ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 618 : กฎโลก
ตอนที่ 618 : กฎโลก
“หือ ? งั้นหรือ ? ซิดดี้นี่รอบคอบจริง ๆ ดิวช่วยเขาสร้างรูหนอนที่นำไปสู่เขตดาวโบไลด์จริง ๆ ด้วย”
ความจริงได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
เพราะซิดดี้ไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับเขตดาวโบไลด์ ดังนั้นจึงมีแค่ดิวเท่านั้นที่จะเดินทางไปทั่วจักรวาลถึงจะได้มีโอกาสในการสร้างเครือข่ายขึ้นมา
ตอนแรกหวังเย่าคิดว่าคนกลางในการซื้อขายคือคนของตระกูลมูหลางซึ่งพวกเขาอาจจะส่งดิ๊คไป ส่วนซิดดี้แค่คอยติดต่อกับตงเหลิ่งก็เท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับเป็นว่าดิวคือคนกลาง รายได้ที่เขาได้มานั้นมีส่วนสำคัญกับการพัฒนาของดาวเฟนเซอร์เป็นอย่างมาก
แต่ดาวเฟนเซอร์ไม่พอใจกับเงินที่ดิวหามาได้ พวกเขาจึงต้องการที่จะโจมตีดาวทมิฬเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ที่มากกว่านั้น
“รูหนอนที่เหมืองที่เชื่อมต่อกับเขตดาวโบไลด์นี้ นายสามารถกู้คืนกลับมาได้รึเปล่า ? ” หวังเย่ากังวลเรื่องนี้มากกว่า เพราะถ้ามันฟื้นฟูขึ้นมาได้ งั้นเขาจะไม่ต้องใช้การวาร์ปในการเดินทางไปยังเขตดาวโบไลด์อีก
เพราะการเดินทางด้วยการวาร์ปนั้นโจ่งแจ้งเกินไป ดังนั้นการเดินทางผ่านรูหนอนจึงเป็นความลับมากกว่า
“มีแค่บันทึกในคอมนี้ กุญแจที่ใช้เชื่อมต่อกับพิกัดนั้นก็โดนทำลายไปแล้ว มันไม่อาจจะกู้คืนมาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการสร้างรูหนอน แม้ว่าจะมีข้อมูลอยู่ แต่ถ้าจะให้กู้ข้อมูลกลับมาก็คงต้องใช้เวลาสักพัก”
หวังเย่าพยักหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนธอมได้รู้เกี่ยวกับเรื่องของรูหนอน เขาต้องให้เวลาแฟนธอมสักพัก
แก่นพลังงานของรูหนอนนั้นไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใกล้กับรูหนอน สามารถเอาแหล่งพลังงานไปอยู่ที่อื่นได้เพื่อหลีกเลี่ยงการที่รูหนอนจะถูกทำลาย
เมื่อรูหนอนต้องการพลังงาน คอมที่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานจะส่งพลังงานไปที่รูหนอน โดยการส่งพลังงานผ่านดาวเทียมไป
โดยทั่วไปแล้วรูหนอนที่เข้ารหัสไว้นั้นต้องมีพิกัดที่แน่นอนโดยเฉพาะกับการที่มีกฎโลก มันต้องใช้พิกัดที่แม่นยำอย่างมาก และส่วนมากจะเป็นรูหนอนที่ใช้ได้ครั้งเดียวและไม่อาจจะสร้างขึ้นมาอีกได้
“นายลองตรวจสอบดูว่าดิวได้สร้างรูหนอนที่เดินทางจากดาวทมิฬไปยังดาวเฟนเซอร์ไว้รึเปล่า ? ”
แฟนธอมได้ตรวจสอบสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉันเจอแล้ว มันมีรูหนอนอยู่อีกที่ แต่พิกัดยังไม่รู้ ฉันต้องใช้เวลาสักพัก”
เอไนน์ยืนอยู่ที่ด้านหลังของแฟนธอม เธอคอยแต่มองดูมือที่ขยับไปมาอย่างรวดเร็วนั้น
มันเริ่มมืดแล้ว ทั้งสามคนไม่รู้เลยว่าเวลามันได้ผ่านไปนานแค่ไหน
หลังจากที่รออยู่นาน หน้าจอก็เผยข้อมูลที่หวังเย่าอยากรู้ออกมา
“รูหนอนอยู่ห่างออกไปประมาณ 6 กิโลเมตร ตอนนี้ฉันได้คัดลอกรหัสใส่คอมของตัวเองเอาไว้แล้ว เมื่อไปถึงที่นั่น ฉันก็สามารถเปิดการทำงานของมันได้ ”
“การที่มีนายมาช่วยนี่มันดีจริง ๆ ”
แฟนธอมยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ “ฉันน่ะไม่ได้เก่งแค่เรื่องการต่อสู้เท่านั้นนะ สมองของฉันยังอัจฉริยะอีกด้วย”
“ ก็จริง ” หวังเย่าชมออกมา
เอไนน์มองไปที่แฟนธอมด้วยรอยยิ้มที่หวานหยาดเยิ้ม ใครจะไปเก่งกว่าหวานใจของเธอได้อีก ?
