ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 610 : แหกกฎ
ตอนที่ 610 : แหกกฎ
ทันทีที่นอร์แมนพูดจบ ที่จอด้านหลังก็แสดงข้อมูลของทุกคนเป็น 0 คะแนน
ภายใต้กฎการแลกเปลี่ยนนี้ เหล่านายพลที่ไม่คิดจะอยู่ต่อก็ไม่ต้องเข้าร่วมการแลกเปลี่ยน เมื่อมีการเริ่มนับถอยหลัง พวกเขาก็ถอนตัวออกไปทันที
มี 6 คนที่ประกาศถอนตัวออกไป จึงทำให้ตอนนี้เหลือนายพลแค่ 414 คน
สำหรับคนส่วนมากแล้วกองกำลังดวงดาวเป็นที่ที่ดีในการฝึกฝนหลังจากที่พบกับทางตันในการพัฒนาตัวเอง
กองกำลังดวงดาวนั้นได้รับความสนใจจากพวกที่แข็งแกร่งอย่างมาก เพราะที่ตั้งของมันอยู่ห่างจากดาวทมิฬออกมาหลายปีแสง มันจึงไม่ได้ถูกจำกัดโดยกฎของโลก ดังนั้นมันจึงง่ายที่พวกเขาจะพัฒนาตัวเองต่อได้
ยิ่งไปกว่านั้น กองกำลังดวงดาวก็ยังให้ทรัพยากรจำนวนมากเหนือกว่านั้นพวกเขาจะได้สู้กับหนวดปีศาจอีก
ดังนั้นนายพลส่วนมากจึงคิดจะใช้ผลประโยชน์ที่ได้จากที่นี่ เพื่อประเทศของพวกเขา
สำหรับทุกคนแล้ว พวกเขาหวังว่าการมาอยู่ที่นี่จะทำให้สามารถพัฒนาตัวเองและได้ทำการสำรวจจักรวาลรวมถึงการสู้กับหนวดปีศาจด้วย
แต่แน่นอนเมื่อได้มาอยู่ในกองกำลังนี้แล้ว พวกเขาจะลืมนึกถึงประเทศของตัวเองไปเลย แต่ในกองกำลังดวงดาวนี้ พวกเขาจะไม่ต่างจากทหารทั่วไป เพราะตำแหน่งที่สำคัญจริง ๆ มีเพียง 159 ตำแหน่งเท่านั้น
ตามกฎแล้วคนที่ได้อันดับหนึ่งจะได้เป็นแม่ทัพของกองกำลังดวงดาว คนที่ได้อันดับ 2 และ 3 จะได้เป็นรองแม่ทัพ
กองกำลังดวงดาวมีทั้งหมด 13 ทีม แต่ละทีมมี 10 คน ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดคือทีม 1-3
คนที่ได้อันดับ 4-9 จะได้เป็นหัวหน้าของทีม 2 และ 3
อันดับ 10-19 จะเป็นหัวหน้าของทีมที่ 4-13
อันดับ 20-29 นั้นจะเป็นรองหัวหน้าของทีมที่ 4-13
อันดับ 30-159 จะเป็นหัวหน้าทีมย่อย
นอกจาก 159 ตำแหน่งเหล่านี้แล้ว คนที่เหลือจะได้เป็นสมาชิกในทีม ตามอันดับคะแนนแล้ว พวกเขาจะได้เงินเดือนที่ต่างกันตามตำแหน่ง
..
หลังจากที่เริ่มการแลกเปลี่ยนแล้ว คะแนนบนจอก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป
พวกนายพลชุดแรกที่ได้คะแนนมานั้นทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนมากแล้วพวกเขาเหล่านั้นมาจากประเทศขนาดเล็ก
พวกเขารู้ว่าตัวเองไม่ได้มีเงินมากนักที่จะเอาไปต่อรองแลกกับตำแหน่งที่สูงกว่านี้ได้
แต่มันจะดีกว่าที่พวกเขาจะนำแร่ที่เหลือนั้นไปแลกกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ถึงจะอยู่ตำแหน่งลูกทีมที่อันดับเท่าไหร่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากสำหรับพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงได้นำแร่ที่เหลือไปแลกกับคนอื่น ๆ ในราคาตลาด พวกเขาพยายามจะแลกแร่ให้หมดโดยเร็วที่สุด
ตอนนี้คนส่วนมากยังได้คะแนนอยู่ที่ 0 คะแนนกันอยู่ จำนวนคนที่ได้ 10 คะแนนเริ่มเพิ่มขึ้น มันหมายความว่าพวกเราเริ่มที่จะแลกเปลี่ยนกันแล้ว
…
ในห้องประชุมนั้นพวกคนระดับสูงได้จับตาดูการแลกเปลี่ยนของเหล่านายพล
“แล้วทีมของหวังเย่าล่ะ ? ” อัลเฟรดมองไปรอบ ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของหวังเย่า
คนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นกัน “ ใช่ เด็กนั่นไม่ได้มาทำการแลกเปลี่ยนกับคนอื่นด้วย แร่แม่เหล็กที่เขามีคงไม่ได้เยอะอะไร เพราะถูกไล่ล่า”
“เมื่อทุกคนทำการแลกเปลี่ยนแร่กันหมดแล้ว งั้นเขาคงไม่มีทางได้ตำแหน่งนี้ไปแน่”
“นอร์แมน นายเห็นหวังเย่ารึเปล่า ? ”
นอร์แมนยิ้มแห้ง ๆ ออกมา “เขานั่งคุยกับโอพีเลียอยู่ที่ร้านกาแฟ เจนกิ้นและคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นั่นด้วย”
“ไม่ใช่ว่าเขามั่นใจตัวเองไปหน่อยรึไง ? ” อัลเฟรดเหมือนจะหงุดหงิดขึ้นมา
คนอื่น ๆ หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าหวังเย่าน่ะลึกลับ บางทีเขาอาจจะทำอะไรที่เราคาดไม่ถึงก็ได้”
“หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง” อัลเฟรดพูดขึ้น
….
