ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 406.2 คลื่นลมกำลังมา (2)
ตอนที่ 406 คลื่นลมกำลังมา (2)
……………………………………………………………………..
ตาเฒ่าหลี่เผยสีหน้าซับซ้อนเช่นกัน เอ่ยว่า “ใครก็ไม่อยากละทิ้งหรอก แต่สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว! จุดนี้จากประเทศจีนก็สามารถมองออกแล้ว ถ้ำใต้ดินประเทศจีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ! ยี่สิบสามแห่ง เกือบเป็นหนึ่งในสี่ของทั่วโลกแล้ว! แม้ทุกคนจะคิดว่ายืดเวลาออกไป เป็นผลดีกับพวกเรากว่า แต่ตอนนี้ดูแล้ว อาจไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เมื่อก่อนหนึ่งถ้ำใต้ดินจะปรากฏแค่หนึ่งเมือง สี่ปีปรากฏหนึ่งครั้ง ฝีมือของพวกเราพัฒนาขึ้น อันที่จริงสามารถหักล้างกับประชากรถ้ำใต้ดินที่มากขึ้น แต่ตอนนี้ถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่งไม่ได้ทำสงครามกับพวกเราแค่เมืองเดียวอีกแล้ว แต่เป็นหลายเมือง! เป็นแบบนี้ต่อไป ความก้าวหน้าของพวกเราคงสู้กับทางเข้าถ้ำใต้ดินที่เพิ่มมากขึ้นไม่ได้แล้ว”
ตาเฒ่าหลี่พูดอยู่พักหนึ่งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก “อีกอย่าง…ช่วงนี้เบื้องบนมีข่าวลือออกมาว่าวางแผนจะรวบรวมกำลังทำลายล้างถ้ำใต้ดินสักแห่งสองแห่ง!”
ฟางผิงหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยอย่างตกใจว่า “งั้นต้องมีปรมาจารย์ตายไปเท่าไหร่? ไม่กลัวว่าถ้ำใต้ดินจะโจมตีอย่างเต็มรูปแบบเหรอครับ?”
ในสถานการณ์ทั่วไป ตอนนี้ถ้ำใต้ดินทำสงครามกับเมืองเดียวเท่านั้น
แต่ถ้าทำลายล้างอีกฝ่ายจริงๆ งั้นเมืองของถ้ำใต้ดินทั้งหมดต้องทุ่มลงมือสุดกำลัง บาดเจ็บล้มตายอย่างมหาศาลแน่นอน!
มีคนตายเยอะขนาดนั้น จะเฝ้าระวังถ้ำใต้ดินแห่งอื่นๆ ยังไง?
หรือประเทศจีนต้องละทิ้งถ้ำใต้ดินบางส่วนเหมือนกัน?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยอดฝีมือของเขตหวงห้ามของถ้ำใต้ดินจะบุกทะลวงออกมาหรือเปล่า
“เป็นแค่ข่าวลือ บางคนทนไม่ไหวเท่านั้น” ตาเฒ่าหลี่ถอนหายใจ “นับวันแรงกดดันก็มากขึ้นเรื่อยๆ มากจน…คนบางส่วนไม่เต็มใจจะเป็นฝ่ายตั้งรับอีก รอคอยต่อไป ไม่สู้ลองเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสักตั้งอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้กว่า เธอก็รู้ ใต้เมืองราชาของถ้ำใต้ดินมีแหล่งแร่พลังงาน ทำลายเมืองราชาหนึ่งเมืองก็มีค่าตอบแทนมหาศาลแล้ว ถ้าทำลายถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง ได้รับแร่พลังงานนับไม่ถ้วน สามารถบ่มเพาะยอดฝีมือออกมาจำนวนมากได้! จุดประสงค์ของคนพวกนี้…บางทีอาจจะเลือกเส้นทางของหัวกะทิ!”
สีหน้าของตาเฒ่าหลี่ดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม สิ่งที่เรียกว่าเส้นทางของหัวกะทิก็คือละทิ้งผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่ที่ไม่มีหวัง ให้ผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้บุกอยู่แนวหน้า ใช้ชีวิตของพวกเขาแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรจำนวนมาก บ่มเพาะยอดฝีมือที่มีความหวัง
นี่เทียบกับเลือกบ่มเพาะแต่ผู้มีความสามารถแล้วยังจะโหดร้ายยิ่งกว่า!
หากนโยบายนี้ออกมาจริงๆ ยังไม่รู้ว่าจะมีผู้ฝึกยุทธ์ตายไปเท่าไหร่ รวมถึงปรมาจารย์กลุ่มใหญ่ด้วย ปรมาจารย์ที่มีอายุพวกนั้น ถ้าไม่ได้ก้าวหน้าในขั้นปรมาจารย์มาหลายปี บางทีอาจถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยก็ได้
ไม่สิ ต้องมีปรมาจารย์กลุ่มใหญ่กลายเป็นเครื่องสังเวยแน่!
