รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 79 เริ่มแต่นี้ไปเป็นเด็กกำพร้า
บทที่ 79 เริ่มแต่นี้ไปเป็นเด็กกำพร้า
“แม่–”จงยู่มองไปที่หน้าของแม่ จมูกเปรี้ยวขึ้น น้ำตาคลอเบ้าทันที
“อย่าร้อง จงยู่……”ช่ายหนงยิ้มอ่อนอ่อน อยากจะยกมือไปเช็ดน้ำตาให้ แต่มือถูกจงยู่จับไว้
“แม่อยากขยับ”จงยู่รู้ว่าแม่ขยับหนึ่งครั้งจะทรมานขนาดไหนและยากลำบากมาก “แม่รู้สึกยังไงบ้าง?ทรมานมากใช่ไหม……”
นึกถึงแม่กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่ ก็ทำให้หัวใจของจงยู่เจ็บปวดมาก
ช่ายหนงแค่ส่ายหัวเบาๆ เธอรู้สึกดีใจมาก “ไม่เจ็บ แม่ไม่เจ็บสักนิดเลย……”
“ฉินหลั่ง ต่อไปนายจะดูแลจงยู่ดีดีใช่ไหม?”สายตาของช่ายหนงมองไปทาง ฉินหลั่งอย่างช้าๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขา เธอก็รู้สึกได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่ฉินหลั่งมีให้กับจงยู่
“แม่……”จงยู่ฟังออกมาแม่กำลังฝากตัวเองอยู่
“ครับน้า ผมจะดูแลจงยู่ดีดี”ฉินหลั่งมองไปที่ดวงตาของช่ายหนงแล้วพูดด้วยความจริงใจ
“ดี ดี……” ช่ายหนงพยักหน้าอย่างพอใจ รู้สึกสบายตัวมากขึ้น ในใจของเธอ ฉินหลั่งไม่ใช่คนนอกแล้วอ่ะ
“จงยู่ ตอนนี้แม่จะบอกเรื่องหนึ่งเรื่องให้เธอ”ช่ายหนงมองไปที่จงยู่ นัยน์ตาของเธอเริ่มหมองคล้ำ
จงยู่จับมือของช่ายหนงแน่นๆ นัยน์ตาที่มีน้ำตาอยู่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“ที่จริง… ฉันไม่ใช่แม่แท้แท้ของเธอ”ช่ายหนงมองตาของจงยู่และพูดเบาๆ นี่เป็นความลับที่อยู่ในใจของเธอมา 20ปี
พอได้ยินคำพูดของช่ายหนง ทำให้จงยู่ที่กำลังเศร้าอยู่ตกตะลึง “แม่……”
“ทีแรก ความลับนี้ฉันอยากจะเก็บไว้ทั้งชีวิต แต่ฉันรู้สึกว่านี่เป็นการหลอกลวง นี่เป็นสิ่งที่ลูกควรจะรู้……”นัยน์ตาของช่ายหนง เริ่มมีน้ำตา
“ไม่…แม่……” จงยู่กำลังพูดพึมพำ
ตั้งแต่เธอมีความทรงจำมา เธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับช่ายหนงมาตลอด แล้วช่ายหนงก็มาบอกกะทันหันว่าไม่ใช่แม่ของตัวเอง จะทำให้จงยู่รับได้ยังไง?
