ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 535 : อสูรเงาปีศาจ
ตอนที่ 535 : อสูรเงาปีศาจ
กรร !
กิ้งก่าคำรามออกมาจนทำให้เกิดคลื่นเสียงที่บดบังการมองเห็นของหวังเย่าไปสักพัก
พวกนักโทษด้านหน้าที่รับการโจมตีนี้ไปเต็ม ๆ ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ในหูเต็มไปด้วยเสียงหึ่ง
ฟู่…
สกิลสร้างพายุได้ถูกใช้ออกมาอีกครั้ง
เบลมองไปที่กิ้งก่าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
“เบลใช้เวทย์ซะ ไม่งั้นเราจะต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด”
เบลกัดฟันแน่นก่อนที่ร่างของเขาจะมีแสงสีทองสะท้อนออกมา
ตัวของเขากลับบวมเป่งขึ้น กล้ามเนื้อและกระดูกเริ่มโตขึ้นไปด้วย หัวของเขากลายเป็นหมาจิ้งจอก นิ้วของเขายาวขึ้นมาพร้อมกับเล็บที่คมกริบราวกับใบมีด
“กรงเล็บหมาจิ้งจอก ! ”
เบลถีบตัวขึ้นไปบนอากาศ ร่างของเขาขึ้นไปสูงกว่าที่กิ้งก่าปีกทองอยู่
กรงเล็บถูกสะบัดออกมาด้วยความเร็วสูงเข้าใส่ตัวกิ้งก่าปีกทอง
นักโทษคนอื่น ๆ ต่างก็พากันใช้มีดของตัวเองเขวี้ยงเข้าใส่กิ้งก่า
นักโทษระดับ F คนหนึ่งได้เอาธนูและลูกธนูออกมาจากแหวนมิติก่อนจะเล็งไปที่กิ้งก่า สุดท้ายตอนที่เขายิงออกไปลูกธนูนั้นก็ติดไฟ
เสียงลูกธนูตัดผ่านสายลมราวกับเสียงคำรามของมังกร
พวกนี้มีความสามารถที่โดดเด่น แม้ว่าจะไม่มีสัตว์อสูรคอยช่วย แต่แค่ความสามารถของตัวเองก็แข็งแกร่งเพียงพอ
ต้องรู้ก่อนว่าในโลกมนุษย์นั้น หวังเย่าและผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ ร่วมมือกัน แต่ต่อหน้าสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาคงได้แต่หนี อย่างมากพวกเขาก็ทำได้แค่รับมือมันเอาไว้ก็เท่านั้น
การต่อสู้อันดุเดือดนี้แทบจะทำให้ถ้ำถล่มลงมา ตอนนี้ตัวกิ้งก่าเต็มไปด้วยบาดแผล มีธนูสามดอกที่ปักเข้าทีหัวของมันพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
หินนับไม่ถ้วนร่วงลงมา มันได้กางปีกออกปกป้องไข่ของมันเอาไว้จากอันตราย
พวกนักโทษพากันหมอบลงกับพื้น แม้แต่เบลก็โดนลูกธนูปักไปสองดอกและนอนกองอยู่ที่พื้น
เมื่อยืนยันแล้วว่าพวกนี้ไม่อาจจะลุกขึ้นมาอีกได้ กิ้งก่าก็ได้หันกลับมาก่อนจะไปนอนที่ข้าง ๆ ไข่ของมัน
ตอนนั้นไข่ได้เปล่งแสงเจ็ดสีออกมา ผิวของไข่ค่อย ๆ แตกออกพร้อมกับของเหลวสีดำที่ไหลออกมาห่อหุ้มตัวกิ้งก่าปีกทองเอาไว้ สุดท้ายกิ้งก่าปีกทองก็ค่อย ๆ ตัวหดลงจนละลายกลายเป็นน้ำ และน้ำเหล่านั้นก็ถูกไข่สูบเข้าไปจนหมด
แกร๊ก…
เมื่อได้รับพลังงานเติมเต็ม ไข่ก็แตกออกเร็วขึ้นกว่าเก่า
ฮ่าฮ่า…
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากในไข่
มันไม่ใช่สัตว์อสูรแต่เป็นมนุษย์อย่างนั้นหรือ !