เพราะไม่มีปรมาจารย์ลงมือ คงเอาชนะถ้ำใต้ดิน กำราบเมืองราชาไม่ได้
อย่างเช่นหลิวพั่วหลู่จากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ปรมาจารย์เฒ่าที่รั้งอยู่ในขั้นเจ็ดมาหลายปีแล้ว หากเกิดสงครามใหญ่ หลิวพั่วหลู่ต้องถูกเรียกตัวไปแน่
ฟางผิงจมดิ่งในความคิด ต่อให้เขาจะคิดยังไง พูดยังไง ก็ไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจของเบื้องบนได้
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น
หากมาถึงขั้นนั้นจริงๆ…ฟางผิงไม่รู้ว่าตกลงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงยังไง
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องสังเวยพวกนั้นจะยินยอมหรือเปล่า?
บางทีอาจจะยินยอม…การต่อสู้นองเลือดหลายปีทำให้ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนต่างเตรียมใจพร้อมแล้ว
ยอดฝีมือที่อยู่ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และโรงเรียนเตรียมทหาร รวมถึงหน่วยทหารคงถูกป้อนความคิดที่ว่าต่อสู้เพื่อมนุษย์ชาติ ต่อสู้เพื่อประเทศมาโดยตลอดเช่นกัน
เวลานั้นก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และโรงเรียนเตรียมทหาร ลดอำนาจของสำนักลง…
ตอนนี้ดูแล้ว พูดให้ระคายหูหน่อย บางทีอาจจะเตรียมความพร้อมเพื่อให้คนพวกนั้นสามารถเต็มใจตายในวันนี้ได้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และโรงเรียนเตรียมทหารต่างเป็นองค์กรของรัฐบาล ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างภักดี ครุ่นคิดเพื่อประเทศชาติและประชาชน
กลับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เกิดจากคลาสผู้ฝึกยุทธ์พวกนั้นอาจเป็นไม่ได้มีชุดความคิดนี้เสมอไป
แน่นอนว่าฝีมือของพวกเขาอ่อนด้อยเช่นกัน
รัฐบาลรวบรวมทรัพยากร จุนเจือมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และโรงเรียนเตรียมทหาร บ่มเพาะยอดฝีมือในหน่วยทหาร ถึงกระทั่งลดทรัพยากรและขนาดของสำนักลง ไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผลเลยทีเดียว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ที่ได้รับการปลูกฝังพวกนั้นจะยืดอกออกมาหรือเปล่า!
เหมือนอย่างอธิการเฒ่าของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ จางติ้งหนานจากหนานเจียง อธิการเฉินของมหาวิทยาลัยหนานเจียง…
คนพวกนี้เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญต่างยืดอกก้าวเดินออกมา แม้อาจจะตายในสงครามนอกบ้านเกิดก็ตาม!
พูดจนถึงท้ายที่สุดแล้ว จู่ๆ ตาเฒ่าหลี่ก็เอ่ยว่า “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ำใต้ดินเทียนหนานใกล้จะอุบัติเร็วๆ นี้แล้ว การอุบัติครั้งนี้ไม่เหมือนกับหนานเจียงที่ทางเดินไม่มั่นคง ถ้ำใต้ดินเทียนหนานอุบัติ ทางเดินจะมั่นคงจนถึงขีดจำกัดในชั่วพริบตา แม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นเก้าก็ยากจะปิดผนึกทางเดิน รัฐบาลเริ่มเรียกรวมตัวยอดฝีมือ เตรียมสงครามของเทียนหนานแล้ว สงครามของเทียนหนาน…เกรงว่า…จะน่าเศร้าสลดแล้ว”
ตาเฒ่าหลี่ถอนหายใจ “หากไม่เหนือจากที่คาด ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำใต้ดินเทียนหนาน ครั้งนี้ไม่อาจเหมือนกับหนานเจียงที่เฝ้าระวังอยู่นอกทางเดิน แต่จะบุกเข้ามาตรงๆ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบไหน เธอมีเพื่อนหรือญาติพี่น้องทางนั้นก็แจ้งข่าวสักหน่อย ให้พวกเขาออกจากเทียนหนานให้เร็วที่สุด”
“ถ้ำใต้ดินเทียนหนานจะอุบัติเหมือนกัน?”
