ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 241 : สถานการณ์โดยรวมของโลก
ตอนที่ 241 : สถานการณ์โดยรวมของโลก
ตลอด 4 วันมานี้ หวังเย่าเอาแต่ฟักไข่ผึ้ง
ในวันต่อมาหลังจากที่ฟักมันออกมาผึ้งชุดแรกก็เพิ่มเลเวลจาก 1 เป็น 2 และสี่วันหลังจากนั้นมันก็ขึ้นเป็นเลเวล 3
เมื่อฟักไข่ออกมาจนครบ เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็ได้ไปกินอาหารกับหวังเย่าและฟ่านฉิงเหมย เพราะวันต่อไปพวกเขาจะต้องออกจากที่นี่แล้ว
สำหรับทหาร 4,000 คนที่ทำสัญญากับผึ้งแปดปีกก็ไม่ได้รีบร้อนจากไป เนื่องจากหวังเย่าบอกว่าจะช่วยพวกเขาดูแลอสูรของตัวเอง ทำให้พวกเขาอยู่ในมิติลับนี้ต่อสักระยะ คาดว่าเมื่อพวกมันเลเวล 20 ก็เพียงพอที่จะมีความสามารถในการบินได้แล้ว
ผึ้งตัวโตเต็มวัยนั้นยาวแค่ 3-4 เมตร ซึ่งผึ้งเลเวล 20 ก็น่าจะพอแบกคนได้แล้ว
หลังจากนี้ต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกสักพัก ทหารรับจ้างพวกนี้ได้ทำสัญญากับผึ้งแปดปีก ในอนาคตคงจัดตั้งกองกำลังทหารอากาศขึ้นมา ฉะนั้นพวกเขาต้องปรับตัวกับการบินและปรับตัวให้คุ้นชินกับการสั่งการทางความคิดและอื่น ๆ ก่อนจะบินกลับไปยังเมืองหัวเซี่ย
ในงานเลี้ยง นอกจาก 6 คนนี้แล้ว ยังมีทหารรับจ้างอีก 4 คน ที่ถูกเชิญเข้าร่วมงานด้วย ซึ่ง 4 คนนี้ก็คือหัวหน้าทีมที่ผู้ตรวจสอบทั้งสี่เป็นคนคัดเลือกมา
แต่เดิมแล้วนี่คือความคิดของหวังเย่า
“ชื่อกลุ่มทหาร พวกนายคิดออกรึยัง ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
นี่ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของมนุษย์ นี่คือกองทหารอากาศแห่งแรก เมื่อก่อตั้งขึ้นมาและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน มันจะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ข่าวนี้จะแพร่กระจายไปทั่วแน่ ๆ
“นายลองคิดดูดี ๆ ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นมาด้วยท่าทีพอใจ “ ฉันจะตั้งชื่อว่ากลุ่มทหารรับจ้างฉับพลัน จากนี้ต่อไป พวกเขาจะไม่ใช่กลุ่มทหารรับจ้างทั่วไปอีกแล้ว แต่จะกลายเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างฉับพลัน มันจะกลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่สี่ที่ก่อตั้งโดยผู้ตรวจสอบ”
หวังเย่าใจเต้นตามไปด้วย เขารู้ว่ายิ่งระดับผู้ตรวจสอบสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสิทธิพิเศษมากเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ผู้ตรวจสอบ 1 ดาวสามารถตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง 1 กลุ่มได้ ผู้ตรวจสอบ 2 ดาวสามารถตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง 2 กลุ่มได้
เฉี่ยนเจินเฉียนในฐานะผู้ตรวจสอบ 4 ดาวแล้วเป็นธรรรมดาที่จะสามารถตั้งกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นมา 4 กลุ่มได้ หน่วยทหารอากาศที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้คือกลุ่มทหารรับจ้างสุดท้ายที่เขาอาจจะตั้งขึ้นมาได้ด้วยตำแหน่งของเขาในตอนนี้
