รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 829 แพ้ราบคาบ
บนท้องฟ้าเคลื่อนไหวเป็นระยะ ยอดฝีมือระดับเทพบนโลกรีบพากันมา ก่อนจะมาทักทายฉินหลั่ง
เย่หนานเทียนมองไปรอบๆ ซึ่งน่าจะมีประมาณสิบกว่าคนได้
บนดาวเคราะห์ที่ขาดแคลนพลังแบบนี้ ยอดฝีมือแดนนักพรตจินตานสิบกว่าคน ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นจินตานขั้นต้น แต่ก็ทำให้เย่หนานเทียนเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้เลยทีเดียว
“นักพรตฉิน คนนี้คือใคร? นึกไม่ถึงว่าจะกล้าต่อสู้กับท่านนักพรต หรือว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วงั้นหรอ?”
“ดูการแต่งกายและผิวพรรณของมันแล้ว ไม่เหมือนคนแอฟริกาของพวกเราเลย!”
“ให้ตายเถอะ คนแอฟริกาของพวกคุณแม้แต่คนบ้าก็ยังแยกสีผิวออกเลย คุณกำลังล้อเล่นกับนักพรตฉินอยู่หรือไง?”
“นักพรตฉิน ต้องการความช่วยเหลือมั้ย? ไอ้นี่มันจิ๊บๆ เพียงแค่ท่านสั่งมา พวกเราเหล่าสหายทั้งหลายก็จะเอามันมาให้ท่าน”
ยอดฝีมือระดับเทพแต่ละคนทำเพื่อประจบสอพลอฉินหลั่ง แม้แต่เกียรติก็ไม่ต้องการแล้วอีกแล้ว พวกเขาต่างพากันประจบฉินหลั่ง
“นักพรตฉินท่านนี้ คิดจะใช้คนจำนวนมากมาบีบบังคับฉันงั้นหรอ?”
สายตาของเย่หนานเทียนมองไปรอบๆ กำลังคิดว่าวิธีที่จะไม่ให้ทุกคนกรูเข้ามาหาฉินหลั่ง
“ฆ่าแกงั้นเหรอ? ยังต้องหาคนช่วยอีกเหรอ? แกดูถูกฉันฉินหนานจงเกินไปแล้วนะ!”
ฉินหลั่งก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเย่หนานเทียน
“นั่นสิ นักพรตฉินเป็นยอดฝีมือนักพรตคนที่สองของโลกเราเลยนะ จะมาสนใจแกได้อย่างไร”
“ไอ้โง่ กล้าท้าทายนักพรตฉิน ไม่กลัวตายหรือไง”
“บางคนก็คิดสั้นเสียเหลือเกิน!”
ยอดฝีมือระดับเทพหลายคนกำลังมองเย่หนานเทียน พลางวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาอย่างไม่จบไม่สิ้น ทำเอาเย่หนานเทียนโมโหจนอยากจะตบยอดฝีมือระดับเทพให้กลายเป็นคนบ้าในฉากเดียว
แต่ฉินหลั่งที่อยู่ด้านหน้าทำให้เขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เย่หนานเทียนจะคิดเรื่องอื่นไม่ได้เป็นอันขาด สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือการจ้องการกระทำของฉินหลั่งเอาไว้ตลอดเวลา
ในสายตาของเย่หนานเทียน เพียงแค่ฉินหลั่งขยับมือ ก็มีไม้ยาวสีดำปรากฏขึ้น
บนไม้ยาวแท่งนั้นมีความเย็นยะเยือก กลิ่นอายของความกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน ในตอนนั้นเอง เย่หนานเทียนมีความคิดที่เหมือนจะเห็นเจ้าเมืองหลังหยาอย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะ
“เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์! นี่คือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง! เป็นไปไม่ได้ ดาวเคราะห์เล็กๆที่อากาศน้อย จะมีเครื่องรางของศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรกัน?”
“นอกจาก……เคยมีอารยธรรมบำเพ็ญเซียนปรากฏขึ้นมา!”
