ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 556 : สกิลใหม่
ข้อความสรุปได้ดังนี้
ศพของฟาโรห์ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาในดาวทมิฬ มันส่งผลให้เผ่าจิ้งจอกลดอำนาจลงไปอย่างมากและถึงกับทำให้พวกชนพื้นเมืองมากมายปรากฏตัวออกมา
การเลือกตั้งจบลงแล้ว ฝ่ายที่ชนะก็ยังคงเป็นของรัฐ แต่กฎได้เปลี่ยนไปจากเดิม เผ่าจิ้งจอกไม่ได้ผูกขาดอำนาจไว้ดังเดิมอีกต่อไป
ฟอเนอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพ ทีมของเขาจะเข้ามายึดเหมืองจากซิดดี้ เพราะแร่นั้นเป็นทรัพยากรที่หายากและคนที่คุมที่นี่ก็คือเผ่าจิ้งจอก ทั้งสองฝั่งตอนนี้อยู่ในตอนที่ส่งอำนาจต่อมือกัน
การยักยอกแร่หินของซิดดี้ถูกเปิดโปง และตอนนี้ก็กำลังมีการสอบสวน
คนรับซื้อแร่ไปจากซิดดี้ตอนนี้ได้หนีไปกบดานที่อื่นแล้ว ซิดดี้ก่อนที่จะหนีนั้นเขาได้วางแผนว่าจะฆ่าหวังเย่า โดยให้เอเดรียนเป็นคนลงมือ เอเดรียนเคยเป็นแม่ทัพมาก่อน เขามีสัตว์อสูรเลเวล 89 เขาได้ทำลายเกาะและถูกส่งมาที่คุกแห่งนี้ แม้ว่าหวังเย่าจะไปซ่อนตัวอยู่ในบึงแต่ก็ยากที่จะหนีจากความตายได้ เมื่อมองดูข้อมูลที่ได้มาซึ่งเกี่ยวข้องกับการจับเอเดรียน ฟอเนอร์ก็ได้หาจุดอ่อนอสูรของเอเดรียนก่อนที่จะทำการสรุปออกมา
ถึงหวังเย่าจะมีกองทัพอสูร แต่ด้วยอสูรขนาดใหญ่ของเอเดรียน หวังเย่าก็รู้สึกกดดันขึ้นมา เพราะกองทัพอสูรของเขาคงไม่อาจจะเทียบได้ ถ้าไม่โดนขังอยู่ในคุกนี้และฉีดยาควบคุมเอาไว้ งั้นเดาว่าสัตว์อสูรของเอเดรียนก็น่าจะขึ้นไประดับเทพได้แล้ว !
“นายท่าน ด้วยความแข็งแกร่งของแฟนธอมแล้ว นายท่านคิดว่าจะเอาชนะสัตว์อสูรนั่นได้รึไม่ ? ”
เอไนน์ได้ตื่นขึ้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่อาจจะออกจากตัวหวังเย่าได้ ด้วยการที่หวังเย่าอนุญาตจึงทำให้เอไนน์สามารถสื่อสารกับหวังเย่าได้ แต่ก็แค่การสื่อสารในหัวเท่านั้น
“มันไม่น่าจะมีโอกาสชนะ ! ” หวังเย่าพูดตามความจริง
ด้วยสกิลการโจมตีของมันแฟนธอมแล้ว คงไม่อาจจะเข้าใกล้มันได้ ยิ่งถ้าอีกฝ่ายมีสกิลการป้องกันที่สูง งั้นก็ยากที่จะหาวิธีตอบโต้
“สัตว์อสูรแบบไหนกัน ส่งข้อมูลให้ข้าดูหน่อย” แฟนธอมโผล่มาข้าง ๆ หวังเย่า เขายืนอยู่บนยอดไม้และมองออกไปภายนอกด้วยสีหน้าเยือกเย็น
หวังเย่าเปิดการทำงานของระบบและส่งข้อมูลให้กับแฟนธอมทันที
หลังจากนั้นสักพักข้อมูลก็ถูกส่งเข้าไปในหัวของแฟนธอม
ชื่อ : มังกรลูโด้
เลเวล : 89 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์คำอธิบาย : สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ตัวของมันยาวหลายกิโลเมตร ระยะการโจมตีกว้างอย่างมาก มันสามารถสร้างหายนะเป็นบริเวณกว้างสกิล : ร่างเหล็ก ใส่เกราะป้องกันที่หนาทำให้ความเร็วลดลง การโจมตีและการป้องกันเพิ่มขึ้น, ปืนลำแสงมังกร ที่ท้องเต็มไปด้วยปืน ยิงเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง หากอยู่ใต้ตัวมันจะเพิ่มความเสียหายเป็นสองเท่า, เกราะต้านทาน ต้านทานการโจมตีที่ไม่ใช่การโจมตีทางกายภายจากสิ่งมีชีวิตทั่วไปจุดอ่อน : เคลื่อนไหวช้า รอบตัวมันมีจุดอ่อน 36 จุด แต่ถูกซ่อนไว้อย่างดี
