ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 599 : กลืนกิน
ตอนที่ 599 : กลืนกิน
“ เซลล์ดำ ระวังตัว !” โอพีเลียตะโกนออกมา
เซลล์ดำนี้คล้ายกับเม็ดเลือดขาวในร่างกายคน มันจะคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
เซลล์ดำนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก จนนักวิจัยบางคนเดาว่านักรบที่คอยปกป้องหนวดเหล่านี้น่าจะพัฒนามาจากเซลล์ดำ
ด้วยการที่อยู่ตำแหน่งต่างกันไปก็ทำให้ความแข็งแกร่งของเซลล์ดำนั้นแตกต่างกันไปด้วย เซลล์ดำที่หวังเย่าและคนอื่น ๆ อยู่ตอนนี้นี้แข็งแกร่งซะจนฆ่าสัตว์อสูรเลเวล 100 ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อโดนหมายหัวแล้วสุดท้ายยังไงก็ตาย !
เจนกิ้นมองไปยังสองคนด้านนอกด้วยความโกรธแล้วตะโกนออกมา “ พวกคนทรยศ !”
ฮ่าฮ่า…
ทั้งสองคนที่อยู่ด้านนอกพากันหัวเราะออกมา
“หวังเย่า โทษตัวเองเถอะที่โง่ให้เราหลอก ! ” มาทิลด้าเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
เมื่อเขาเคยเป็นโจรมาก่อน เขาจะกลับตัวกลับใจได้ยังไง ?
โอพีเลียต่างหากที่มองทั้งสองดีเกินไป
หวังเย่าโกรธจัด แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะทำอะไรทั้งสองได้ ต่อหน้าเซลล์ดำแล้ว เขาได้โคจรพลังภายในและผลักให้เซลล์ดำถอยกลับไปเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับทั้งสาม
“เจนกิ้น เรียกสัตว์อสูรออกมาเพื่อเปิดผนังหนวดออก ! ” หวังเย่ากัดฟันแน่นพร้อมเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นมาที่หน้าผาก
เจนกิ้นไม่มัวเสียเวลาและเรียกสัตว์อสูรแฝดของเขาออกมา ทั้งสองได้ยกดาบในมือขึ้นพร้อมกับทำการเปิดผนังออก
“ฮ่าฮ่า..สายเกินไปแล้ว หวังเย่า ครั้งนี้แกต้องตาย !” มาทิลด้าเรียกสัตว์อสูรของตัวเองออกมา ตัวมันราวกับบ่อโคลน และมันมีแค่ตาคู่เดียว
หวังเย่าพยายามต้านทานเซลล์ดำเอาไว้ก่อนจะใช้ระบบตรวจสอบสัตว์อสูรของมาทิลด้า
ชื่อ : น้ำมูกคิงคองเลเวล : 85 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์สกิล : กระสุนน้ำมุก พ่นน้ำมูกเหนียวออกมาจากรูจมูก เมื่อโดนศัตรูจะทำให้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้, สสาร ร่างกายสามารถเปลี่ยนรูปร่างไปตามวัตถุ เมื่อรวมกับวัตถุก็จะทำให้มีพลังป้องกันที่สูง แม้แต่มิสไซน์ก็ไม่อาจจะทำลายมันได้, เกราะน้ำมูก รวมร่างสัตว์อสูรกับผู้ใช้เป็นหนึ่งเดียว มันจะก่อตัวเป็นชั้นเพิ่มพลังป้องกันให้กับผู้ใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มพลังโจมตี 50 เปอร์เซ็นต์จุดอ่อน : สัตว์อสูรสายซัพพอร์ต มันจะขาดการโจมตีที่รุนแรง เมื่อการป้องกันพังลงแล้ว จะอันตรายสำหรับตัวมันอย่างมาก
ในตอนที่นักรบแฝดกำลังจะเข้าโจมตีผนังของหนวด น้ำมูกคิงคองก็ได้พุ่งเข้ามาที่ผนังของหนวดก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นผนังปิดรูเอาไว้
ผนังนี้กลายเป็นแก้วโปร่งใส
ปั๊ก…
ดาบของนักรบแฝดฟันไปที่แก้วนั่น แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย !
ติ๊ง ….