หวังเย่าลังเลเล็กน้อยก่อนที่สุดท้ายจะรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาไข่ตรงหน้า
ตอนนั้นเปลือกไข่ได้แตกออกจนเกิดช่องว่างที่ทำให้หวังเย่าได้เห็นตาคู่หนึ่งด้านในไข่ใบนั้น ตาคู่ที่แดงก่ำ !
สายตานี้ราวกับหัวเราะให้กับความพยายามของหวังเย่า
ติ๊ง ติ๊ง !
ระบบได้ทำการประเมินและส่งข้อมูลให้หวังเย่าทันที
ชนิด : อสูรเงาปีศาจคำแนะนำ : กำเนิดขึ้นในพื้นที่ปีศาจ มันจะกินเลือดสัตว์อสูรเป็นหมื่น ๆ ตัวกว่าจะฟักออกมาได้สำเร็จ, กลืนกินความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตเพื่อที่จะใส่ความคิดของตนเข้าไป ใช้เวลาหลายหมื่นปีในการกักเก็บพลังงานกว่าจะมีตัวตนขึ้นมาเลเวล : 80 ระดับ : กึ่งเทพสกิล : ขู่ เมื่อคู่ต่อสู้เลเวลต่ำกว่าตน โอกาสที่จะอ่านจุดอ่อนทางจิตใจและขู่คู่ต่อสู้ก็มากขึ้นไปด้วยจนคู่ต่อสู้ยอมแพ้รึไม่อาจจะสู้ได้, เคียว โยนอาวุธเหล็กในมือโจมตีศัตรู พุ่งชนศัตรู มีโอกาสที่ศัตรูจะกระเด็น, เงา ร่างที่สอง ร่างราวกับผี สามารถเห็นได้แต่เจ้าของเท่านั้นเตือน : อสูรเงาตอนนี้อคติกับคุณ มันกำลังจะโจมตีคุณ , อสูรเงาจะไม่เชื่องอีกต่อไปเมื่อออกจากไข่มาแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงอ่อนแอและจะอยู่ในภาวะนี้ไปอีก 30 วินาที, อสูรเงามีร่างไม่แน่นอนและนิสัยที่ซับซ้อน แม้ว่าจะทำสัญญากับมัน แต่มันอาจจะหักหลังตอนไหนก็ได้ แน่นอนว่ายิ่งเสี่ยงก็ยิ่งได้ผลตอบแทนที่ดี ระวังไว้ด้วย, การทำสัญญากับมันจะใช้เลือดจำนวนมาก หลังจากที่ทำสัญญาแล้วคุณจะอยู่ในอาการโคม่าไป 3 วัน ในตอนนั้นสัตว์อสูรจะไม่โจมตีคุณ แต่มันก็ไม่ได้ปกป้องคุณเช่นกัน ดังนั้นต้องแน่ใจว่าอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยก่อนจะทำสัญญากับมัน“ยังเหลืออีก 20 วินาที !”
การพัฒนาสัตว์อสูรจากระดับศักดิ์สิทธิ์ให้ขึ้นไปเป็นระดับเทพนั้น อสูรต้องขึ้นไปถึงเลเวล 90 ก่อน อสูรเงานี้ไข่เพิ่งจะฟักออกก็มีเลเวลอยู่ที่ 80 แล้ว แม้ว่าจะใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าสัตว์อสูรนี่ไม่ธรรมดา
ยิ่งกว่านั้นขั้นตอนการพัฒนาสัตว์อสูรก็ยากอย่างมาก มันกินทั้งเวลาและทรัพยากร ตามข้อมูลที่หวังเย่าได้มาแล้ว โอกาสที่สัตว์อสูรจะพัฒนาขึ้นไประดับเทพได้นั้นมีโอกาสแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในดาวนิบิรุนั้น สัตว์อสูรกึ่งเทพที่รอดแต่ไม่อาจจะพัฒนาได้จะถูกใช้เป็นแค่แรงาน ฉากนั้นน่าอนาถอย่างมาก