ฟางผิงอดถอนหายใจไม่ได้ สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ตอนแรกถ้ำใต้ดินเทียนหนานถูกบุกทะลวง มนุษย์จำเป็นต้องถอนตัวออกมา เวลานั้นฟางผิงยังเตรียมตัวสอบเกาเข่า
ปัจจุบันแค่ชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปสองปีแล้ว ทางเดินอุบัติขึ้นเร็วอยู่บ้างจริงๆ
ฟางผิงอดนึกถึงพวกหยางเจี้ยนเพื่อนร่วมชั้นตอนมอปลายไม่ได้ คนพวกนี้ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทียนหนาน
แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังนึกถึงหวังจินหยาง
อาจารย์ของเขาติดอยู่ในถ้ำใต้ดินเทียนหนานในเวลานั้น ถ้ำใต้ดินเทียนหนานอุบัติขึ้น หวังจินหยางต้องเข้าไปแน่
แต่ถ้ำใต้ดินเทียนหนานไม่เหมือนกับหนานเจียง ทางหนานเจียงเพิ่งอุบัติขึ้นครั้งแรก ยอดฝีมืออีกฝ่ายที่เผชิญหน้าส่วนมากไม่ค่อยรู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง แทบไม่ได้ตั้งการป้องกันอะไร
แต่ก่อนหน้านี้เทียนหนานเคยอุบัติขึ้นแล้ว รบรากับมนุษย์มาหลายปีเช่นกัน
ทางนั้นต้องอันตรายมากกว่าหนานเจียงอยู่แล้ว
ทั้งครั้งก่อนหวงจิ่งยังพูดว่าเรื่องของเทียนหนานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของขั้นเก้าขั้นสุดยอด นี่ทำให้ซับซ้อนขึ้นไปอีก
ยังรวมถึง…ก่อนหน้านี้มีรองอธิการมหาวิทยาลัยเทียนหนานคนก่อนกลายเป็นเบื้องบนของลัทธินอกรีต สรุปแล้วสถานการณ์ของเทียนหนานซับซ้อนและอันตรายเป็นอย่างมาก
ขั้นเก้าสุดยอดสิ้นชีพ ลัทธินอกรีตมีส่วนร่วม ฐานทัพของมนุษย์ถูกถอนรากถอนโคน ทางเดินเปิดอย่างเต็มรูปแบบ…
ก่อนหน้านี้ฟางผิงยังไม่รู้สึกว่ามีแรงกดดันเท่าไหร่
แน่นอนว่ายังคงมีแรงกดดันอยู่แล้ว แต่เขาคิดว่ายังพอมีเวลา
แต่ตอนนี้ฟางผิงกลับรู้สึกว่าเวลากระชั้นชิดขึ้นจริงๆ
ทั่วโลกกำลังเกิดความโกลาหลวุ่นวาย!
ถึงกระทั่งเริ่มครุ่นคิดจะละทิ้งพื้นที่บางส่วนแล้ว นี่ทำให้ในใจของฟางผิงมีแรงกดดันอย่างถึงที่สุด สงครามปะทุเต็มรูปแบบ ตกลงยังมีเวลาอีกนานเท่าไหร่กัน?
“ฉันเพิ่งจะขั้นห้าเท่านั้น…”
ฟางผิงพึมพำกับตัวเอง ความสามารถแบบนี้ เป็นแค่ตัวรับกระสุนเท่านั้น ไม่สิ ยังนับไม่ได้ว่าเป็นตัวรับกระสุนด้วยซ้ำ!
เทียบกับความสามารถของถ้ำใต้ดินแล้ว เขาที่เป็นขั้นห้าแทบไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ
เขาไม่นับว่าเป็นตัวรับกระสุน งั้นนักศึกษาคนอื่นๆ ของเซี่ยงไฮ้ล่ะ?
เป็นมดกันทั้งนั้น!
“ต้องพยายามทะลวงขั้นเจ็ดให้เร็วที่สุด…ไม่สิ บางทีต้องขั้นเก้าถึงจะพอ!”
ฟางผิงพึมพำ ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างหางตากระตุกเล็กน้อย พูดอย่างกับขั้นเก้าง่ายเหมือนกินข้าวกินน้ำซะงั้น
ฟางผิงไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไง เอ่ยต่อว่า “ก่อนปีใหม่ผมยังไม่วางแผนจะลงถ้ำ หลังปีใหม่แล้วผมอยากไปถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้สักครั้ง อาจารย์ ถึงเวลานั้นคุณไปพร้อมกับผมเป็นยังไง? คอยสนับสนุนก็เพียงพอแล้ว”
เวลาวิ่งหนี ตะโกนเรียกตาเฒ่าหลี่ก็สามารถหนีได้ไวกว่าแล้ว
ตาเฒ่าหลี่สีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย นี่ยังจะเรียกเขาไปด้วย จะทำการใหญ่จริงๆ แล้วหรือไง?
ไม่ได้พูดอะไร ตาเฒ่าหลี่พยักหน้า ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน
ฟางผิงไม่มากความเช่นกัน รู้ว่ายอดฝีมือของเซี่ยงไฮ้ไปไหนแล้ว เขาก็คร้านจะสนใจว่าเบื้องบนปรึกษาหารืออะไรกันอีก
การพูดคุยของขั้นแปดขั้นเก้า เขาที่เป็นขั้นห้า นับว่าพอมีตำแหน่งนิดหน่อยในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เอาตัวไปอยู่ที่นั่น ใครจะไว้หน้าขั้นห้าอย่างเขา ไม่มีโอกาสแม้แต่จะฟังด้วยซ้ำ
ส่วนต้องละทิ้งพื้นที่บางส่วนหรือละทิ้งเอเชียไปเลยนั้น…
ฟางผิงรู้ว่าตัวเองไม่มีวิธีเปลี่ยนแปลง
แต่สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือเตรียมพลังตัวเองให้พร้อม ทั้งต้องสามารถปกป้องครอบครัวเพื่อนพ้องให้ได้ หากเบื้องบนละทิ้งพื้นที่บางส่วนจริงๆ เขาก็ทำได้เพียงตามกระแสหลักเท่านั้น