ในร้านกาแฟ หวังเย่าและคนอื่น ๆ ยังนั่งพูดคุยกันอยู่
“เธอได้ส่งข้อมูลที่ฉันได้มานี้ให้กับฟอเนอร์ตรวจสอบรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
โอพีเลียพยักหน้า “ฟอเนอร์ตอบกลับมาว่าแผนที่แม่นยำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เขาแปลกใจเมื่อเห็นข้อมูลนี้ ไม่คิดเลยว่าข้อมูลระดับสูงแบบนี้จะรั่วไหลออกไปได้ ตอนนี้เขากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่”
“เพื่อที่จะแสดงความขอบคุณให้กับนายแล้ว เขาตั้งใจจะแนะนำหลานสาวของเขาที่อายุ 15 ให้ ” โอพีเลียฮึดฮัดออกมา
หวังเย่าแทบจะพ่นกาแฟออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น “เขาอยากให้ฉันเป็นหลานเขยของเขารึไง !” เด็กนั่นอายุเพิ่งจะ15 ปี นี่มันไม่ผิดกฎหมายหรือ”
“อย่าพูดเรื่องนี้เลย ฉันส่งข้อมูลนี้ให้เขาฟรี ๆ ฉันไม่ได้อยากได้อะไรตอบแทน ฉันแค่หวังว่าเขาจะไม่ผูกมัดฉันก็เท่านั้น ! ” หวังเย่าพูดขึ้นมา
เจนกิ้นพึมพำออกมา “ตอนนี้เรามีข้อมูลของพวกมันแค่ไหนแล้ว ? ”
โอพีเลียตอบกลับ “ตามรายงานแล้ว ดาวเฟนเซอร์นั้นแกร่งกว่าดาวทมิฬเล็กน้อย แน่นอนว่าแค่เล็กน้อยเท่านั้น เกือบร้อยปีที่ผ่านมา พวกนั้นได้บุกโจมตีดาวระดับ 90 รอบ ๆ และยึดเอาทรัพยากรไปจำนวนมาก เดาว่าพวกเขาต้องแกร่งกว่ารายงานการรบครั้งล่าสุดที่ได้มา และนี่ก็เป็นการบุกดาวระดับ 100 ครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะหวังเย่าได้ข้อมูลนี้มาก่อน งั้นผลกระทบคงเกินกว่าจะคาดถึง”
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่จะปรับแผนเสร็จ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“เร็วสุดคือครึ่งเดือน กองกำลังภาคพื้นดินไม่ได้รวดเร็วแบบกองกำลังดวงดาว ครึ่งเดือนนี่ถือว่าเร็วที่สุดแล้ว” โอพีเลียพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หวังเย่าขมวดคิ้ว “ ถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ กองกำลังภาคพื้นดินคงเป็นแค่ตัวเสริม ส่วนที่ตัดสินว่าใครจะชนะคงเป็นกองกำลังภายนอกอย่างเรา”
“แผนการรบของกองกำลังดวงดาวของเราถือว่าแย่อยู่ หากต้องสู้กับดาวเฟนเซอร์ ” เจนกิ้นพูดขึ้น
“มันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนรูปแบบกองทัพได้ ตำแหน่งทั้ง 159 ตำแหน่งในกองกำลังดวงดาวจะเปลี่ยนทุก ๆ 10 ปี แต่ถึงจะมีทีมใหม่ขึ้นมา แต่ทีมเก่าก็จะยังไม่ถอนตัว พวกเขายังคอยช่วยอยู่” โอพีเลียพูดขึ้น
หวังเย่ามองไปยังจอ ตอนนี้คะแนนยังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ แต่มันก็ยังพอเห็นว่าใครจะได้ตำแหน่งไป
“โอพีเลีย เจนกิ้น ตามรายชื่อแล้ว มาเลือกคนที่แกร่งที่สุด 159 คน ไม่ดีกว่ารึไง ? ”
