ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 515 : รวมพลัง
ตอนที่ 515 : รวมพลัง
แม้ว่าชูบ้าจะไม่ได้พูดคุยกับชูโก้ แต่ทั้งสองก็รู้จักกันดี ชูโก้นั้นเป็นหมากที่หัวหน้าเผ่าคนเก่าทิ้งเอาไว้
ก่อนหน้านี้มีหลายครั้งที่ชูบ้ารู้สึกว่าการแต่งตั้งของหัวหน้าเผ่าคนเก่านั้นไม่ยุติธรรมต่อชูโก้ เขาอยากปรึกษาเรื่องนี้กับชูโก้อยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เพราะชูโก้นั้นปฏิเสธ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าหัวหน้าเผ่าคนเก่าจะมองขาดจริง ๆ
พูดถึงชูโก้แล้ว ในตอนนั้นชูโก้ยังอยู่ในบ้านของตัวเอง เขากำลังปรึกษากับคนของเขาว่าจะเอายังไงกันต่อ
แม้ว่าพวกเขาจะหลอกทุกคนได้ แต่วิธีการแบบนี้ก็ไม่อาจจะใช้ได้ตลอดไป มันอาจจะต้องใช้ความแข็งแกร่งเข้ามาช่วย
ชูโก้ตรวจสอบกำลังในมือ แต่ก็พบว่าไม่อาจจะเทียบกับฮันกูและไทลีนได้เลย
“พวกคุณคงเดาออกแล้วว่า ผู้อาวุโสไทลีนเลือกเข้าข้างฮันกู”
“ผู้อาวุโสชูโก้ เรื่องนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ฉันสงสัยว่าความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสไทลีนและฮันกูนั้นสูงแค่ไหน”
มันมีหลายเรื่องที่ชูโก้เองก็คิดไม่ออกเช่นกัน
ตอนแรก ๆ ทุกคนต่างก็รู้ว่าผู้อาวุโสไทลีนนั้นเป็นกลาง เขาไม่คิดฝักไฝ่ฝ่ายใดแต่เพราะการกระทำแบบนี้ จึงทำให้หลายคนเชื่อในตัวเขา แต่พอตัดสินจากเรื่องในวันนี้แล้วก็ทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว
“รึว่ามันจะมีอะไรในคลังนั่นจริง ๆ ? ” ชูโก้คิดสักพัก ตอนที่คลังถูกเปิดออก ชูบ้าก็บอกเขาเรื่องนี้เหมือนกัน
สำหรับสถานการณ์ด้านในแล้ว ชูบ้าก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังบ้าง แน่นอนว่ามันมีความลับบางอย่างที่มีแต่หัวหน้าเผ่าเท่านั้นที่รู้ได้ แต่ความลับเกี่ยวกับคลังนั้น ชูบ้าบอกเขาแค่บางอย่าง
ชูโก้พอเดาออกว่าต้องมีอะไรพิเศษด้านในคลังนั่น แต่เมื่อชูบ้าไม่พูด เขาก็ไม่คิดจะคาดคั้น พวกเขาพูดคุยถึงที่นั่นแค่เพียงเล็กน้อย
“ไม่ว่าฮันกูจะดึงผู้อาวุโสไปมากแค่ไหน แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ส่งผลเสียต่อเราอย่างมาก” ชายแก่ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือพูดขึ้นมา
“ใช่ ฮันกูกับไทลีนมีผู้อาวุโสเข้าเป็นพวกมากว่าเรา แม้ว่าผู้อาวุโสชูโก้จะได้เป็นหัวหน้าเผ่า แต่ก็ยากที่จะบอกว่าเขาจะรักษาตำแหน่งนี้ได้”
“ฝั่งฮันกูคงไม่อยากปล่อยให้ตำแหน่งนี้หลุดมือไป”
“ฉันคิดว่าฮันกูน่าจะวางแผนที่จะชิงตำแหน่งมาแล้ว”
…
ทุกคนต่างก็พากันคิ้วขมวด
“จริง ๆ แล้วเรามีทางอยู่” ชูโก้ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นมา
“นั่นคือเราต้องหาคนเข้าพวกอย่างเปิดเผย ! ”
มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้ ผู้อาวุโสส่วนมากเข้าข้างฮันกูและไทลีนไปแล้ว มันมีคนไม่มากที่เลือกจะเข้าข้างพวกเขา
สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือหาคนอื่นมาเข้าพวก
พวกเขาต้องรวบรวมคนให้มากที่สุด แม้แต่คนทั่วไปด้วย แล้วค่อยสร้างกองกำลังเพื่อรับมือกับฮันกู
