ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 249 ฉันฆ่าศัตรูแนวหน้ามานับไม่ถ้วน (1)
ตอนที่ 249 ฉันฆ่าศัตรูแนวหน้ามานับไม่ถ้วน (1)
ฟางผิงดีใจที่เห็นเมืองความหวัง ความเป็นจริงระยะทางยังไกลอยู่มาก
ยอดฝีมือขั้นหกด้านหลังขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ลอยตัวในอากาศอีกแล้ว ช่วงเวลาที่กระโดดลงพื้นนั้นอีกฝ่ายโดดลงมาที่ความสูงนับสิบมตร
ลอยอยู่ในอากาศนั้นดูเท่ แต่ความเร็วอาจสู้วิ่งบนพื้นดินไม่ได้เสมอไป
ก่อนหน้านี้ไล่ตามในอากาศมาโดยตลอด นั่นเป็นความหยิ่งทระนงของยอดฝีมือ
ตอนนี้มองเห็นเมืองความหวังอยู่รางๆ แล้ว ต่อให้หยิ่งทระนงแค่ไหนก็ต้องวางลง อันที่จริงเขานึกไม่ถึงเช่นกันว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามจะปะทุปราณได้ยาวนานมาจนถึงตอนนี้
เดิมคิดว่าไล่ตามสักสิบยี่สิบลี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาฆ่า ปราณของอีกฝ่ายคงหมดเกลี้ยง นอนรอคอยความตายจากเขาเท่านั้น
ตอนนี้กลับยิ่งแล้วใหญ่ น่าขายหน้าไม่น้อย
ชั่วพริบตาที่ลงสู่พื้น ความเร็วของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นทันที ร่างกายเคลื่อนไหวราวกับเงาที่พาดผ่านอากาศ ฟางผิงที่อยู่ด้านหน้าขนหัวลุกทันที
ครู่ต่อมาฟางผิงก็กัดฟัน หันกลับไปฟันหนึ่งดาบ!
เวลานี้ฟางผิงเพิ่งจะได้มองชัดเจนว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยังไง
ผมยาวเท่าไหล่ ดวงตาประกายคมวับราวเกล็ดหิมะ คิ้ว…ตรงกลางขาดครึ่ง!
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นในเวลาชั่วพริบตา
อีกฝ่ายเผยสีหน้าเย็นชา ไม่สนใจฟางผิงที่ระเบิดปราณเช่นกัน พุ่งหมัดโจมตีดาบฟางผิงทันที!
เสียงกระทบดังสนั่น ฟางผิงกระเด็นลอยออกไป กระอักเลือดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ไม่รอให้ฟางผิงดีดตัวขึ้นมา อีกฝ่ายปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าฟางผิงอีกครั้ง เหวี่ยงหมัดทันที!
ฟางผิงคำรามอย่างโมโห ฟันไปที่หมัดของอีกฝ่ายติดต่อกัน กลับได้ยินเสียงกระทบของโลหะดังออกมา
เสี้ยวนาทีที่หมัดของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ จู่ๆ ฟางผิงก็พ่นเกาทัณฑ์เลือดออกมาจากปาก พุ่งเข้าหาดวงตาอีกฝ่าย
ชายคิ้วบากกลับแข็งแกร่งกว่าที่ฟางผิงคิดไว้มาก!
ในตอนที่ฟางผิงพ่นเกาทัณฑ์เลือดออกมา อีกฝ่ายก็ยกมือซ้ายชกเกาทัณฑ์เลือดแตกกระจายไปทันที
“ฉันไม่ได้หนีรอดจากขั้นหก…”
ในหัวของฟางผิงมีแต่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น ก่อนจู่ๆ เขาจะทำหน้าดีใจ ชายคิ้วบากหน้าเปลี่ยนสีทันที
ตอนที่ชายคนนั้นหน้าเปลี่ยนสี ฟางผิงก็ใช้โอกาสนี้รีบถอยหลัง หมุนตัววิ่งต่ออย่างบ้าคลั่ง
ชายคิ้วบากงุนงงอยู่บ้าง ยืนอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง
ผ่านไปสักพัก เหมือนจะคิดอะไรได้ แววตาปรากฏไอสังหารขึ้นมา!
“@#¥%…”
ชายคิ้วบากบ่นพึมพำกับตัวเองสักพัก ก่อนอีกฝ่ายจะไล่ตามฟางผิงไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
แม้ฟางผิงจะไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร แต่ก็พอเดาได้
ในตอนที่อีกฝ่ายกำลังจะฆ่าฟางผิง ฟางผิงใช้พลังจิตใจสร้างความปั่นป่วนเล็กน้อย จากนั้นก็ทำหน้าดีใจ…ให้อีกฝ่ายคิดว่าปรมาจารย์มาจริงๆ
แน่นอนว่าลูกไม้ตื้นๆ นี้ ใช้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ฟางผิงรู้อยู่แล้วว่าพลังจิตใจของตัวเองอ่อนด้อยเกินไป แต่ก็ใช้แค่ขู่ขวัญคนเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้ารอให้อีกฝ่ายตกใจจนถอยไปจริงๆ ถือโอกาสที่อีกฝ่ายตะลึงงัน วิ่งออกไปไกลอีกหลายช่วง
ตอนนี้อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนซ้ายเหมือนจะหักแล้ว
ฟางผิงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ครั้งนี้ตัวเองต้องมีชีวิตรอดกลับไป การรักษาแค่ใช้เงินแก้ปัญหาเท่านั้น
ด้านชายคิ้วบากน่าจะวิเคราะห์ออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คงเตรียมจะสังหารเขาแน่
ปราณไร้ขีดจำกัด พลังจิตใจรับรู้ได้…เพียงพอให้มีแรงจูงใจในการฆ่าแล้ว!
ฟางผิงวิ่งกระอักเลือดไปตลอดทาง…
จะถึงเมืองความหวังแล้ว จะถึงแล้ว!
ชายคิ้วบากที่อยู่ข้างหลังเร่งความเร็วขึ้นมาอีก ฟางผิงสัมผัสได้ถึงเสียงลมจึงกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงดาบเฟิ่งจุ่ยไปข้างหลังพร้อมกับพลังปราณที่เข้มข้น
‘เคร้ง!’
ชายคิ้วบากไม่แม้แต่จะหยุดฝีเท้า ใช้หมัดพุ่งหาดาบเฟิ่งจุ่ยจนกระเด็นออกไป ดาบเฟิ่งจุ่ยที่อยู่คู่กายมานาน ชั่วพริบตาก็หายไปแทบไม่เห็นเงา
ฟางผิงวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง กัดฟันดึงกระบี่ที่แขนซ้ายออกมา ก่อนจะโยนไปด้านหลัง
ผลลัพธ์ยังเป็นเหมือนเดิม ชายคิ้วบากใช้หมัดโจมตีกลับมา
ฟางผิงไม่อาจสนใจเรื่องเจ็บตัวอีกแล้ว โยนดาบและหอกที่หนีบมาตลอดทางทิ้งไป ชีวิตแทบจะเอาไม่รอดแล้ว ยังจะมาห่วงอาวุธอะไรอีก!
เสียงตกกระทบดังขึ้นติดต่อกัน ทิ้งอาวุธไปหมดแล้ว ตอนที่รับรู้ถึงเสียงหมัดฝ่าอากาศมาทางด้านหลัง จู่ๆ ฟางผิงก็ล้มตัวลงไปนอนกับพื้น ปากยังคงกระอักเลือดออกมา หัวพับไปอีกด้านหนึ่ง…
ชายคิ้วบากอึ้งไปอีกครั้ง ในตอนที่ตะลึงงัน ฟางผิงที่เพิ่งจะนอนคอพับ กลับลุกขึ้นมาวิ่งอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“ข่ากู่!”
ตอนนี้ชายคิ้วบากโมโหอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าหมอนี่จะแกล้งตาย!
ระหว่างต่อสู้ หากจู่ๆ ศัตรูล้มลงตาย อันดับแรกที่เขาจะทำคือหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อตรวจสอบ ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายกลับแกล้งตายใกล้หูใกล้ตาเขา!
ชายคิ้วบากปะทุโทสะ เร่งความเร็วขึ้นมาอีกครั้ง ครู่ต่อมาก็ตามมาถึงด้านหลังของฟางผิงแล้ว
ครั้งนี้ฟางผิงไม่คิดแกล้งตายอีก รวบรวมปราณทั่วร่างมาไว้ที่หลัง เป็นดั่งที่คาด อีกฝ่ายโจมตีหมัดมาที่หลังของฟางผิง
เดิมทีปราณที่ฟางผิงใช้ป้องกันก็ต้านแทบไม่ไหวแล้ว เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง อาศัยแรงนั้นออกวิ่งต่อ
กระอักเลือดแล้วกระอักอีกจนชินไปแล้ว
ยังไงอวัยวะภายในก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว วิ่งก่อนค่อยว่ากัน
ครู่ต่อมา ฟางผิงกลับเงยหน้าตะโกนขึ้นบนฟ้า “ปรมาจารย์ช่วยฉันที!”
ชายคิ้วบากมองไปบนฟ้าแวบหนึ่ง แม้จะไม่รู้ว่าฟางผิงพูดอะไร แต่ยังคงพอจะเข้าใจภาษากาย ร้องให้คนบนฟ้าช่วยเหลือ
รอเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ฟางผิงที่อยู่ด้านหน้าก็วิ่งออกไปไกลอีกครั้ง
ชายคิ้วบากแทบอยากกระอักเลือดออกมาเหมือนกัน!
ขั้นหกฆ่าขั้นสามได้ในหมัดเดียวเท่านั้น ทว่าอีกฝ่ายกลับยังมีแรงวิ่งมาจนถึงตอนนี้ นี่มันอะไรกัน?
“ช่วยด้วย!”
“ช่วยผมด้วย!”
“จะตายแล้ว หัวสิงโต แม่ทัพสวี่…”
ฟางผิงวิ่งไปตะโกนไป เขาจะตายจริงๆ แล้ว หากไม่จัดการหมอนี่ออกไป ชกมาอีกไม่กี่หมัด ต่อให้ปราณเขาเยอะแค่ไหน อวัยวะภายในก็ถูกทำลายได้เหมือนกัน
สาเหตุที่อวัยวะยังอยู่ดีมาจนถึงตอนนี้ ต้องยกความดีความชอบให้ยาหลอมร่างกายที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ หลอมอวัยวะภายใน ทั้งยังเติมเต็มปราณ พยุงรักษาอาการบาดเจ็บเขาอยู่ตลอดเวลา
ตอนที่ฟางผิงสัมผัสได้ถึงเสียงทะลวงอากาศจากด้านหลังก็รู้สึกสิ้นหวังอยู่บ้าง
เป็นแบบนี้ต่อไป มากสุดสามหมัดต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
สวรรค์มักจะส่งคนมาช่วยเหลือลูกของเขาในช่วงเวลาคับขันอยู่แล้ว
ในตอนที่ฟางผิงสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ก็มีเสียงคำรามอย่างโมโหดังขึ้น!
“ตายซะ!”
เสี้ยวนาทีต่อมา เสียงระเบิดก็ดังขึ้นข้างหูของฟางผิง
สนั่นหวั่นไหวไปทั่ว พลังปราณที่กระจัดกระจายระเบิดจนฟางผิงถลาตัวไปข้างหน้าหลายช่วงติดต่อกัน
ฟางผิงไม่หันกลับไปมอง กลิ้งหลุนๆ แล้วก็ออกวิ่งต่อ วิ่งห่างออกมาช่วงหนึ่งแล้ว ตอนนี้จึงค่อยหันไปมอง
หัวสิงโตกระโดดลงมาจากฟ้า เสื้อผ้าท่อนบนขาดกระจุก เปลือยอกล่อนจ้อน ผิวหนังสีทองแดงอบอวลไปด้วยปราณที่เข้มข้น บนหมัดประกายแสงสีทองวิบวับ โจมตีชายคิ้วบากคนนั้นเร็วปานสายฟ้าแลบ
ชายคิ้วบากคำรามอย่างโมโห ทว่ากลับถูกโจมตีจนถอยหลังไปหลายก้าว อานุภาพของหมัดที่โจมตีฟางผิงก่อนหน้านี้หายไปแล้ว ชั่วพริบตาหมัดนั้นก็ถูกหัวสิงโตทำลายจนผิวเปิดเนื้อแตก เลือดลอยกระเซ็นซัด!
“ตายซะ!”
“ข่ากู่!”
ฟางผิงค้นพบว่าคนพวกนี้เหมือนจะชอบพูดคำนี้ออกมา ต่อสู้ก็ยังไม่ลืมตะโกนออกมา
แต่เทียบกับหัวสิงโตที่อยู่ขั้นหกสูงสุดแล้ว ชายคิ้วบากยังฝีมือด้อยกว่าอยู่บ้าง ถูกจู่โจมจนถอยหลังไปติดต่อกัน ปากกระอักเลือดอย่างไม่หยุดหย่อน
ในตอนที่มือทั้งสองข้างของถังเฟิงระเบิดแสงสีทองออกมา จู่ๆ ชายคิ้วบากก็คำรามเสียงดัง บนหมัดปรากฏปราณจนถึงขีดจำกัดหนึ่ง แววตาของถังเฟิงหนักแน่นขึ้นมา…
ครู่ต่อมา ชายคิ้วบากกลับเลี้ยวตัววิ่งหนีซะอย่างนั้น!
ฟางผิงนิ่งค้างไป แม่งเหอะ เลียนแบบฉัน?
จ่ายค่าเล่าเรียนหรือยัง?
ถังเฟิงขมวดคิ้ว คิดจะไล่ตามไปกลับลังเลขึ้นมา สุดท้ายจึงหันมามองฟางผิง
ตอนนี้สภาพของฟางผิงแทบดูไม่ได้ ทั่วร่างมีแต่เลือดเปรอะเปื้อน มองแทบไม่ออกว่าสภาพเดิมเป็นยังไง ร่างกายยังมีบาดแผลหลายแห่ง
เห็นถังเฟิงมองตัวเอง ฟางผิงจึงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นึกไม่ถึงว่าจะฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ ผมคิดว่าคุณฆ่าขั้นหกได้เหมือนกับหมาซะอีก ผมฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สามคนอย่างสบายๆ ขั้นห้าก็ฆ่ามาไม่น้อย ขั้นหกยังฆ่าผมไม่ได้…”
“ยังขยับไหวอีกหรือไง?”
ถังเฟิงไม่สนใจเขา เอ่ยถามออกไป
“ฮ่าๆๆ!”
ฟางผิงหัวเราะไม่ตอบคำถาม ยืนอยู่ที่เดิมพักหนึ่ง จู่ๆ ก็เคลื่อนฝีเท้าไปหาถังเฟิงอย่างช้าๆ
ตอนที่ผ่านถังเฟิงไป ฟางผิงไม่ได้หยุดฝีเท้า
ถังเฟิงขมวดคิ้วว่า “กลับไปรักษาตัวที่เมือง เธอจะตายอยู่แล้ว”
——————-