เจนกิ้นยิ้มออกมาและพูดขึ้น “อาเย่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่ 3 ตำแหน่งแรกที่นายจะเป็นคนกำหนด แต่กลับคิดจะกำหนดทุกตำแหน่งเลยรึไง ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมา
โอพีเลียยักไหล่ “เดาว่าพวกระดับสูงคงไม่รู้ว่าการตัดสินทั้งหมดอยู่ในเงื้อมมือของหวังเย่าแล้ว”
“หวังเย่า นายมั่นใจหรือว่าทำแบบนี้จริง ๆ ? ”
หวังเย่าจิบกาแฟแล้วพูดขึ้น “ ฉันให้แร่คนที่แข็งแกร่งจริง ๆ มันผิดตรงไหน ? นอกจากนี้แล้วพวกนายคิดว่าคนที่ได้ 100 อันดับแรกนั้นดีกว่าพวกประเทศเล็ก ๆ รึไง ? ”
ทั้งเจนกิ้นและโอพีเลียต่างก็พากันช็อก
“การคัดเลือกนี้น่ะไม่ยุติธรรมตั้งแต่เริ่มการฝึกแล้ว ที่นี่ไม่ใช่แค่แข่งขันที่ความแข็งแกร่งส่วนตัวอย่างเดียว แต่ยังแข่งขันเรื่องความแข็งแกร่งของชาติด้วย ยิ่งในการเก็บแร่ พวกที่มาจากประเทศเล็ก ๆ ก็เป็นได้แค่ตัวลอง แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่โดดเด่นและขยันแค่ไหนแต่ก็ยากที่จะได้ตำแหน่งสูง ๆ มาได้ พวกเขาเป็นได้แค่ตัวรับกระสุน ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น” หวังเย่าพูดออกมาตามความจริง
เจนกิ้นพยักหน้า “บางทีมันอาจจะมีสงครามขึ้นมาจริง ๆ ฉันสนับสนุนความคิดของหวังเย่า”
โอพีเลียยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ฉันเป็นแค่ลูกน้องของหวังเย่า แน่นอนว่าฉันเห็นด้วยกับที่เขาพูด”
หวังเย่ายิ้มออกมา “งั้นมาดูรายชื่อกันก่อน สำหรับตำแหน่งแล้ว เราจะตัดสินกันทีหลัง”
…
ในห้องประชุมพวกระดับสูงยังคงวิเคราะห์ว่าใครจะได้ตำแหน่งสูง ๆ ไป
แต่ที่ร้านกาแฟไม่ไกลออกไปนัก หวังเย่ากำลังคิดจะทำลายกฎของเกมนี้
“ฉันคิดว่านี่แหละดีแล้ว” หวังเย่ามองไปที่รายชื่อที่เขาคัดเลือกมาแล้วพูดขึ้น
“หวังเย่า นายมั่นใจหรือว่าจะตัดนายพลของประเทศโคโรน่าออก ? ” โอพีเลียถามขึ้นมา
หวังเย่าพยักหน้า “พวกเขาน่ะเป็นหนึ่งเดียวกันก็จริง แต่สำหรับการพัฒนาระยะยาวของกองกำลังดวงดาวแล้ว มันมีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดการคอรัปชั่น รวมกับที่ฝีมือของพวกเขาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร มันจึงไปกดคนที่มีความสามารถจริง ๆ ฉันยอมเสี่ยงกับคนอื่นดีกว่า อย่างน้อยพวกนั้นก็มีความเชี่ยวชาญของตัวเอง อีกอย่างทีมนี้ก็ธรรมดาเกินไป”
เจนกิ้นมองไปที่อันดับและพูดขึ้น “ช่องว่างคะแนนของทั้งสิบคนไม่ได้ต่างกันมากนัก”
โอพีเลียกังวล “เพื่อจะตัดทั้ง 10 คนนี้ออกไป นายต้องเพิ่มคะแนนของทุกคน…นายมีแร่เยอะขนาดนั้นเลยหรือ ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมา เขาได้โยนแหวนมิติให้กับทั้งสองคน “แค่นี้พอรึเปล่า ? ”
“พระเจ้า” โอพีเลียและเจนกิ้นต่างก็ตะลึงเมื่อเห็นแร่ในแหวนที่หวังเย่าได้มา
“มาเริ่มกันดีกว่า เหลืออีกแค่ 10 นาที ” หวังเย่ามองไปที่เวลาที่นับถอยหลังบนจอแล้วพูดขึ้นมา
ทั้งสามคนเดินไปยังดาดฟ้าทันที