ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 125 โลกใต้ดิน (1)
ตอนที่ 125 โลกใต้ดิน (1)
ในห้องเรียน
ไป๋รั่วซีเอ่ยต่อ “ความจริงบางเรื่องยังต้องรอให้พวกเธอถึงขั้นสามก่อน ถึงจะเปิดเผยได้ ทำไมต้องเป็นขั้นสาม? เพราะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม หลอมกระดูกแขนขาแล้ว สามารถต่อสู้และหลบหนี รักษาชีวิตตัวเองได้ มีความสามารถพื้นฐานในการฆ่าศัตรู เทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองแล้ว จะบกพร่องกว่ามาก แม้หลอมกระดูกส่วนบนหรือส่วนล่าง ยังคงห่างไกลจากขั้นสามอยู่เยอะ ไม่ครอบคลุมพอ”
นี่นับเป็นการอธิบายว่าทำไมถึงเรียกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามว่าเป็นนักศึกษาแนวหน้า
“แต่ทุกคนต่างเป็นหัวกะทิในหมู่นักศึกษาใหม่ ไม่ช้าก็เร็วต้องทะลวงขั้นสามอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้ล่วงหน้าบอกข้อมูลให้กับพวกเธอสักหน่อย”
“ในเมื่อการมีอยู่ของผู้ฝึกยุทธ์มีคุณค่า ได้รับการส่งเสริม มีอภิสิทธิ์…พื้นฐานของเรื่องพวกนี้มีจุดประสงค์คือต้องการผู้ฝึกยุทธ์!”
ใบหน้าของไป๋รั่วซีไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว “ไม่ใช่ความต้องการทั่วไป แต่ถ้าจะพูดให้กว้างหน่อยคือสังคมต้องการพวกเรา หรือจะให้ชัดเจนกว่านี้คือมนุษยชาติต้องการพวกเรา! ดังนั้นจึงได้มีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ มีสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ผู้ฝึกยุทธ์”
จู่ๆ ในห้องเรียนก็เงียบลงทันตา
พวกนักศึกษาต่างไม่ใช่คนโง่ คล้ายจะรับรู้ถึงบรรยากาศตึงเครียด
“ถ้ำใต้ดิน ฉันไม่รู้ว่าเคยมีคนได้ยินคำนี้มาก่อนหรือเปล่า? แน่นอนว่าแม้จะมีคนรู้ คงจะรู้แค่เพียงจำกัด เพื่อให้พวกคุณเติบโตอย่างสุขกายสบายใจ ไม่มีแรงกดดัน แม้ว่าผู้อาวุโสในบ้านจะรู้เรื่อง ก็น้อยนักที่จะเปิดเผยแก่ลูกหลาน ความกดดันนั้นมีไว้เพื่อให้คนมีความสามารถแบกรับ คนไร้ความสามารถ ปล่อยให้อยู่อย่างสบายดีแล้ว นี่เป็นความคิดของฉัน ส่วนคนอื่นจะคิดยังไง ฉันไม่รู้ ทุกคนมีความคิดแตกต่างกันอยู่แล้ว”
“ถ้ำใต้ดินคืออะไร ใครก็อธิบายไม่ได้ มาได้ยังไง ไม่มีใครรู้ อาจจะมีคนรู้ แต่อย่างน้อยคงไม่ใช่ฉัน หลังจากฉันทะลวงสู่ขั้นสามแล้วถึงรับรู้การมีอยู่ของถ้ำใต้ดิน”
“ถ้ำใต้ดินและผู้ฝึกยุทธ์เกี่ยวข้องกันยังไง นี่ต่างหากที่ฉันอยากจะพูด”
—
หลังจากนั้นทั่วทั้งห้องเรียนล้วนเงียบกริบ มีแค่เสียงของไป๋รั่วซีเท่านั้น
ไป๋รั่วซีไม่ได้พูดอะไรมาก หลักๆ มักจะพุ่งไปที่เรื่องเดียว…ถ้ำใต้ดิน!
