ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 422 จ้างยอดฝีมือร่างทองแปดถึงสิบคน (1)
ตอนที่ 422 จ้างยอดฝีมือร่างทองแปดถึงสิบคน (1)
……….
บนถนน
ฟางผิงเอาแต่จ้องมองอู๋ขุยซานไม่ลดละ
อู๋ขุยซานทำเป็นมองไม่เห็น เดินไปก็เอ่ยไปพลาง “ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือเปล่า? ถ้าไม่มี พวกเราจะกลับแล้ว”
“อย่าเพิ่งสิครับ กินข้าวส่งท้ายปีด้วยกันก่อน…”
ฟางผิงมองออกไปข้างนอก ตอนนี้เหมือนจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร กินข้าวสักมื้อกระชับความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน
เหล่าอู๋เจ๋งจริงๆ!
เจิ้งหมิงหงที่เป็นขั้นแปดไม่มีเวลาให้ทันโต้ตอบด้วยซ้ำ ถูกเขาซัดฝ่ามือจนกะโหลกเปิด แม้ต่อมาจะฟื้นฟู แต่ความสามารถนี้…น่ากลัวจริงๆ
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็กระซิบว่า “อธิการ แผนเก็บเมล็ดพันธุ์คืออะไรเหรอครับ…”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ก่อนหน้านี้เคยพูดไปแล้วไม่ใช่หรือไง? สงครามใหญ่มีแนวโน้มเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ หากเกิดสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ใครก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะมนุษยชาติจะล่มสลายหรือเปล่า เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ส่วนหนึ่ง ให้ร่อนเร่พเนจรนอกโลก ก็ไม่ถือเป็นแผนลับอะไรเหมือนกัน แทบจะเดากันได้ด้วยซ้ำ”
ระหว่างที่อู๋ขุยซานพูดก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แต่แม้จะไม่ใช่ความลับใหญ่อะไร เรื่องนี้ทำได้ กลับไม่อาจพูดออกไปได้ เธอเข้าใจใช่หรือเปล่า?”
ฟางผิงพยักหน้าว่า “ครับ พูดออกไป คนบางส่วนต้องสิ้นหวังและมองโลกในแง่ร้าย บางคนถึงกระทั่งเกิดความคิดเคียดแค้นในใจ เป็นเรื่องปกติ”
“เธอเข้าใจก็ดี ดังนั้นแม้หลายคนจะรู้เรื่อง แต่ทุกคนก็ไม่พูดออกมา”
อู๋ขุยซานถอนหายใจ “ผู้อาวุโสหลายคน ตัวเองไม่กลัวตาย แต่ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขาล่ะ? ไม่พูดถึงคนอื่น เฉินเย่าถิง นายทำใจปล่อยให้ลูกหลานตายในสงครามทั้งหมดได้หรือเปล่าล่ะ?”
เฉินเย่าถิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ยังไงก็ต้องเหลือไว้ให้ฉันสักคนสองคน”
อู๋ขุยซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินหรือยัง? ดังนั้นอันที่จริงทุกคนรู้เกือบทั่วกัน แม้จะไม่รู้ หลายคนก็เดาได้อยู่ดี แต่ว่า…”
อู๋ขุยซานแค่นเสียง “แต่สิ่งที่เรียกว่าเก็บเมล็ดพันธุ์ จากการสังเกตของฉัน หลายคนแทบไม่เคยลงถ้ำใต้ดินมาก่อน พวกลูกไก่ที่มีแต่พรสวรรค์เรื่องปราณกลุ่มหนึ่ง แม่งเหอะ นักศึกษาของฉันมีมากมายขนาดนั้น ถึงช่วงเวลาสุดท้ายเกรงว่าจะสามารถพาไปได้แค่หนึ่งในสิบเท่านั้น!”
อู๋ขุยซานพ่นคำหยาบออกมา เอ่ยต่อว่า “ทรัพยากรมากมายหลายบริษัทล้วนสิ้นเปลืองไปกับพวกเขา เพิ่มการจัดสรรก็เพื่อหวังให้ฝีมือแข็งแกร่งขึ้นหน่อย อยู่รอดต่อไปได้ อันที่จริงฉันอาจไม่ได้คัดค้านแผนการนี้เสมอไป แค่กันไว้ดีกว่าแก้เท่านั้น หากเวลานั้นมาถึงจริงๆ คนพวกนี้จะสามารถรอดสักกี่คน แม้จะสูญเสียบ้านเกิดก็ดีกว่าล่มสลายจนหมดสิ้น แต่สิ่งที่ฉันไม่อาจอดทนได้คือหลายปีมานี้ พวกเรายังจ่ายค่าตอบแทนออกไปไม่หยุดหย่อน คนพวกนี้กลับไม่เคยคำนึงถึงสถานการณ์ของพวกเราเลย ไม่กี่ปีก่อน ทรัพยากรไม่เพียงพอ แบ่งส่วนหนึ่งออกมาให้พวกเขา ฉันไม่ได้คัดค้านอะไร แต่ตอนนี้แทบจะพอใช้กันแล้ว ยังต้องเลี้ยงสมบัติจากสวรรค์ทีละคนให้ถึงขั้นแปดถึงจะพอหรือไง?”
