ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 172 ลูกค้ารายใหญ่กลับมาแล้ว (1)
ตอนที่ 172 ลูกค้ารายใหญ่กลับมาแล้ว (1)
ไป๋จิ่นซานไม่ได้หาสถานที่พูดคุยกับเขาตามลำพัง
เดินลงบันไดก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไปพลาง “ในการแข่งขันแลกเปลี่ยนผลงานของนักศึกษาฟางผิง ฉันเห็นแล้ว ยอดเยี่ยมจริงๆ”
“ผู้บัญชาการชมเกินไปแล้ว”
“ไม่รู้ว่านักศึกษาฟางผิงตระหนักถึงเรื่องหนึ่งได้หรือเปล่า การก่อตั้งทีมรบและจัดคลาสฝึกอบรมครั้งนี้อันที่จริงไม่ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ทดสอบแค่ในพื้นที่บางส่วน ทั้งเป็นการดำเนินแบบเชิงรุก!”
ฟางผิงเผยความงุนงงเล็กน้อย
ไป๋จิ่นซานเอ่ยต่อว่า “นักศึกษาฟางผิงรู้จักโลกใบนี้มากน้อยแค่ไหน?”
“คุณหมายถึง…ถ้ำ…”
“ดูท่าเธอคงจะรู้แล้ว”
ไป๋จิ่นซานไม่ตกใจเช่นกัน นักศึกษาแนวหน้าอย่างฟางผิง จะรู้ก่อนถือเป็นเรื่องปกติ
“หลักๆ ครั้งนี้จะทดสอบไม่กี่มณฑลใหญ่ๆ ทั้งจะเริ่มจากมณฑลพวกนี้ก่อน แบ่งเป็นหนานเจียง หนานเหอ และหนานเจ๋อ สามมณฑลนี้เธอเห็นอะไรบางอย่างแล้วหรือยัง? ผู้ว่ามณฑลต่างทยอยทะลวงด่านเป็นปรมาจารย์ในปีสองปีนี้ ห้าปีก่อน ผู้ว่าสามมณฑล ไม่มีคนเป็นปรมาจารย์เลย! เป็นเพราะทะลวงเป็นปรมาจารย์ง่ายขึ้น?”
สมองของฟางผิงราวกับมีเชือกรัดแน่น ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยชั่งน้ำหนักว่า “ความหมายของคุณคือ…”
“ถ้ำใต้ดินที่จีนมีทางเข้ายี่สิบสองแห่ง การปรากฏยังคงมีหลักเกณฑ์ สามปีก่อนมีการปรากฏปากทางเข้าแห่งที่ยี่สิบสอง และทางเข้าแห่งที่ยี่สิบสองตั้งอยู่ในโซนตะวันออก แต่ละเวลาและสถานที่ที่ทางเข้าถ้ำปรากฏ หากเธอครุ่นคิดอย่างละเอียดจะพบว่า…ถ้ำใต้ดินมีเค้าโครงของมันอยู่!”
แววตาของฟางผิงเปลี่ยนไป เอ่ยอย่างตกใจอยู่บ้าง “คุณหมายความว่าทางเข้าถ้ำใต้ดินไม่ได้เกิดแบบส่งเดช แต่ดำเนินตามแบบแผน?”
“ใช่ ค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วประเทศจีน จนถึงตอนนี้ภาคใต้ทั้งสามมณฑลยังไม่มีปากทางเข้าถ้ำสักแห่ง ดังนั้นหากไม่เหนือความคาดหมาย ทางเข้าต่อไป อีกสองปีจะปรากฏขึ้นในบริเวณสามมณฑลทางใต้! ทางเข้าถ้ำใต้ดิน…ในความคิดฉัน เหมือนเป็นที่ตั้งทัพมากกว่า แทรกลงไปลึกเรื่อยๆ ตอดกินโลกทั้งใบอย่างช้าๆ ต่อไปจะมาถึงสามมณฑลทางใต้ ดังนั้นสามมณฑลทางใต้ช่วงนี้จึงดำเนินการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน พวกเราสามารถพึ่งพาทหาร พึ่งพามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้…แต่จะสามารถพึ่งได้นานแค่ไหน? มีแต่ต้องช่วยเหลือตัวเอง! กำลังทหารอ่อนแอ งั้นจุดจบของพวกเราคงไม่ดีไปกว่าเทียนหนานเท่าไหร่ หน่วยทหารจะถือการป้องกันเป็นหลัก เธอเข้าใจความหมายของฉันหรือเปล่า?”
“เพราะพลังไม่มากพอ ดังนั้นหน่วยทหารจะทำได้เพียงปกป้องคุ้มกัน ไม่อาจบุกเบิก ไม่อาจรุกล้ำเข้าไป ตอนนี้มีเพียงต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบ้านเกิดเมืองนอน พึ่งผู้ฝึกยุทธ์ในบ้านเกิดให้เข้าไปกวาดล้างในถ้ำใต้ดิน ถึงจะทำให้ท้องที่ปลอดภัยได้ ผู้ฝึกยุทธ์ต่างถิ่น ไม่ใช่ว่าขาดความใส่ใจ แต่พวกเขาจะสามารถรั้งอยู่ในสามมณฑลได้นานแค่ไหนกันเชียว? ครั้งก่อนที่เทียนหนานเกิดเรื่อง แต่ละพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ต่างถิ่นอยู่ในเทียนหนานได้ตลอดอย่างนั้นเหรอ? ปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่งพวกนี้ไม่อาจรั้งอยู่ในพื้นที่นานเช่นกัน หากเกิดเองอีก พวกเขาทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากด้านนอกเท่านั้น”
“ดังนั้นมีแต่ต้องทำให้บ้านเกิดเมืองนอนแข็งแกร่ง นั่นถึงจะเป็นรากฐาน น่าเสียดายที่เศรษฐกิจของหนานเจียงซบเซา ไม่ค่อยดึงดูดผู้ฝึกยุทธ์เท่าไหร่ รั้งผู้ฝึกยุทธ์ที่มีฝีมือไว้ไม่ได้ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนหนานเจียง พวกเรายังคงหวังให้นักศึกษาอย่างพวกเธอที่ออกไปอยู่ข้างนอก สามารถกลับมาช่วยหนานเจียงในยามที่เกิดสถานการณ์คับขัน เซี่ยงไฮ้มีปากทางเข้าถ้ำเช่นกัน แต่เซี่ยงไฮ้มีผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วน ทั้งถ้ำใต้ดินในเซี่ยงไฮ้ยังปรากฏมาหลายปีแล้ว มีการวางแผนจัดการที่สมบูรณ์แบบ แต่หากหนานเจียงเกิดปากทางเข้าถ้ำแห่งใหม่ขึ้นมา นั่นคงเป็นวิกฤตการณ์อย่างแท้จริง ฟางผิง สำหรับอัจฉริยะอย่างเธอ พวกเราไม่ได้บังคับอะไรหรอก แต่หากหนานเจียงพบกับภัยอันตรายจริงๆ พวกเรายังหวังว่าเธอจะสามารถกลับมาหนานเจียงได้”
“หนานเจียงอาจจะเกิดปากทางเข้าถ้ำ…”
ฟางผิงกลืนน้ำลาย จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “ผู้บัญชาการ สถานที่หลักๆ สามารถคาดเดาได้หรือเปล่า? คงไม่เกิดที่หยางเฉิงหรอกนะครับ?”
“พูดยากเหมือนกัน บริเวณสามมณฑลทางใต้ล้วนมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น”
ไป๋จิ่นซานพูดออกมาหนึ่งประโยค ก่อนจะเย้ยยันตัวเอง “ทางเข้าถ้ำใต้ดิน ไม่ช้าก็เร็วจะแพร่กระจายไปทั่วประเทศจีน แม้ตอนนี้จะไม่เกิดที่หยางเฉิง แต่หลังจากนี้ล่ะ? เฮ้อ รังที่พลิกคว่ำยากจะหาไข่ที่สมบูรณ์[1]…”
ฟางผิงคิดกังวลในใจอยู่บ้าง ควรจะให้พ่อแม่และน้องสาวย้ายออกไปที่อื่นดีหรือไม่
สามมณฑลทางใต้เหมือนจะไม่ค่อยปลอดภัยแล้ว
เขาเคยทำความเข้าใจกับเรื่องของถ้ำใต้ดินมาเช่นกัน การปรากฏทางเข้าถ้ำใหม่ อันที่จริงเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด!
สิ่งมีชีวิตใต้ดินจะก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ บุกจู่โจมอย่างไม่หยุดหย่อน ขยายปากทางให้กว้างขึ้น
เวลานี้เพราะตกอยู่ในสภาวะถูกจู่โจม จึงทำได้เพียงพึ่งกำลังคน เอาชีวิตไปทิ้งทับถมกันเท่านั้น
รอจนขับไล่การก่อจลาจลครั้งแรกของพวกเขาได้แล้ว สิ่งมีชีวิตใต้ดินพวกนี้จะล่าถอย วางแผนเพื่อเตรียมบุกจู่โจมอีกครั้ง
และช่วงเวลานี้ แรงปะทะจะผ่อนคลายลง รัฐบาลถึงสามารถให้หน่วยทหารจัดวางกำลังป้องกันได้
ดังนั้นหากเกิดทางเข้าที่หนานเจียง ผู้ฝึกยุทธ์ในท้องที่ต้องถูกเรียกไปป้องกัน ส่วนการบาดเจ็บล้มตาย หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ไป๋จิ่นซานราวกับล่วงรู้ความคิดของเขา ส่ายหัวว่า “ที่อื่นๆ อาจไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าหยางเฉิง ตอนนี้ปากทางเข้าแต่ละแห่งต่างเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นสิ่งที่พวกเราต้องทำยังคงเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่ง สยบความวุ่นวาย ถึงขั้นอาจมีวันหนึ่งที่เป็นฝ่ายบุกตอบโต้ถ้ำใต้ดิน! สิ่งมีชีวิตใต้ดินรุกรานพวกเรา ก็ถือเป็นโอกาสของพวกเราเช่นกัน!”
ไป๋จิ่นซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่มีสิ่งมีชีวิตใต้ดิน นั่นก็เป็นโลกใหม่ที่สมบูรณ์แบบ บุกเบิกโลกใหม่ สำหรับมนุษยชาติหมายความว่ายังไง? ดังนั้นแต่ละประเทศจึงทุ่มเทบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์อย่างเต็มกำลัง เพื่อหวังว่าผู้ฝึกยุทธ์มีมากขึ้นแล้ว วันหนึ่งพวกเราจะสามารถบุกตอบโต้ได้!”
“บุกตอบโต้ถ้ำใต้ดิน…”
ฟางผิงพึมพำ รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเช่นกัน นั่นเป็นโลกใบใหม่อีกแห่งหนึ่ง
สิ่งมีชีวิตใต้ดินอยากบุกออกมาข้างนอก หรือมนุษยชาติไม่อยากเข้าไปบุกเบิกในโลกใบใหม่เหมือนกัน?
แค่แข็งแกร่งสู้อีกฝ่ายไม่ได้เท่านั้น
หากอาวุธนิวเคลียร์พวกนี้สามารถใช้ในถ้ำใต้ดินได้ เกรงว่ารัฐบาลคงกวาดล้างถ้ำใต้ดินไปตั้งนานแล้ว
“นี่เป็นเรื่องนอกประเด็น ฉันรั้งนักศึกษาฟางไว้ อันที่จริงอยากจะพูดอะไรบางอย่างเท่านั้น หนานเจียงยากที่จะกำเนิดผู้แข็งแกร่ง หวังว่าผู้กล้าของหนานเจียงจะสามารถอุทิศตัวให้หนานเจียงได้ ไม่ได้บังคับ แต่ว่าแค่หวังให้พวกเธอสามารถกลับมาปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเท่านั้น”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “หากมีวันนั้นจริงๆ ผมมีความสามารถพอ คงไม่หวาดกลัวสงครามอย่างแน่นอน!”
“งั้นต้องขอบคุณเธอแล้ว”
ไป๋จิ่นซานหัวเราะ ไม่นานก็บอกลาฟางผิง
รอฟางผิงจากไปแล้ว ไป๋จิ่นซานที่อยู่บนรถค่อยพึมพำว่า “การปรากฏทางเข้าถ้ำที่หยางเฉิง…มีความเป็นไปได้เหมือนกัน…”
ไป๋จิ่นซานส่ายหัว รู้สึกขวัญหนีดีฝ่ออยู่บ้าง
หากปากทางเข้าปรากฏที่หยางเฉิงจริงๆ แม้จะวางแผนล่วงหน้า หยางเฉิงก็จะเกิดความสูญเสียอย่างน่าเศร้าอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเศรษฐกิจ
“หวังว่าที่นี่จะสามารถกำเนิดผู้แข็งแกร่งออกมาเยอะๆ รับผิดชอบภาระอันใหญ่หลวงนี้…ช่างน่าเสียดาย ไม่สามารถรั้งตัวอีกฝ่ายให้อยู่ที่มหาวิทยาลัยแถวนี้ได้”
รำพึงรำพันกับตัวเองแล้ว ไป๋จิ่นซานก็ส่ายหน้าอีกครั้ง หากรั้งตัวให้อยู่ที่นี่จริงๆ ฟางผิงอาจจะไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนดั่งตอนนี้
“ขั้นสองแล้ว…สองปีนี้ หยางเฉิงให้กำเนิดหวังจินหยางคนเดียวไม่พอ ยังมีฟางผิงเพิ่มมาอีกคน…”
คนอื่นมองไม่ออก แต่เขามองออก ฟางผิงเข้าสู่ขั้นสองแล้ว
—
กวนหูหยวน
กลับมาถึงบ้าน ฟางผิงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างเห็นได้ชัด
ปากทางเข้าถ้ำจะปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันที่ชั้นล่างของบ้านตัวเองหรือเปล่า?
แต่เมื่อคิดว่ายังมีเวลาอีกสองปี ทั้งขอบเขตยังอยู่ภายในสามมณฑลทางใต้ ฟางผิงคิดว่าตัวเองกังวลมากไป
ในบ้านฟางหยวนกำลังทะเลาะกับหลิวเหวินหลิวอู่
เห็นฟางผิงกลับมา ฟางหยวนจึงฟ้องว่า “พี่ พวกเขาแย่งของฉัน!”
“เปล่าสักหน่อย ป้าใหญ่ให้พวกเราต่างหาก!”
“นั่นมันของฉัน แม่ไม่ได้ถามฉันก่อน ไม่นับ!”
“ขี้เหนียว!”
“เธอสิขี้เหนียว นั่นเป็นของที่ฟางผิงซื้อให้ฉัน เขาซื้อให้พวกเธอด้วยไม่ใช่เหรอไง?”
“แต่ของพี่สวยกว่า…”
“ฉันไม่สน รีบคืนให้ฉัน!”
“…”
———————
[1]รังที่พลิกคว่ำยากจะหาไข่ที่สมบูรณ์ หมายความว่า เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุร้ายพร้อมกัน ก็ยากที่คนใดคนหนึ่งจะรอดออกไปได้