และฉินหลั่งที่อยู่ข้าง ๆได้ยินคำพูดของช่ายหนงก็ตกใจ เขาเปรียบเทียบหน้าตาของทั้งสองโดยอัตโนมัติ แต่พบว่าทั้งสองไม่เหมือนกันจริงๆ
“เด็กโง่ ทำไมใจบุญเหมือนแม่เลย แบบนี้ไม่ดี……”มองเห็นท่าทางอ่อนโดยของจงยู่ ช่ายหนงเหมือนได้เห็นหน้าตาของแม่จงยู่ ทำให้ช่ายหนงนึกไปถึงเรื่องเก่าเก่าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
“ไม่ แม่ แม่คือแม่ของฉัน……”พอได้ยินช่ายหนงพูดถึงแม่แท้แท้อีกครั้ง จงยู่ เริ่มกลัวแล้ว เธอมองไปทางช่ายหนงพูดอย่างดื้อด้าน
“เด็กดี ฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของเธอ แม่ของเธอคือคุณหนูที่สุภาพเรียบร้อย และฉันเป็นเพียงคนใช้รับใช้เคียงข้าง……” ช่ายหนงพูดอย่างอ่อนโยน
จงยู่ส่ายหัวเบาๆ ไม่หยุด
“ตอนนั้นคุณหนูได้คลอดลูก หลังจากนั้นก็ถูกคนที่บ้านรู้เรื่องนี้แล้วถูกค้างไว้ในห้อง ไม่อนุญาตให้คุณหนูออกจากห้อง เพื่อป้องกันคนหนูหนีออกจากบ้าน พวกเขายังบังคับให้ฉันกับคุณหนูต้องฉีดไวรัส มีแต่กินยาที่พวกเขาให้ตลอดเวลาถึงจะไม่ทำให้อาการกำเริบ จะได้มีชีวิตต่อ ตอนนี้อาการของฉันเพราะไวรัสกำเริบแล้ว ยังจำได้อยู่ไหม ตอนที่อยู่บ้านเกิด แม่ต้องขึ้นไปหายยาสมุนไพรบนเขาตลอดเวลาไหม? ยาพวกนั้นก็เพื่อที่จะลดอาการของไวรัส แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายก็มาถึง……”
“แม่ อย่าพูดแล้ว……” ภายใต้จิตสำนึกของจงยู่เริ่มรับได้แล้วว่าช่ายหนงไม่ใช่แม่ของตัวเอง
“ให้ฉันพูด ฉันกลัวจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก……”ช่ายหนงพูดอย่างอ่อนโยน“เดิมทีชีวิตก็ใช้อย่างทั่วไป ในตอนนั้น คุณหนูแค่อยากจะเลี้ยงลูกให้โตเป็นคน แต่ไม่นาน ฉันได้ข่าวมาว่าคนในบ้านจะหาโอกาสฆ่าลูก ตอนนั้นลูกเป็นทารกที่ยังไม่ครบหนึ่งเดือนนะ……”
“ฉันรีบเอาข่าวนี้ไปบอกกับคุณหนู คุณหนูเสียใจกับคนในบ้านมาก และคนหนูก็รู้ว่าถ้าเธออยู่ในบ้านต่อ คนในบ้านจะหาโอกาสลงมือแน่นอน ในคืนนั้นคุณหนูและฉันก็พาลูกออกมา ตีคนที่เฝ้าอยู่ให้สลบแล้วหนีออกจากบ้าน……”
“ถึงแม้เราจะระมัดระวังแล้ว แต่ก็ทำให้คนในบ้านรู้จนได้ สุดท้ายพวกเราถูกบังคับเดินไปถึงที่หน้าผา พวกเขาขับรถล้อมรอบพวกเราไว้ ในตอนนั้นคุณหนูอยากจะกลับไปกับพวกก่อน แล้วค่อยหาโอกาสหนี แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เป็นคนนำนั้น มีความคิดที่อยากจะฆ่าคุณหนู ตอนที่คนหนูรู้ว่าผิดปกติ แต่ก็ช้าเกินไปแล้ว คนฝ่ายตรงข้ามเอาปืนเจาะมาที่พวกเรา……”
“อ้า…” จงยู่อดไม่ได้ที่ร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว สายตาฉินหลั่งก็กระตุก
“ฝั่งตรงข้ามยิ้มอย่างมีได้ความชนะ แล้วในเวลาที่พวกเขาจะเหนี่ยวไกเพื่อจะยิง คุณหนูก็รีบกอดตัวฉัน และกระโดดจากหน้าผา ระหว่างที่โดดลงนี้ฉันกลัวมาก นอกจากได้ยินแต่เสียงลม อยู่ดีดีฉันยังได้ยินคุณหนูคุยกับฉันว่า ‘ ช่ายหนง ต่อไปลูกก็ฝากเธอดูแลแล้วนะ’ ฉันยังไม่รู้อะไรเลย พอลืมตาก็เห็นคนหนูยิ้มกับฉันอย่างขมขื่น ต่อด้วยคุณหนูใช้แรงพลิกตัวไปที่ใต้ร่างกายของฉัน ในตอนที่ฉันรู้ว่าความมุ่งหมายของคุณหนู แต่พวกเราก็ลงสู่พื้นแล้ว……”
“ขอโทษ ฉันผิดต่อคุณหนู……”ช่ายหนงร้องไห้ขึ้นมา จงยู่งุนงงไปสักพักเหมือนได้เห็นภาพที่พูด
“อือฮึ้ม”ช่ายหนงเริ่มไออย่างรุนแรง
“แม่ รีบใส่……” จงยู่ได้สติกลับอยากจะเอาเครื่องช่วยหายใจใส่ให้ช่ายหนง
“ให้ฉันพูดจบ……”ช่ายหนงเอียงหน้าเล็กน้อย เธอรู้สุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างชัดเจน จะใส่ไม่ใส่ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
“คุณหนูก็……”ช่ายหนงหยุดไม่ไหวที่จะกระแอม “ฉันเองก็บาดเจ็บ แต่ไม่ได้สาหัสมาก ส่วนลูกนั้นยังดูฉันด้วยสายตาที่ใสซื่อ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วฉันก็ได้ยินคนที่อยู่ด้านบนคุยกันว่าจะลงมาหาพวกเรา ฉันไม่กล้าอยู่ที่นั่นต่อ รีบอุ้มลูกแล้วไปจากที่นั่น……”
จากนั้น ก็ใช้ชีวิตหลบหนีไปหลายวัน ช่ายหนงอุ้มจงยู่ไปถึงหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เริ่มใช้ชีวิตใหม่
“แม่……”จงยู่อยากจะใส่เครื่องช่วยหายใจให้กับช่ายหนง แต่ช่ายหนงไม่ยอมให้ใส่
“จงยู่ เอาจี้หยกฟีนิกซ์ที่ฉันใส่ออกมา……”
จงยู่เอาจี้หยกฟีนิกซ์ใส่ที่คอของช่ายหนงออกมาช้าๆ หยกก้อนนี้ดูเขียวชะอม ที่ปลายหางของหงส์แทบจะเป็นสีใส และมีสีแดงปนอยู่ แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา
ตั้งแต่เธอจำความได้ ช่ายหนงก็ใส่ไว้ตลอด จงยู่สงสัยตลอดว่าครอบครัวที่จนอย่างพวกเขาจะมีของที่แพงขนาดนี้ได้ยังไง เธอเองก็เคยถามช่ายหนง ช่ายหนงบอกว่าเป็นของที่สืบต่อกันมาแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
“หยกก้อนนี้เป็นของติดตัวของคนหนู ฉันคิดว่าควรจะให้ลูกเป็นคนมาสวมใส่ถึงจะเหมาะสม”ช่ายหนงพูดช้าๆ และลมหอยใจของเธอก็เริ่มอยู่เริ่มอ่อนแอ
“ฉินหลั่ง”สายตาของช่ายหนงมองไปทางฉินหลั่งอย่างลำบาก
“ครับ” ฉินหลั่งตอบยังจริงจัง
“ที่ผ่านมานี้ จงยู่อยู่กับฉันทนทุกข์ทรมานมาก เธอเหมือนแม่ของเธอ อ่อนแอและใจบุญเกินไป ถ้าไม่มีฉัน ฉันก็ว่าเธอจะถูกรังแก ในเมื่อจงยู่เลือกคุณแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะดูแลเธอดีดี ไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บและปกป้องเธอทั้งชีวิต ได้ไหม?” ช่ายหนงพูดดำน้ำเสียงที่อ่อนแอ หนังตาของเธอเริ่มหนักขึ้น ดูแล้วเหมือนเธอกำลังพยายามไม่ให้หนังตาติดกัน
เธอกำลังรอคำตอบจากฉินหลั่ง
“ครับ ถ้ามีผมอยู่ ฉันสัญญาว่าถึงแม้ผมจะบาดแผลเต็มตัว ก็จะไม่ให้จงยู่มีบาดแผลสักที่ คุณวางใจได้”ฉินหลั่งพูดอย่างจริงจัง
“ได้ ๆ แค่นี้ฉันก็สบายใจแล้ว”บนใบหน้าของมีรอยยิ้มปรากฏ เธอไม่มีแรงที่จะไปควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าแล้ว รวมไปถึงลมหายใจก็เริ่มอ่อนลง
“ไม่ต้องพูดแล้ว ใส่เครื่องช่วยหายใจ”จงยู่กลัวช่ายหนงจะเสียแรงอีก
“ได้ ๆ ฉันคิดถึงคุณหนูมากเลย ฉันคิดถึงคุณหนูจริงๆ ……”ช่ายหนงหลับตาลงช้าๆ
“แม่พักผ่อนก่อน……” จงยู่เอาเครื่องช่วยหายใจดึงถึงจมูกของช่ายหนง หางตาของเธอเห็นมือที่วางอยู่บนเตียงของช่ายหนงหล่นไปเหมือนใบไม้ และได้สัมผัสตัวเธอเบา ๆ จงยู่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนทุกค้อนใหญ่มาทุบใส่
จงยู่มองไปทางช่ายหนงที่หลับตา ความรู้สึกที่ว่างเปล่ามาโจมตีเธอทันที เธอใช้แรงทั้งหมดถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสั่นว่า
“แม่ แม่……”
เธอเรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่น อยากจะให้แม่ตอบเหมือนทุกครั้งที่เธอเรียก แค่อืมเบาเบาก็ดี แต่แม่นอนอยู่บนเตียงนิ่งนิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อย บนใบหน้าไม่มีวี่แววชีวิตเหลืออยู่แล้ว
“แม่—-” จในที่สุดจิตใต้สำนึกของจงหยูก็ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงร้องน่าสงสารดังออกมาจากปากของจงยู่
เธอกอดตัวของช่ายหนงแน่น ๆ เอาหัวไปทับอยู่บนตัวของช่ายหนงและร้องอย่างโศกเศร้า ในเวลานี้ แพทย์ชื่อดังจากหลายโรงพยาบาลก็มาถึง ถูกเสิ่นวั่นเชียนห้ามไว้นอกประตู พวกเขาไม่มีประโยชน์แล้ว
ภาพการใช้ชีวิตที่ร่วมกับแม่เริ่มซึมเข้ามาในสมองของจงยู่
จงยู่หลับตาและมีน้ำตาไหลออกมา บนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา น้ำจมูกก็ไหล จงยู่ไม่สนใจแม้แต่น้อย เธอรู้แต่ว่าคนที่รักเธอ คุ้นเคยกับเธอ เป็นห่วงเธอ ผู้หญิงที่สนิทกับเธอมากที่สุดไปแล้ว กลายเป็นความทรงจำแล้วตั้งแต่นี้ไปเธอกลายเป็นเด็กกำพร้า
5นาที
10นาที
ครึ่งชั่วโมง
1ชั่วโมง
จงยู่ร้องไห้เสียงดังตลอด รอยยิ้มของแม่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่วันนี้กลับไม่มีแล้ว จงยู่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อีก
ฉินหลั่งยืนอยู่ข้าง ๆของจงยู่เงียบๆ ฟังเสียงร้องไห้ที่ใจสลายของจงยู่ หัวใจของเขาก็เหมือนถูกมีดขูด แต่เขารู้ว่าตอนนี้ต้องการที่จะให้จงยู่ระบาย ไม่มีใครช่วยได้ทั้งนั้น
จงยู่ ขอให้เธออย่าร้องไห้ ฉันอยู่ตรงนี้จะ ไม่ให้เธอโดดเดี่ยว ไม่ว่าเส้นทางอนาคตจะลำบากขนาดไหน จะมีลำบาดขนาดไหน ฉันก็จะเดินพร้อมเธอไปจนสุด