ฟางผิงฟังจบก็เอ่ยอย่างโมโหว่า “ใช่ มีเหตุผล นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีผม!”
อู๋ขุยซานหมดคำจะพูด เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เมื่อก่อนคงไม่มีเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหา หากเธอจะหนีจริงๆ ต้องพาเธอไปด้วยแน่”
เฉินเย่าถิงก็แค่นยิ้มเช่นกัน “วางใจเถอะ ถึงเวลานั้น คนอย่างพวกเธออยากไป ใครก็ไม่กล้าขวางหรอก แม้จะต้องทิ้งเมล็ดพันธุ์ดั้งเดิมไปบางส่วน ก็ไม่อาจทิ้งพวกเธอหรอก ทั้งพวกเขาไม่กล้าเหมือนกัน”
อู๋ขุยซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่กล้าอยู่แล้ว เว้นเสียแต่ว่าจะแอบหนี ไม่งั้นถึงเวลานั้นใครยังจะสนใจว่าพวกเขาเป็นลูกของใคร”
อู๋ขุยซานส่ายหัว ก่อนจะถอนหายใจว่า “แต่ก็อาจไม่มีโอกาสออกไปเหมือนกัน อันที่จริงหากปะทุสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ข้างหน้าต้านไม่ได้ ข้างหลังยังจะสามารถหนีออกไปได้จริงๆ งั้นเหรอ? ขั้นเก้าขั้นสุดยอดเดินทางข้ามอากาศ เว้นเสียแต่ว่าจะไม่สนใจคนพวกนี้ ไม่งั้นก็ตายหมดนั่นแหละ มนุษย์อยากจะมีชีวิตรอดยังต้องอาศัยการต่อสู้ ดังนั้นแม้คนบางส่วนจะรู้ว่าเบื้องบนวางทางหนีทีไล่ไว้แล้ว ก็มีแค่ไม่กี่คนที่คิดจะหนีจริงๆ จะหนีได้สักกี่คน? โลกยังถูกยึดครองแล้ว จะหนีไปไหนได้? จากความสามารถในตอนนี้ แม้จะพยายามอย่างสุดแรงกายแรงใจ จะสามารถออกห่างจากโลกได้ไกลเท่าไหร่กัน? ฟางผิง ไม่ต้องครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว ไม่น่าเชื่อถือพอ อยากมีชีวิตรอด นั่นยังต้องอาศัยความสามารถตัวเอง พยายามก้าวหน้าขึ้นไปดีกว่า”
อู๋ขุยซานไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ ยอดฝีมืออาวุโสหลายคนก็ไม่ชอบใจเช่นกัน แค่โอบกอดความหวังอันน้อยนิดเท่านั้น บางที…บางทีอาจจะสามารถหาสถานที่ที่เหมาะสมแห่งหนึ่งเพื่อใช้ชีวิตอยู่ได้?
หลายปีมานี้ อันที่จริงมียอดฝีมือขั้นสุดยอดบางส่วนกำลังหาที่หลบภัยที่เหมาะสมอยู่เช่นกัน ยอดฝีมือบางคนเดินทางข้ามจักรวาล จนถึงวันนี้ยังร่อนเร่พเนจรอยู่ในอวกาศอยู่เลย
แต่หาเจอหรือเปล่า?
หาไม่เจอ!
มีเวลาทำเรื่องแบบนั้น ยังไม่สู้นำไปหาวิธีโจมตีถ้ำใต้ดินดีกว่า
ฟางผิงฟังจบก็เบะปาก “หนีอะไรกัน ผมไม่หนีหรอก ผมอยากจะหาผลประโยชน์นิดหน่อยเท่านั้น คนโง่น่ะสิที่จะหนี อยู่บนโลกยังไงก็มีความหวังจะมีชีวิตรอดต่อไป ไปนอกอวกาศ…นั่นต่างอะไรกับปลาบนเขียง บอกว่าตายก็ตายได้แล้ว แผนการบ้าบอนี้น่าจะเพื่อปลอบประโลมใจยอดฝีมืออาวุโสเท่านั้น ในความเป็นจริงแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย”
อู๋ขุยซานประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เอ่ยขำๆ ว่า “เธอก็มองออก?”
“ชัดเจนจะตายไป!”
