รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 869 ลูกเขยครอบครัวฉัน
ขณะนี้ ในดวงตาทั้งสองข้างของเขา มีแต่สายฟ้า ราวกับเป็นตอนที่ฟ้าดินแยกจากกันในครั้งแรก
ร่างกายของเขา โปร่งใส สมบูรณ์ไร้ซึ่งบาดแผล เดิมทีมีเลือดปราณปีศาจมากมาย ได้ถูกขจัดออกจากร่างกาย ขณะนี้ร่างเทพ คล้ายคลึงกับอัญมณีแพรวพราวเจิดจรัส อานุภาพเกรียงไกร ห่างจากร่างจินตาน อีกครึ่งเดียวเท่านั้น
“แชะ”
ฉินหลั่งยื่นมือออกไป ไม่จำเป็นต้องใช้ฟ้าผ่า ลูกสายฟ้าสีขาวดำ ลอยอยู่ในมือของเขา เดิมที‘สายฟ้าเทพห้าธาตุ’ที่เรียกยาก ตอนนี้แค่โบกมือก็มาแล้ว ราวกับสายฟ้ามหาศาล อยู่ในมือของเขา
“รูปที่สองของภาพเทียนกง12รูป รูปเทพเฟยจี้ ทำสำเร็จแล้ว”
ฉินหลั่งยิ้ม แล้วค่อยๆยืนขึ้น
“ได้เวลาสั่งสอนคนพวกนี้ของโลกเทพเท็จ ว่าอะไรคือความกลัว”
ในขณะนี้ เขาคิดว่าโลกเทพเท็จ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวอีกต่อไป
ตอนที่ฉินหลั่งออกมานั้น
เสี้ยวเสี้ยวและคนอื่นๆ ร้อนใจจนทนไม่ไหว แม้การบำเพ็ญครั้งนี้ของฉินหลั่งจะเร็ว แต่ก็ใช้เวลาไปหนึ่งเดือน แม้นักพรตฝูจูไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่ชัดไว้ แต่ถ้าถ่วงเวลานาน จะทำให้อันดับหนึ่งของโลกเทพเท็จนี้โมโหได้
“อาจารย์ ออกมาสักที นักพรตฝูจูอยากเจอคุณ”
เมื่อเห็นฉินหลั่ง เสี้ยวเสี้ยวรีบเข้าไปหา
“เซียน ฉันนักพรตฝูจู ได้นัดว่าจะเจอคุณที่ยอดเขาฮูเหยียน คุณกำหนดวันเวลาแล้วกัน” เซียนดินท่านหนึ่งที่เก่งกาจ มาอย่างเย็นชา
พลังกระบี่ในตัวเขา แข็งแกร่งอย่างมาก
จึงดูออกว่าช่วงสามร้อยปีมานี้ตำหนักฝูจู เจริญขนาดไหน
“ได้”
ฉินหลั่งตอบอย่างไม่ลังเล
นักพรตฝูจูเป็นอันดับหนึ่งของโลกเทพเท็จ หากชนะเขาได้ เพียงพอที่จะสะเทือนโลกเทพเท็จได้ ถือว่าบรรลุเป้าหมายทั้งสามข้อของฉินหลั่ง ก่อนที่จะเก็บตัว ฉินหลั่งยังรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ ต่อให้ไม่ใช่จินตาน ในปฐพีนี้ ฉินหลั่งก็ไร้ซึ่งคู่ต่อกรแล้ว
“อีกสิบห้าวันละกัน ฉันจะไปเทือกเขาฮูเหยียน เพื่อเจอเจ้าสำนักของแกด้วยตัวเอง”
ประโยคนี้ หลังจากที่เซียนดินตำหนักฝูจูออกไป ข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกเทพเท็จ คนจำนวนมากถกเถียงกันขึ้นมา แต่ฉินหลั่งไม่ถอย กลับกล้าไปตามนัดงั้นเหรอ?
“ไป นักพรตฝูจูไม่ได้ต่อสู้มาเกือบร้อยปี ชาตินี้เห็นนักพรตฝูจูต่อสู้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นฉินหนานจงยังเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง การต่อสู้ครั้งนี้ต้องพนันให้ได้”
การพบกันในครั้งนี้ พูดว่าเจอหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นฉินหลั่ง หรือนักพรตฝูจู จะอ่อนข้อไม่ได้เด็ดขาด
ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือของกี่ตระกูลใหญ่ และกี่สำนัก มาจากทุกสารทิศ เดินทางไปที่เทือกเขาฮูเหยียน
แว็บเดียว โลกเทพเท็จก็ครึกครื้นขึ้นมา
ห้าวันให้หลัง ฉินหลั่งพาเหล่าหญิงสาว เดินทางไปยังเทือกเขาฮูเหยียน
การประลองที่ไม่เคยมีมาก่อน จะมาถึงในเร็วๆนี้!