สัตว์อสูรตรงหน้าเขาที่กำลังจะออกมาจากไข่ โอกาสที่มันจะพัฒนาไประดับเทพได้นั้นมีถึง 99.99% จะมาลังเลอะไรอีก ! ตอนนั้นหวังเย่าได้กัดฟันแน่น เขากรีดข้อมือตัวเองแล้วหยดเลือดลงไปที่ไข่ ไม่นานเขาก็รู้สึกถึงพลังงานที่ไหลออกจากตัวก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น “ไม่รู้ว่าจะสำเร็จรึเปล่า ” หวังเย่ารู้สึกว่าเปลือกตาของเขาหนัก เขารู้สึกราวกับไม่ได้นอนมาทั้งชีวิต
ในตอนสุดท้ายที่จะหมดสติไปก็มีเสียงระบบดังขึ้นมา “ทำสัญญาสำเร็จ ! ”
เฮ้อ…
หวังเย่า ถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับไปอย่างสบายใจครืน…
ในความมืดมิดนั้น หวังเย่ายังคงหลับตาอยู่แต่ก็พอได้สติกลับมาบ้างแล้ว
หูเขากระดิกและได้ยินเสียงเท้าเดินเข้ามาหาเขา
ตัวของเบลซีกซ้ายกลายเป็นหินแล้ว เขาเดินด้วยขาข้างเดียวเพื่อเดินเข้ามาหาหวังเย่า
เบลเองก็สลบไปถึง 3 วันเหมือนกัน
ตอนที่เขาเห็นว่าคนรอบตัวของเขาตายไปหมดแล้ว ร่างของหวังเย่าก็ยังนอนนิ่งไม่ขยับ ตอนนั้นเองเขาก็เข้าใจบางอย่าง
พวกเขาคงต้องโดนเด็กนี่หลอก !
“ฉันจะฆ่าแก !” เบลตาแดงก่ำ มือขวาของเขายกมีดขั้นมาแล้วคุกเข่าลงกับพื้น ปลายมีดนั้นเล็งมาที่คอของหวังเย่า
ปัง !
หวังเย่าลืมตาขึ้นและใช้มือทั้งสองข้างจับมือเบลเอาไว้
“ลงนรกไปซะ !”
เบลลุกขึ้นยืนและใช้แรงกับน้ำหนักตัวเพื่อกดมีดลงไปแต่เขาใช้ได้แค่มือเดียว ส่วนหวังเย่าใช้มือได้ทั้งสองข้างซึ่งยังพอรับมือกับอีกฝ่ายไหว
เมื่อเห็นมีดที่กำลังจะแทงลงมาที่คอของตัวเอง หวังเย่าก็ยกเท้าขวาขึ้นเตะเข้าใส่ท้องน้อยของเบล ก่อนจะถีบอีกฝ่ายออกไป
หวังเย่าหอบหายใจและกลิ้งหนีออกมา
เบลเองก็หอบไม่ต่างกัน เขามองมาที่หวังเย่าด้วยสายตาแค้นเคือง “ แม้ว่าจะเหลือร่างกายแค่ซีกเดียว แต่ไอ้ระดับ K แบบแกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ! ”
หวังเย่าหรี่ตาลงและมองไปที่เงาด้านหลังของเบล
เงานั้นมีความสูงพอ ๆ กับหวังเย่า ใส่เสื้อคลุมปิดบังใบหน้าเอาไว้ เขาเห็นแค่สายตาที่แดงก่ำของมันก็เท่านั้น
เท้าของร่างนั้นลอยจากพื้นประมาณ 7-8 เซ็นติเมตร ที่หลังของเขามีเคียวราวกับราชาแห่งความตาย
“แกอยากเห็นอะไรดี ๆ ไหมล่ะ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา อสูรเงายิ้มออกมา รอยยิ้มนี้ไม่อาจจะเห็นได้แต่ก็พอมองออกจากผ้าคลุมที่ขยับไปมา
เบลลองดมกลิ่นดูแล้วพบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นในถ้ำนี้ เขายิ้มและมองไปที่หวังเย่า “แกคิดว่าฉันจะหลงกลแกอีกรึไง ? ไอ้เด็กใหม่ ? ”