ฟางผิงยิ้มอย่างดูแคลน “ผมว่ารัฐบาลกลัวขั้นเก้าขั้นสุดยอดพวกนั้นจะหนีมากกว่า คนอื่นไม่อาจใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่ยอดฝีมือพวกนี้หากร่วมมือกันขึ้นมาจริงๆ แสดงความเกรงขามในถ้ำใต้ดินให้เต็มที่ ถ้ำใต้ดินอาจไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้เสมอไป แทนที่จะพูดว่าเมล็ดพันธุ์ ผมว่าเหมือนตัวประกันมากกว่า แน่นอนว่าไม่ได้เลื่อนลอยขนาดนั้น รัฐบาลเลี้ยงดูลูกหลานของพวกคุณอย่างฟรีๆ คุณก็ต้องต่อสู้เพื่อมนุษย์ชาติ จริงๆ สามารถเข้าใจได้ อันที่จริงผมไม่อิจฉาสักนิด หากผมถึงขั้นเก้าขั้นสุดยอด รัฐบาลทำแบบนี้ ก็นับว่าทำให้ผมคลายกังวล สบายใจขึ้นมาบ้าง แม้จะรู้ว่าอาจไม่มีประโยชน์เสมอไป แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”
อู๋ขุยซานหัวเราะเสียงดัง เฉินเย่าถิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “เธอรู้แค่นี้ก็เป็นมือดีปะปนอยู่ในแวดวงการเมืองได้แล้ว”
ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “นี่นับเป็นเรื่องอะไร หรืออธิการทั้งสองคนไม่รู้? ครั้งนี้อธิการจงใจพูดเรื่องนี้ก็เพราะสามารถหาผลประโยชน์ได้ หากใช้เป็นจุดอ่อนจริงๆ คงไม่เกิดผลอะไร ทำให้ขั้นเก้าขั้นสุดยอดพวกนั้นร้อนใจ คนโกรธจนหนีไป ผมว่าคุณคงไม่อาจกู้สถานการณ์ได้ด้วยซ้ำ”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอคิดว่าฉันโง่จริงๆ หรือไง? ทำแบบนี้ฉันถึงช่วงชิงผลประโยชน์เล็กน้อยให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้ คนอื่นๆ ฉันสนใจงั้นเหรอ? มีความสามารถมากเท่าไหร่ก็กินข้าวได้เยอะเท่านั้น สองแสนล้านอันที่จริงไม่ได้หนักหนาอะไร ยังไงมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็มีอาจารย์และนักศึกษามากมาย จากการคาดการณ์ของเธอเกือบจะทะลุหมื่น เฉลี่ยแล้วยี่สิบล้านต่อหนึ่งคน พวกเราขายชีวิตไป มีอะไรไม่ดีกัน อีกอย่างหากฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลสะสมทรัพยากรไว้มากเท่าไหร่ พอถึงช่วงเวลาสำคัญอาจควักออกมาทั้งหมด จัดสรรให้ฟรียังไม่ใช่เรื่องแปลกด้วยซ้ำ พวกเราคว้ามาล่วงหน้าจะเป็นไรไป”
“แน่นอน แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ ไอ้หนู อย่าก่อเรื่องวุ่นขึ้นมาอีก เรื่องร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อื่นๆ ทำได้ แต่จำไว้ว่าต้องจำกัดอยู่ในขอบเขตที่แน่นอน! ก่อนที่พวกบริษัทใหญ่ยังไม่ลดราคา หากเธอกล้าใช้ชื่อของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ขายยาบำรุงต่อภายนอก ลดราคาเอง ฉันจะเฉือนเธอเป็นคนแรก! บริษัทพวกนั้นก็มีสิ่งที่พวกเขาต้องพิจารณา ไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา เข้าใจหรือเปล่า?”
ฟางผิงพยักหน้าว่า “เข้าใจครับ…แต่ว่า…”
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับลัทธินอกรีตจริงๆ?”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอคิดว่าไงล่ะ? ลัทธินอกรีตก็คือลัทธินอกรีต แผนเก็บเมล็ดพันธุ์และลัทธินอกรีตไม่เกี่ยวข้องกัน ความคิดของลัทธินอกรีตและแผนเก็บเมล็ดพันธุ์ไม่สอดคล้องกัน จากความคิดของลัทธินอกรีต อันที่จริง…เป็นการหลอมรวม ไม่ใช่แค่หลอมรวมสองโลก แต่หลอมรวมเผ่าพันธุ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างเยียบเย็นว่า “หลอมรวมทุกเผ่าพันธุ์…น่าขำ หากถึงเวลานั้นจริงๆ เกรงว่ามนุษย์ชาติต้องล่มสลายจริงๆ แล้ว!”
———————
……….