“นายคิดจะให้คนอื่นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพิ่มงั้นหรือ ? ”
ชูโก้พยักหน้า
“ถ้าทำแบบนั้น เรื่องวุ่นวายก็คงเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน ? ”
“เราจะต้องหาคนเข้าฝั่งเราเพิ่มก่อนที่จะลงมือกับฮันกู ด้วยวิธีนี้ก็ยังจะมีโอกาสที่จะรอให้ชูหยุนกลับมาได้ด้วย ! ”
“รอให้ชูหยุนกลับมางั้นหรือ ? ” คาวาล่า ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้นมา
“ใช่ ชูหยุนน่ะยังไงก็เป็นลูกของชูบ้า เธอนั้นได้รับความเชื่อใจจากทุกคน ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มที่อยู่กับชูหยุน เองก็น่ากลัวอย่างมาก ! ” ชูโก้อยากใช้พลังของหวังเย่า แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหวังเย่า แต่เขาก็พอได้ยินเรื่องนี้จากปากชูบ้ามาบ้าง
ประตูหินที่เผ่าชูมิเปิดออกไม่ได้มาหลายปีนั้นกลับถูกเปิดออกโดยคนนอก มันถูกระเบิดออกด้วยพลังอันแข็งแกร่ง
ความแข็งแกร่งนี้ไม่อาจจะประมาทได้ หากรอจนกว่าหวังเย่าและชูหยุนกลับมา งั้นการที่มีชูหยุนและหวังเย่านั้นก็อาจจะทำให้พวกเขาพลิกกลับมาชนะได้
“ที่เราทำได้ตอนนี้ก็แค่สงบศึกกับฮันกู มันไม่มีทางเลือกอื่น ! ”
หวังเย่าที่ยังอยู่ในซากเมืองกำลังคิดอยู่ว่าจะสู้กับชายแก่นี้ยังไง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เขากำลังแบกรับอนาคตของเผ่าชูมิอยู่
ตอนที่ฮันกูออกมาจากบ้านไทลีน เขาก็ได้มุ่งหน้าไปหาผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่อ
ตอนแรกมันมี 6-7 คนที่เป็นพวกเดียวกับเขา แต่ต้องบอกว่ามีแค่ 5 คนเท่านั้นที่ภักดีต่อเขาจริง ๆ
“น่าจะเพียงพอ”
ฮันกูทำการเลือกทีมของตัวเอง เขายังไม่จำเป็นต้องลงมือในตอนนี้ เขาต้องเลือกเวลาให้เหมาะสมที่จะลงมือ เขาได้รับบทเรียนมาแล้ว เขาจะรอจนกว่าจะถึงเวลาแล้วค่อยกำจัดคนทรยศในหมู่พวกเขาออกไป
สำหรับฮันกูแล้ว งานที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือหากองกำลังเพิ่ม
ตอนที่คนส่วนมากหลับอยู่นั้น คนหลายสิบคนก็ไปรวมตัวกันที่บ้านของไทลีน
คนหลายสิบคนนี้ต่างก็เป็นคนมีอำนาจในเผ่า
เมื่อฮันกูเห็นคนเหล่านั้น ฮันกูก็พบว่าความแข็งแกร่งของพวกนี้ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย
เขาดีใจที่รู้ว่าผู้อาวุโสพวกนี้เลือกเข้าข้างเขา
ก่อนหน้านี้ ฮันกูได้คาดเดาขุมกำลังของเหล่าผู้อาวุโสแต่ละคน แต่เมื่อได้เห็นจริง ๆ แล้ว เขาก็รู้ว่าผู้อาวุโสเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก
“ทำไมถึงไม่ยกตำแหน่งให้เขา ? ” ไทลีนนั่งอยู่ตรงกลางและมองไปรอบ ๆ เขาแสดงท่าทีเฉยเมยออกมา
“เพราะเราต้องระวังกันเอง ! เราไม่ได้เชื่อใจกัน ดังนั้นการที่เรามารวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าใครที่เป็นพันธมิตรกันบ้าง เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราควรทำยังไงในอนาคต !”
ทันทีที่ผู้อาวุโสคนนั้นพูดออกมา เขาก็พูดถึงเป้าหมายในการมาในวันนี้ทันที
ทุกคนต่างก็มาที่นี่เพื่อดูกองกำลังของอีกฝ่ายและยอมรับว่าทุกคนเป็นพันธมิตรกัน