ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 112 การวางอำนาจของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ (1)
ตอนที่ 112 การวางอำนาจของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ (1)
วันที่ 1 ตุลาคม วันชาติจีน
เพราะวันหยุดที่มาถึง บรรยากาศในมหาวิทยาลัยจึงเงียบเหงาอย่างมาก
เดือนก่อนมีนักศึกษาใหม่เข้ามา ทำให้มหาวิทยาลัยคึกคักอยู่พักหนึ่ง
ตอนนี้นักศึกษาใหม่ส่วนมากเลือกที่จะกลับบ้าน มหาวิทยาลัยที่กว้างขวางแห่งนี้ บางครั้งผ่านไปค่อนวันแล้วยังแทบมองไม่เห็นใครสักคน
—
ทิศเหนือของมหาวิทยาลัย
สิ่งก่อสร้างทางทิศเหนือมีไม่เยอะ สถานที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นตึกใหญ่หกชั้นที่กินพื้นที่กว่าสิบหมู่!
ที่นี่ก็คือกองบัญชาการหลักของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
เวลาแปดโมงเช้า
หยางเสี่ยวม่านเอ่ยด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “พี่เหยียน งั้นฉันขอตัวก่อน รอวันหยุดหมดแล้วจะมาใหม่”
โจวเหยียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม สมาชิกใหม่รุ่นนี้มีเพียงหยางเสี่ยวม่านที่พอจะคุยกันถูกคอ
จ้าวเหล่ยเย่อหยิ่งเกินไป ฟู่ชางติ่งแสบเกินไป เฉินอวิ๋นซีก็เงียบเกินไป
สมาชิกปีหนึ่งที่เพิ่งรับเข้ามา สรุปแล้วมีแค่หยางเสี่ยวม่านที่ร่าเริงสดใส น่าไว้ใจกว่าคนอื่น
บางเรื่องโจวเหยียนวางใจให้หยางเสี่ยวม่านจัดการมากกว่า
แม้ว่าสมาคมผู้ฝึกยุทธ์จะเป็นสมาคมที่ก่อตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ แต่กลับไม่ได้มีสมาชิกมากมาย
ตอนนี้จางอู่จำศีล รองประธานส่วนมากก็ยุ่งกับธุระของตัวเอง งานกองใหญ่ล้วนทิ้งไว้ให้โจวเหยียนจัดการ
พวกปีสูงแทบจะเอาแต่ผลประโยชน์ไม่ยอมทำงาน มีแค่นักศึกษาใหม่ที่เรียกใช้งานง่ายหน่อย
โจวเหยียนเดินไปส่งหยางเสี่ยวม่านข้างนอก พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงจะหยุด กลับไปก็อย่าได้ขี้เกียจ ทางสมาคมนอกจากเด็กปีหนึ่ง สมาชิกคนอื่นล้วนอยู่ขั้นสองกันทั้งนั้น สมาชิกปีสูงยิ่งอยู่ขั้นสาม แม้พวกเธอจะยังเป็นเด็กใหม่ แต่ถือว่าเป็นนักศึกษาแนวหน้าของรุ่นนี้ อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับนักศึกษาทั่วไป พยายามทะลวงขั้นสองให้เร็ว…”
“อืม ไม่อยู่แล้ว พี่เหยียนวางใจเถอะ”
ระหว่างที่พูดคุยกัน หน้าประตูสมาคมพลันปรากฏคนเดินเข้ามากว่าสิบคน หยางเสี่ยวม่านแปลกใจอยู่บ้าง “พี่เหยียน วันนี้มีประชุมเหรอ?”
“ไม่…”
โจวเหยียนกวาดสายตามอง รอจนเห็นหลิวหย่งเหวินที่เดินนำหน้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่มีอะไร เธอกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวจะตกรถเอา”
เธอรู้ทันทีว่าหลิวหย่งเหวินมาด้วยเรื่องอะไร
วันนี้เป็นวันประลองแลกเปลี่ยนความรู้ของพวกขั้นหนึ่ง ในสายตาของสมาคม ขั้นหนึ่งไม่ได้สลักสำคัญอะไร การแลกเปลี่ยนความรู้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เช่นกัน
ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาคมที่รักษาความสงบเรียบร้อยของมหาวิทยาลัย การแลกเปลี่ยนความรู้จึงอยู่ในความรับผิดชอบของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์
พวกอาจารย์ภาระงานล้นมือ คงไม่อาจสนใจเรื่องพวกนี้
สมาคมอื่นๆ ไม่มีคุณสมบัติและความสามารถพอที่จะยุ่งเช่นกัน มีแค่สมาคมผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นที่สามารถรักษาความเรียบร้อย เฝ้าระวังไม่ให้พวกนักศึกษาต่อสู้ตามใจชอบ
ที่นี่คือมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ เป็นสถานศึกษาระดับสูงสุดของผู้ฝึกยุทธ์
พวกนักศึกษาหาที่ประลองกันตามใจชอบ นี่เป็นเรื่องส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
โจวเหยียนเพิ่งพูดจบ หยางเสี่ยวม่านพลันพูดว่า “พี่เหยียน มีอาจารย์มาด้วย!”