เมื่อเห็นสกิลทั้งสามของลูโด้แล้ว แฟนธอมก็พูดขึ้นมา “ค้างคาวใช้กับมันไม่ได้ผล แม้แต่พลังของหินมันก็ยังต้านทานได้ ปืนของมันสร้างความเสียหายสูง บวกกับที่ท้องของมันมีปืนอยู่ งั้นก็คงยากที่จะเข้าใกล้ตัวมันได้ มันมีความสามารถโจมตีระยะไกลและปืนที่อยู่เต็มตัว แต่ก็น่าจะพอหาทางได้ ”
“ตอนที่กองทัพใช้กลยุทธ์ในการจับกุมเอเดรียนที่ทะเล พวกเขาก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก หากซิดดี้มีเวลามากพอ งั้นก็มีโอกาสที่ดีที่เขาจะส่งให้เอเดรียนมาจัดการกับเรา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เราคงตกที่นั่งลำบาก” หวังเย่าขมวดคิ้ว
แฟนธอมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลับเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา “หวังเย่า เจ้าอาจจะรู้จักข้า แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้ายังไม่รู้”
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอมด้วยความสงสัย
“ข้าสามารถที่จะพัฒนาสกิลของข้าได้ตามความคิด แต่ข้าไม่เคยมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก่อน ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะพัฒนาสกิลทั่วไป”
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอมพร้อมกับคิ้วที่ขมวด “นายคงไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ ? นายพัฒนาสกิลของนายได้ตามความคิดของนายงั้นหรือ ? ”
ตามหลักการแล้วสัตว์อสูรนั้นจะมีสกิลที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว แต่แฟนธอมสามารถเลือกที่จะพัฒนาสกิลของตัวเองได้ตามใจ งั้นไม่ใช่ว่าสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ นั้นไม่มีอะไรดีรึไง ?
แฟนธอมยิ้มออกมาและหันหน้าหนี ก่อนจะพูดว่า “อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไร คุณภาพในสายเลือดของสัตว์อสูร แม้แต่ความสามารถในการเรียนรู้นั้นเหนือกว่ามนุษย์ ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้แล้วและการปรับสกิลไปกับกฎจักรวาลมันก็จะสร้างสกิลใหม่ขึ้นมาได้ พูดอาจจะง่ายแต่ไม่ใช่ว่าสัตว์อสูรทุกตัวจะทำได้”
หวังเย่าพยักหน้า มันก็เหมือนกับพวกผู้บ่มเพาะ ทุกคนแกร่งขึ้นมาได้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสร้างทักษะขึ้นมาได้
ความเข้าใจของแฟนธอมนั้นอาจจะขึ้นไปถึงระดับสูงสุดแล้ว มันเพียงพอที่จะเปิดสำนักเลยก็ว่าได้ที่แม้แต่สัตว์อสูรระดับเทพก็ยังไม่อาจจะทำได้
1 อาทิตย์ต่อมาด้วยความช่วยเหลือจากระบบและการกินผลสมองราชาภูติไป 5 ผล ค่าประสบการณ์ของแฟนธอมก็เต็มเพียงพอที่จะพัฒนาตัวเองได้แล้ว
แฟนธอมและหวังเย่านั่งลงกับพื้น ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่หวังเย่าจะหลับตาลงแล้วเลือกที่จะเปิดการทำงานของระบบ
ค่าประสบการณ์ที่มีหายไปทันทีพร้อมกับเลเวลของแฟนธอมที่เพิ่มขึ้นจาก 88 เป็น 89