เสียงสัญญาณเตือนจากเกราะของหวังเย่าดังขึ้น
“เกราะถูกกัดกร่อนอย่างหนัก ถ้ายังอยู่ต่ออีก 30 วินาที เครื่องยนต์จะพัง”
เจนกิ้นในตอนนี้ถึงกับเหงื่อตก เขาดึงดาบออกมาและเข้าไปช่วยสัตว์อสูรตัวเองในการทำลายแก้วนั่น
“อย่าเสียเวลา นายทำลายการป้องกันของมันไม่ได้หรอก” มาทิลด้าพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
หวังเย่ามองไปที่โอพีเลียแล้วพูดขึ้น “โอพีเลีย เธอมีทางรับมือกับเซลล์ดำรึเปล่า ? เรื่องแก้วนี่ให้ฉันจัดการเอง”
“เซลล์ดำทัดเทียมกับสัตว์อสูรเลเวล 120 ฉันกลัวว่าฉันคงยื้อเวลามันได้แค่ 10 วินาทีเท่านั้น ! ” โอพีเลียพูดขึ้นมา
“10 วิก็เพียงพอแล้ว” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
โอพีเลียพยักหน้าก่อนจะเรียกสัตว์อสูรของเธอออกมา
ชื่อ : อสูรกินหญ้าเลเวล : 86 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์สกิล : สุดยอดการย่อยอาหาร ปากที่เหมือนกับใบมีด สามารถขังศัตรูไว้ในใบมีดได้ เมื่อเข้าใกล้ใบมีดจะมีการปล่อยแก็สออกมาจนทำให้คู่ต่อสู้หมดสติ สามารถดูดซับทุกอย่างได้, ใบมีดสามารถก่อตัวเป็นกรงก่อนที่จะมีการยิงหนามออกมาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้ศัตรูติดพิษ ยิ่งโดนหนามเท่าไหร่ก็จะได้รับความเสียหายเป็นสองเท่า, ตรึง สร้างเถาวัลย์ขึ้นมารัดศัตรูเอาไว้ มันจะทำให้ศัตรูตัวชาพร้อมกับการป้องกันที่ลดลงอย่างมากจุดอ่อน : สัตว์อสูรประเภทต้นไม้จะกลัวพิษและกลัวไฟ
ตอนที่หวังเย่าพุ่งออกไปสัตว์อสูรของโอพีเลียก็เติบโตอย่างบ้าคลั่ง มันได้สร้างกรงต้นไม้ขึ้นมาปิดทางเซลล์ดำเอาไว้
ไกลออกไปโดมินิคที่เสียสัตว์อสูรของตัวเอง ก็ได้พุ่งมาทางที่หวังเย่าอยู่
เขาเห็นหวังเย่าและคนอื่น ๆ โดนขังอยู่ด้านใน มันก็ทำให้เขาถึงกับแปลกใจ แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิด เขาได้ทำการหนีเต็มกำลัง
ดิ๊คไม่ได้ไล่ตาม เขามองดูหวังเย่าและคนอื่น ๆ ที่โดนขังอยู่ ก่อนจะหัวเราะออกมา
“แรมโบ้ นายฆ่าพวกมันแล้วฉันจะให้รางวัลนาย ! ฮ่าฮ่า..”
ในสายตาของดิ๊คแล้ว หวังเย่าและคนอื่น ๆ คือคนที่ตายไปแล้วในตอนนี้ !
แต่ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องทำคือต้องฆ่าโดมินิคให้ได้ก่อน !
เขาสู้กับโดมินิคมานานเพราะความลับของเขาถูกโดมินิล่วงรู้เข้า โดมินิคได้หลักฐานชิ้นสำคัญไป เขาต้องไปชิงมันคืนมา
ไม่งั้นแล้วถึงเขาจะได้เป็นแม่ทัพแต่ก็ยังโดนไล่ออกจากดาวทมิฬได้ และจากนั้นแผนการทุกอย่างที่ทำมาก็จะพัง !
“โดมินิค แกกล้ารบกวนแผนการของฉัน แกอยากจะแย่งตำแหน่งแม่ทัพไปจริง ๆ สินะ !” ดิ๊คตะโกนออกมาก่อนจะรีบไล่ตามไปทันที
หวังเย่าเกลียดคนหักหลังที่สุด
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเขาโดนหักหลัง
เขาสงสัยในตัวมาทิลด้าอยู่เล็กน้อย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าแรมโบ้ก็หักหลังเขาด้วย
เขานั่งยอง ๆ พร้อมกับปะทุพลังออกมา พลังที่แม้แต่เจนกิ้นและโอพีเลียก็ยังต้องรู้สึกกลัว
“เจนกิ้นถอยออกมา กำแพงนี่ฉันจัดการเอง !”