ตอนที่เย่หนานเทียนเห็นแท่งไม้หุนเทียน ก็รู้เลยว่าเขาได้เจอเข้ากับอันตรายแล้ว
แท่งไม้หุนเทียนในมือของฉินหลั่งค่อยๆยาวขึ้น พลางชี้ไปที่เย่หนานเทียนแล้วกล่าว “เข้ามาสิ ดูสิว่าพลังของเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของแก หรือแท่งไม้ของฉันอันไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน”
ขณะนี้เย่หนานเทียนไม่มีทางหนีแล้ว ตรงนี้อยู่บนพื้นมหาสมุทร ความชื้นเต็มที่ แน่นอนว่าเป็นช่วงที่พลังของเขาจะแข็งแกร่งที่สุด ถ้ายังต้องหนี เย่หนานเทียนก็ไม่รู้ว่าจะหนีพ้นจากการห้อมล้อมของยอดฝีมือระดับเทพที่มากมายขนาดนี้ได้มั้ย ถ้าหนึ่งในนั้นมีใครขัดขวางเขาเองไว้ แล้วถูกฉินหลั่งไล่ทัน เขาจะตกอยู่ในวิกฤตทันที
ดังนั้นเย่หนานเทียนจึงกัดฟัน เอางูยักษ์หานอู่ที่อยู่ในมือส่งออกไป เมื่อปล่อยออกมือทั้งสองมือออก บนทะเล ก็มีงูยักษ์ ที่บนร่างเต็มไปด้วยน้ำแข็งปรากฏตัวออกมาทันใด พลางแยกผิวน้ำที่มีความลึกกว่าร้อยเมตรออกเป็นสองฝั่ง!
คลื่นทะเลของทั้งสองฝั่งซัดขึ้นบนอากาศ ราวกับน้ำเดือดพล่านพลันม้วนตัวขึ้นมา จนเกือบจะดึงยอดฝีมือระดับเทพหลายคนลงไปยังใต้ท้องทะเลแล้ว
ยอดฝีมือระดับเทพสองคนที่อยู่ใกล้กับทะเลมากที่สุดตกใจจนหน้าซีด พวกเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าคนที่พวกเขาเยาะเย้ยนั้นจะมีฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ดีที่ฉินหลั่งอยู่ด้วย ถ้าไม่มีฉินหลั่ง พวกเขายอดฝีมือระดับเทพเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกไก่ในกำมือที่กำลังจะถูกฆ่า?
ยอดฝีมือระดับเทพสิบกว่าคน ต่างใช้ดวงจิตห้อมล้อมไว้ ไม่นานก็เข้าในที่มาของเย่หนานเทียน มนุษย์ล้วนมีแนวคิดเรื่องสถานที่ เมื่อได้ยินว่าเย่หนานเทียนเป็นยอดฝีมือระดับเทพของดาราจักรอื่น ยอดฝีมือระดับเทพสิบกว่าคนก็ตกอยู่ในความตะลึง
นอกโลก นึกไม่ถึงเลยว่ายังมีดาราจักรอื่นอีกด้วย และยิ่งคิดไม่ถึงว่าในดาราจักรจะมีผู้บำเพ็ญเซียนแบบนี้ด้วย
ในผู้บำเพ็ญเซียนแบบนี้ ก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าจะแยกเป็นยอดฝีมือระดับสองสามสี่ดาวแดนนักพรตจินตานอีกด้วย
ต้องรู้ก่อน ว่ายอดฝีมือระดับเทพบนโลก ส่วนใหญ่จะเป็นจินตานหนึ่งลูก แล้วยังมีบางคนที่ไม่รู้ว่าจินตานในร่างกายตัวเองเรียกว่าอะไร เพียงแค่รู้ว่าพวกเขาคือยอดฝีมือระดับเทพของโลก มีระดับเทพบางคน ที่หลี่สวนคงยังเก่งกว่าพวกเขา ก็เป็นเพราะเค้ามีจินตาลสองลูก!
การปรากฏตัวของเย่หนานเทียน ราวกับว่าทำให้ทุกคนได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะอยากทำความเข้าใจแดนที่สูงยิ่งๆขึ้นไปอีก
สำหรับความลี้ลับของฉินหลั่ง พวกเขาคิดว่าความแตกต่างระหว่างตัวเองกับฉินหลั่งมันมากเกินไปจริงๆ ฝีมือนั้นห่างไกลกันจนเกินไป จนรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที
แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าแดนนักพรตจินตานยังแบ่งเป็นสองสามสี่ห้าดาว ทุกคนก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา
แต่ตอนนี้ ยอดฝีมือจำนวนสิบกว่าคนยังคงหวังว่าฉินหลั่งจะฆ่าเย่หนานเทียนได้ เพราะนี่จะเกี่ยวพันกับเกียรติยศของโลก
งูยักษ์หานอู่ของเย่หนานเทียนเปิดผิวน้ำ ก่อนจะอ้าปากกว้าง พลางแลบลิ้นออกมาต่อหน้าฉินหลั่ง
“เหอะๆ ก็แค่สัตว์เดียรัจฉานตัวหนึ่ง กล้าบังอาจต่อหน้าฉัน!”
ฉินหลั่งยกมือขึ้น ก่อนจะเอาไม้ฟาดลงไป
ตอนที่แท่งไม้หุนเทียนฟาดลงไปนั้น จิตวิญญาณของไม้ได้พุ่งไปหางูยักษ์หานอู่นั่นทันที!
“นึกไม่ถึงเลยว่ามังกรน้ำจะเป็นแดนนักพรตจินตานตัวหนึ่งด้วย!”
จิตวิญญาณของไม้แท่งดำนี้ จะเป็นสิ่งของแข็งแกร่งระดับจินตาน!
ตอนที่เย่หนานเทียนเห็นมังกรน้ำ ก็อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองดูผิดไป!
เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์มีมนตร์ขลังก็จริง แต่เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ระดับจินตานใช้ จิตภัณฑ์ก็เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือแดนนักพรตใช้เช่นเดียวกัน ยอดฝีมือแดนนักพรตจินตานล้วนหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง ส่วนมากยอมที่จะระเบิดตัวเอง มากกว่ายอมเป็นจิตภัณฑ์ของคนอื่น!
แต่ฉินหลั่งมีจิตภัณฑ์ระดับจินตานอันหนึ่ง ทำให้เย่หนานเทียนหวาดผวา! จิตภัณฑ์ระดับจินตานเข้าได้กับจิตภัณฑ์ขั้นต้นปฐมภูมิ!
มังกรน้ำต่อสู้กับงูยักษ์หานอู่!
ไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์ รู้ๆกันอยู่ว่ามังกรน้ำราชาแห่งน้ำขึ้นจากน้ำแล้วไปที่งูยักษ์หานอู่เพียงแว็บเดียว ก็พลันเกิดเป็นคลื่นยักษ์กลืนเขาเข้าไปทั้งเป็น!
ผู้คนเห็นเพียงมังกรน้ำบนฟ้ากลืนงูยักษ์หานอู่ทั้งเป็นอย่างอนาถ ส่วนงูยักษ์ตัวนั้นก็ถูกแทง และหลังจากถูกแทงเข้าไปหลายครั้ง ก็เหมือนมีควันออกมา ก่อนจะสลายไปในอากาศ
เดิมทีเป็นการต่อสู้ของจิตวิญญาณเทพทั้งสอง แม้จะไม่มีเลือดไหลออกมา แต่กลับมีกลิ่นเลือดคลุ้งเต็มไปหมด
ยกแรกผ่านไป งูยักษ์หานอู่แพ้ราบคาบ!
เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ในมือของเย่หนานเทียนได้สลายไปในตอนที่งูยักษ์หานอู่หายไป
“นี่……”
เย่เหนานเทียนดูเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ในมือของตัวเอง เพียงแค่ยกแรก! เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ได้เสียจิตภัณฑ์ไปแล้ว พลังลดไปครึ่งหนึ่ง เขาเริ่มมีความรู้สึกสิ้นหวังในการอยู่ต่อไปแล้ว
โลกที่ไม่มีพลังมากเท่าไหร่แล้ว ทำไมถึงได้มียอดฝีมือแบบนี้ปรากฏตัวขึ้นมาได้ เขาเป็นคนบนโลกจริงเหรอ?
เย่หนานเทียนบ้าไปแล้วเอาจิตภัณฑ์ในมือของตัวเองโยนไปให้ฉินหลั่ง จากนั้นก็หันหลังหนีไป!
ต่อให้เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจิตวิญญาณแล้ว แต่มันก็ยังเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นี้มีความฮึกเหิมที่ไม่อาจเปรียบเทียบได้เข้าไปในสมองของฉินหลั่ง ยังไม่ทันถึงด้านหน้า มันก็แยกออกเป็นห้าส่วน แบ่งเป็นห้าตะขอ ก่อนจะทิ่มแทงเข้าไปที่แขนขาของฉินหลั่ง
เย่หนานเทียนหวังว่าเครื่องรางนี้จะสามารถขวางฉินหลั่งได้สักพัก เพื่อให้เขาได้หนีทัน
เพราะเขาได้เผาไหม้เลือดบนเรือนร่างของตัวเอง กลายเป็นแสงสีเลือด ก่อนจะหนีออกไปนอกชั้นบรรยากาศโลก
“ฝีมือต้อยต่ำเสียจริง!”