หวังเย่ามองไปที่อสูรเงา “แม้ว่าแกจะทำสัญญากับฉันแล้ว แต่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบเจ้านายลูกน้อง ฉันจะให้อิสระกับแกเต็มที่ แกทำตามที่แกต้องการได้ เชื่อรึเปล่าว่าฉันเป็นผู้ดูแลที่เก่งที่สุดในจักรวาล แกจะเติบโตอย่างรวดเร็วจนที่สัตว์อสูรตัวไหนก็ไม่อาจมาเทียบได้ แกเชื่อรึเปล่าล่ะ ? ”
เบลมองไปที่หวังเย่าด้วยความสับสน สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาราวกับเห็นเรื่องที่ตลกที่สุดในโลก
“ผู้ดูแลหรือ ? แกพูดถึงสัตว์อสูรงั้นหรือ ? ฮ่าฮ่า…. ไอ้หนู แกนี่มันกบในกะลาจริง ๆ ในจักรวาลนี้ผู้ดูแลน่ะเป็นอาชีพเริ่มต้น มันไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะทำให้สัตว์อสูรพัฒนา สัตว์อสูรต่างหากที่เป็นเจ้าของจักรวาลนี้”
“แกจะไปรู้อะไร ? แกเป็นห่วงตัวเองจะดีกว่า”
เบลหงุดหงิดขึ้นมา ถ้าหวังเย่าพูดกับสัตว์อสูรจริง ๆ งั้นสัตว์อสูรนี่ก็ต้องพิเศษ ไม่งั้นแล้วจะรอดพ้นความสามารถในการดมกลิ่นของเขาได้ยังไง
ถึงอย่างนั้นเบลก็ยังแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา เขาไม่มีทางพลาดโอกาสนี้ไปแน่ ๆ
หวังเย่ายิ้มออกมา “สัตว์อสูรเหนือกว่าผู้ดูแลอีกหรือ ? หึหึ…ไม่เป็นไร เพราะสำหรับฉันแล้ว ตราบใดที่มันเป็นสัตว์อสูร ฉันก็มีเป็นหมื่น ๆ วิธีในการทำให้มันพัฒนาอย่างรวดเร็ว”
หวังเย่ามองไปที่อสูรเงาอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันจะแสดงให้แกได้เห็น แกน่ะไม่จำเป็นต้องสู้ก็เพิ่มเลเวลของตัวเองได้ ! ”
ภายใต้สายตาของเบลและอสูรเงา หวังเย่าได้ยกมือขึ้นเขาเอานิ้วโป้งยัดเข้าปากและกัดนิ้วตัวเองจนมีเลือดไหลออกมา
หวังเย่าหลับตาลงและใช้ระบบเปิดการเพิ่มเลเวลให้กับอสูรเงาด้วยเลือดของตัวเอง
ในพริบตาแผลของหวังเย่าก็ได้รับการฟื้นฟูพร้อมแสงที่ส่องออกมาจากตัวอสูรเงา
“ค่าประสบการณ์เพิ่ม 500 ! ”
นี่เป็นแค่การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในฐานะสัตว์อสูรแล้ว มันรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
ในจักรวาลนี้ นอกจากการกินยาวิเศษแล้ว การต่อสู้คือวิธีการเดียวที่สัตว์อสูรจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ แต่ชายคนนี้กลับทำลายกฎเกณฑ์เหล่านั้นทิ้งหมดและได้เพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเขาถึง 500 หน่วยได้อย่างง่ายดาย
เขาเป็นสัตว์อสูร แม้แต่ผู้ดูแลระดับสูงก็ไม่อาจจะยกระดับพลังของอสูรได้ในทันที !