“เรียบร้อย ! ”
พวกเขาพร้อมที่จะกลับไปที่รถกันแล้ว
“พี่เย่า นายต้องการอะไรอีกไหม ?”
“รูหนอนหนึ่งถึงสองอันไม่ได้ใช้แร่แม่เหล็กมากขนาดนี้แน่ นายลองตรวจสอบข้อมูลดูต่อว่ามันยังมีรูหนอนที่ไหนอีกที่ต้องใช้แร่เหล็กพวกนี้ ? ” หวังเย่าพูดขึ้น
“ได้ รอสักเดี๋ยว”
หลังจากนั้นสักพัก แฟนธอมก็ต้องขมวดคิ้ว “ฉันเจอโปรแกรมที่น่าสงสัย มันล๊อครหัสไว้อย่างดี ฉันต้องแฮกระบบเข้าไป”
“มันคืออะไรกันแน่” หวังเย่าเริ่มกังวล
จากนั้นก็มีสัญญาณดังขึ้น ทั้งบ้านเริ่มสั่นไหวพร้อมกับตู้เก็บแร่ที่เกิดไฟช็อตขึ้นมา
แสงสว่างจ้านี้ทำให้หวังเย่าและคนอื่น ๆ ต้องเบิกตากว้าง มันมีลำแสงยิงลงมาที่บ้าน แม้ว่าจะอยู่ไกลจากที่นี่ไปก็ยังเห็นลำแสงนี้ได้
“เกิดอะไรขึ้น ? ”
หวังเย่าและแฟนธอมได้ใช้โล่เงามาปกป้องตัวเองเอาไว้
“ฉันเองก็ไม่รู้ ตะกี้ระบบมันเริ่มทำงานใหม่เอง” แฟนธอมตอบกลับ
หลังจากนั้นสักพักแร่แม่เหล็กก็หมดพลังงานลง แสงได้สลายหายไป แรงกดดันจากพลังงานก็หายไปด้วยเช่นกัน
แฟนธอมได้เอาคอมออกมาตรวจสอบทันที
“นี่เป็นโปรแกรมลับที่จะทำงานเอง มันเพิ่งทำงานไปเมื่อตะกี้ !” แฟนธอมมองไปที่คอมพร้อมกับเริ่มแก้โปรแกรม
“มันเป็นโปรแกรมแบบไหน ? ”
“ถ้าฉันคิดไม่ผิด มันคือค่ายกลที่จะทลายกฎโลก มันจะทำให้กฎโลกของดาวทมิฬไม่ทำงานไปสักพัก”
หวังเย่าเดินไปที่ตู้เก็บแร่ก่อนจะเปิดลิ้นชักออก แต่เขาก็พบว่าแร่ทั้งหมดนั้นได้หายไปแล้ว
แร่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ได้หายไปในเวลาไม่กี่วินาที
หวังเย่าเดินไปด้านหลังของแฟนธอม และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายแสดงการทำงานของมันให้ฉันดูที”
รูปแบบของค่ายกลถูกฉายขึ้นมาบนจอ หวังเย่าจ้องไปที่ค่ายกลพวกนั้นและรู้สึกว่ามันคุ้นตาเป็นอย่างมาก
ค่ายกลนี้ทำให้เขานึกถึงชายคนหนึ่ง….. ฉิงจี
เขาได้ใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรวมกับแร่แม่เหล็กที่มีเพื่อให้ได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์มา
และสงครามครั้งใหญ่ในครั้งนั้นที่ได้ทำให้กฎโลกของเผ่าชูมิต้องพังทลายไป
น่าเสียดายที่ฉิงจีนั้นตายไปแล้ว จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เข้าใจการทำงานของค่ายกลที่ฉิงจีได้สร้างขึ้นมา
แต่ค่ายกลนี้กับค่ายกลที่ฉิงจีสร้างขึ้นมานั้นคล้ายคลึงกันอย่างมาก เดาว่าค่ายกลนี้คงได้รูปแบบมาจากดาวนิบิรุและถูกส่งต่อกันมา
ค่ายกล 12 รูปแบบนี้ หวังเย่าจำมันได้อย่างชัดเจน ด้วยการที่มีระบบคอยช่วย หวังเย่าก็เข้าใจการทำงานของมันมากขึ้นไปอีก
“เดาว่าโปรแกรมนี้คือการเปิดการทำงานของดาวเทียม ขั้นต่อไปคือส่งลำแสงพลังงานไปยัง 12 ที่บนดาวทมิฬตามพิกัดของค่ายกลเพื่อทำลายกฎโลก”
“ไปดูที่ด้านนอกกันเถอะ ! ” หวังเย่ากังวลอย่างมากและรีบออกไปด้านนอกทันที
แน่นอนว่าเมื่อทั้งสามออกมาด้านนอกก็พบว่าโลกที่เคยเงียบสงบตอนนี้กลับวุ่นวายขึ้นมา
คนในบ้านต่างก็พากันเปิดหน้าต่างกันออกมามองไปบนท้องฟ้า
ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ดาวเทียมได้ยิงลำแสงลงมาก่อนที่แสงจากค่ายกลตามจุดต่าง ๆ จะเชื่อมต่อกัน
ชั้นพลังงานที่ครอบคลุมโลกนี้ก็เริ่มจางหายไปภายใต้ลำแสงที่ยิงไปยังค่ายกลทั้ง 12 แห่ง ลำแสงนี้มันราวกับลำแสงที่จะยิงทะลุให้ดาวทมิฬแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“ดูนั่น มีลำแสงอยู่ตรงนั้น ! ”
“ที่นั่นก็ด้วย ! “
“แดง,เหลือง, ม่วง…มันมีลำแสงแค่สามสีที่ไม่รู้ว่าที่อื่นจะมีอีกรึเปล่า ? ”
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาทำได้แต่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ตอนนั้นเองพื้นดินก็เริ่มสั่นไหว
แกร๊ก…
เสียงแก้วแตกดังขึ้นจนทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกกลัว
ปัง ปัง…
เครื่องมืออิเล็คโทรนิคบางส่วนได้ระเบิดออกพร้อมกับไฟที่ปะทุขึ้นมา
“โทรเรียกตำรวจ !”