แน่นอนว่ามันง่ายที่หวังเย่าจะตั้งกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นมาสัก 1 กลุ่ม แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง 2 กลุ่มรึมากกว่านั้น
สำหรับผู้ตรวจสอบแล้ว กลุ่มทหารรับจ้างแต่ละกลุ่มนั้นมีบทบาทที่ชัดเจนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มที่หนึ่งรับหน้าที่ในแนวหน้า กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มที่สองรับหน้าที่ในการลอบสังหาร กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มที่สามรับหน้าที่ในการสำรวจ
“ฉันคิดชื่อดี ๆได้ชื่อหนึ่ง ชื่อมันอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย ฉันจะเรียกมันว่ากลุ่มทหารรับจ้างเมฆไฟก็แล้วกัน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้นมา
เมฆไฟ มันคือคำอธิบายของผึ้งแปดปีก พวกมันเป็นสัตว์อสูรธาตุไฟ ผึ้งแต่ละตัวมีเมฆไฟในตัว ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังมากเท่านั้น หากจำเป็น มันก็สามารถใช้ออกมาในการต่อสู้ได้
“ฉันว่าชื่อกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงภุมรา ความหมายของมันบอกถึงสกิลที่สามและตัวของมันเอง” จางจื้อเฉียงพูดขึ้นมา
ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้น “ชื่อกลุ่มทหารของพวกนายฟังดูไม่ดุดันเลยสักนิด ฉันได้ยินแล้วเคืองหู ฉันจะตั้งชื่อมันว่ากลุ่มทหารรับจ้างไร้กระดูก มันหมายถึงการที่ผึ้งพวกนี้กินกระดูกจนไม่เหลือ ”
“ชื่อนี้ก็ถือว่าดี” หวังเย่าพูดขึ้น
ผู้ตรวจสอบทั้งสี่พากันมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา จากนั้นฮวงเทียนเจวี๋ยนก็ถามขึ้น “หวังเย่า แล้วของนายล่ะ ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ผมเป็นแค่ผู้ตรวจสอบ 1 ดาว ผมยังไม่ขึ้นไปถึงระดับ 2 ดาวเลยด้วยซ้ำ ผมยังไม่มีสิทธิ์ตั้งกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มที่สอง”
แม้ว่าหวังเย่าจะมีไข่ผึ้งถึง 1,208 ใบ แต่เขาก็ยังไม่สามารถก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มที่สองได้
“นั่นสินะ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนยิ้มออกมา เขาเข้าใจผิดไป
“งั้นหลังจากนี้เราถือว่าเป็นพวกเดียวกัน หวังเย่า หากนายต้องการให้เราช่วยอะไรในอนาคต นายก็ไปหาเราได้เลย”
เฉี่ยนเจินเฉียนยกแก้วขึ้นก่อนที่ทุกคนจะพากันดื่มฉลอง
“เป็นเกียรติจริง ๆ ” หวังเย่าถ่อมตัว “ผมเพิ่งขึ้นเป็นผู้ตรวจสอบ ผมมีหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจ ผมคงต้องปรึกษาผู้อาวุโสทั้งสี่คน ”
“ผู้อาวุโสอะไรกัน ? นายเรียกเฉี่ยนเจินเฉียนว่าลุงได้ เราเองก็รุ่นเดียวกันกับเขา นายไม่ต้องคิดมากหรอก เรียกเราว่าลุงก็ได้”
จางจื้อเฉียงและไป๋พั่วหล้างต่างก็พยักหน้าตกลง
หวังเย่าแสดงสีหน้ายินดีออกมาทันที เมื่อเขาผูกมิตรกับทั้งสี่คนได้ งั้นการทำธุรกิจครั้งนี้ก็ไม่ได้ขาดทุน เขาได้พูดขึ้นมาทันที “ลุงฮวง, ลุงจาง ลุงไป๋”
ทั้งสามคนยิ้มออกมาและพยักหน้าตอบรับ
“นายอยากถามอะไรก็ถามมาได้เลย หายากที่พวกเราสี่คนจะมารวมตัวกันได้แบบนี้ หากมีเรื่องที่เราสี่คนไม่รู้ งั้นถึงนายไปถามคนอื่นก็คงไม่ได้คำตอบ อย่าเสียโอกาสนี้ทิ้งไปเปล่า ๆ ” เฉี่ยนเจินเฉียนเตือนขึ้นมา