หวังเย่ากำหมัดแน่นพร้อมแสงที่ส่องประกายออกมาจากหมัดของเขา หมัดที่ทรงพลังนี้กำลังจะถูกต่อยออกไป !
“หวังเย่า แกคิดจริง ๆ รึว่าจะทำลายมันได้ ! แกนี่มันใสซื่อจริง ๆ ! ”
แรมโบ้พุ่งมาที่กำแพงและมองมาที่หวังเย่าก่อนจะเรียกสัตว์อสูรของตัวเองออกมา
ชื่อ : บัวดำ เลเวล : 85 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์ สกิล : บงกชจักรี หมุนวนอย่างรวดเร็วส่งใบบัวออกไปโจมตี มันจะสร้างรากเข้าไปในร่างศัตรูและเริ่มกัดกินร่างกาย, ฟื้นฟู ตราบใดที่ทำลายแก่นของมันไม่ได้ งั้นร่างกายก็จะสามารถฟื้นฟูได้ไม่รู้จบ สกิลนี้แม้แต่ผู้ใช้อสูรก็ใช้ได้, ทิ้งเครื่องหมาย สามารถทิ้งเครื่องหมายใส่ศัตรูได้ เมื่อทำการระเบิดเครื่องหมายนี้จะสร้างความเสียหายให้กับบริเวณรอบ ๆ ยิ่งทำเครื่องหมายไว้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรับความเสียหายมากขึ้นไปด้วย จุอ่อน : สัตว์อสูรประเภทต้นไม้ไม่อาจจะต้านทานพิษได้ , เมื่อติดพิษแล้วด้วยสกิลฟื้นฟูก็ยิ่งทำให้พิษก่อตัวเร็วขึ้นบัวดำปรากฏขึ้นมาที่ด้านหลังของแรมโบ้ ก่อนที่มันจะบานออก จากนั้นแรมโบ้ก็ไปนั่งอยู่ใจกลางดอกบัวแล้วยิ้มให้กับหวังเย่า
“ตอนที่ฉันอยู่กับแก ฉันได้ทิ้งเครื่องหมายไว้ที่หลังของแกแล้ว ดังนั้น…แกจบสิ้นแน่ ! ”
แรมโบ้ทำการดีดนิ้ว
เครื่องหมายที่อยู่ด้านหลังของหวังเย่าทั้งสามอันก็ได้ระเบิดออกมาพร้อมกัน !
ปัง !
โล่ของโอพีเลียได้ระเบิดออกทันทีพร้อมกับเซลล์ดำที่พุ่งเข้าหาทั้งสามคน
โอพีเลียและเจนกิ้นโดนสูบเข้าไปในหมึกดำ
หมึกดำเริ่มรวมตัวกันก่อนจะรวมเป็นร่างของคนขึ้นมา !
“หวังเย่า ! แกตายแน่ …” มาทิลด้าและแรมโบ้ที่อยู่ด้านนอกตะโกนขึ้นมา
หวังเย่าได้สร้างโล่เงาขึ้นมาและลากเจนกิ้นกับโอพีเลียเข้ามาในโล่เงาด้วยเพื่อปกป้องทั้งสองคน
เขามองไปที่แรมโบ้และมาทิลด้าด้วยสีหน้าโกรธแค้น แสงในหมัดของเขาส่องแสงออกมายิ่งกว่าเก่า จากนั้นมันก็ได้พุ่งเข้าต่อยไปยังสัตว์อสูรที่กลายเป็นแก้วตรงหน้า
ปัง !
แกร๊ก…
แก้วเริ่มแตกออกพร้อมกับคลื่นพลังที่อัดเข้าใส่มาทิลด้าและแรมโบ้จนทั้งสองกระเด็นออกไป
ด้วยพลังเฮือกสุดท้าย หวังเย่า เขาได้โยนโอพีเลียและเจนกิ้นออกไปผ่านรอยแตก จากนั้นเซลล์ดำก็ได้เข้ากลืนกินเขาไป
“หวังเย่า ! ”
โอพีเลียและเจนกิ้นหันกลับไป ก็พบว่าหวังเย่าโดนกลืนกินไปแล้ว พวกเขาได้แต่ตะโกนกันออกมาด้วยความปวดใจ