อสูรเงาตอนแรกยังไม่พอใจกลับเริ่มระวังตัวและสับสน เขาลงมายืนที่พื้นอย่างช้า ๆ
ด้วยการที่เป็นสัตว์อสูรที่มีสมอง มันก็เข้าใจว่าวิธีที่หวังเย่าใช้นั้นไม่ธรรมดา
การพลาดชายคนนี้ไปเท่ากับการพลาดโอกาสครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
วงจรการพัฒนาของสัตว์อสูรกินเวลาเป็นพัน ๆ ปีรึอาจจะนานกว่านั้น ด้วยความช่วยเหลือจากหวังเย่าแล้ว มันเชื่อว่ามันจะขึ้นไปยืนจุดสูงสุดของจักรวาลได้ในเวลาที่สั้นที่สุด
อสูรเงายกมือเหล็กของมันขึ้นพร้อมแสงที่ส่องประกายขึ้นมา
“ตกลงสินะ ? ” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
อสูรเงาพยักหน้าตอบรับ
“ฆ่าเขาซะ ! ” หวังเย่าสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนที่จะมีในมีดลมพัดเข้าใส่ด้านหลังของเบล
เบลตัวสั่น เขารีบหันกลับแต่ไม่อาจจะเห็นอีกฝ่ายได้ เขาได้แต่ต้องกระโดดหนี
เขากระโดดขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะหนีไปที่ปากถ้ำ
เขาได้แต่ค่อย ๆ กระโดดไปด้วยขาขวาข้างเดียวที่มี แต่สุดท้ายเคียวนั้นก็พุ่งเข้ามาตัดคอของเขาอย่างจัง เลือดได้พุ่งกระจายออกมาก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงกับพื้น
“เงา ต่อจากนี้แกจะอยู่กับฉัน แกไม่คัดค้านอะไรสินะ”
อสูรเงาไปยืนอยู่ข้าง ๆ หวังเย่า มือขวาของเขาทาบไว้ที่อกก่อนจะโค้งให้กับหวังเย่า “ข้ายอมติดตามจนความตายจะมาเอาข้าไป ข้าไม่มีทางผิดคำพูด ”
“ดีมาก” หวังเย่าพยักหน้าด้วยความพอใจ เขามองไปที่ศพของเหล่านักโทษที่นอนอยู่กับพื้นก่อนจะพูดขึ้น “เก็บของมีค่าของพวกมัน”
อสูรเงาผายมือออกมา ก่อนที่จะมีผีนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากตัวของเขาไปยังศพที่นอนตามพื้น
ผ่านไปสักพักของมีค่าก็ถูกเก็บมาจนเกลี้ยงโดยพวกผีน้อย มันมีทั้งแหวนมิติ, เพชรและอาวุธ พวกนั้นลอยเข้ามาอยู่ตรงหน้าหวังเย่า
หวังเย่าได้ใส่แหวนมิติที่ได้มา ตอนนี้นิ้วทั้งสิบของเขาเต็มไปด้วยแหวนมิติระดับสูง เขาราวกับนักกีฬาที่มือเต็มไปด้วยแหวนที่ผู้คนต้องมองด้วยความอิจฉา แต่ก็ยังรู้สึกว่าเขานั้นหยิ่งทะนงแต่อย่างใด !
เมื่อเก็บของมีค่าอื่น ๆ แล้ว หวังเย่าก็ได้กลับไปที่สนามรบของพีระมิด
เขามองไปที่กองกระดูกในสนามรบ มันคือหยก, ทองและอัญมณี เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มลึกลับ “ แฟนธอม ด้วยความแข็งแกร่งของแกแล้วการจะเพิ่มจากเลเวล 80 เป็น 82 จะใช้เวลานานแค่ไหน ? ”
เงายืนอยู่ด้านหลังหวังเย่า เขาคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบกลับ “ ข้าต้องใช้ทรัพยากรเป็น 2 เท่าจากสัตว์อสูรทั่วไป …ดังนั้นคงใช้เวลาอีกสัก 3 เดือน”
หวังเย่ามองไปด้านหลังและพูดขึ้น “ ฉันไม่ได้ใช้เวลานานแบบนั้น ! ”
แฟนธอมยังไม่ทันได้ตอบกลับ หวังเย่าก็ได้ใช้ความสามารถของสัญญาบังคับให้แฟนธอม แยกร่างเป็นร่างจิตนับสิบล้านดวง
ดวงจิตเหล่านั้นได้พุ่งเข้าไปในกองกระดูกของสัตว์อสูร
หวังเย่าได้ทำการกัดนิ้วตัวเองแล้วสูบเลือด เขาได้เปิดการทำงานของระบบในหัว
กลืนกิน ! พัฒนา !