……
เทือกเขาฮูเหยียน เป็นเขาเทพอันดับหนึ่งของโลกเทพเท็จ
เขานี้สูงสามพันฟุต ความสูงตระหง่านนั้นเหมือนกระบี่ ที่เสียบขึ้นไปบนฟ้า ครึ่งบนของภูเขา เริ่มมีเมฆหมอกห้อมล้อม ว่ากันว่ามาถึงยอดเขา จะได้สัมผัสกับลม ที่เหมือนกับบนสวรรค์ก็มิปราณ
“เล่าลือกันว่า ในยุคโบราณ เทพฮูเหยียนสร้างโลกเทพเท็จ ใช้กระบี่ตัดผ่านเป็นแม่น้ำมังกร สุดท้ายใช้กระบี่เทพของตัวเอง ปักไว้ที่ต้นน้ำของแม่น้ำมังกร จนสุดท้ายกลายเป็นเทือกเขาฮูเหยียน”
เสี้ยวเสี้ยวกล่าวอย่างตื่นเต้น
ทุกคนนั่งบนเรือ ไหลไปตามแม่น้ำมังกร หนึ่งวันเดินทางได้พันลี้ ไม่เกินสามวัน ก็จะเข้าใกล้เทือกเขาฮูเหยียน
“เหอะ ก็แค่ตำนานเท่านั้น โลกเทพเท็จใหญ่ขนาดนี้ คนสร้างขึ้นได้ไงกัน แล้วก็ใช้กระบี่ตัดเป็นแม่น้ำมังกร แม้แต่อาวุธยังยาวเป็นพันๆฟุต แล้วเทพฮูเหยียนจะสูงขนาดไหน สูงเป็นหมื่นฟุตหรอ?”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือดูแลน
จู่ๆเสี้ยวเสี้ยวก็ตะคอกออกมา
เธอชอบฟังเรื่องเล่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ผู้เฒ่าเมืองเจี้ยน เล่าให้เธอฟังตอนเธอยังเด็ก ส่วนจะจริงหรือไม่นั้นอยู่ในประวัติศาสตร์ ไม่มีใครรู้แน่ชัด
ฉินหลั่งเอามือไขว้หลังพลางยืนอยู่ในกันสาดเรือ แล้วมองไปภูเขาที่อยู่ไกลโพ้น ด้วยสายตาสุขุม
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่ฉินหลั่งรู้ดี ว่าในจักรวาล การแยกฟ้าดินด้วยมือเปล่านั้นมีอยู่จริง กระบี่เดียวก็สามารถตัดแม่น้ำ ตัวสูงกว่าหมื่นฟุต
‘นอกจากเทพฮูเหยียน จะทำได้ทุกอย่างงั้นเหรอ? ด้วยพลังชีวิตของเขา ไม่แน่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ เป็นอมตะ แต่โลกจบสิ้นแล้ว ต่อให้เขายังมีชีวิตอยู่ ก็เกรงว่าหนีไปจากโลกตั้งนานแล้วล่ะ หรือหนีไปจากระบบสุริยะแล้วด้วยซ้ำ”
ฉินหลั่งครุ่นคิด
ขณะนี้ ตระกูลใหญ่จำนวนมาก รวมตัวกันมา
บนแม่น้ำมังกร มีแต่ใบของเรือเต็มไปหมด มีใบเมฆสีเทพ ใบเมฆสวยงาม มีเรือใหญ่ลายมังกรทอง แต่ละลำใหญ่ๆทั้งนั้น ถึงขั้นมีเรือเทียบได้กับเรือบรรทุกเครื่องบิน ยาวกว่าร้อยเมตร ขวางทางน้ำของแม่น้ำมังกรไว้จนหมด
“ฮือๆ”
จากเสียงแตรเรือ เรือต่างๆที่อยู่ด้านหน้าเรือกันสาด ได้แยกจากตรงกลางออกเป็นสองฝ่าย เรือกันสาดราวกับเป็นจักรพรรดิสวรรค์จุติลงมาก็มิปราณ ในสายตาผู้คนรอบๆ ผ่าคลื่นไป ยังเขาเทพที่อยู่ไปอีกพันลี้
ทุกคนต่างก็รู้ว่า
ว่าฉินหนานจงมาแล้ว!
……
บนเรือใหญ่ที่มีสีดำ ยาวกว่าสิบเมตร ใบถูกย้อมเป็นสีดำ
“เขาคือฉินหนานจงงั้นสิ ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษเลยนะ? เขาเป็นเซียนจุติลงมาที่ไหนกัน พลังไม่ค้างฟ้า ไม่ทรงพลัง เขานั่งเรือเล็กๆมา ถ้าไม่รู้ คงคิดว่าเป็นนักปราชญ์ไร้นามเสียอีก”
หญิงสาวสวมชุดรุ่ยอี ท่าทางเยือกเย็น บึนปากแล้วกล่าว
ผู้เฒ่าข้างๆเธอ หน้าตาเคร่งขรึม
“รุ่ยอีแกระวังปากหน่อยนะ เซียนอาจารย์ฉินคือผู้แข็งแกร่งที่หาตัวจับได้ยาก แค่ดีดนิ้ว ก็ทำให้พวกเรา ตายได้นะ”
“ค่ะ อาจารย์”
คนจำนวนมากแอบสังเกต วัยรุ่นที่สวมชุดสีดำ ไม่รู้ว่ามีผู้เก่งกาจมากมายขนาดไหน ที่ไม่สบอารมณ์ คนที่อยู่ตรงหน้านี้ เก่งกาจ ชื่อเสียงดังกึกก้องไปทั่วโลกเทพเท็จ กลายเป็นอันดับหนึ่งในวัยรุ่นของโลกเทพเท็จ
แล้วไม่รู้ว่า มีอีกกี่ตระกูล กี่สำนัก ที่เกิดอิจฉาขึ้นมา
บรรพบุรุษของพวกเขาฝึกฝนอย่างยากลำบากมาเป็นร้อยปี ก็แค่อยากเป็นเซียนดินเท่านั้น ฉินหลั่งเพิ่งจะอายุยี่สิบปี เป็นเพียงระดับต้นๆได้ พลางมองลงมายังโลกเทพเท็จ แล้วพวกเขาจะไม่อิจฉาได้อย่างไรกัน?
“การต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าเขาผ่านมันไปได้ อนาคตอีกห้าร้อยปี โลกเทพเท็จทั้งใบ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา”
เจ้าสำนักสุ่ยชิง อุทานออกมา
ผู้คนรอบๆ พยักหน้าเห็นด้วย
เพราะยังไม่ถึงเวลา คนของตำหนักฝูจูยังมาไม่ถึง ฉินหลั่งยังไม่ขึ้นเขา หลังจากที่เทียบท่าแล้ว หาหินยักษ์ที่สะอาด นั่งขัดสมาธิลง
พลางทุกคนรออย่างสงบ
ฟิ่วๆ
ในอากาศ มีแสงระยิบระยับ
เซียนดินเริ่มลงมาแล้ว ทุกๆลำแสง หมายถึงเซียนของโลกเทพเท็จหนึ่งองค์ พวกเขาเป็นที่นับถือ เดิมทีล้วนเป็นเหล่าเจ้าสำนักด้วยกันทั้งนั้น หรือผู้อาวุโสสำนักขั้นสูงสุด
ถ้าไม่ขี่สัตว์ในตำนานมา ก็ขับยานอวกาศมา ด้วยพลังมหาศาล
แต่ขณะนี้ผู้ที่มีถึงเทือกเขาฮูเหยียนก่อน แต่กลับยังไม่ขึ้นไป หยุดรออยู่ที่ตีนเขา เพื่อแสดงความนับถือและเคารพต่อผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน
“พ่อฉันเอง เขาก็มาด้วย”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือกระโดดขึ้น
ยานลำใหญ่ที่ยาวกว่าร้อยเมตร ลอยอยู่บนฟ้า
ยานอวกาศนั้นหรูหรา เต็มไปด้วยอัญมณี อะเกต ปะการัง ไข่มุกมากมาย ราวกับเรือสมบัติ คนด้านข้างสวมใส่ชุดสวยสดงดงาม พลางยิ้มหวาน ดึงดูดสายตาจำนวนไม่น้อย เรือสมบัติดูไฮโซที่สุด ชายใส่ชุดผาวสีทองที่นั่งอยู่สวมแหวนทั้งหมดสิบวง แม้ชายคนนี้จะเป็นเซียน แต่กลับอ้วนมาก ซึ่งนั่นก็คือเจ้าเมืองทั้ง36เมืองของแดนเหนือแห่งโลกเทพเท็จ กษัตริย์แดนเหนือ
กษัตริย์แดนเหนือเห็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือแล้วนั้น ก็ท่าทางอ่อนโยน แล้วเรียกฉินหลั่งอย่างกระตือรือร้น ว่า
“ลูกเขยที่ดีที่สุด”
ท่าทางเหมือนลูกสาวจะได้แต่งงานกับฉินหลั่ง แล้วเชิญฉินหลั่งขึ้นไปบนเรือสมบัติของเขาอย่างกระตือรือร้น อดไม่ได้ที่จะบอกเป็นนัยๆว่า สาวงามบนเรือของเขาเร่าร้อนมากขนาดไหน มีให้เลือกมากมาย
สุดท้ายได้ถูกฉินหลั่งปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี
“เหอะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”
ยินยินบึนปาก แล้วเหลือบมองไป
ตอนนี้ จู่ๆบนฟ้ามีเสียงดังสนั่นขึ้น ราวกับเสียงฟ้าผ่า แสงสว่างเจ็ดสาย ทอดยาวทั่วฟ้า ไปที่เทือกเขาฮูเหยียน แสงนั่นยังไม่ถึง แต่พลังได้อยู่ทุกๆสารทิศ
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไป อย่างรอคอย
สำนักขั้นสูงสุดทั้งเจ็ดมาถึงแล้ว!