ถ้ำใต้ดินคืออะไร ไป๋รั่วซีไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก
สิ่งที่เธอรู้คือ ถ้ำใต้ดินอยู่ใต้พื้นดิน ราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เหมือนจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน
เพราะรัฐบาลเคยเกณฑ์กำลังคนมาขุด แม้ว่าจะขุดลึกหลายหมื่นเมตร กลับไม่พบร่องรอยของถ้ำใต้ดินแต่อย่างใด
แต่จะบอกว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่าก็ไม่ใช่
เพราะหากถ้ำใต้ดินมีการเปลี่ยนแปลง จะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือแผ่นดินไหว
จากการตรวจสอบโดยวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันพบว่า อาจจะคาบเกี่ยวไปถึงปัญหาของมิติหรืออวกาศ เรื่องพวกนี้ไป๋รั่วซีไม่ค่อยเข้าใจแล้ว
ตามความคิดของไป๋รั่วซี ถ้ำใต้ดินมีอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศจีนเท่านั้น
ในประเทศจีน ตอนนี้มีการค้นพบปากทางเข้าถ้ำใต้ดินยี่สิบสองแห่ง
สาเหตุที่พูดแบบนี้เป็นเพราะปากทางเข้าถ้ำใต้ดินมีความไม่แน่นอน อาจจะสามารถโผล่ขึ้นมาได้ตลอดเวลา
แผ่นดินไหวใหญ่ในปี 1920 นั่นเป็นการถูกค้นพบปากเข้าถ้ำใต้ดินแห่งที่สาม แปดสิบแปดปีให้หลังจนมาถึงตอนนี้ ทยอยปรากฏเพิ่มอีก 19 แห่ง
มนุษย์ทำได้แค่เข้าออกปากทางเข้าถ้ำใต้ดิน ส่วนสถานที่อื่นๆ ไม่อาจเข้าได้
โลกในถ้ำใต้ดิน ด้านในเต็มไปด้วยอันตรายสารพัดอย่าง ทั้งยังมีสิ่งอันตรายจำนวนมากเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่โลกมนุษย์อยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นถึงได้มีการคงอยู่ของผู้ฝึกยุทธ์ ผู้ที่เปี่ยมด้วยพลังทำลายล้าง
หลายปีมานี้ถึงมีนโยบายให้สิทธิพิเศษกับผู้ฝึกยุทธ์ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
—
ไป๋รั่วซียังคงพูดอธิบายอยู่ตลอด รอจนเธอหยุดแล้ว
นักศึกษาในชั้นคนหนึ่งค่อยเอ่ยเสียงแหบว่า “อาจารย์หมายความว่า ใต้เท้าของพวกเรายังมีอีกโลกหนึ่งงั้นเหรอครับ?”
ไป๋รั่วซีส่ายหัว “ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะไม่ได้อยู่ใต้เท้าพวกเรา ปากทางเข้านั้นอยู่ข้างล่าง แต่ใช่ว่าโลกนั้นจะอยู่ใต้เท้าพวกเราเสมอไป…”
แม้จะพูดซับซ้อนอยู่บ้าง แต่พวกเขาต่างเป็นคนฉลาด ฟังความหมายของเธอออก
ถ้ำใต้ดินอาจจะเป็นโลกต่างมิติ แต่มีปากทางเข้าออกอยู่ใต้ดินเท่านั้น
แล้วโลกต่างมิตินั้นอยู่ที่ไหนล่ะ?
บางทีอาจอยู่ใต้ดิน บางทีอาจอยู่อีกมิติหนึ่ง ถึงกระทั่งอาจจะเป็นโลกที่ไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกัน
“อาจารย์คะ ถ้ำใต้ดินถูกค้นพบจึงมีผู้ฝึกยุทธ์เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน นั่นหมายความว่ามีแค่ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าไปในถ้ำใต้ดินได้ใช่หรือเปล่าคะ?”
ไป๋รั่วซีส่ายหัว “ไม่ใช่ คนทั่วไปสามารถเข้าได้เหมือนกัน แต่หลังจากเข้าถ้ำใต้ดิน อาวุธร้อนจะสูญเสียประสิทธิภาพการใช้งาน…ไม่รู้ว่าพูดถูกหรือเปล่า ว่าอย่างนี้แล้วกัน ถ้ำใต้ดินมีความแปลกประหลาดอยู่บ้าง หลังจากเข้าไปจะทำได้แค่แสดงความสามารถจากร่างกายตัวเอง ใช้พลังที่เกิดขึ้นจากตัวเองได้เท่านั้น! พวกเธอสามารถใช้หมัดเท้า กระบี่ดาบหรือธนูได้ แหล่งกำเนิดพลังต้องมาจากร่างกายตัวเอง ไม่ใช่มาจากพลังงานความร้อน พลังงานไฟฟ้า พลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ หลายปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่ามีเพียงพลังปราณที่สามารถใช้ได้ในถ้ำใต้ดิน ส่วนพลังงานภายนอกอย่างอื่นจะสูญเสียประสิทธิภาพไป พลังที่มาจากอาวุธและเทคโนโลยี เมื่อมาถึงใต้ดิน จะไร้ซึ่งประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นสาเหตุที่พอมีการค้นพบถ้ำใต้ดิน ตำแหน่งของผู้ฝึกยุทธ์เลยสูงขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด”
“อาจารย์ครับ แล้วด้านในถ้ำใต้ดินมีอะไรอยู่เหรอครับ? มนุษย์? ซอมบี้? ปีศาจ? หรือสัตว์ประหลาดอย่างอื่น?”