แสงสีขาวส่องประกายออกมาจากตัวหวังเย่า ราวกับว่าตอนนี้เขาเป็นพระเจ้า
ครืน…
พายุก่อตัวขึ้นในสนามรบพร้อมกับมีฝุ่นนับไม่ถ้วนที่ถูกพัดออกไป
มันราวกับมีปีศาจกินกระดูกพวกนั้นจากด้านใน โครงกระดูกของสัตว์อสูรได้พังลงเพราะร่างจิตของแฟนธอมและระบบที่หวังเย่าใช้งาน พลังงานที่เหลือในโครงกระดูกถูกกินไปจนหมด
หลังจากผ่านไปสักพักพายุก็หยุดลง
ร่างจิตเหล่านั้นพัฒนาขึ้นมามีปีกงอกขึ้นราวกับค้างคาว มันบินเข้ามาด้านหลังหวังเย่า ก่อนจะรวมตัวกันเป็นร่างมนุษย์ ร่างของแฟนธอมดูแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมาก แม้แต่เคียวด้านหลังก็ยังดูคมขึ้นไปด้วย
ชื่อ : อสูรเงาปีศาจเลเวล : 82ระดับ : กึ่งเทพผล : ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก แฟนธอมในร่างจิตสามารถเปลี่ยนเป็นค้างคาวดูดเลือดได้ แฟนธอมมีถุงมือที่มีควันสีดำลอยออกมาที่มือซ้าย
“หือ…” เสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
หวังเย่ามองไปที่ด้านหลังตัวเองโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
แฟนธอมมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะโค้งให้อย่างจริงใจ “ขอบคุณ นายท่าน”
หวังเย่ามองกลับไปด้านหลังก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มให้ การที่โดนเรียกว่านายท่านนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ หวังเย่ารับรู้ได้ถึงความจริงใจของแฟนธอม
“มันไม่น่าจะมีสัตว์อสูรที่เลเวลสูงกว่าแกที่นี่แล้วสินะ ? ”
แฟนธอมยิ้มออกมา “ถึงเลเวลจะสูงกว่าข้า แต่ตราบใดที่เลเวลไม่สูงกว่า 85 ก็คงต้องตายต่อหน้าข้าเช่นกัน ”
“ฉันอยากให้แกเป็นเจ้าของบึงนี่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งกลับมาหาฉัน ”
แฟนธอมพยักหน้าตอบรับ
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอมอีกครั้งแล้วพูดขึ้น “ตอนที่แกยึดบึงนี่ได้แล้ว ฉันจะช่วยให้แกขึ้นเลเวล 90 ในเวลาที่สั้นที่สุด ฉันหวังว่าแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
แฟนธอมเผยรอยยิ้มออกมาและตอบกลับ “ได้ ข้าจะรอ”
ตอนที่หวังเย่ากลับไปที่เหมืองก็ผ่านไป 3 วันแล้ว
ตอนที่เขากลับมาที่เขตอิสระ พวกระดับ K หน้าเก่าที่เห็นหวังเย่าก็ทำราวกับเห็นผี พวกนั้นรีบถอยออกไปทันที
ไกลออกไปนักโทษระดับ F-G หลายคนก็พากันพึมพำออกมา “ได้ยินไหมว่าเมื่อ 3 วันก่อนมีนักโทษกว่า 150 คนตามไอ้เด็กนี่ไปที่บึง แต่ตอนนี้กลับมีไอ้เด็กนี่กลับมาได้แค่คนเดียว”
“ไม่ใช่ว่า…มันฆ่าพวกเขาหมดรึไง ? ”
“ ดูที่นิ้วเขาสิ!”