“งั้นผมจะถามเลยละกัน” หวังเย่าพูดขึ้น “ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงไป มันมีมหาสมุทร 4 แห่ง ทวีปอีก 7 แห่ง และยังมีประเทศมากกว่า 100 ประเทศ ผมอยากถามว่าหลังจากที่โลกเปลี่ยนแปลงไปนั้น สถานการณ์ของประเทศและทวีปอื่น ๆ เป็นยังไง เรายังติดต่อกับพวกเขาได้รึไม่ ? ”
“นี่…” ทั้งสี่คนมองหน้ากัน สุดท้ายฮวงเทียนเจวี๋ยนก็พูดขึ้นมา “หวังเย่า ฉันบอกความจริงกับนายก็ได้ ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะเหมือนกับหัวเซี่ยที่มีประชากรยังคงเหลืออยู่มากมาย ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และพื้นที่กว้างใหญ่ ทั้งยังมีใจร่วมมือกันในการสร้างเมืองขึ้นมาเพื่อรับมือกับสัตว์อสูร”
“ เท่าที่ฉันรู้มา ประเทศเล็ก ๆ หลายประเทศโดนสัตว์อสูรทำลาย จนไม่เหลือประชากรที่รอดมาได้ โชคดีที่ประเทศขนาดกลางยังพออยู่ได้ พื้นที่ของพวกเขาลดลง บางประเทศสร้างเมืองขึ้นมาได้แค่เมืองเดียว บางประเทศสร้างเมืองและหัวเมืองขึ้นมาเหมือนกับเกาะนั้นที่มี 3 เมือง สถานการณ์ภายในของแต่ละประเทศคงไม่จำเป็นต้องพูดถึง สรุปเลยก็คือสถานการณ์นั้นไม่ได้สู้ดีนัก บอกได้ว่าหากมีฝูงสัตว์อสูรเข้าโจมตี พวกเขาก็ได้แต่ต้องป้องกันตัวเองแต่จะรอดไปได้รึไม่นั้นก็อีกเรื่อง”
“สำหรับประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฟากของมหาสมุทร เดิมทีพวกเขาเป็นอันดับหนึ่งของโลก พวกเขาพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ได้ดีกว่าใคร ดังนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ดีกว่าประเทศอื่น แต่ถึงอย่างนั้นอเมริกาก็มีพรรคการเมืองอยู่ 2 พรรค พอโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็พากันแย่งอำนาจ ทำให้อเมริกาถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นทัดเทียมกัน มันมีมากกว่า 20 เมือง จำนวนประชากรไม่มากนัก แต่กฎหมายและระบบการศึกษานั้นถือว่าดี ดังนั้นพวกเขาจึงเติบโตได้รวดเร็ว”
“ประเทศฝั่งยุโรป พวกเขายังเป็นพันธมิตรต่อกันอยู่ แต่ละประเทศสร้างเมืองขึ้นมา 1-2 แห่ง พวกเขาร่วมมือกันและช่วยเหลือกันจนก่อตั้งสมาพันธ์ยุโรปขึ้นมา สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี”
“สำหรับสหภาพโซเวียตแล้ว สถานการณ์ไม่ได้สู้ดีนัก พวกเขามีอาณาเขตที่กว้างใหญ่แต่จำนวนประชากรนั้นน้อยเกินไป มีพื้นที่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ มีแค่ส่วนที่ใกล้กับยุโรปและเมืองทั้ง 6 ที่ยังยึดเอาไว้ได้ เราไม่อาจจะเทียบได้แต่ถึงอย่างนั้นพื้นที่ทางเหนือของหัวเซี่ยก็มีสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น สัตว์อสูรจำนวนมากเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง มันคือการคัดสรรของธรรมชาติ ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งดุร้ายเท่านั้น เราถึงกับสงสัยว่าที่นั่นและในทะเลลึกจะมีสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่”