“นั่นเป็นอีกโลกหนึ่ง…”
ไป๋รั่วซีเผยแววตาซับซ้อนอยู่บ้าง “เป็นโลกที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่โพรงถ้ำของพวกปีศาจอย่างที่พวกเธอคิด ด้านในมีทุกสิ่ง มนุษย์ สรรพสัตว์ สัตว์ประหลาด…สรุปแล้ว ไม่มีแค่ความเจริญรุ่งเรืองเหมือนยุคปัจจุบัน ที่นั่นเป็นโลกใบใหม่ที่ถูกค้นพบ โลกถ้ำใต้ดิน ไม่ได้มีแต่ความวุ่นวายเสียหาย…เรื่องนี้จะยังไม่พูดถึง”
“สรุปแล้วโลกในถ้ำใต้ดินมีคนและมีสัตว์ประหลาดอยู่จำนวนหนึ่ง อยากจะกระโจนออกมาจากประตูของถ้ำใต้ดินอยู่ตลอดเวลาเพื่อเข้าสู่โลกของพวกเรา เคยมีประตูถ้ำหนึ่งถูกทำลายโดยสัตว์ประหลาดจากถ้ำใต้ดินที่อยากจะเข้ามาเหมือนกัน ก่อเรื่องน่าสลดใจไม่น้อย!”
“อาจารย์ครับ แล้วถ้าพวกเขาเข้ามาในโลกของพวกเรา พวกเราไม่สามารถใช้อาวุธร้อน กระทั่งอาวุธที่ใช้ในการรบอย่างปืนพวกนี้โจมตีพวกเขาได้เหรอครับ?”
คำพูดนี้ถามได้ตรงประเด็น ไป๋รั่วซีเอ่ยอย่างจนใจ “ได้ เคยลองมาแล้ว เวลานั้นพวกสัตว์ประหลาดที่บุกเข้ามาถูกสังหารทั้งหมด ถึงกระทั่งสลายไปในอากาศ แต่ว่า…”
ไป๋รั่วซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง “แต่เพราะเกิดจากสาเหตุที่ไม่อาจทราบได้ สัตว์ประหลาดจากโลกใต้ดินเหล่านี้กลับเกิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง!”
“เกิดใหม่?”
“ใช่ ไม่ใช่เกิดใหม่บนโลกของเรา แต่เกิดใหม่ในโลกใต้ดิน ฉันบอกไปแล้วว่า พวกนั้นบ้างก็เป็นมนุษย์ แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่มนุษย์เสมอไป แต่ร่างกายภายนอกและภายในแทบไม่ต่างจากพวกเรา บางคนมีรูปร่างหน้าตา มีผู้ฝึกยุทธ์ค้นพบว่า พวกมนุษย์จากถ้ำใต้ดินที่เคยถูกฆ่าตอนบุกออกมาข้างนอก มีหลายคนที่เกิดใหม่ในถ้ำใต้ดินอีกครั้ง! พวกเขาไม่สามารถตายในโลกนี้ได้ ไม่ ถูกฆ่าตายได้ แต่ต้องฆ่าโดยผู้ฝึกยุทธ์ พวกเขาถึงจะไม่เกิดใหม่อีกครั้ง ทั้งในโลกใต้ดิน สัตว์ประหลาดที่ถูกผู้ฝึกยุทธ์สังหาร จะไม่อาจเกิดใหม่ได้แล้ว มีการศึกษาวิจัยว่า บางทีอาจเป็นผลจากพลังปราณ ดังนั้นหลายปีมานี้สถาบันวิจัยแต่ละแห่งจึงพัฒนาคิดค้นอาวุธที่สามารถใช้พลังปราณเป็นตัวขับเคลื่อน”
แต่พลังปราณกำเนิดมาจากร่างกายมนุษย์ หากออกห่างจากร่างกายมนุษย์ก็จะกลายเป็นเลือดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จุดนี้จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่สถาบันวิจัยไม่อาจก้าวข้ามได้!
—————————