โจวเหยียนหันไปทางประตูทันที ประตูใหญ่ฝั่งลานกว้าง มีอาจารย์สี่ห้าคนตามมาด้วย
“อาจารย์มาประสมโรงอะไรกัน…”
โจวเหยียนไม่พอใจอยู่บ้าง การแลกเปลี่ยนความรู้ของพวกขั้นหนึ่ง อาจารย์ที่อยู่ขั้นสี่ขึ้นไปพวกนี้ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง
ถ้าหากลูกศิษย์ของพวกเขาเกิดอันตรายระหว่างการประลองบนเวที อาจจะสอดมือยุ่งโดยพลการ นั่นถือเป็นการแหกกฎ!
เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน!
ดังนั้นสมาคมจึงไม่ค่อยต้อนรับพวกอาจารย์ที่มาเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนความรู้ของนักศึกษาพวกนี้
ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาคมที่รักษาความสงบเรียบร้อยของมหาวิทยาลัย สมาคมผู้ฝึกยุทธ์จึงมีความรับผิดชอบและหน้าที่รักษาความยุติธรรมของการประลอง
จ่ายออกไปเท่าไหร่ ก็ได้รับเท่านั้น
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ไม่ใช่เอาแต่รับเงินมาฟรีๆ ไม่ทำงานทำการอะไร ต่อให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ที่สมาคม อาจารย์ก็ไม่อาจมาก้าวก่าย นี่คือกฎเหล็ก!
โจวเหยียนถอนหายใจ ไม่สนทนากับหยางเสี่ยวม่านอีก สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มของหลิวหย่งเหวิน
—
“หลิวหย่งเหวิน มาเพราะเรื่องแลกเปลี่ยนความรู้?”
หลิวหย่งเหวินเป็นชายหนุ่มท่าทีสุภาพ ฟังจบก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อืม หัวหน้าโจว พวกเรายื่นเรื่องล่วงหน้าแล้ว สามารถเปิดสนามประลองได้หรือเปล่า?”
“ได้!”
แม้โจวเหยียนจะไม่ใช่รองประธาน แต่เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมของสมาคม
ตอนนี้ประธานสมาคมจำศีล รองประธานก็หายแวบไปแทบไม่เห็นเหงา งานทั้งหมดของสมาคมจึงแทบตกเป็นของโจวเหยียนทั้งสิ้น
รับปากแล้ว โจวเหยียนมองไปทางพวกอาจารย์ที่เดินเข้ามา ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายเป็นคนแจ้งพวกอาจารย์ให้มาด้วย?”
“หัวหน้าโจวตลกแล้ว พวกอาจารย์มาของเขาเอง ผมจะกล้าบงการอาจารย์ได้ยังไง”
“อย่าทำไขสือกับฉัน!”
โจวเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “มาถึงสมาคมแล้ว ทุกคนจะถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน! ฉันขอเตือนไว้ก่อน ในสมาคม ต่อให้จะเป็นอาจารย์หรือนักศึกษา ก็ต้องทำตามกฎของสมาคมเท่านั้น การแลกเปลี่ยนความรู้เป็นเรื่องของนักศึกษาบนเวที จะรอดก็ดี ตายก็ช่าง ถ้าไม่มีใครยอมแพ้ ใครล้วนไม่อาจสอดมือยุ่งได้! ใครแหกกฎ อย่าหาว่าฉันเสียมารยาทแล้วกัน!”
“นักศึกษาโจวดุจริงๆ!”
อาจารย์ที่เดินนำพวกอาจารย์เข้ามาแค่นเสียงในลำคอ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจอยู่บ้าง
แน่นอนว่า คำพูดเมื่อครู่โจวเหยียนต้องการบอกให้เขาฟัง
แม้โจวเหยียนเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นสาม อีกฝ่ายเป็นอาจารย์ที่อยู่ขั้นสี่แทบทุกคน คนที่เดินนำหน้ายังอยู่ตั้งขั้นห้า แต่ตอนนี้โจวเหยียนกลับไม่มีความหวาดกลัว เอ่ยอย่างเยือกเย็น “ไม่กล้าหรอก นี่เป็นกฎ! ก่อนหน้านี้เคยมีอาจารย์สอดมือยุ่งระหว่างการแลกเปลี่ยนความรู้ ผลลัพธ์ฉันไม่อยากพูดซ้ำ! แม้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์จะเป็นสมาคมของนักศึกษา แต่มหาวิทยาลัยมอบหน้าที่รักษาสงบความเรียบร้อยให้กับสมาคม ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์! อภิสิทธิ์ของสมาคมไม่ใช่ได้มาอย่างง่ายๆ แต่เป็นผลความพยายามของนักศึกษาแต่ละรุ่น! ถ้าอาจารย์จางคิดว่าไม่เหมาะสม สามารถไปยื่นคำร้องกับมหาวิทยาลัยได้ แต่ว่าวันนี้อาจารย์จางร่วมชมการแลกเปลี่ยนความรู้ของนักศึกษา ฉันเลยอยากเตือนสักหน่อย หวังว่าอาจารย์จะไม่ทำให้พวกเราลำบากใจ!”