“ขอความช่วยเหลือด่วน ! ”
“ทำไมโทรศัพท์ฉันไม่มีสัญญาณ ? ”
ทุกคนเริ่มลนลานกันขึ้น
หนู, แมลงสบ, มดและแมลงต่าง ๆ พากันวิ่งออกมาจากรัง
พวกมันต่างก็พากันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและรู้สึกว่านี่คือจุดจบของโลก
“ฉันรู้สึกว่ากฎโลกน่ะหายไป พลังงานในตัวฉันตอนนี้กระจายไปรอบตัว” แฟนธอมคิ้วขมวด
“ฉันก็ด้วย” เอไนน์พูดขึ้น
“พี่เย่า ฉันได้พิกัดของค่ายกลทั้ง 12 แห่งมาแล้ว ด้วยอำนาจของนายแล้ว นายน่าจะแจ้งกับทางกองทัพให้ทำลายค่ายกลพวกนั้นได้”
หวังเย่ามองไปที่ลำแสงบนฟ้าก่อนจะส่ายหน้า “มันสายเกินไปแล้ว นี่คือค่ายกลที่มองไม่เห็นและไม่อาจจะทำลายได้ เมื่อมันเริ่มทำงาน ก็ต้องรอจนกว่ามันจะใช้พลังงานจนหมดถึงจะหยุดทำงานแล้วจะหายไปเอง”
“ทำลายดาวเทียมไม่ได้รึไง ? ”
“ไม่มีประโยชน์ พลังงานที่มันเก็บไว้ถูกส่งออกมาหมดแล้ว ทำลายไปก็ไม่มีประโยชน์”
แฟนธอมถามขึ้นมา “การทำลายกฎโลกของดาวทมิฬจะมีประโยชน์อะไร ? ”
หวังเย่าหรี่ตาลงมองออกไปภายนอกจักรวาล “ฉันคิดว่า…”
กริ๊ง…
เสียงโทรศัพท์ของหวังเย่าดังขึ้น เขากางมือออกแล้วรับสายทันทีก่อนที่จะมีเสียงของนอร์แมนดังขึ้นมา “หวังเย่า ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน รีบกลับมาด่วน ! ”
“ผมมาที่บ้านดิว ตอนนี้หนวดปีศาจกำลังโจมตีงั้นหรือ ? ”
“ใช่ กฎโลกของดาวทมิฬได้พังลง หนวดปีศาจได้พุ่งเข้ามา มันคิดจะโจมตีดาวทมิฬจากทุกด้าน เรากำลังรับมือกับมันอยู่”
“ผู้การนอร์แมน ผมอยากให้คุณอยู่เฉย ๆ ไปก่อน ไม่ต้องรับมืออะไรทั้งนั้น เรายังใช้แผนการเดิมและไม่ต้องไปเปลี่ยนแผน”
“แต่หนวดปีศาจน่ะแข็งแกร่ง จะให้อยู่เฉยได้ยังไง” นอร์แมนพูดขึ้นด้วยความกังวล
“นี่คือแผนของดาวเฟนเซอร์ ผู้การนอร์แมนอย่าเพิ่งลนลานไป”
นอร์แมนคิ้วขมวดเขากังวลอยู่หลายเรื่อง “นี่…”
“ผู้การนอร์แมนสบายใจได้ ผมเข้าใจค่ายกลที่ทำลายกฎโลกแล้ว มันจะอยู่แค่ 90 ชั่วโมงเท่านั้น หนวดปีศาจต้องใช้เวลาในการเดินทางมาถึงชั้นบรรยากาศของดาวทมิฬอย่างน้อยก็ 20 ชั่วโมง ผมมั่นใจว่าผมสามารถสั่งการสถานีต่าง ๆ ของตระกูลมูหลางให้พวกเขาช่วยกันยื้อไว้อีก 20 ชั่วโมง ”
“นายมั่นใจงั้นหรือ ? ” นอร์แมนถามขึ้นมา
“เชื่อผมเถอะ ! ” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง