนสถานีจะมีแค่ดิ๊ค แต่ผมไม่คิดว่าจะมีเหตุผลที่สองคนนี้จะฆ่ากันเอง พวกเขาร่วมมือกับเราอย่างดีมาโดยตลอด พวกเขาได้เงินตามสมควรที่จะได้ ผมคิดว่าคนร้ายจริง ๆ น่าจะเป็น…คนอื่น”
คลูลีหรี่ตาลง “ลูกหมายถึงหวังเย่าหรือ ? ”
ฮาร์วี่พยักหน้า “หวังเย่าและสองพี่น้องนั้นมีความแค้นต่อกัน พวกนั้นแย่งตำแหน่งแม่ทัพกัน ดิวได้ยิงยานของ หวังเย่าตก มันก็พอมีเหตุผลที่หวังเย่าจะต้องแค้นอีกฝ่าย”
คูลีถอนหายใจออกมา “หวังเย่าน่ะเป็นคนโดดเด่น เขามักขัดขวางเรามาโดยตลอด ด้วยฐานะของเขาตอนนี้แล้ว คงยากที่เราจะจัดการเขาได้”
“สิ่งที่ผมกังวลในตอนนี้คือกลัวว่าข้อมูลของเราที่อยู่กับดิ๊คจะรั่วไหลออกไป ถ้าข้อมูลนี้ตกไปอยู่ในมือของหวังเย่า งั้นก็คงเป็นปัญหาแน่” ฮาร์วี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ
“นายท่าน มีคนขอเข้าพบ” ทหารคนหนึ่งเข้ามารายงาน
คูลีคิ้วขมวดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่รึไง ตอนที่ฉันกินข้าวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ห้ามมารบกวน ! ”
ทหารโค้งและตอบกลับก่อนจะรีบออกไปทันที
ฮาร์วี่คิ้วขมวดและพูดขึ้นมา “เดี๋ยว คนที่ขอเข้าพบเป็นใคร ? ”
ทหารโค้งและรีบตอบกลับ “เขาบอกว่าเป็นแม่ทัพของกองกำลังดวงดาว ชื่อหวังเย่าขอรับ”
ฟรืด !
ทุกคนต่างก็หน้าซีดทันที
ฮาร์วี่กำหมัดแน่นพูดขึ้น “ฉันจะไปหาเขาเอง”
คูลียกผ้าขึ้นมาเช็ดปากและลุกขึ้น
เอาจริง ๆ แล้ว เขาไม่อยากจะไปเจอกับหวังเย่า เพราะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่
แต่ด้วยฐานะของหวังเย่าในตอนนี้ รวมถึงการที่หวังเย่าร่วมมือกับฟอเนอร์ ต่อหน้าหวังเย่าแล้ว ตระกูลมูหลางได้แต่ต้องต้อนรับอีกฝ่าย
หลินฉีวางส้อมลงแล้วยิ้มออกมา “พ่อ พ่อกินก่อนก็ได้ หนูจะไปต้อนรับหวังเย่าเอง”
“ลูกจะไปงั้นหรือ ? ” คูลีแปลกใจขึ้นมา
“ใช่ หนูจะไปรับมือกับเขาก่อน ถ้าเขามาสร้างปัญหา หนูจะไล่เขาออกไปเอง”
คูลีพยักหน้าและพูดขึ้น “ลูกรีบแต่งตัวก่อน แต่งตัวให้สวยแล้วค่อยออกไป”
“แค่นี้ยังสวยไม่พออีกหรือ ? ” หลินฉีถามขึ้นมา
“ รีบเอาเจ้าหญิงไปแต่งตัว”
“ได้เจ้าค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งรีบเดินมารับหลินฉีไปทันที
“พ่อ รึว่าพ่อ…”
“มันไม่ดีกว่าหรือที่จะเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร ? ” คูลีหัวเราะออกมา
ฮาร์วี่พูดขึ้นมา “ผมกลัวว่าโอกาสนั้นคงน้อยนิด”
…..
ในห้องประชุมของตระกูลมูหลาง
หลินฉีที่อยู่ในชุดเจ้าหญิง เธอเดินมาหาหวังเย่าด้วยท่าทีสูงส่ง
หวังเย่ารู้ว่าธาตุแท้ของเธอเป็นยังไง ไม่ว่าเธอจะแสดงท่าทีที่ดีแค่ไหนออกมา แต่ตอนที่เธอปลอมตัวเป็นฟ่านฉิงเหมย ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลนั้น บอกเลยว่าเธอทำได้ดี ดังนั้นท่าทางที่เธอแสดงออกมาในตอนนี้ที่ดูสง่า ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
“เรารู้จักกันอยู่แล้ว ทำไมต้องเสแสร้งด้วย ? ” หวังเย่าฮึดฮัดออกมา
หลินฉีมองไปที่หวังเย่าด้วยท่าทีไม่พอใจ “แม่ทัพหวังเย่า นายพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
หวังเย่าโบกมือ “ไปให้พ้น ฉันไม่สนใจเธอ ฉันอยากมาพบราชาคูลี”
“อะไรนะ ? นายบอกว่านายไม่สนใจฉัน มันน่าเศร้าที่ได้ยินนายพูดแบบนั้น” หลินฉีมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าที่เศร้า
หวังเย่ามองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาแน่วแน่ แต่สีหน้าที่เศร้าโศกของเธอนั้นถึงกับทำให้เขาใจสั่นขึ้นมา แต่จากนั้น หวังเย่ากลับยิ้มออกมาและพูดขึ้น “เธอชอบการแสดงสินะ ได้ฉันจะเล่นกับเธอก็ได้ ยังไงซะความแค้นของเราก็ยังไม่สะสางเลยไม่ใช่รึไง ? ”
หลินฉียกมือขึ้น ก่อนจะมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย “เราเคยมีเรื่องอะไรกันก็จริง ? แต่นายอย่าทำให้ฉันกลัวสิ”
“เธอน่าจะรู้ดี ! ฉันมีเรื่องด่วนที่ต้องมาพบกับราชา ถ้าเขายังไม่ยอมมาพบฉัน ฉันคงต้องกลับไป แต่หลังจากนั้นเขาต้องรู้สึกผิดแน่ ๆ ” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลินฉีมองไปที่หวังเย่าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “นายมีเรื่องด่วนต้องพบกับพ่อฉันจริง ๆ หรือ ? ”
หวังเย่าพยักหน้า
หลินฉีถอนหายใจออกมา “งั้นนายมากับฉัน ฉันจะนำทางนายไปเอง”
เธอหันกลับแล้วเดินออกไปทันที
หวังเย่าลุกขึ้นและเดินตามเธอไป
วังของตระกูลมูหลางนั้นใหญ่โต ตามทางเดินมีโคมไฟคอยให้แสงสว่าง โคมไฟเหล่านี้งดงามอย่างมาก
มันทำให้ทางเดินดูสวยงาม แต่ก็ไม่ได้ให้แสงสว่างมากนัก
ระหว่างทางไม่มีทหารอยู่ที่นั่นเลย
“พ่อเธออยู่ในวังแบบนี้จริง ๆ หรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
หลินฉีพยักหน้า “พ่อชอบกินข้าวเงียบๆอยู่ในที่เงียบๆ พ่อมักจะมาที่นี่ทุกวัน”
“ฉันจะมีวังแบบนี้บ้างรึเปล่านะ ?” หวังเย่ายิ้มออกมา
หลินฉีอึ้งไป เมื่อกี้เธอได้ยินชัดว่าหวังเย่าพูดอะไร แต่ก็ไม่ลังเลที่จะนำทางต่อ
หลังจากนั้นสักพักทั้งสองก็มาถึงชั้นใต้ดิน พื้นนั้นปูไปด้วยหินอ่อน รอบ ๆ เองก็เป็นกำแพงที่ทำมาจากหินอ่อนทั้งหมดเช่นกัน
อากาศที่นี่เย็นเล็กน้อย แม้แต่เสียงก็ยังก้อง
ที่ปลายทางเดินมีประตูอยู่ มันมีแสงสีเหลืองส่องสว่างออกมา
เมื่อหลินฉีเปิดประตูออก ก็เผยให้เห็นการตกแต่งที่เรียบง่ายด้านใน จากนั้นเธอก็พูดขึ้น “พ่อของฉันรอนายอยู่ด้านใน นายเข้าไปเองก็แล้วกัน”
หวังเย่าพยักหน้าตอบรับแล้วเดินเข้าไป แต่เมื่อเข้ามาก็เห็นแต่ห้องที่ว่างเปล่า เขาพบว่ามันไม่มีใครนั่งอยู่ที่ด้านในเลย
“เธอบอกว่าพ่อเธออยู่ที่นี่ไม่ใช่รึไง ?” หวังเย่าหันกลับมาถาม
หลินฉียกมือขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะออกมา “นายเชื่อคำพูดของฉันด้วยหรือ ? นายนี่มันโง่จริง ๆ ”
เมื่อพูดจบเธอก็หมุนบางอย่างที่ประตู ทันใดนั้นเอง หวังเย่าก็ร่วงลงไปที่ด้านล่าง
ปัง…
เขาร่วงลงมากว่า 10 วินาทีก่อนจะตกถึงพื้น
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับใบหน้าของหลินฉีที่ยิ้มให้กับเขาอยู่
“นายไม่ต้องคิดจะหนีไปไหนหรอก เพราะพื้นตรวจจับแรงโน้มถ่วงจะทำงานทันที เลเซอร์ที่กำแพงก็จะทำงานด้วย มันจะฆ่านายทันทีที่นายคิดจะหนี ! ”
“เธอนี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ ! ”
“ไม่ใช่ว่านายก็รู้นิสัยของฉันมานานแล้วรึไง ? ลาก่อน หวังเย่าหึหึหึ….”
เมื่อหลินฉีหันกลับไปและหัวเราะออกมา แต่อยู่ ๆ เธอกลับเงียบไปทันที
เพราะมีใบหน้าหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าของหลินฉีพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
ปัง !
ตอนนั้นเองไฟก็ได้ดับลงไปหมด
มันยิ่งทำให้ใบหน้านั้นยิ่งดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
หลินฉีกลัวจนตัวสั่นก่อนที่จะหันกลับมาและก้มลงมาดูหวังเย่าที่อยู่ข้างล่าง
“นาย..นายตกไปแล้วไม่ใช่รึไง ? ”
“เธอนี่มันใสซื่อจริง ๆ ฉันมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอคิดจะหลอกฉัน ฉันเลยให้แฟนธอมมาเล่นกับเธอ เป็นไงสนุกดีไหม ? ”
หลินฉีกรีดร้องออกมา เธอพยายามที่จะหนี
หวังเย่าเดินเข้าไปขวางทางเธอเอาไว้
“นาย..นายต้องการอะไร ? ”
“เธอคิดว่าไงล่ะ ? ”
หวังเย่ายักคิ้วและมองไปที่หลุมที่อยู่ด้านหลังของหลินฉี
“อย่า..ได้โปรด..ฉันกลัวแล้ว !”
“ไม่ต้องกลัวไป !”
หวังเย่ามองไปที่หลินฉีด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะผลักเธอให้ลงไปข้างล่าง
“อ๊า…หวังเย่า…ฉันเกลียดนาย ! ”
ปัง….
เธอตกลงไปที่พื้นอย่างแรง
ตอนนั้นเองกับดักก็เริ่มทำงานพร้อมกับน้ำที่พ่นใส่หน้าหลินฉี
เธอไม่สนความเจ็บปวดและรีบลุกขึ้นยืน
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าหวังเย่าก้มหน้าลงมามองเธออยู่
“นาย…นายมันหน้าไม่อาย ! ”
“ขอบคุณที่ชม ลาก่อน ! ”
หวังเย่าไม่หันกลับไปมองและเดินจากไปทันที