ทุกคนพากันมองไปที่นิ้วของหวังเย่า และพบว่าเขาใส่แหวนอยู่ทุกนิ้ว บางคนอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความแปลกใจ “พระเจ้า ! ”
“นี่เขายังเป็นคนอยู่รึเปล่า ? การทดสอบมีอะไรผิดพลาดรึเปล่า ? ”
“ฉันรู้แค่ว่ามีคนมากมายที่โดนเขาฆ่า มันจะดีกว่าที่จะไม่ไปหาเรื่องเขา”
ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นหวังเย่าเป็นแค่เด็กใหม่ แต่ตอนี้พวกเขากลับต้องเกรงกลัวหวังเย่า
“พี่ชาย นายอยากมีน้องชายไหมล่ะ ? ฉันอยากจะติดตามนายด้วย”
“ฉันด้วย ฉันเองก็อยากอยู่กับนายเหมือนกัน ฉันจะให้นายเดือนละ 3 เหรียญ”
หวังเย่าหยุดและมองไปที่คนที่เสนอเงินให้กับเขา
“ฉันไม่อยากได้สหายหรือน้องชาย แต่ฉันให้เช่าพลั่วกับกระเป๋าเดือนละ 3 เหรียญ นายอยากได้ไหมล่ะ ? ”
ตอนนี้หวังเย่ามีเครื่องมือจำนวนมาก พลั่วกับกระเป๋านั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขา มันจะดีกว่าที่จะให้คนอื่นเช่า
เมื่อได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็ดีใจขึ้นมาทันที “จริงนะ”
“ไปที่ธนาคารแล้วทำสัญญากันสิ”
“ได้”
นักโทษคนนั้นปรึกษาเพื่อนอยู่สักพัก มันน่าจะเพราะเงินในบัญชีของเขาไม่พอที่จะรับรองได้ เขาหวังว่าเพื่อนจะให้เขายืม
หลังจากที่เพื่อพยักหน้าตอบรับแล้ว ทั้งสามก็ได้เดินไปที่ธนาคารกันต่อ
การเช่าแหวนมิติในเหมืองนี้ราคาถูกที่สุดคือ 10 เหรียญต่อเดือน
พวกระดับ K มีความสามารถจำกัด คนทั่วไปไม่อาจจะจ่ายเงินที่มากแบบนี้ได้ แต่หวังเย่าให้พวกนี้เช่าพลั่วและกระเป๋าในราคา 3 เหรียญต่อเดือนเท่านั้น มันบอกได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสม
ที่ตลาดนั้นมีพวกนักโทษที่เอาสินค้ามาวางขายเต็มไปทั่ว
บางคนขายอาวุธที่ขโมยมาในราคาที่ต่ำ บางคนขายสมุนไพรที่ช่วยพัฒนาร่างกาย บางคนขายข่าว…
เมื่อเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาก็พบกับบ้านกระจกที่มียามกว่าสิบคนคอยดูแล
หวังเย่าและนักโทษอีกสองคนได้เดินเข้าไปก่อนจะทำสัญญาภายใต้การดูแลของผู้จัดการที่นั่น
นักโทษได้ฝากเงิน 20 เหรียญและเชื่อมต่อกับบัญชีของหวังเย่าเอาไว้ ซึ่งจะโอนให้เขาเดือนละ 3 เหรียญ
หากนักโทษโดนฆ่า หวังเย่าก็จะได้อีก 20 เหรียญไป มันเท่ากับราคาซื้ออุปกรณ์เหล่านี้
เมื่อออกจากธนาคาร หวังเย่าก็ได้เดินไปที่ส่วนส่งงาน เขาได้ทำการเทแร่หินกว่า 480 ตันออกมาจากแหวนมิติ
พนักงานกรอกตัวเลขของหวังเย่าแล้วพึมพำออกมา “ นายมั่นใจนะว่าไอ้นี่อยู่ระดับ K จริง ๆ…ไอ้เด็กนี่เพิ่งเข้ามาได้ 3 วันเอง”
พนักงานอีกคนได้ตรวจตัวเลขอีกครั้งแล้วถามขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ “ ยืนยันตัวอีกครั้ง นายคือหวังเย่าหมายเลข 2020423 ใช่ไหม ? ”
หวังเย่ายิ้มรับ “จะเป็นใครได้ ? นายก็ยังไม่ตื่นรึไง ? ”
พนักงานเหม่อไปสักพักก่อนจะยิ้มรับ “นายส่งแร่ 483 ตันในวันนี้ นอกจากงานที่ติดค้างไว้เมื่อ 3 วันก่อนแล้ว นายยังได้เงินอีก 480 เหรียญ ด้วยกฎของเหมืองแล้ว นักโทษที่ส่งแร่มากกว่า 30 ตันต่อวันจะได้คูปองอาหาร เวลาจำกัดคือ 30 นาที นายเลือกจะกินอะไรก็ได้”
ตอนที่พูดนั้นเขาก็ส่งตั๋วทองให้กับหวังเย่า
หวังเย่ารับมันมาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพบกับรูปซิดดี้ยกนิ้วโป้งพร้อมกับตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้ “ไอ้ลูกชาย ทำได้ดีมาก !”
หวังเย่าคิ้วขมวด “ลูกกะผีสิ ฉันคงต้องรีบใช้มัน”
หวังเย่ามุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารทันที