ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 166-2 การแข่งขันแลกเปลี่ยนสิ้นสุด (2)
ตอนที่ 166 การแข่งขันแลกเปลี่ยนสิ้นสุด (2)
หานซวี่ที่นอนอยู่บนพื้น ตอนนี้มีเพียงความคิดอยากตายอยู่ในหัว เรื่องอื่นๆ ไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว
เขาไม่อยากคิดว่าทำไมตัวเองถึงซวยแบบนี้!
ทั้งไม่อยากคิดว่าผู้หญิงพวกนี้ทำไมต้องมาระเบิดพลังใส่เขาด้วย
จางเจิ้นกวงสภาพรอแร่อย่างหมอนั่นกลับโจมตีเธอจนกระอักเลือดได้ ทำไม ทำไมพอถึงตาฉันถึงกลายเป็นแบบนี้
ผู้หญิงคนนี้ระเบิดปราณขึ้นมาแทบไม่ด้อยไปกว่าตัวเองเลย
ก่อนหน้านี้เขาบาดเจ็บก็ยังรักษาไม่ทันหายดี หลังจากถูกเฉินอวิ๋นซีประกบโจมตี ปลีกตัวออกมาไม่ได้ ยังถูกเตะเจ็ดครั้งต่อเนื่อง แทบจะประคองชีวิตน้อยๆ ไว้ไม่อยู่
‘ทำไมกัน!’
ในหัวของหานซวี่มีแค่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมา ตกลงมันทำไมกันแน่?
—
ด้านหลังเวที
ฟางผิงกลืนน้ำลาย เอ่ยเสียงเบาว่า “ผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก?”
ฟู่ชางติ่งเผยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยอึกอัก “อาจเป็นเพราะว่าเธอ…โมโหมากไป…”
“ประจำเดือนมาหรือเปล่า?”
“อาจจะมาล่วงหน้าก็ได้…”
ทั้งคนสองพูดจาไร้สาระ ไป๋รั่วซีที่อยู่ด้านข้างถลึงตามองทั้งสองคน ก่อนจะเผยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
เด็กคนนี้…เตะเจ็ดกระบวนติดต่อกันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
อีกอย่าง…เมื่อครู่เหมือนเฉินอวิ๋นซีจะไม่ได้ใช้ยาบำรุงเลือดและปราณ…แต่เป็น…
หวนนึกในหัวอยู่พักหนึ่ง ก่อนไป๋รั่วฉีจะพึมพำว่า “ยาคืนชีวิต?”
ฟางผิงได้ฟังก็อ้าปากกว้าง ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยว่า “ยาคืนชีวิต? ยา…ยาคืนชีวิตที่ใช้ถึงสองร้อยคะแนนนั่น?”
“น่าจะใช่…”
ไป๋รั่วซีไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ยังคงพยักหน้าว่า “ยาคืนชีวิตถึงจะสามารถทำให้บาดแผลของเธอฟื้นฟูกลับมา ทั้งเพิ่มพูนปราณขึ้นมาไม่น้อย…”
“รวยชะมัด ไม่สิ โคตรรวยต่างหาก”
ฟางผิงตกใจอย่างยิ่ง แม่งเหอะ ในชั้นเรียนมีคนที่รวยยิ่งกว่าพวกฟู่ชางติ่งอีกเหรอ
สองร้อยคะแนน!
แม้จะอยู่ในเซี่ยงไฮ้ แต่คนที่กล้าใช้สองร้อยคะแนนแลกเปลี่ยนเป็นยาคืนชีวิตที่เพิ่มปราณและรักษาอาการบาดเจ็บได้ ส่วนมากล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์สูงกว่าขั้นสาม
ยาคืนชีวิตหนึ่งเม็ด โลกภายนอกขายไม่ต่ำกว่าห้าล้าน!
นี่คือกินเข้าไปแล้ว?
อาการบาดเจ็บเล็กๆ แค่นี้ก็กินไปแล้ว
ข้างหลังยังเหลือคนตั้งมากมาย เพื่อที่จะระเบิดปราณ ผู้หญิงคนนี้กลับเลือกกินยา?
เธอบอกฉันล่วงหน้าสิ เหลือไว้ให้ฉัน ฉันฆ่าหานซวี่ให้ยังได้เลย!
แข่งขันกันหลายครั้งขนาดนี้ ใช่ว่าจะไม่มีคนกินยาฟื้นฟูบาดแผล แต่แค่ไม่มีคนสิ้นเปลืองขนาดนี้เท่านั้น
แม้จะเป็นทีมปักกิ่งก็เหมือนกัน ไม่คุ้มค่า
ยาบำรุงล้วนเป็นยาที่ออกฤทธิ์กระจายอย่างช้าๆ เหมือนกันหมด ไม่ใช่ว่ายิ่งระดับสูง ประสิทธิภาพจะดียิ่งขึ้น
ยาคืนชีวิตไม่แบ่งระดับขั้น เป็นยาบำรุงที่ถูกจัดอยู่ในประเภทพิเศษ
ยาบำรุงชนิดนี้ ในสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บหนักสามารถนำมาใช้ช่วยชีวิตได้ ส่วนการฟื้นฟูปราณก็ใช้เพื่อยืดชีวิตเช่นกัน
ไม่มีใครใช้เป็นยารักษาบาดแผลหรอก!
ตอนนี้เฉินอวิ๋นซีสิ้นเปลืองในขั้นที่ไม่รู้จะสิ้นเปลืองยังไงแล้ว
—
ฟางผิงขุ่นเคืองในใจ จ้าวเหล่ยกลับงงงวยไปหมด
ฉันต้องลงสนามคนที่เท่าไหร่นะ?
คนที่สี่!
ใช่ คนที่สี่
ทีมปักกิ่งยังมีอีกสองคน สมาชิกทีมสำรองที่อยู่ในสภาพเจ็บหนักทั้งสองคน แบบนี้แล้วฉันยังจะต้องแข่งอีกหรือเปล่า?
เขาเพิ่งจะคิดเรื่องพวกนี้ เฉินอวิ๋นซีก็เริ่มประมือกับจางอี้ชวนแล้ว
สามนาทีต่อมา จางอี้ชวนต้านไม่ไหว เฉินอวิ๋นซีปราณหมดเกลี้ยงแล้วเช่นกัน ทั้งสองคนต่างล้มลงกับพื้น
“ยังมีหยางไซว่…ใช่ ยังมีหยางไซว่อีกคน…”
จ้าวเหล่ยขมุบขมิบปากพึมพำ ตอนนี้ฟางผิงที่อยู่ด้านข้างหวนสติกลับมาแล้วเช่นกัน เบะปากว่า “เมื่อวานจางไซว่ถูกเฉินเจียเซิงโจมตีกระดูกอกหัก อย่างมากก็คงมีฝีมืออยู่ในขั้นหนึ่งตอนปลาย นายอย่าแพ้ละกัน”
“ฉัน…”
จ้าวเหล่ยโมโหจนอยากกระอักเลือด!
ฉันเตรียมตัวมาตั้งหลายเดือน เพื่อสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายบนเวทีเนี่ยนะ?
—
ตอนนี้อันที่จริงผลแพ้ชนะได้ปรากฏอย่างชัดเจนแล้ว
จู่ๆ หานซวี่กลับพ่ายแพ้ในน้ำมือของเฉินอวิ๋นซี เหนือความคาดหมายของทุกคน
ทีมปักกิ่งคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน!
ในความคิดของพวกเขา อย่างน้อยหานซวี่ต้องเอาชนะเฉินอวิ๋นซีได้ ทั้งยังมีโอกาสกำราบจ้าวเหล่ยได้ด้วย สุดท้ายถึงตัดสินการแข่งขันครั้งนี้กับฟางผิง
พอเป็นแบบนี้ แม้ว่าปักกิ่งจะแพ้ แต่ก็แพ้แบบไม่ขายหน้า
คนที่แข็งแกร่งที่สุดพบกับคนที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะหานซวี่เอาชนะสองคนก่อนแล้วค่อยแพ้ให้ฟางผิง นี่ยังคุ้มค่าให้เอาไปอวดได้
ข้างหลังปักกิ่งยังมีอีกสองคน แม้ว่าจะกลับมามือเปล่า แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าปักกิ่งนั้นแข็งแกร่งมาก เพียงแค่โชคไม่ดีอยู่บ้างเท่านั้น
แต่ตอนนี้ล่ะ?
—
บนเวที เห็นได้ชัดว่าจ้าวเหล่ยไม่มีชีวิตชีวาอยู่บ้าง
รังแกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดที่สภาพร่อแร่คนหนึ่ง ทั้งยังหลอมกระดูกครั้งเดียว เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนแล้ว
รู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายเดินขึ้นเวทีล้วนกระอักเลือดมาตลอดทาง จะให้วีรบุรุษของเซี่ยงไฮ้อย่างเขารังแกคนป่วยกระเสาะกระเสาะแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?
“หรือฉันจะยอมแพ้แล้วให้ฟางผิงขึ้นมาแทนดี?”
ในใจมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา แต่พอตระหนักว่าทำแบบนี้ อาจารย์คงทุบเขาตาย จ้าวเหล่ยจึงทำได้เพียงถอนหาย เข้าไปรังแกผู้ฝึกยุทธ์ที่อาการหนักคนนั้น
—
หนึ่งนาทีให้หลัง หยางไซว่คนสุดท้ายจากทีมปักกิ่งก็ล้มลง
จ้าวเหล่ยไม่ได้ถือโอกาสไล่โจมตีต่อ แทบไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
อาจารย์จากทีมปักกิ่งถอนหายใจ ตะโกนว่า “ยอมแพ้”
การแข่งขันครั้งนี้เซี่ยงไฮ้จึงเป็นฝ่ายชนะ!
ฟางผิงที่อยู่ด้านหลังเวที เบื่อหน่ายอยู่บ้างเช่นกัน การแข่งขันครั้งนี้จัดอย่างกระชั้นชิดเกินไป ผลปรากฏว่าสู้มาถึงรอบสุดท้าย กลับสามารถทำให้ทีมปักกิ่งสภาพร่อแร่ไปกว่าครึ่ง
ด้านเซี่ยงไฮ้แสดงฝีมืออย่างเต็มเปี่ยม สู้จนหมดสิ้นเรี่ยวแรง
ทั้งการแข่งขันรอบแรก ทุกคนต่อสู้ได้อย่างดุเดือด แทบไม่คิดจะเก็บแรงไว้
รอจนถึงรอบสุดท้ายค่อยพบว่ากระทั่งทีมห้าคนยังรวมกลุ่มไม่ได้
ทั้งจู่ๆ เฉินอวิ๋นซีก็โผล่ออกมา อย่าพูดถึงฟางผิงเลย กระทั่งจ้าวเหล่ยยังแทบไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ
แทนที่จะพูดว่าจางไซว่แพ้เพราะถูกเขาโจมตี ยังไม่สู้บอกว่าอาการตัวเองกำเริบจนล้มพับไป
“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นฝ่ายชนะ!”
“การแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งนี้อันดับหนึ่งตกเป็นของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้!”
“อันดับสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง”
“อันดับที่สามพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้…”
หลังจากเสียงประกาศของหลิวหรงหวา การแข่งขันแลกเปลี่ยนทั่วประเทศที่เปิดเผยกับสาธารณะชนเป็นครั้งแรกก็สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ
การแข่งขันครั้งนี้ทำให้มีคนจำผู้ฝึกยุทธ์ได้มากมาย
ฟางผิงนับเป็นหนึ่ง หานซวี่ก็นับเป็นอีกหนึ่ง ซุนหมิงอวี่ เฉินเจียเซิง จางเจิ้นกวง หลี่หราน หยางเสี่ยวม่าน จ้าวเสวี่ยเหมย ไป๋อิ่น เหลียงเวยเย่า เฉินอวิ๋นซี…
กระทั่งรวมถึงเว่ยซู่เจี๋ยที่ถูกเตะจุดสงวนด้วย!
มีเพียงจ้าวเหล่ยคนเดียวที่ไม่รวมอยู่ในนั้น
นักเรียนเกาเข่าอันดับหนึ่งของเซี่ยงไฮ้คนนี้ แม้จะลงสนามในการแข่งขันรอบตัดสิน แต่กลับมีคนจำเขาได้เพียงไม่กี่คน
ไม่มีเขาคงน่าเบื่อแล้ว!
ออกสามหมัดสองกระบวนเท้า หยางไซว่ก็อาการกำเริบล้มฟุบไป!
จ้าวเหล่ยแข็งแกร่งหรือเปล่า?
ไม่รู้!
ไม่รู้จริงๆ ใครจะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งหรือเปล่า รู้แค่ว่าเขาเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งที่สภาพร่อแร่คนหนึ่ง
เสี้ยวนาทีที่การแข่งขันสิ้นสุดลง ผู้ชมด้านล่างเวทีและนักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ก็ส่งเสียงเชียร์ดังก้อง
ด้านหลังเวที พวกฟางผิงกลับไม่อยู่ในขั้นที่ดีใจ
จ้าวเหล่ยสับสนมึนงง โศกเศร้าขึ้นมาเป็นครั้งคราว
ฟู่ชางติ่งทำตัวระมัดระวัง ไม่กล้ามองพวกผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บ
พวกผู้หญิงกลับพูดคุยกันเบาๆ รวมถึงจ้าวเสวี่ยเหมยและหยางเสี่ยวม่านที่เพิ่งออกมาจากห้องพยาบาล ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
ส่วนฟางผิง…
ตอนนี้ฟางผิงเอาแต่จับจ้องที่กระเป๋าของเฉินอวิ๋นซี เขาอยากรู้ว่าในนั้นมียาฟื้นชีวิตหรือเปล่า?
“ชนะแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมา บรรยากาศด้านหลังเวทีจึงค่อยๆ เปลี่ยนไป ทุกคนสบสายตากัน เผยยิ้มอย่างผ่อนคลาย
แข่งเสร็จแล้ว!
ตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนได้ไม่นานก็เตรียมการแข่งขันมาโดยตลอด ตอนนี้แข่งเสร็จแล้ว
เซี่ยงไฮ้ชนะรวดติดต่อกัน คว้าที่หนึ่งอย่างสบายๆ
“ชนะแล้ว…ถึงเวลาต้องพูดเรื่องเงินกันสักที…”
ฟางผิงพึมพำ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอย่างจริงใจ อันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยจะให้รางวัลเท่าไหร่กันนะ?
—————-