“เหอะ!”
อาจารย์สกุลจางโกรธเคืองอยู่บ้าง เอ่ยว่า “นับวันสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็มีพวกจองหองพองขนขึ้นเรื่อยๆ!”
โจวเหยียนใบหน้าเปลี่ยนสีทันที เอ่ยอย่างเยียบเย็น “อาจารย์จาง คุณคิดว่าฉันล้อเล่นหรือไง? ตอนนี้ไม่ใช่การเตือนแล้ว แต่คุณควรระวัง! ถ้าคุณกล้าสอดมือยุ่ง ตอนนี้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ยังมีสมาชิกขั้นห้าสองคนและขั้นสี่สี่คนที่ยังไม่จบการศึกษา! ขอแค่คุณกล้าแทรกแซง สมาคมก็กล้ากำราบคุณเหมือนกัน ถึงเวลานั้นส่งคุณไปรักษาการณ์ที่ถ้ำใต้ดินสิบปี ดูสิว่าคุณยังจะกล้าพูดแบบนี้หรือเปล่า!”
“พวกไร้ประโยชน์!”
“คุณจะลองดูก็ได้!”
โจวเหยียนเผยสีหน้าดุดัน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น!
อย่าพูดว่าอาจารย์ขั้นห้าเลย ขั้นหกแล้วจะทำไม!
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ไม่ใช่ของโจวเหยียน ไม่ใช่ของจางอู่ ทั้งไม่ใช่ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เพียงผู้เดียว!
แต่เป็นความร่วมมือระหว่างนักศึกษาและมหาวิทยาลัย ถึงได้มีกฎสืบทอดต่อกันมาแบบนี้!
นักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบ ความสามารถเป็นรอง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกอาจารย์อยู่แล้ว
แต่สมาชิกที่จบไปแล้ว ตอนนี้มีทั้งอาจารย์ คนที่ประกอบกิจการชั้นนำ นักการเมืองมีอำนาจ พูดได้ว่าในสมาคมมีคนดังที่ประสบความสำเร็จอยู่ส่วนหนึ่ง ส่วนมากเคยเป็นสมาชิกสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ทั้งนั้น! เคยได้รับอภิสิทธิ์ของสมาคม แม้จะจบไปแล้ว พวกเขาไม่พ้นต้องให้ความช่วยเหลือ หากมีคนคิดจะทำลายกฎ แม้จะอยู่ระดับปรมาจารย์ ก็ต้องใคร่ครวญให้ดีเช่นกัน
คู่กรณียังไม่ทันมาถึง สมาคมแทบจะทะเลาะกับอาจารย์จางขึ้นมาก่อนแล้ว เวลานี้อาจารย์คนอื่นจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้
อาจารย์คนหนึ่งรีบประนีประนอม “หัวหน้าโจว อาจารย์จางไม่ได้หมายความอย่างนั้น กฎของสมาคมทุกคนล้วนรู้ดี เริ่มแรกพวกเราก็มาจากสมาคมเช่นกัน ผลประโยชน์ของสมาคมคือผลประโยชน์ของพวกเราด้วย วันนี้แค่มาดูอย่างเดียวเท่านั้น”
โจวเหยียนเผยสีหน้าผ่อนคลายลง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์หลิว เมื่อครู่ฉันพูดรุนแรงเกินไปเหมือนกัน ตอนนี้ประธานและรองประธานต่างไม่อยู่ ฉันค่อนข้างกดดัน สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้เพิ่งก่อตั้งเพียงวันสองวัน หากเกิดปัญหาระหว่างที่ฉันดูแล ฉันคงรับผิดชอบไม่ไหว สนามประลองหมายเลขหนึ่งเปิดแล้ว พวกอาจารย์ไปพักผ่อนที่นั่นก่อนได้”
พูดจบ โจวเหยียนก็หมุนกายมองไปทางพวกสมาชิกที่เพิ่งตามเข้ามา เอ่ยว่า “ไปแจ้งพวกรองประธานหน่อย ดูว่าใครสามารถตามมาได้อีกบ้าง ใช่แล้ว บอกกล่าวกับประธานด้วย อีกอย่างรุ่นพี่เฉินเหมือนจะกลับมาจากเทียนหนาน ไปถามหน่อยว่าอยู่หรือเปล่า บอกเขาว่าอยากให้รุ่นพี่เฉินมาช่วยคุมสถานการณ์หน่อย…”
——————