ด้วยแสงสีขาวส่องประกายขึ้นมา สถานะของแฟนธอมก็โผล่มาในหัวของหวังเย่าทันที พร้อมกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อมองดูสกิลของแฟนธอมอีกครั้ง มันก็ทำให้หวังเย่าถึงกับตื่นเต้นขึ้นมาชื่อ : แฟนธอม เลเวล : 89 สกิล : ขู่ เมื่อคู่ต่อสู้ที่เลเวลต่ำกว่า มันก็มีโอกาสสูงที่ศัตรูจะมีจิตใจที่อ่อนแอลงจนไม่อาจจะสู้ต่อได้ (ผลของมันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางจิตใจของศัตรู และอาจจะทำให้ศัตรูเข้าใจผิดคิดว่าแข็งแกร่ง ผลของมันจะอยู่ที่ 5 วินาที), หุ่นเชิด หลังจากที่ใช้สกิลออกมา ศัตรูจะตกเข้าสู่การควบคุม มันจะกลายเป็นหุ่นเชิด หลังจากที่หลุดจากการควบคุมแล้ว ความแม่นยำของเป้าหมายจะลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในการโจมตีครั้งต่อไป, ตรึง ดำดิ่งลงไปที่เท้าของศัตรู มีโอกาสสูงที่จะตรึงศัตรูเอาไว้ (ระหว่างที่ตรึงนั้นมีโอกาส 30 เปอร์เซ็นต์ ที่จะสูบพลังโจมตีของศัตรูทำให้ศัตรูอ่อนแอลงและเพิ่มพลังให้กับตัวเอง ผลของการดึงพลังนั้นอยู่ได้ 30 วินาที), โล่เงา สร้างโล่เงาครอบคลุมตัวเองและผู้ใช้อสูร สามารถกันความเสียหายได้ 20 เปอร์เซ็นต์ของพลังชีวิต ก่อนที่โล่จะพังลง ผู้ใช้อสูรจะเป็นอมตะ 3 วินาที (คูลดาวน์ 60 วินาที ผลอมตะจะทำงานแค่ 3 ครั้งต่อวัน การใช้งานโล่ไม่จำกัด)
สกิลสองอันแรกของแฟนธอมได้พัฒนาขึ้นมา
สี่สกิลนี้ถือว่าดี มันเป็นเหมือนกับที่แฟนธอมบอกมา สกิลพวกนี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อรับมือกับลูโด้ ด้วยโล่และการเป็นอมตะนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเข้าไปถึงตัวลูโด้ได้
“แฟนธอม นายนี่เจ๋งจริง ๆ ! ”
หวังเย่ายิ้มกว้างออกมาพร้อมกับกล่าวชมแฟนธอมอย่างจริงใจ
ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้นในเหมือง
นักโทษพากันกลิ้งไปมาตามเพลง
“ลิซ่า แร่หินชุดสุดท้ายขนออกไปรึยัง ?” ซิดดี้ถามขึ้นมา
“ท่านคิดถึงเรื่องเงินสินะ ? ” เลขาสาวถามขึ้นมาและมองไปที่ซิดดี้
ซิดดี้วางกาแฟลง และมองไปที่หน้าอกอันขาวอวบของเธอ
“เธอนี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ มาดูสิว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง ! ” ซิดดี้ ดึงเข็มขัดออกแล้วกดเลขาลงบนโต๊ะก่อนจะใช้เข็มขัดฟาดเธอ
อ๊า…
ลิซ่าร้องออกมาจนทำให้ซิดดี้คึกไปตาม
เข็มขัดถูกเอามาใช้รัดมือเธอเอาไว้และจิกหัวเธอ ก่อนจะลากเธอไปที่หน้าต่าง ไม่นานก็มีเสียงหอบดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
“ที่รัก เมื่อธุระที่นี่จบลง เราไปอยู่ที่ดาวโบไลด์กันเถอะ เมื่อเราไปถึงที่นั่น แม้ว่าจะมีสงครามอยู่ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้” ซิดดี้หอบและพูดขึ้นมา
“ฉันไม่ค้าน ถ้าคุณจะไปที่ไหน ฉันก็จะไปด้วย” ลิซ่ากอดซิดดี้เอาไว้ก่อนจะเข้าไปจูบเขา
หลังจากนั้นสักพักซิดดี้ก็กลับไปใส่เสื้อผ้าตามเดิมแล้วกลับไปนั่งที่โซฟา
ลิซ่านั่งหอบอยู่ที่พื้นและถามขึ้นมา “จะไปไหน ? ”
“ฉันต้องไปฆ่าหวังเย่าก่อนที่จะให้คนมารับเรา ! ” ซิดดี้จับไม้เท้าขึ้นมาพร้อมกับกัดฟันแน่น
ลิซ่าใส่เสื้อและถามขึ้น “จะไปหาเอเดรียนงั้นหรือ ? เขาจะช่วยคุณงั้นหรือ ? ”
ซิดดี้ได้พูดขึ้น “ยังไงซะทุกอย่างก็เป็นเรื่องธุรกิจ ทุกอย่างน่ะซื้อได้ ! ”
ลิฟต์ถูกเปิดออกก่อนที่ซิดดี้จะรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที